(0)
ว่ากันว่าตะกั่วนั้นสามารถซึม ซับพลังงานได้ง่ายกว่าโลหะชนิดอื่น...... เหรียญเปิดโลก 1 ใน 400 เหรียญ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก/ลป.ทวด







ชื่อพระเครื่องว่ากันว่าตะกั่วนั้นสามารถซึม ซับพลังงานได้ง่ายกว่าโลหะชนิดอื่น...... เหรียญเปิดโลก 1 ใน 400 เหรียญ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก/ลป.ทวด
รายละเอียด***** ไม่เอาทองลด 10000 บาท*****
***** ไม่เอาทองลด 10000 บาท*****
***** ไม่เอาทองลด 10000 บาท*****

พิมพ์ ด้านหน้า มีตัวหนังสือ เนื้อตะกั่วสร้างน้อย 400เหรียญ..

การจัดส่งใช้ระบบ EMS รวดเร็ว ปลอดภัย พร้อมส่ง SMS
รับประกันมาตรฐานสูงสุดครับ
1.รับประกันพระแท้ตลอดชีพ ไม่แท้ ไม่ดี มีซ่อม คืนเงินสดเต็มจำนวนไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่หรือพระจะตกทอดไปถึงบุคคลใดก็ตาม ให้ท่านสามารถนำไปตรวจสอบได้อย่างสบายใจ
2.รับประกันความพอใจในทุกกรณี 15 วัน

