(0)
ปู่ฤาษี มหาเศรษฐี ประสพพร เรซินหนา ฐาน 3 นิ้วครึ่ง สูง 4 นิ้ว เหมาะตั้งหิ้งบูชา หน้ารถ อื่นๆ อธิฐานจิต โดย หลวงปู่เขียน วัดป่าช้าหนองขี้นก หลวงปู่เร็ว วัดหนองโน จารมือโดย ครูบานก วัดป่าธรรมจักทรงธรรม








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องปู่ฤาษี มหาเศรษฐี ประสพพร เรซินหนา ฐาน 3 นิ้วครึ่ง สูง 4 นิ้ว เหมาะตั้งหิ้งบูชา หน้ารถ อื่นๆ อธิฐานจิต โดย หลวงปู่เขียน วัดป่าช้าหนองขี้นก หลวงปู่เร็ว วัดหนองโน จารมือโดย ครูบานก วัดป่าธรรมจักทรงธรรม
รายละเอียดปู่ฤาษี มหาเศรษฐี ประสพพร เรซินหนา ฐาน 3 นิ้วครึ่ง สูง 4 นิ้ว เหมาะตั้งหิ้งบูชา หน้ารถ อื่นๆ อธิฐานจิต โดย หลวงปู่เขียน วัดป่าช้าหนองขี้นก และ หลวงปู่เร็ว วัดหนองโน จารมือโดย ครูบานก วัดป่าธรรมจักทรงธรรม เป็นเกจิทางอุบล กำลังมาแรงมากๆช่วงนี้ มีทั้ง เมตตา ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

http://pic.free.in.th/id/92e8f4c6d92708d16e69944c902b9c7f
หลวงปู่เขียน ปุญญกาโม วัดดอนส้มป่อย จ.อุบลฯ
พระครูสถิตปุญญานุวัฒน์ หรือ "หลวงปู่เขียน ปุญญกาโม" ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดดอนส้มป่อย ต.นาเลิง อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันสิริอายุ 83 ปี

ท่านจำพรรษาในกลดที่ป่าช้าหนองขี้นก อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี

ก่อนบวชท่านเป็นวัยรุ่นคะนอง เดินข้ามความตายมานักต่อนัก ตอนเป็นนักเลงบางขุนพรหม ในขณะนั้นได้ครูดีที่เป็นฆราวาสจอมขมังเวท 2 ท่าน สายพราหมณ์เก่าสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นอาจารย์ของ ท่านจอมพล ป.พิบูลสงคราม สอนวิชาอาคมต่างๆ และสักยันต์ให้คือ "ครูทองลือ" และ "ครูปลั่ง" ทำให้ท่านเก่งและกล้า เป็นนักเลงไม่กลัวใคร มีเรื่องกับขาใหญ่จนตำรวจขอร้อง

ต่อมาเริ่มเบื่อในชีวิตฆราวาสยังมาสนใจทางธรรม เข้าบวช มี พระครูสุจิตตานุวัตร วัดผักแว่น เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งสืบวิชาชั้นสูงจาก พระอุปัชฌาย์วันดี วัดผักแว่น ศิษย์ในสาย ญาครูขี้หอม และ สมเด็จลุน นครจำปาสัก พระมหาดำรงค์ วัดใต้ยางขี้นก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูประทีปธรรมโสภณ วัดเหนือยางขี้นก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา "ปุญญกาโม"

หลังจากบวชแล้ว ท่านก็สนใจศึกษาเล่าเรียนทางธรรม ครั้งหนึ่งได้เข้าไปกราบเรียนวิชากับ ท่านเจ้าคุณนรรัตราชมานิจ ซึ่งท่านเจ้าคุณนรฯ ได้สอนเน้นกรรมฐานเพื่อเป็นพื้นฐานยกจิตให้สูง ให้พ้นโลกเหนือโลก จากนั้นได้กลับไปจำพรรษาที่บ้านเกิดจังหวัดอุบลราชธานี แล้วไปเรียนวิชากับหมอธรรม ซึ่งท่านเป็นรูปเดียวที่สืบทอดวิชาสาย สมเด็จลุน นครจำปาสัก และ ญาท่านกรรมฐานพระครูธรรมบาล (เผย) มุ่งปฏิบัติธรรมอย่างอุกฤตมานานและออกบำเพ็ญเพียรในป่าเข้าไปในประเทศลาว เขมร พม่า จนได้สมณศักดิ์ "พระครูสถิตปุญญานุวัฒน์"

