(0)
หลวงปู่ใข่ วัดเชิงเลน(วัดบพิตรพิมุข) กรุงเทพ ปี2515 พิธีใหญ่หลวงปู่โต๊ะเสกเนื้อทองแดง






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องหลวงปู่ใข่ วัดเชิงเลน(วัดบพิตรพิมุข) กรุงเทพ ปี2515 พิธีใหญ่หลวงปู่โต๊ะเสกเนื้อทองแดง
รายละเอียดหลวงปู่ไข่ อินฺทสโรภิกฺขุ เจ้าของเหรียญยอดนิยมหลักล้านที่หายากที่สุด เมื่อเทียบกับเหรียญเบญจภาคีของหลวงพ่ออื่นๆ เหรียญรุ่นแรกของหลวงปู่ไข่ บางคนว่าสร้างในคราวหลวงปู่อายุได้ 70ปี บางกระแสก็ว่าน่าจะวาระหลวงปู่อายุได้ 72 ยังไงก็แล้วแต่เชื่อกันมานานแล้วว่าเหรียญรุ่นแรก สร้างไม่เกิน 100เหรียญในสมัยนั้น น่าจะจัดสร้างเท่าจำนวนอายุของหลวงปู่ เพราะปัจจุบันหายากที่สุด นอกจากเหรียญรุ่นแรก ของท่านจะแพงเอาเรื่องแล้ว พระปิดตาของหลวงปู่ไข่ ก็เป็นหนึ่งในสุดยอดพระปิดตาเนื้อผงราคาแพงมากๆหนึ่งในสิบของประเทศครับ