พระต้องอยู่ในสภาพเดิม

รับประกันตามกฏ ออกบัตรเองลดให้ 300 บาท ส่งออกบัตร + 100 บาทครับ
จากราคาปิดประมูล

คัดลอกจาก : หนังสือกายสิทธิ์ เป็นส่วนใหญ่
คณะของคุณวรวิทย์ ด่านชัยวิจิตร มีศรัทธาสร้างรูปของหลวงปู่ แต่ท่านให้สร้างเป็นรูปของหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืดแทน
ในวันพิธีเสกวัตถุมงคล หลวงปู่ทวด ฝนตกลงมาอย่างหนัก ผู้เขียนรู้สึกประหลาดใจ เพราะเมื่อไปถึงวัด ผู้คนวันนั้นมีมากเกินกว่าที่คิดไว้ ของที่นำมาปลุกเสก ทั้งจากผู้สร้างและผู้นำมาเข้าร่วมพิธี สูงจนท่วมตัวหลวงปู่ ทุกคนที่มาในพิธีอาจจะคิดไม่ถึงก็ได้ว่า นี่เป็นวาระสุดท้ายที่หลวงปู่จะโปรดพวกลูกศิษย์ของท่าน ซึ่งหลวงปู่ได้เป็นผู้กำหนดวันพิธีไว้ล่วงหน้าคือ วันอังคารที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๓๒
วัตถุมงคลที่สร้างขึ้นในครั้งนี้ประกอบด้วย
๑.เหรียญทองคำ ๒๔๐ เหรียญ
๒.เหรียญเงิน ๑,๐๓๖ เหรียญ
๓.เหรียญทองแดง ๑๐,๕๐๐ เหรียญ
๔.พระผง ๕,๐๐๐ องค์
(ในจำนวนนี้มีพระผงที่ฝังพระธาตุเอาไว้ด้วย จำนวน ๓๖๐ องค์)
๕.ตะกั่วผสมพลวง ๑,๐๐๐ เหรียญ
๖.โปสเตอร์รูปหลวงปู่ดู่ ๑๐,๐๐๐ แผ่น
๗.ลูกแก้วสารพัดนึก ๕,๐๐๐ ลูก
นอกจากนี้ยังมี
ล็อกเกต รูปไข่และรูปสีเหลี่ยม รูปคู่หลวงปู่ทวดและหลวงปู่ดู่ หลวงปู่ทวดเดี่ยว หลวงปู่ดู่เดี่ยว มีรูปอมยิ้มและธรรมดา ด้านหลังบรรจุผงมหาจักรพรรดิ์และเกศาของหลวงปู่ดู่ ที่สร้างโดยร้านทองแม่ทองใบเพื่อแจกลูกค้าของร้านประมาณ1000 อัน
เหรียญหลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง ปี 2532 มีเนื้อ ทองคำ เงิน ตะกั่ว และทองแดง จำนวนไม่ระบุ ปลุกเศกที่วัดพนัญเชิงก่อนที่จะนำมามาปลุกเศกพิธีเปิดโลกอีกที
สำหรับเหรียญทองคำ เงิน และทองแดง ได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกพร้อมกับเหรียญหลวงพ่อหวล ภูริทัตโต วัดพุทไธศวรรย์ ในวาระอายุครบ ๕ รอบ เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๓๒....
ในพิธีพุทธาภิเษกนี้ นอกจากหลวงพ่อหวล เจ้าอาวาส ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราชแล้ว ยังได้กราบอาราธนาพระผู้ทรงวิทยาคุณองค์อื่นๆ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แก่ หลวงพ่อทิม วัดพระขาว หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา และอาจารย์แม้น วัดหน้าต่างนอก นอกจากนี้ก็ยังมีศิษย์ของหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ พระอาจารย์สุทิน วัดสะแก ศิษย์ของหลวงปู่ดู่ และหลวงพ่อมหาวีระ วัดท่าซุง ฯลฯ
วัตถุมงคลต่างๆ ที่สร้างขึ้นในครั้งนี้ คณะของคุณวรวิทย์ได้แจกจ่ายให้กับศิษย์ที่ปฏิบัติธรรมโดยไม่ต้องเสียเงินใดๆ ทั้งสิ้น ยกเว้นเหรียญชนิดเงินและทอง ซึ่งคิดเท่ากับต้นทุนตามที่มีผู้สั่งจอง
ปัจจุบันวัตถุมงคลดังกล่าว ยังมีเหลืออยู่บ้างในจำนวนไม่มากนัก ซึ่งต้องแล้วแต่กาลเวลา เพราะต้องดูโอกาสที่ควรจะเปิด ท่านที่อยากได้ก็จงอธิษฐาน ปฏิบัติธรรมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา นึกถึงหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ถ้าวาสนาของท่านดี คงมีโอกาสได้รับวัตถุมงคลรุ่นนี้ ที่เรียกกันว่า "รุ่นเปิดสามโลก" หรือที่เซียนพระเรียกว่า "รุ่นดัง" นั่นเอง
มีเพื่อนของลูกศิษย์ผู้เขียนเคยนำหนังสือ พระผู้จุดประทีปในดวงใจ ซึ่งพิมพ์ครั้งพระราชทานเพลิงศพของพ่อผู้เขียน ไปถวายเพื่อนของเขาซึ่งบวชเป็นพระภิกษุ เมื่อเขาเห็นหนังสือ เขาได้บอกว่า "เพิ่งจะรู้ว่าหลวงพ่อดู่ที่หลวงพ่อเกษมกล่าวถึงคือองค์นี้เอง" จึงได้เกิดการซักถามกันขึ้น พระจึงเล่าให้ฟังว่า เคยไปนมัสการหลวงพ่อเกษม กับโยมมารดาของท่าน ตั้งแต่ยังไม่ได้บวช มารดาได้พาไปนมัสการหลวงพ่อเกษม เพื่อจะขอบารมีให้ลูกชายบวช หลวงพ่อเกษมท่านนั่งหลับตานิ่งอยู่ ได้เอ่ยถามมารดาของท่านว่า "รู้จักหลวงพ่อดู่ วัดสะแกไหม" ซึ่งมารดาเรียนตอบท่านว่า ไม่เคยรู้จัก หลวงพ่อเกษมท่านจึงพูดต่ออีกว่า "เคยได้ยิน เหรียญเปิดโลกไหม" เธอก็ตอบอีกว่า "ไม่เคยได้ยิน" หลวงพ่อเกษมจึงพูดขึ้นอีกครั้งหนึ่งว่า "ให้ไปหามาบูชา เหรียญนี้ดี กันนิวเคลียร์ได้" พระองค์นี้ก็ได้แต่สงสัยว่า หลวงพ่อดู่อยู่ที่ไหน และจะหาเหรียญได้ที่ใด เป็นเวลาเกือบปี จึงเกิดความกระจ่างจากหนังสือที่ได้รับ

