(0)
///ขุนแผนกั่วเผาะผงพรายกุมาร (ฉายาฟันลูกเดียว)






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่อง///ขุนแผนกั่วเผาะผงพรายกุมาร (ฉายาฟันลูกเดียว)
รายละเอียดขุนแผนกั่วเผาะ(ฟันลูกเดียว) ผสมผงพรายกุมาร องค์นี้พิเศษครับ ด้านหลังผมเอาสีผึ้งไม้แหย่แย้และว่านของสายเขมรของอาถรรย์ ของอาจารย์สายเขมรที่ผมนับถือ ที่สร้างได้เพียง7ตลับเท่านั้น และน้ำมันช้างตกมันที่ออกมาจากรูเหนือใบหูเวลาตกมันเท่านั้นถึงจะมี ซึ่งน้อยคนจะเอาได้ ขอบอกคำเดียวแรงเหลือหลายจริงๆตามฉายาขุนแผนกั่วเผาะ(ฟันลูกเดียว)


////////////////////

ประวัติการสร้าง//////
.....เมื่อกว่า 20 ปีที่ผ่านมา มีพระสงฆ์อยู่ในป่ารูปหนึ่ง ท่านอยู่รูปเดียวกระท่อมเล็กๆที่หมู่บ้านหิน เหล็ก ไฟ ต.กะโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ หมู่บ้านกะโพ ที่ท่านจำพรรษาอยู่ลึกเข้าไปในป่า เป็นหมู่บ้านของชาวขอทาน ซึ่งเป็นหมู่บ้านของคนที่มีวิชาอาคม และเป็นหมู่บ้านที่มีช้าง ซึ่งมีชื่อเสียงมากของประเทศไทย หลวงพ่อรูปนี้ท่านมีของดีที่เรียกว่า"กั่วเผาะ"เป็นสุดยอดทางเมตตามหานิยม "ท่านทำมาจากของดีที่เอายาก คนไปเอาของดีชนิดนี้ ดีไม่ดี ตายเอาง่ายๆ" "กั่วเผาะ" มันคือสุดยอดของเครื่องรางทางเมตตามหานิยมที่มีต้นกำเนิดทางอีสานใต้ หาคนทำได้ยากที่สุด เพราะถ้าคนทำไม่เก่งจริง มีแต่ตายลูกเดียว คนที่จะทำ"กั่วเผาะ"ได้ จะต้องเสี่ยงกับความตายโดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน พระอาจารย์รูปนี้ ท่านปลูกกระท่อมอยู่รูปเดียวในหมู่บ้านหินเหล็กไฟ ที่อยู่ลึกไปจาก ต.กะโพ อีก 10 กว่ากิโล ท่านชื่อ "หลวงพ่อชู กันตะวีโร"เมื่อประมาณปี 2527 คือ ท่านเพิ่งบวชได้เพียง 7 พรรษา อายุเพียง 56 ปีเท่านั้น ยังเป็นพระสงฆ์ที่หนุ่มแน่นอยู่มาก ก่อนที่ท่านจะมาบวช ท่านเคยเป็น "ณุ เฒ่า"มาก่อน "ณุ เฒ่า"คือหมอไสยศาสตร์ หรือคนที่มีวิชาอาคมเก่งกล้า เป็นอาจารย์ของพวกส่วยที่เลี้ยงช้าง ท่านเป็น"ณุเฒ่า"มาตั้งแต่หนุ่มๆ ชาวบ้าน และลูกศิษย์ของท่าน เรียกท่านว่า"จอมพลจอมพลสฤษดิ์ 2" เพราะท่านมีเมียมีลูกมาก จนจำไม่ได้ว่าลูกคนไหน แม่คนไหน เพราะมีมากเหลือเกิน ชาวบ้านแถวนั้นเล่าว่า..