ประวัติย่อ หลวงปู่ไข่ หลวงปู่ไข่ วัดบพิตรพิมุข(เชิงเลน) เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2402 หลักฐานบางแห่งบอกว่าเกิดปี 2400 เป็นชาวฉะเชิงเทรา ขณะที่ท่าน อายุ 6 ขวบ บิดาได้นำไปฝากเป็นศิษย์หลวงพ่อปาน วัดโสธร เพื่อให้เรียนหนังสือ ต่อมาจึงได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อได้บรรพชาแล้วก็ได้หัดเทศน์มหาชาติและ เทศน์ประชัน กล่าวกันว่าหลวงพ่อปู่ไข่ มีความสามารถในการเทศน์มหาชาติกัณฑ์กุมารและกัณฑ์มัทรีได้ไพเราะกังวานจับใจ ผู้ฟังยิ่งนักแม้ภายหลังเมื่อชราแล้ว ศิษย์ผู้อยู่ใกล้ชิดก็มักจะได้ยินหลวงปู่ทบทวนการเทศน์มหาชาติ ทั้ง 2 กัณฑ์ ในตอนกลางคืนอยู่เสมอๆ ครั้นเมื่อหลวงพ่อปาน วัดโสธร มรณภาพแล้ว หลวงปู่ไข่ ได้ไปอยู่กับพระอาจารย์จวง วัดน้อย ซึ่งปัจจุบันอยู่ในอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี จนกระทั่งพระอาจารย์จวงมรณภาพ ขณะนั้นหลวงปู่ไข่ มีอายุได้ 15 ปี (ประมาณ พ.ศ.2417) ตามประวัติกล่าวว่าหลวงปู่ไข่ ได้เดินทางมากรุงเทพฯ ไปอยู่กับพระอาจารย์รูปหนึ่ง (ไม่ปรากฏนาม) ที่วัดหงส์รัตนาราม อำเภอบางกอกใหญ่ ฝั่งธนบุรี เพื่อเรียนพระปริยัติธรรม อีก 3 ปีต่อมา (ประมาณ พ.ศ.2420) หลวงปู่ไข่ ได้เดินทางไปอยู่กับพระอาจารย์เอี่ยม วัดลัดด่าน (หนึ่งในอาจารย์ของหลวงพ่อคง วัดบางกะพร้อม) ซึ่งอยู่ที่แม่กลอง จังหวัดสมุทรสาคร และได้เล่าเรียนปริยัติธรรมและพระวินัยจนอายุครบบวช (ประมาณ พ.ศ.2422) จึงได้อุปสมบทที่วัดนี้ โดยมี หลวงพ่อเนตร วัดบ้านแหลม เมืองสมุทรสงคราม เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อเอี่ยม วัดลัดด่าน เมืองสมุทรสงคราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อภู่ วัดบางกะพร้อม เมืองสมุทรสงคราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ อุปสมบท แล้วได้เดินทางไปเรียนพระกรรมฐานกับพระอาจารย์รูปหนึ่ง (ไม่ปรากฏนาม) ซึ่งอยู่ที่เชิงเขา แขวงเมืองกาญจนบุรี เรียนอยู่ระยะหนึ่งจึ่งกลับมาอยู่วัดลัดด่านตามเดิม ต่อมาหลวงปู่ไข่ ได้ออกธุดงค์ไปตามสำนักพระอาจารย์ต่างๆ ซึ่งอยู่ที่อำเภอโพธาราม เมืองราชบุรี และเมืองกาญจนบุรี จากนั้นได้กลับมาอยู่ที่วัดลัดด่านอีกระยะหนึ่ง จึงได้ออกธุดงค์ไปเรียนวิปัสสนากรรมฐานกับพระอาจารย์ในถ้ำที่เมืองกาญจนบุรี เป็นเวลาประมาณ 6 ปี (ราว พ.ศ. 2423 - 2429) เมื่อท่านศึกษาอยู่ในถ้ำนั้นเป็นเวลานานพอสมควร เห็นว่าจะช่วยเหลือโลกได้บ้างแล้ว ท่านก็เดินธุดงค์ออกจากถ้ำไปในที่ต่าง ๆ โดยไม่ยอมขึ้นรถลงเรือ และไม่มีจุดหมายปลายทาง สุดแต่มืดที่ไหนก็กางกลดนอนที่นั่น เช้าก็ออกเดินธุดงค์ต่อไป ในระหว่างทางมีราษฎรมาขอความช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด เรื่องตกทุกข์ได้ยาก หรือเจ็บไข้ได้ป่วยหรือเป็นบ้าเสียจริต ท่านมีจิตเมตตาช่วยรักษาให้ตามที่อธิษฐานทุกคน" หลวงปู่ไข่ เดินธุดงค์อยู่ราว 15ปี (ประมาณ พ.ศ.2429-2444) เกียรติคุณของหลวงปู่ไข่ ได้เลื่องลือเข้ามาถึงกรุงเทพฯ จึงมีผู้นิมนต์มาอยู่ที่วัดบางยี่เรือ ฝั่งธนบุรี เป็นเวลา ๑ ปี จากนั้นหลวงปู่ไข่ ก็ออกธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพรอีกหลายปี ในที่สุดหลวงปู่ไข่ ก็เดินทางเข้ามากรุงเทพฯ อีกครั้งหนึ่ง เข้าใจว่าคงราว ๆ พ.ศ.2455-2461 การเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ครั้งนี้ หลวงปู่ไข่ ได้เลือกจำพรรษาอยู่ที่วัดเชิงเลน หรือวัดบพิตรพิมุขวรวิหาร ทั้งนี้เพราะที่วัดบพิตรพิมุขมีพระภิกษุน้อย และมีคณะกุฏิ ซึ่งใช้เป็นที่เก็บศพ และบางครั้งก็มีชาวบ้านเข้ามาใช้เป็นที่ถ่ายอุจจาระด้วย ดังนั้นคณะกุฏินี้จึงเป็นสถานที่เงียบสงบ ไม่มีใครมารบกวนมากนัก หลวงปู่ไข่จึงเข้ามาอยู่ที่คณะกุฏิในป่าช้าของวัดบพิตรพิมุข สมัยนั้นพระภิกษุรูปใดจะเข้ามาอยู่วัดก็ได้โดยเสรี ไม่ต้องมีบัตรและไม่มีใครตรวจตรา ไม่ต้องขออนุญาต เพียงแต่ถึงคราวเข้าปุริมพรรษา ก็บอกกล่าวเจ้าอาวาสให้รับทราบ เพื่อจะได้จำพรรษาที่วัดนั้น และเมื่อหลวงปู่ไข่ มาอยู่ที่วัดบพิตรพิมุขนั้น พระกวีวงศ์ (กระแจะ วสุตตโม ป.ธ.๔) เป็นเจ้าอาวาส ในระหว่างที่หลวงปู่ไข่ จำพรรษาอยู่ ณ วัดบพิตรมุข หลวงปู่ไข่ ได้ปฏิบัติทางธรรมและสร้างการกุศลหลายประการ ได้แก่ สอนพระกรรมฐานแก่บรรพชิตและฆราวาส ช่วยอนุเคราะห์แก่ผู้เจ็บไข้ได้ทุกข์ บริจาคทรัพย์ส่วนตัวและชักชวนบรรดาศิษย์และผู้ที่คุ้นเคยให้มาร่วมการทำบุญ เช่น สร้างพระพุทธปฏิมา ซ่อมพระพุทธรูปของเก่าที่ชำรุดหักพังให้ดีขึ้น สร้างพระไตรปิฎก โดยหลวงปู่ไข่ ลงมือจารใบลานด้วยตนเองบ้าง ให้ช่างจารขึ้นบ้าง ซ่อมแซมกุฏิที่ชำรุดทรุดโทรมให้ดีขึ้น สร้างกุฏิเป็นห้องแถวไม้ขึ้นอีกหลายกุฏิ ทั้งได้สร้างถนน สระน้ำ ถังรับน้ำฝน ขึ้นภายในบริเวณวัด สร้างแท่นสำหรับนั่งพักภายในคณะกุฏิให้เป็นที่สะดวกแก่พระภิกษุสามเณรที่ อาศัยอยู่ในคณะนั้น เป็นต้น นอกจากนี้ยังปรากฏว่า เมื่อครั้งหลวงปู่ไข่ จำพรรษาอยู่ตามหัวเมือง ก็ได้สร้างและปฏิสังขรณ์วัดต่าง ๆ มาแล้วหลายแห่ง