เรื่องเบา ๆ อีกเรื่องสำหรับวันนี้ เอาใจคนชอบพระเครื่อง
อาจมีบางท่านอยากรู้เกี่ยวกับเหรียญเปิดโลกในแง่มุมต่าง ๆ ก็เลยนำมาเล่าสู่กันฟังเพิ่มเติม
เหรียญเปิดโลกทองคำที่สร้างจำนวน ๒๔๐ เหรียญนั้น แต่ละเหรียญช่างบังเอิญน้ำหนัก 9.9 กรัมพอดิบพอดี โดยไม่ได้วางแผนไว้ แล้วก็ให้เช่าราคาทุนจริง ๆ คือ เหรียญละ 3,400 บาท (ตอนนี้ไม่รู้เขาบูชากันเท่าไร) ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังไม่รวมเหรียญทองคำพิเศษจำนวน 3 เหรียญ ที่แต่ละเหรียญมีน้ำหนัก 1 บาท โดยเหรียญพิเศษ 3 เหรียญนี้จะไม่มีข้อความ "หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด" เพราะเจ้าของเหรียญต้องการให้เป็นเครื่องระลึกถึงทั้งองค์หลวงปู่ทวดและองค์หลวงปู่ดู่ไปพร้อมกัน

ภายหลังเหรียญทองคำสั่งทำพิเศษ 1 ใน 3 เหรียญได้ถูกคนงานขโมยไป แต่ภายหลังเจ้าของต้องตามสืบไปจนกระทั่งถึงตัวผู้ซื้อรายสุดท้าย แล้วเช่าบูชา (เหรียญของตัวเอง) กลับมาด้วยราคาหลักแสน

ช่างอ๊อดผู้แกะพระรุ่นนี้ ได้รับเหรียญทองแดงที่หลวงปู่เสกแล้วกลับไปจำนวน 28 เหรียญ (เท่าจำนวนพระพุทธเจ้าในบทชินบัญชร) แต่ไม่นานก็ถูกคนขอไปจนหมดเกลี้ยง

เหรียญเปิดโลกเป็นเหรียญที่มีคนนิยมมากอาจเนื่องด้วยรูปลักษณ์และความประณีตในการแกะ ประกอบกับมงคลนามที่คนตั้งให้ ที่สำคัญหลวงปู่อธิษฐานให้เป็นพิธีใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนท่านจะละสังขาร

มีคนไม่น้อยอ้างชื่อว่า....ก็อยู่ในพิธีเปิดโลกด้วย อันนี้ คณะผู้สร้างก็ไม่ทราบได้ เพราะของต่าง ๆ ที่ฝากเข้ามา ล้วนอยู่ในกล่องปิดมิดชิด ดังนั้น ผู้ที่ฟังก็ต้องใช้วิจารณญาณให้มาก ๆ นะครับ

สุดท้าย โปรดเชื่อเถอะว่าวัตถุมงคลของหลวงปู่ดีทั้งนั้น หากไม่ติดที่ค่านิยม ก็อาจได้ของดีโดยไม่ต้องเสียเงินเสียทอง หรือเสียน้อยที่สุด
บทความจากลูกศิษย์ท่านหนึ่งของหลวงปู่ดู่

มีหลายคนทีเดียวที่กล่าวอ้างถึงชนวนวัตถุมงคลรุ่นเปิดโลก วันนี้ก็เลยถือโอกาสเปิดเผยข้อมูลที่ยังไม่เคยเปิดเผย แม้กับคนใกล้ตัว เพราะเหตุว่าไม่เห็นความจำเป็น แต่มาตอนนี้ สังเกตว่ามีหลายท่านสนใจเชิงลึกกับเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องวัตถุมงคล จึงนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