จากนั้นท่านทิ้งสมณศักดิ์ตำแหน่งต่างๆ แล้วลาออกมาเป็นหลวงตาธรรมดา ปลูกเพิงพักในป่าช้า ตอนที่หลวงปู่เขียนเดินธุดงค์ มีคนเห็นเป็นร้อยว่า ญาท่านเดินข้ามแม่น้ำโขงไปฝั่งลาว ด้วยเท้าเปล่าได้ เมื่อถามหลวงปู่ท่านตอบว่า "พระน้าบ่ใช่เป็ดบ่ใช้ห่านจะได้ลอยน้ำ" ชาวบ้านให้สมญาท่านว่า "ญาท่านเขียน เหยียบลำน้ำโขง"

หลวงปู่เขียน เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน โดยส่วนใหญ่มีความเชื่อเรื่องจิตวิญญาณอย่างมาก จุดไหนที่เป็นที่ดินผี ที่ป่าโปร่ง ที่นาอาถรรพ์ ต้องมากราบอาราธนานิมนต์ให้ท่านไปเหยียบนาฝังลอยเท้าท่านไว้ ว่ากันว่าผีอาถรรพ์วิญญาณร้ายหายสิ้น ข้าวกล้าเติบโตงอกงามผลผลิตมากกว่าเขา ขนาดโดนพายุฝนถล่มนาอื่นเสียหายพังหมด ผืนนาที่ท่านเหยียบรอดปลอดภัยได้ผลแปลงเดียวในตำบล

หลวงปู่เขียนท่านเป็นพระที่สมถะเรียบง่าย ชอบแสวงหาความสงบวิเวก มีเจตนาแน่วแน่ แรงกล้า ตลอดเวลาท่านตั้งใจจักสร้างศาลาไว้ให้ญาติโยมปฏิบัติธรรม ด้วยการบอกบุญเชิญชวนลูกศิษย์ลูกหาและท่านผู้มีบุญมาร่วมสร้างบารมี การสร้างวิหารทาน เป็นทานวิเศษ

ปัจจุบันศาลาปฏิบัติธรรมของญาท่านเขียน มีเหรียญ 9 ยอด ตะกรุดสายรกพระเจ้า และลูกแก้วเนื้อเมฆพัด สมนาคุณให้บูชาติดตัว

ปัจจุบันหลวงปู่เขียนจำพรรษาอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมตำบลยางขี้นก (ป่าช้ายางขี้นก) ต.ยางขี้นก อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี

http://pic.free.in.th/id/937349449956d88a00f6c3ec2d49b0f4
หลวงปู่เร็ว ฉันทโก
เทพเจ้าแห่งวัดหนองโน
ชาติภูมิ พระอธิการประเทือง หลวงปู่เร็ว ฉันทโก (ฉายาที่หลวงปู่ญาท่านสวนตั้งให้ ) ท่านเกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๘๔ บิดาชื่อ คุณพ่อวันทา พรมไทย มารดาชื่อ คุณแม่มี พรมไทย มีพี่น้องร่วมท้องทั้งหมด ๘ คน หลวงปู่เร็ว เป็นคนที่ ๗ ( ชาย ๗ หญิง ๑ ) ในวัยเยาว์หลวงปู่เร็ว เป็นเด็กเรียบร้อย ขยันอดทน ตั้งใจเล่าเรียนศึกษา เป็นคนหัวไว ใฝ่เรียนรู้ โดยเฉพาะวิชาอาคมเป็นพิเศษ หลวงปู่เร็ว มักจะเข้าวัดนาอุดม ไปหาหลวงปู่ญาท่านสวน แทบทุกวัน ไปบีบๆ นวดๆ แล้วก็ขอเรียนวิชาบาลีสันสกฤตบ้าง อักขระขอมลาวบ้าง เมื่อหลวงปู่เร็วอายุได้ ๑๕ ปี จึงขอโยมแม่อุปสมบทเป็นสามเณร เข้าพรรษาที่ ๒ มีพระธุดงค์มาจากลาว มาพักที่วัด ๗ วัน สามเณรเร็วด้วยความที่ใฝ่รู้ จึงเข้าไปขอเรียนวิชาจากพระธุดงค์ที่มาจากลาว ก็ได้ความเมตตา สอนกรรมฐานให้ สามเณรเร็วเป็นคนหัวไวเรียนเก่งความจำดี พระธุดงค์ชมว่าสามเณรเร็วเก่งมาก เมื่อถึงวันที่พระธุดงค์จะต้องเดินทางกลับลาว สามเณรเร็วจึงขอติดตามเดินธุดงค์ไปกับท่านด้วย ท่านเห็นว่าสามเณรเร็วมีความตั้งใจ ท่านจึงให้ร่วมธุดงค์ด้วย สามเณรเร็วเดินธุดงค์ไปกับพระอาจารย์ชาวลาวหยู่หลายเดือนไม่เคยถามชื่อท่านเลย วันนั้นสามเณรเร็วถามชื่อท่าน พระอาจารย์ท่านตอบว่า เราคื่ออากาศทาส ไม่มีตัวไม่มีตนแล้วท่านก็ยิ้ม ตั้งแต่นั้นมาสามเณรเร็วไม่เคยถามชื่อท่านอีกเลย
มีเหตุการที่ต้องจดจำขึ้นใจ วันนั้นปักกตที่กลางป่าได้มีเสือโคร่งขนาดใหญ่ เดินเข้ามาใกล้ประมาณ ๕ เมตร สามเณรเร็วเห็นจะร้องก็ร้องไม่ออก พระอาจารย์ลาวท่านบอกกับสามเณรเร็วว่า ไม่ต้องกลัว แต่เสือโคร่งก็เดินเข้ามาอย่างช้าๆ พระอาจารย์ชาวลาวท่านก็ท่องคาถาเบาๆ เสือโคร่งเดินมาถึงตรงหน้า ห่างไม่ถึงคืบเลย แล้วเสือโคร่งก็มอบลงตรงหน้าพระอาจารย์ลาวอย่างสงบนิ่ง เสือโคร่งนอนมอบนิ่งจนฟ้าสางแล้วจึงเดินจากไป หลวงปู่เร็วบอกว่าวันนนั้นไม่ได้หลับตาเลยทั้งคืนกลัวมาก เช้ากำลังจะออกดธุดงค์ มีชาวบ้านมาใส่บาตรกันมากเลย น่าแปลกใจ อยู่ในป่าแท้ๆ มีชาวบ้านได้ยังไว สามเณรเร็วจึงถาม โยมอยู่แถวนี้บ่ ชาวบ้านตอบว่าจ๊ะ..