พระนารายณ์ทรงครุฑ ใน คัมภีร์พราหมณ์ปุราณะ ที่กล่าวไว้ว่า พระศิวะ ทรงมีพระประสงค์ที่จะสร้างสวรรค์และโลกมนุษย์ ซึ่งถือว่าเป็นงานใหญ่ จึงต้องการผู้ช่วย
โดยการนำพระหัตถ์ซ้ายมาลูบพระหัตถ์ขวา จนบังเกิดเป็นเทพขึ้นมาองค์ชื่อ พระวิษณุ หรือ พระนารายณ์ พร้อมกับทรงมอบหมายหน้าที่ให้เป็นเทพผู้ทำหน้าที่บริหารและคุ้มครองโลก รวมทั้งปราบปรามผู้สร้างความเดือดร้อนแก่มนุษย์ และชาวสวรรค์
พระนารายณ์ มีกายเป็นสีดอกตะแบก มี ๔ กร ถือศัตราวุธต่างๆ กัน คือ คทา ตรี จักร สังข์ ทรงมงกุฎชัย ประทับอยู่กลางเกษียรสมุทร บนหลังพญานาค ชื่อ อันตนาคราช และทรงใช้ ครุฑ เป็นพาหนะ มีพระมเหสีชื่อ พระลักษมี ** ตามคัมภีร์ยังกล่าวด้วยว่า พระนารายณ์ จะอวตารลงมาเป็นทั้งมนุษย์และสัตว์ ตามคำสั่งของ พระศิวะ หรือการอัญเชิญของหมู่เทวดา และมนุษย์ การอวตารของ พระนารายณ์ เพื่อมาช่วยมนุษยโลกมีทั้งหมด ๑๐ ปาง และหนึ่งในนั้นก็คือ การอวตารลงมาเป็น พระราม ในวรรณคดีเรื่อง รามเกียรติ์ นอกจากนี้คนไทยยังมีความเชื่อว่า พระมหากษัตริย์ ก็เป็นเทพอวตารพระองค์หนึ่งของ พระนารายณ์ เช่นกัน ดังจะเห็นได้ว่า เวลา "ในหลวง" เสด็จฯ ณ ที่ใด จะต้องมีการอัญเชิญ ธงครุฑ ไปด้วย หรือหากประทับ ณ ที่ใดก็จะมี ธงครุฑ ปรากฏอยู่ ณ ที่นั้นเสมอ
เรื่องของ พระนารายณ์ทรงครุฑ จึงเป็นความเชื่อของพราหมณ์มาแต่โบราณกาล นอกจากเมืองไทยแล้ว ประเทศอินโดนีเซีย ก็มีความเชื่อในเรื่องนี้ เพราะอินโดนีเซียเคยนับถือศาสนาพราหมณ์มาก่อน ชาวอินโดนีเซีย เรียก ครุฑ ว่า "การูดา" (Garuda) และจะใช้รูป "การูดา" เป็นตราสัญลักษณ์ของประเทศ รวมทั้งมีรูปเคารพ พระนารายณ์ทรงครุฑ ปรากฏอยู่ทั่วประเทศ
คาถาบูชาพระนารายณ์ทรงครุฑ
พระนารายณ์ทรงครุฑประทับพระราหู และพญายันต์ สุริยประภา- จันทรประภา ซึ่งให้คุณทางด้านโชคลาภ ค้าขาย และอำนาจเดชะบารมี ให้ท่องภาวนาคาถานี้อยู่เสมอ ครบ 12 จบ ตามกำลังแห่งพระราหู ผู้ดูแลทรัพย์สินเงิน-ทอง แล้วอธิษฐานขอให้สิ่งที่ต้องการ
เอกะจักขุ นาฬิเกฬา สุริยะประภา ราหูคาหา สัตตะรัตนสัมปันโณ มณีโชติ ระโสยะถา สุวัณณะ รัชชะตะ
สะมิทธา อะหังวันทามิ เมสะทา
เอกะจักขุ นาฬิเกฬา จันทรประภา ราหูคาหา สัตตะรัตนสัมปันโณ มณีโชติ ระโสยะถา สุวัณณะ รัชชะตะ
สะมิทธา อะหังวันทามิ เมสะทา |
|