บทความจาก :http://www.navaraht.com/forum/forum15/topic610.html

ในตอนสร้างวัตถุมงคลรุ่นเปิดโลกนั้น (ซึ่งตอนนั้นกิมิได้ตั้งชื่อรุ่นแต่อย่างใด เป็นแต่เรียกกันเองว่าเหรียญหลวงปู่ทวด ขอบลายกนก) คณะผู้จัดทำ ตระเวนขอเนื้อชนวนโลหะที่หลวงปู่เคยอธิษฐานไว้ให้กับลูกศิษย์อาวุโสหลายท่าน สุดท้ายก็รวบรวมได้ประมาณ 1 กล่อง (กล่องเบียร์สิงห์) ซึ่งก็ถือว่ามากพอควร จากนั้น ก็นำมาไปให้กับช่างแกะพระ (ช่างอ๊อด)

ความจริงได้ถูกเปิดเผยภายหลังเหรียญจัดทำเสร็จ โดยช่างอ๊อดสารภาพว่าลืมนำเนื้อชนวนไปผสมทำเหรียญ พอนานวันไป ช่างก็ยังหาไม่พบเนื้อชนวนดังกล่าว สุดท้ายก็ไม่ได้เนื้อชนวนคืนจนบัดนี้ นี่คือเนื้อชนวนชั้นที่หนึ่งที่ไม่ได้นำมาผสม

ส่วนเนื้อชนวนชั้นที่สอง คือเนื้อโลหะที่เหลือจากการปั๊มเหรียญเปิดโลกนั้น ก็ไม่มี เพราะไม่ได้ขอ (คณะผู้จัดทำมิได้มีเจตนาจะสร้างพระรุ่นใดต่ออีก) แต่อย่างไรก็ดี ทางช่างก็มอบเศษขอบเหรียญที่เหลือจากการปั๊มมานิดหน่อย ซึ่งภายหลังก็ได้นำไปผสมสร้างเหรียญรุ่นรวมใจไปจนหมด

สรุปก็คือ ก่อนสร้างเหรียญเปิดโลก ก็ไม่ได้ใช้เนื้อชนวน ภายหลังสร้างก็ไม่ได้เก็บเนื้อชนวน เรื่องก็เป็นอย่างนี้ แต่ถามว่าทางคณะผู้จัดทำรู้สึกไม่มั่นใจในพุทธคุณของเหรียญนี้หรือไม่ คำตอบก็คือ ไม่มีนัยสำคัญแต่อย่างใดเลย เพราะคณะศิษย์ผู้สร้างมั่นใจในคุณธรรมของหลวงปู่ และมั่นใจในเจตนาการอธิษฐานพระของหลวงปู่ เนื่องจากครั้งนั้น หลวงปู่เป็นผู้กำหนดฤกษ์เอง ทั้งที่หลวงปู่ประกาศงดการอธิษฐานพระให้กับวัด หรือคณะใด ๆ ก่อนหน้านี้

ประกอบกับหลวงปู่เคยยืนยันว่าหลวงปู่ทวดท่านบารมีเต็มแล้ว วัดไหนสร้างก็ศักดิ์สิทธิ์หมด เพราะบารมีหลวงปู่ทวดท่านเต็มท้องฟ้า แล้วนี่ เป็นเหรียญหลวงปู่ทวดที่หลวงปู่ดู่เสก ทำไมจะต้องคำนึงถึงเนื้อชนวนให้มากด้วยเล่า เข้าทำนองว่ามีก็ดี ไม่มีก็ได้

หากข้อมูลนี้จะกระทบกระเทือนผู้ใดไปบ้างก็ต้องขออภัยครับ แต่ก็คิดว่าอาจตอบข้อสงสัยของหลาย ๆ คนได้ และโปรดเชื่อเถอะครับว่า สาระสำคัญมิได้อยู่ที่เนื้อชนวนหรอก หากแต่อยู่ที่จิตของผู้เสก และจิตของผู้บูชาเป็นสำคัญ