ฉันอยู่แถวนี้นานแล้วจ๊ะ พอฉันเสร็จก็ให้พรชาวบ้านที่มาใส่บาตร ชาวบ้านนั้่งรับพรยิ้มอย่างมีความสุข พอชาวบ้านรับพรเสร็จก็สาธุ 'แล้วพูดพร้อมกันว่า 'พวกฉันรอเทวดามาโปรดนานแล้ว พวกฉันจะได้ไปเกิดเสียที' สิ้นเสียงชาวบ้านก็หายไปต่อหน้าเลย สามเณรเร็วไม่ถามอะไรทั้งสิ้น เก็บข้าวของเดินธุดงค์ต่อ เดินไปสักพักใหญ่ พระอาจารย์ชาวลาวกล่าวว่า 'เราไม่มีอะไรจะสอนสามเณรแล้ว วิชาอาคมเราก็ถ่ายทอดให้จนหมดแล้ว ดังนั้นเราจะแยกทางกันตรงงนี้ สามเณรเร็วอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ถึงเวลาแล้วที่สามเณรต้องออกจากร่มกาสาวพัสตร์ และเมื่อถึงเวลาสามเณรจะเข้ามาใต้ร่มกาสาวพัสตร์เอง จงกลับไปทดแทนคุณแผ่นดินและเดินตรงไปทางทิศตะวันออก จำคาถาที่เราสอบได้ใช่ใหม เดินท่องไปด้วยเดอ' พูดจบพระอาจารย์ชาวลาวก็เดินหายไปทันที สามเณรเร็วนึกว่าจะทำไงดีละเรา แต่นึกถึงคำที่พระอาจารย์ชาวลาวสอนสั่งและก็นึกถึงหลวงปู่ญาท่านสวน จึงเดินไปทางที่พระอาจารย์ชาวลาวบอก เดินไปไม่ถึงชั่วโมง ตัวสามเณรเร็วก็มาถึงหน้าวัดนาอุดมได้ยังไง แปลกใจมาก ทั้งๆ ที่เดินอยู่ในป่าประเทศลาวแท้ๆ มันเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์จริงๆ สามเณรเร็วจึงรีบไปหาโยมพ่อโยมแม่ ที่แปลกไปกว่านั้นตอนเดินธุดงค์แค่ไม่เกินห้าเดือน แต่โยมพ่อโยมแม่ทักว่า 'เป็นยั่งใดเดินธุดงค์ตั้ง ๓ ปีกว่า จะกลับมาเกณฑ์ทหารบ่' สามเณรเร็วจึงงง นี่เราเดินธุดงค์สามปีกว่าเลยหรือ แล้วก็ต้องเกณฑ์ทหารในวันรุ่งขึ้น วันรุ่งขึ้นสามเณรเร็วไปเกณฑ์ทหารจับได้ใบแดง ทบ.พลัดหนึ่ง มีเวลาแค่ ๗ วันต้องไปรายงานตัว จึงไปขอลาสิขาบทกับหลวงปู่ญาท่านสวน ท่านก็บอกว่าไม่ต้องเสียใจถึงเวลาสามเณรจะกลับมาใต้ร่มกาสาวพัสตร์เอง ตอนนี้ไปทำหน้าที่ลูกผู้ชายก่อน
เป็นทหารอยู่ ๒ ปี ก็ปลดประจำการ หลวงปู่เร็วบอกว่าเนื่องจากทางบ้านค่อนข้างอยากจน จึงต้องหาเลี้ยงโยมพ่อโยมแม่และพี่น้องอีกหลายคน นายเร็ว พรมไทย (หลวงปู่เร็ว) ในช่วงที่เป็นฆาราวาสก็ยังหมั่นศึกษาวิชาความรู้มาตลอด ทำงานขยันอดทน หนักก็เอา เบาก็สู้ เสร็จจากงานก่อนกลับบ้านก็จะไปหาหลวงปู่ญาท่านสวนทุกวัน ขอเรียนวิชาเขีนอักขระเพิ่มเติมทุกครั้งที่ไปหา หลวงปู่ญาท่านสวนก็เมตตาสอนให้แบบเต็มสูตร ครบทุกขั้นตอน หลวงปู่เร็วเคยไปทำงานที่ อำเภอแกลง จังหวัดจันทบุรี เพื่อนที่ทำงานชวนไปกราบนมัสการหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ พอหลวงปู่เร็วได้กราบหลวงปู่ทิม หลวงปู่ทิมมองหน้าแล้วก็ยิ้ม แล้วพลวงปู่ทิมก็พูดว่า 'โยมคนนี้มีของดีอยู่ในตัว