หลวงพ่อชูสมัยเป็นฆราวาส ท่านเป็นหมอไสยศาสตร์ที่เก่งกาจมาก จะหาคนเท่าเทียมได้ยาก นอกจากท่านจะเก่งกาจในเรื่องช้างแล้ว ท่านยังเชี่ยวชาญเรื่องการทำเสน่ห์ยาแฝดอีกด้วย วัตถุที่ท่านนำมาทำเป็น "กั่วเผาะ"คือ "น้ำมันช้างตกมัน" (ตามภาษาส่วยเรียกว่า"กั่วเผาะ" ถ้าเรียกตามภาษากลางกลาง"กั่วเผาะ"ก็คือ"สีผึ้ง" นั่นเอง) สีผึ้งของหลวงพ่อชู ท่านจะผสม น้ำมันของช้างที่กำลังตกมัน ซึ่งเจ้าของต้องตีปลอกล่ามโซ่ไว้ เพื่อป้องกันมันไปกระทืบคน เพราะเวลาที่ช้างตกมัน เป็นเวลาที่มีอารมณ์รุนแรง โดยเฉพาะอารมณ์ทางเพศจะรุนแรงมาก และน้ำมันที่ไหลออกมาจากขมับทั้งซ้ายและขวา จะเป็นวัตถุอาถรรพณ์ที่แรงและมีพลังอำนาจมากๆ และท่านยังเอาว่าน และวัตถุอาถรรพณ์ต่างๆ เช่นสีผึ้งตามท่ารถ ท่าเรือ 7 ท่า มาผสมและว่านมงคลต่างๆ และสิ่งสุดท้ายที่ท่านผสมคือ น้ำมันช้างตกมันนั่นเอง หลวงพ่อชู ท่านเล่าว่า นำมันช้างตกมันเป็นของอาถรรพณ์ที่ที่หายาก มีผลทางเสน่ห์มหานิยมมากที่สุด เมื่อไปเอามาได้แล้วต้องผสมลงในสีผึ้งทันที่เพราะเป็นน้ำมันที่ระเหยเร็วมาก จากนั้นจึงนำมาทำพิธีปลุกเสกและแจกจ่ายให้ผู้ที่มาขอให้ท่านช่วยเหลือเพียง คนละเล็กละน้อยเท่านั้น หลวงพ่อชูท่านยังกล่าวอีกว่า "กั่วเผาะ"ที่ท่านทำขึ้นนั้น ใช้ได้ผลดีมากๆ ไม่ว่าจะเป็นให้ผัวเมียรักกัน หรือ ให้ผัวกลับมารักเมีย หลงเมีย เลิกจากเมียน้อย ท่านก็ทำได้ทั้งนั้น แต่วิชานี้เป็นวิชามาร ทำไปมากๆเข้ามารก็มาสิงในตัวท่าน ผู้หญิงที่มาหาท่านให้ท่านลงของหรือทำของให้ ท่านก็จะเอาทำเมียหมด เมื่อทำเข้าบ่อยครั้งเข้า ท่านก็สำนึกได้ว่านั่นคือ "นรก" ท่านจึงตั้งใจจะบวชสักพรรษาเดียว เพื่อจะฝึกจิตให้แข็งกว่ามาร จะได้เลิกทำชั่ว เมื่อบวชแล้ว ท่านจึงรู้ว่าที่ทำไปมันก็นรกดีๆนี่เอง ท่านจึงบวชไม่ยอมสึกและมาปลูกกระท่อมอยู่กลางป่าในหมู่บ้านหินเหล็กไฟ