ย้อนระลึกได้เพิ่มเติมว่าในช่วงที่กำลังติดตามดูความคืบหน้าของการสร้างเหรียญหลวงพ่อทวด (เปิดโลก) อยู่นั้น ทางช่างอ๊อดก็จะปั๊มเหรียญออกมาให้ดูเป็นระยะ ๆ เพื่อดูความคมชัดของการแกะ มีอยู่ครั้งหนึ่ง ลูกศิษย์ของหลวงปู่ผู้ที่มีสัมผัสในทางนี้เดินทางไปด้วย พอเอาเหรียญลองปั๊มมากำดูก็แปลกใจว่าทำไมจึงมีพลังแรง ประกอบกับเห็นมีเทวดารักษาองค์พระ ทั้ง ๆ ที่เหรียญนี้ยังไม่ได้เข้าพิธี ซึ่งแต่ก่อนหลวงปู่เคยบอกว่าเฉพาะรูปถ่ายพระอริยเจ้าเท่านั้นที่ไม่จำเป็นต้องเสก ส่วนเหรียญต่าง ๆ นั้นจำเป็นต้องเสก (ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต่างจากตุ๊กตุ่นตุ๊กตา)

พอนำเรื่องนี้ไปกราบเรียนหลวงปู่ จึงได้ทราบว่าหลวงปู่อธิษฐานให้ตลอดกระบวนการผลิต นั่นหมายความว่าฤกษ์ที่หลวงปู่กำหนดนั้น เป็นเพียงนำวัตถุมงคลทั้งหมด (ที่หลวงปู่แอบเสกให้ก่อนแล้ว) มาเสกต่อยอดอีกที ทำให้ศิษย์หายสงสัยว่า ทำไมท่านจึงไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเสกนาน ๆ กับพระเครื่องบางรุ่น

จากลูกศิษย์ท่านหนึ่งของหลวงปู่ดู่


จากการที่ได้พบว่ามีผู้สนใจพระเครื่องรุ่น “เปิดโลก” เป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มมากขึ้นทุกที ข้อมูลบางอย่างที่ปรากฏตามหนังสือ อินเทอร์เน็ต และสื่อต่างๆ เริ่มมีความเข้าใจผิดและคลาดเคลื่อนจากความจริง และเป็นความคลาดเคลื่อนที่มีนัยสำคัญ ด้วยเหตุนี้ ในฐานะที่ข้าพเจ้าเป็นผู้ประสานงานดำเนินการจัดสร้างพระรุ่นนี้ จึงจำเป็นต้องบันทึกและเผยแพร่ที่มาของวัตถุมงคล เพื่อให้ผู้สนใจได้ทราบวัตถุประสงค์และรายละเอียดการจัดสร้างพระรุ่นนี้

ในช่วงกลางปี พ.ศ. ๒๕๓๒ ข้าพเจ้าได้รับการติดต่อจากคุณวรวิทย์ ด่านชัยวิจิตร นักศึกษารุ่นพี่ชุมนุมพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ที่มีพระคุณต่อข้าพเจ้าอย่างมาก เนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ข้าพเจ้าได้มาพบและปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ในราวปี พ.ศ. ๒๕๒๖ ซึ่งในการติดต่อครั้งนั้น คุณวรวิทย์ต้องการให้ข้าพเจ้าช่วยเป็นธุระหาช่างแกะพระที่มีฝีมือ เพื่อจัดสร้างเหรียญหลวงปู่ทวด ซึ่งต่อมาได้รับการขนานนามว่า “รุ่นเปิดโลก” ซึ่งข้าพเจ้าขอสรุปตามลำดับหัวข้อ ดังนี้

๑. ที่มาและวัตถุประสงค์ของการสร้าง
ด้วยเหตุที่มีสัญญาณบ่งบอกว่าพระเครื่องพระบูชาของหลวงปู่ดู่ มีแนวโน้มที่เป็นที่ต้องการและหายากมากขึ้นเรื่อย ๆ ประกอบกับองค์หลวงปู่ท่านก็มีอายุมากแล้ว (ขณะนั้นท่านมีอายุได้ ๘๖ ปี) ทำให้พวกเราโดยคุณวรวิทย์ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่ม จึงมีดำริที่จะสร้างเหรียญสักจำนวนหนึ่งสำหรับแจกให้กับผู้ที่มีศรัทธาในองค์หลวงปู่ดู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้มีศรัทธาในการรักษาศีลและใฝ่ใจในการปฏิบัติสมาธิภาวนา จะได้ไม่ต้องเสียเงินเสียทองมาก ๆ เพียงเพื่อให้ได้วัตถุมงคลของท่านสักชิ้นหนึ่ง