จงเอามาใช้ในทางที่ดีนะ' หลวงปู่เร็วนั่งฟังแบบงงๆ หลวงปู่ทิมก็พูดว่า 'วิชาอาคมที่โยมเรียนมานะ ดีนักแล' หลวงปู่เร็วก็ก้มกราบแล้วก็่ขอฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่ทิมก็จับศรีษะหลวงปู่เร็วแล้วบริกรรมคาถาแล้วเป่าลงไปที่กระหม่อมสามครั้ง ตั้งแต่นั้นมาหลวงปู่เร็วทุกวันหยุดก็ไปกราบหลวงปู่ทิมเป็นประจำ เพื่อนๆ ของหลวงปู่เร็วจะตั้งฉายาท่านว่าจอมขมังเวทย์ เพราะว่าหลวงปู่เร็วจะชอบสวดมนตต์นั่งสมาธิ เขียนอักขระลงหนังสือทุกวันเป็นประจำไม่มีเว้น มีอยู่วันหนึ่งเพื่อนร่วมงานมาหา เมากันมาสามคน ชวนหลวงปู่เร็วกินเหล้า (หลวงปู่เร็วเป็นคนไม่กินเหล้า) จึงปฏิเสธไป เพื่อนค่นหนึ่งรู้สึกจะเมามากหยิบปืนขึ้นมาแล้วเล็งไปที่หลวงปู่เร็ว แล้วพูดว่า 'เขาว่ามึงเป็นจอมขมังเวทย์เหรอ กูขอลองหน่อย' แล้วก็สับไกรดัง แชะ แชะ แชะ สามครั้ง เพื่อนถึงกับงง แต่ไม่ยอมลดราวาศอก ยิงอีก แชะ แชะ แชะ เพื่อนอีกสองคนเข้าไปห้ามแย่งปืนเกิดลั่นลงพื้น ปัง ปัง แล้วแย่งปืนมาได้ หลวงปู่เร็วก็ไม่โกรธเพื่อน บอกว่าเมาแล้วก็ไปนอนเถอะ แล้วหลวงปู่เร็วก็กลับเข้าบ้านไป เช้าวันรุ่งขึ้น เพื่่อนคนนั้นรีบมาขอขมาหลวงปู่เร็ว
หลวงปู่เร็วทำงานอยู่หลายปี ก็เดินทางกลับบ้านเกิด ตัดสินใจว่าจะบวชพระ เพราะทางบ้านก็มีฐานะดีแล้ว ไม่ลำบากเหมือนก่อน หลวงปู่เร็วจึงเดินทางไปหาหลวงปู่ญาท่านสวน เพื่อขอบวชเป็นพระภิกษุ หลวงปู่เร็วเดินเข้าไปก้มกราบหลวงปู่ญาท่านสวน หลวงปู่ท่านสวนเอ่ยว่า 'ถึงเวลาแล้วโยมเร็ว อาตมาเตรียมเครื่องบวชไตรจีวรไว้ให้โยมแล้ว รับเป็นอุปัชฌาย์ด้วย' หลวงปู่เร็วขนลุกไปทั้งตัว เพราะยังไม่ทันพูดอะไรออกมาเลย หลวงปู่ญาท่านสวนก็รู้แล้วว่าเราจะมาขอบวช

คาถาบูชาปู่ฤาษี

ตั้งนะโม ๓ จบ

โอมสิทธิ การิยะ แห่งบรมครูทั้งหลาย อะธิเจ ตะโส อะปะ มัชชะโต โมนะ ปะกะสุ สิกะ คะโต โส พะนัพ ภะวันติ ตาทิโน อุปะสัน ตัสสะ สะติมะโต
ขอสติปัญญา ความสำเร็จและงาน
ราคาเปิดประมูล289 บาท
ราคาปัจจุบัน299 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูล - 06 เม.ย. 2557 - 13:06:25 น.
วันปิดประมูล - 07 เม.ย. 2557 - 20:58:29 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลsatyriasis (22)(1)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     299 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    asan09 (952)

 

Copyright ©G-PRA.COM