......คุณชินพร สุขสถิตย์ จึงไปขอให้ท่านสร้างขุนแผนขึ้น นับเป็นขุนแผนรุ่นแรกที่สร้างขึ้นจากผงพรายกุมาร หลังจากที่หลวงปู่ทิม มรณะภาพแล้ว โดยผมสมกับกั่วเผาะ เรียกว่า "ขุนแผนกั่วเผาะ" ถือว่าได้เป็นพระเนื้อผงรุ่นแรกของท่านด้วยครับ โดยคุณชินพรเป็นคนดูแลเรื่องการออกแบบพิมพ์ทรง ในครั้งนี้ลพ.ชูท่านได้มอบ "กั่วเผาะหรือน้ำมันช้าง" ซึ่งเป็นน้ำมันจากลึงค์ช้างตอนตกมันที่ปลุกเสกเสร็จแล้วมาให้ผสมกับผงโถหนึ่งพร้อมกับมอบว่านสำคัญๆซึ่งเก็บมาจากเขมรต่ำ มาให้อีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้คุณชินพรยังนำผง"งาขนาย" เป็นงาที่ได้จากช้างพัง (เพศเมีย) ที่งอกออกมาจากโคนงวงเหนือปากเป็นท่อนสั้นๆ โดยเมื่อช้างพังเริ่มมีอารมณ์ทางเพศก็จะตกมันคล้ายช้างพลาย (เพศผู้) โดยจะทิ่มงาขนายและหักคาไว้ตามต้นไม้ใหญ่ งาขนายนี้หายากกว่างากำจัด โบราณถือว่าเป็นเมตตานิยมอย่างสูง ใครมีไว้จะมีโชคมีลาภอีกด้วย นอกจากผงงาขนายแล้วยังมีผงวิเศษและผงพรายกุมารฯ ของลป.ทิม วัดละหารไร่ ผงจินดามณีของลป.แก้ว วัดละหารไร่ ผงว่านสบู่เลือด นอกจากนั้นยังมีผงของท่านเจ้าคุณนรฯ ซึ่งคุณลุงแก้ว ศิริรัตน์ ได้มอบให้ทางคุณชินพรไว้ 1 กระป๋องใบชา พร้อมกับทองคำเปลวปิดองค์หลวงพ่อโสธร จ.ฉะเชิงเทรา และอาจารย์อนันต์ สวัสดิเสาวนีย์ ได้มอบผงวิเศษกว่า 1,000 ชนิดที่รวมๆปนไว้ พร้อมทั้งทรายเสกของอาจารย์ยุคเก่าๆ ที่มีชื่อเสียงอีก 32 รูป และไม้กาหลงต้นที่นักบุญบูรพาและอาจารย์วิเชียรฯได้มอบให้คุณชินพรไว้ก่อนที่เรื่องราวของต้นไม้กาหลงต้นที่นกกาตายสุมอยู่ ที่โคนต้นจะดัง เพราะคุณชินพรได้นำเรื่องของไม้กาหลงมาลงในหนังสือพลังเหนือโลกก่อนนิตยสาร ฉบับอื่น ๆ (เมื่อปี 2526-2527) มาเป็นส่วนผสมหลัก

กล่าวโดยสรุปคือพระขุนแผนกั่วเผาะนั้นจัดเป็นพระดีนอกดีในอย่างแท้จริง พิจารณาได้จากวัสดุและมวลสารที่นำมาใช้จัดสร้างนั้น เป็นของมงคลและหายากยิ่งทั้งสิ้น ดังคำโบราณที่ว่าพระเครื่องที่ดีจะต้องประกอบด้วยผู้สร้างมีเจตตนาดีหนึ่ง วัตถุมวลสารต่างๆเป็นของดีหนึ่งและยังจะต้องประกอบด้วยฤกษ์งามยามดีอีกด้วย ดังนั้นก่อนจะลงมือบดผงพิมพ์เป็นองค์พระ ทางคุณชินพรได้หาฤกษ์อันเป็นมหานิยมและโชคลาภ โหรผู้ที่มีชื่อเสียงนามว่า สหัสรังษี (หมายความว่าพยากรณ์ได้แม่นยำดุจด้วยญาณ) ได้คำนวณฤกษ์ยามให้โดยเริ่มลงมือกดพิมพ์ในวันอันเป็นวันที่จันทร์เป็น มหาจักรกับราหู มีมฤตยูกุมพระเกตุ ซึ่งถือว่าเป็นฤกษ์แห่งเมตตามหานิยมและโชคลาภ พระผงขุนแผนชุดนี้เป็นสุดยอดของผงที่รวบรวมไว้ในชั่วชีวิตของผู้สร้าง จึงต้องสร้างกันเองโดยตำผงผสมกดพิมพ์ที่บ้านของคุณชินพร เพราะถ้าไปจ้างทำเกรงว่าผู้รับจ้างจะไม่เอาผงผสมให้ตามที่ต้องการ