เงื่อนไขในการแจกเหรียญเปิดโลกที่เน้นผู้มีศรัทธาในการฝึกฝนอบรมตนเองในแนวทางแห่งศีล สมาธิ และปํญญา นี้ ก็เพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งที่ได้กราบเรียนหลวงปู่ว่าขออนุญาตจัดทำเหรียญเพื่อแจกให้กับนักปฏิบัติ ซึ่งหลวงปู่ก็อนุญาตด้วยเมตตายิ่งทั้งที่หลวงปู่ได้งดอธิษฐานจิตวัตถุมงคลมาเป็นระยะเวลากว่า ๑ ปีแล้วด้วยเหตุผลส่วนตัวบางประการ โดยหลวงปู่ท่านกำหนดวันพิธีอธิษฐานจิตวัตถุมงคลรุ่นนี้ในวันที่ท่านเรียกว่าวันธงชัย ตรงกับวันอังคารที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ เวลา ๒ ทุ่ม ส่วนกำหนดเวลา ๒ ทุ่ม นั้น สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเพราะท่านไม่ต้องการให้ไปรบกวนเวลาที่ญาติโยมมาทำบุญหรือสนทนาธรรมกับท่านในช่วงระหว่างวัน

๒. การออกแบบเหรียญ
เดิมทีพวกเราเจตนาจะจัดสร้างเหรียญรูปเหมือนหลวงปู่ดู่ แต่ท่านกลับแนะนำว่าสร้างรูปเคารพครูบาอาจารย์คือหลวงปู่ทวดดีกว่า ท่านเน้นว่ายังไงก็ต้องให้มีข้อความว่า “หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด” ด้วย และภายหลังจากที่คุณวรวิทย์ได้ไหว้วานให้ข้าพเจ้าช่วยดำเนินการ เพราะบ้านคุณวรวิทย์อยู่ที่อยุธยา จึงไม่สะดวก ข้าพเจ้ารับปากช่วยดำเนินการด้วยเหตุผลที่อยู่ทางกรุงเทพฯ และพอจะมีช่องทางติดต่อช่างแกะพระอยู่บ้าง โดยที่ข้าพเจ้าก็ยังไม่เคยมีประสบการณ์ เพราะนี่เป็นการสร้างพระครั้งแรกในชีวิต

สำหรับรูปที่ใช้เป็นต้นแบบนั้น ได้อาศัยเค้าโครงจากรูปหุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่ทวดที่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย เพราะให้รายละเอียดที่ชัดเจน สะดวกสำหรับช่างแกะพระ ในเรื่องช่างแกะพระนั้น พวกเราตัดสินใจเลือกคุณประหยัด ลออพันธ์สกุล หรือช่างอ๊อด ซึ่งวงการยอมรับในฝีมือ จากรูปแบบหน้าตาหลวงปู่ทวดที่ลงตัว ก็ขยายผลมาสู่รูปแบบที่เหลือทั้งด้านหน้าและด้านหลัง กล่าวคือ

· ฐานเป็นรูปดอกบัว ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ขององค์หลวงปู่ทวด เพราะสื่อถึงความเป็นพระโพธิสัตว์ที่บารมีเต็มแล้ว

· ลูกแก้วบนฝ่ามือหลวงปู่ทวด ซึ่งสร้างตามอย่างความนิยมของวัดพะโคะ จังหวัดสงขลา

· อักขระ “พุท ธะ สัง มิ” ที่ด้านหน้า หมายถึงหัวใจของพระไตรสรณคมณ์ คือ พุทธังสรณังคัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ และสังฆัง สรณัง คัจฉามิ” ซึ่งหลวงปู่ดู่ท่านให้ลูกศิษย์ใช้เป็นคำบริกรรมภาวนา