หลวงปู่ไข่ เริ่มอาพาธด้วยโรคชราตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม พ.ศ.2475 ครั้นวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2475 ก็ถึงแก่มรณภาพ ก่อนเวลาที่จะมรณภาพ หลวงปู่ไข่ ได้ข่มความทุกข์เวทนาอยู่ในเวลานั้น ให้หายไปได้ ประดุจบุคคลที่ไม่มีอาการเจ็บป่วยใด ๆ แล้วขอให้ศิษย์ที่พยาบาลอยู่ ประคองตัวให้ลุกขึ้นนั่ง และให้จุดธูปเทียนบูชาพระ เมื่อกระทำนมัสการบูชาพระเสร็จแล้วก็เจริญสมาธิสงบระงับจิต เงียบเป็นปกติอยู่ประมาณ 15 นาที ก็หมดลมปราณ ถึงวาระสุดท้ายศิษย์ผู้คอยเฝ้าพยาบาลอยู่ จึงประคองตัวหลวงปู่ไข่ ให้นอนลง รวมอายุได้ 73 ปี พรรษา 53 พรรษา

สำหรับในปี 2515 ทางวัดบพิตรพิมุข ได้ทำการสร้างวัตถุมงคลหลวงปู่ไข่ นับว่าเป็นรุ่นสองของวัด ครบวาระ 40ปีจากวันมรณภาพ ทางวัดมีการจัดสร้างเหรียญรุ่นนี้ 2 แบบคือแบบรูปไข่และทรงกลม จัดพิธีพุทธาภิเษก วันที่ 3-4 ธันวาคม 2515 โดยพิธีจัดได้ครบตามแบบโบราณประเพณี ทุกประการ มี พระเกจิอาจารย์ดังๆสมัยนั้นมาร่วมงานมากมายหลายสิบรูป เท่าที่จำได้เช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพีล หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิต หลวงพ่อมิ่ง วัดกก หลวงพ่อลำใย วัดทุ่งลาดหญ้า หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง หลวงพ่อบุญมี วัดเขาสมอคอน หลวงพ่อ เทียม วัดกษัตราธิราช หลวงพ่อกี่ วัดหูช้าง หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี หลวงพ่อแจ๋ ฉะเชิงเทรา หลวงพ่อเส่ง วัด กัลยา เป็นต้น
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน700 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 10 ก.ย. 2556 - 23:06:22 น.
วันปิดประมูล - 19 ก.ย. 2556 - 01:31:06 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลเวียงห้วยเขน (2.6K)(1)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     700 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    Room39 (591)(3)

 

Copyright ©G-PRA.COM
www1