พระผงขุนแผนชุดนี้จึงจัดสร้างแบบโบราณ จำนวนที่สร้างจึงได้ไม่มากนัก เพียงพิมพ์ละประมาณ 4000 องค์เท่านั้น
พิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก และแบ่งเป็นสีขาว สีเทาและสีแดง และมีแบบฝังตะกรุดสาริกาด้วยจำนวนหนึ่งประมาณ 100 องค์เท่านั้น แต่จะมีเนื้อกรรมการอีกส่วนหนึ่ง แค่ประมาณหลักสิบองค์ ซึ่งมีทั้งเนื้อแดง เทา และเขียว แต่เนื้อหาจะจัดมวลสาร และมีอ๊อปชั่นพิเศษทุกองค์ เหตุที่สร้างได้ไม่มากเพราะต้องกดพิมพ์ให้เสร็จทันทำพิธีปลุกเสกในคืนวันที่ 15 ค่ำ เดือน 11 ตรงกับวันที่ 28 ตุลาคม 2528 เวลา 22.56 น. เป็นเวลาที่ราหูเริ่มอมพระจันทร์พอดี ซึ่งตามคติของไสยเวทถือว่าเป็นมหานิยมอย่างสูง เหมาะสำหรับปลุกเสกพระที่เน้นหนักไปทางด้านเมตตามหานิยมและโชคลาภครับ แต่ด้านอื่น ๆ ก็มีให้เห็นเนือง ๆ เช่น แคล้วคลาด คงกระพัน เรียกว่าได้ครบเครื่องเหมือนกัน

พระขุนแผนกัวเผาะ องค์พิมพ์เล็กนี้เป็นพระในชุดกรรมการเนื้อแดง เพราะแก่ปูนเสก (เขาว่าดีด้านรักษาและป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ) ของคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม วัดอาวุธ คนเป็นเขารู้ทันทีว่าเป็นเนื้อกรรมการจัดสร้างหลักสิบองค์ครับ เนื้อหาจัดแก่มวลสารแต่แกร่ง ฟอร์มพระติดเต็ม สภาพสวยมาก ๆ ด้านหลังฝังพลอยเสกและเม็ดพระกริ่งชินบัญชรแท้ ๆ ของลป.ทิม วัดละหารไร่ด้วยครับ พระแบบนี้ส่วนใหญ่เคยได้ยินว่ามี แต่มีน้อยคนครับที่จะเคยเห็นองค์จริง

พระขุนแผนกั่วเผาะนั้นจัดเป็นพระขุนแผนผงพรายกุมารฯ รุ่นที่ 2 ในสายของลป.ทิม วัดละหารไร่ พระชุดนี้จริง ๆ เป็นพระที่น่าใช้มาก ๆ ทั้งในแง่ของมวลสาร พิธีกรรม และประสบการณ์ครับ แต่เนื่องด้วยขาดการประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนได้ทราบ จึงเป็นเสมือน "พระโลกลืม" ทำนองนั้นเลยครับตั้งแต่ปี 2528 จนกระทั่งเมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมาจึงเริ่มมีคนทราบประวัติพระชุดนี้และหาเก็บกันยกใหญ่ แต่ต้องระวังนะครับ พระชุดนี้มีเก๊มาหลายปีมาแล้วครับ ระมัดระวังกันหน่อยครับ
ราคาเปิดประมูล1,000 บาท
ราคาปัจจุบัน3,100 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 03 ก.พ. 2557 - 21:00:52 น.
วันปิดประมูล - 05 ก.พ. 2557 - 12:57:40 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลprombroon (687)(1)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     3,100 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    supanutk (397)(2)

 

Copyright ©G-PRA.COM
www1