· เส้นรัศมีโดยรอบขอบด้านหลัง หมายถึงอานุภาพแห่งคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ ที่มีมากอย่างจะนับจะประมาณมิได้ และแผ่ออกไปได้ทุกทิศทุกทาง

· อักขระ “นะ โม พุท ธา ยะ” ที่ด้านหลัง หมายถึงพระนามย่อของพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ซึ่งสอดคล้องกับความเชื่อและคำกล่าวของหลวงปู่ดู่ที่ว่าหลวงปู่ทวด ท่านบารมีเต็มแล้ว ท่านจะมาตรัสรู้เป็นพระศรีอาริยเมตไตรย (พระพุทธเจ้าองค์ที่ ๕)

· กึ่งกลางอักขระ “นะ โม พุท ธา ยะ” คือ “นะ” ที่มีเส้นขมวด ๓ รอบ ที่หลวงปู่ดู่ใช้จารในวัตถุมงคลของท่านเสมอ ๆ

· ด้านซ้ายของชื่อพระพรหมปัญโญ จะพบพยัญชนะ “ด” ซึ่งหมายถึงหลวงปู่ดู่ ส่วนด้านขวาจะพบสัญลักษณ์คล้ายกากบ

· รูปแบบขอบเหรียญที่เป็นลายกนก รวมทั้งลักษณะฐานบัวที่ประทับนั่งของหลวงปู่ทวดนั้น เป็นการออกแบบโดยช่างอ๊อด

