รายละเอียด | ในอดีต วัดศาลาไพ อ.เมือง จ.นคร ศรีธรรมราช มี เกจิอาจารย์ ผู้แก่กล้าและเชี่ยวชาญทางด้านพระเวทวิทยาคมสูงยิ่งที่รู้จักกันดีในนาม พ่อท่านเอียดดำ ซึ่งศิษย์ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากท่านและปรากฏชื่อเสียงเกียรติคุณโด่งดังในยุคต่อมาก็คือ พ่อท่านเขียว วัดหรงมล, พ่อท่านเนียม วัดบางไทร, พ่อท่านวรรณ วัดเสาธงทอง และที่เป็นฆราวาสที่ยังมีชีวิตด้วยวัย 108 ปี ที่รู้จักกันดีใน นามจอมขมังเวท ก็คือ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ก็เป็นผู้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมจาก วัดศาลาไพ มาเช่นกัน ดังนั้นเมื่อ วัดศาลาไพ ถึงเวลาที่จะต้องทำการก่อสร้างและบูรณะเสนาสนะที่ชำรุดทรุดโทรมมากแล้ว ขุนพันธรักษ์ ราชเดช จึงมิอาจนิ่งดูดายด้วยสำนึกในพระคุณของครูบาอาจารย์จึงมอบหมายให้บุตรชาย ณ สรรค์ พันธรักษ์ราชเดช ร่วมกับ พ่อท่านชม เจ้าอาวาสวัดศาลาไพ รูปปัจจุบัน สร้าง วัตถุมงคล รุ่น พุทธามหาเวท เพื่อหารายได้ทำการก่อสร้างและบูรณะเสนาสนะของวัดศาลาไพให้ลุล่วงตามเป้าหมาย
พิธีกรรมที่ประกอบขึ้นอย่างเพียบพร้อมสมบูรณ์ทั้งพิธีทางพุทธและพราหมณ์ โดยมีพระคณาจารย์ 9 รูป นำโดย "พระครู 4 กา" ผู้รักษาเจดีย์พระบรมธาตุ คือพระครูกาแก้ว พระครูกาชาด พระครูการาม และพระครูกาเดิม สวดเจริญพระพุทธมนต์
พระเกจิอาจารย์ผู้เรืองเวทวิทยาคมนั่งปรกภาวนาประจำทิศและอธิษฐานจิตปลุกเสก ได้แก่ พ่อท่านเนียม วัดบางไทร, พ่อท่านกลั่น วัดเขาอ้อ, พ่อท่านท้วม วัดศรีสุวรรณ, พ่อท่านวรรณ วัดเสาธงทอง, พ่อท่านหรั่ง สำนักสงฆ์ห้วยเตง, พ่อท่านเอียด วัดโคกแย้ม, พ่อท่านคล้อย วัดภูเขาทอง, พ่อท่านหรีด วัดป่าโมกข์, พ่อท่านไพสิทธิ์ สำนักสงฆ์วิเวกสามแก้ว, พ่อท่านสูตร วัดในเตา,
ส่วนเจ้าพิธีกรรมคือ "อาจารย์เอกวิทย์ ยอดระบำ" ศิษย์เอกผู้ได้รับการสืบทอดด้านพิธีกรรมของ "พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ ราชเดช"
องค์ประธานในพิธีเททองประกอบด้วยสามยอดขุนพลพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเมืองใต้ พ่อท่านเนียม วัดบางไทร พ่อท่านท้วม วัดศรีสุวรรณ พ่อท่านกลั่น วัดเขาอ้อ ผนึกพลังเวทร่วมเททอง
สำหรับพระเนื้อผงได้รับเมตตาจากพ่อท่านหรั่ง สำนักสงฆ์ห้วยเตง พ่อท่านชม วัดศาลาไพ พ่อท่านไพสิทธิ์ สำนักสงฆ์วิเวกสามแก้ว พ่อท่านสูตร วัดในเตา รวมพลังจิตเปิดพิมพ์นำฤกษ์ ความศักดิ์สิทธิ์ของพิธีกรรมก่อให้เกิดพระอาทิตย์ทรงกลดขณะกดพิมพ์พระผงนำฤกษ์ และพระจันทร์ทรงกลดขณะประกอบพิธีเททอง |