มีเรื่องแปลกเกี่ยวกับการแกะองค์หลวงปู่ทวดที่ขออนุญาตบันทึกไว้ ณ ที่นี้ กล่าวคือในตอนแรกนั้น ผู้เขียนได้ยุติกับช่างอ๊อดว่าอยากให้หลวงปู่ทวดห่มจีวรให้เรียบร้อย พูดง่าย ๆ ก็คือไม่ต้องการให้เห็นนมหลวงปู่อย่างที่เขานิยมแกะกัน ช่างอ๊อดก็รับไปดำเนินการ ระหว่างนั้นข้าพเจ้าก็เทียวไปเทียวมาในการดูและปรับแก้แบบ ตั้งแต่เป็นภาพสเก็ต กระทั่งเป็นฟิล์ม และเป็นต้นแบบบนแท่งเหล็กกลม ๆ ช่างอ๊อดใช้เวลาแกะบล็อคเหล็กต่อเนื่องกันนาน ๑๕ วันก็แล้วเสร็จ จากนั้นก็เริ่มดำเนินการปั๊มจริง แต่เมื่อปั๊มไปได้มากกว่าหนึ่งพันเหรียญ ช่างอ๊อดก็เพิ่งมาสังเกตเห็นว่าเหรียญที่ปั๊มออกมา ทำไมหลวงปู่มีนมทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีอยู่ในบล็อก จึงติดต่อให้ข้าพเจ้าช่วยไปพิจารณา พอเลิกงานแล้ว ข้าพเจ้าแวะเข้าไปช่วยกันดูจึงพบว่ามีเศษเหล็กปุ่มเล็ก ๆ ไปฝังติดอยู่ที่บล็อกตัวเมีย ในตำแหน่งหัวนมพอดิบพอดี เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าพเจ้าจึงให้ช่างอ๊อดเขี่ยเศษเหล็กออกแล้วปรับปรุงบล็อคด้วยการแกะนมขึ้นมาให้เป็นเรื่องเป็นราว ด้วยสงสัยว่าหลวงปู่ทวดอาจต้องการรักษาเอกลักษณ์รูปแบบของท่านก็เป็นได้๓. ชนิดและจำนวนการสร้าง
การจัดทำเหรียญหลวงปู่ทวดครั้งนี้ นอกจากเหรียญทองแดงแล้ว ยังมีเหรียญโลหะอื่น ๆ รวมทั้งเนื้อผง โปสเตอร์ และลูกแก้ว ซึ่งสรุปได้ดังนี้
ชนิด จำนวน
หมายเหตุ
๑. เหรียญเนื้อทองคำ
๒๔๐ เหรียญ
ใช้ทองคำชนิด ๙๖% แต่ละเหรียญมีน้ำหนัก ๙.๙ กรัม
ให้สั่งจองเท่าราคาทองคำรวมค่ากำเหน็จที่ช่างแกะพระคิด คือ เหรียญละ ๓,๔๐๐ บาท ในจำนวนนี้ มี ๓ เหรียญที่คุณวรวิทย์สั่งทำพิเศษ แต่ละเหรียญมีน้ำหนัก ๑ บาท
๒. เหรียญเนื้อเงิน
๑,๐๓๗ เหรียญ
ให้สั่งจองเท่าราคาที่ช่างแกะพระคิด คือ เหรียญละ ๑๓๐ บาท
๓. เหรียญเนื้อทองแดง ๑๐,๐๐๐ เหรียญ
ไม่รวมส่วนที่ช่างแกะพระปั๊มเกินมาอีกจำนวน ๕๐๐ เหรียญ ภายหลังได้มอบให้ช่างแกะพระเป็นที่ระลึกจำนวน ๒๘ เหรียญ
ซึ่งเหรียญเนื้อทองแดงนี้ ไม่ได้เปิดให้สั่งจอง เพราะเป็นส่วนที่มีเจตนาจัดทำเพื่อแจกแก่ผู้ปฏิบัติธรรม
๔. เหรียญเนื้อตะกั่ว
๑,๔๐๐ เหรียญ เป็นเหรียญที่ไม่มีข้อความ “หลวงพ่อทวดฯ” ๑,๐๐๐ เหรียญ
เป็นเหรียญที่มีข้อความ “หลวงพ่อทวดฯ” ๔๐๐ เหรียญ
๕. เนื้อผง
(รูปทรง ๔ เหลี่ยมขอบมนเล็กน้อย) ๕,๐๐๐ องค์ ใช้ผงมวลสารว่าน ๑๐๘ ที่อาจารย์ศุภรัตน์มอบให้ ซึ่งหลวงปู่ดู่อธิษฐานให้แล้ว ในจำนวนนี้ มีประมาณ ๓๖๐ องค์ ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เป็นที่น่าเสียดายที่พระผงกว่า ๑,๐๐๐ องค์ ชำรุดระหว่างการขนส่ง เนื่องจากความรีบเร่งส่งของในขณะที่เนื้อผงยังไม่แห้งสนิทดี
พร้อมกันนี้ คณะผู้จัดสร้าง ยังได้จัดทำโปสเตอร์หลวงปู่ดู่ในอิริยาบถต่าง ๆ บนฉากหลังที่เป็นรูปใบโพธิ์ ขนาด ๘ x ๑๐ นิ้ว อีกจำนวน ๑๐,๐๐๐ แผ่น และลูกแก้วใสเคลือบปรอทบาง ๆ (เป็นลูกแก้วที่ใช้ประดับตู้ปลาทั่วไป) อีกจำนวน ๕,๐๐๐ ลูก (ไม่รวมลูกแก้วชนิดเคลือบปรอทสีสันต่าง ๆ อีกจำนวนประมาณ ๕๐ ลูก) ๔. เหตุการณ์ในวันพิธี (อังคารที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๓๒) บ่ายเย็นวันนั้นฝนตกลงมาอย่างหนัก ขณะที่ข้าพเจ้าพร้อมด้วยน้องชายของคุณวรวิทย์เร่งขับรถฝ่าพายุฝน เพื่อจะนำวัตถุมงคลที่เหลือ (ส่วนมากเป็นพระเนื้อผง) ไปที่กุฏิของหลวงปู่ดู่ให้ทันพิธี แต่พอมาถึงวัด ฝนก็หยุดตก ท้องฟ้าแจ่มใสมากราวกับว่าได้ปัดเป่าสิ่งสกปรกออกไปจนหมดสิ้น พอใกล้เวลา ๒ ทุ่ม ก็ปรากฏว่ามีผู้คนมาร่วมพิธีกันจนเต็มตลอดพื้นที่หน้ากุฏิหลวงปู่ หลายคนได้นำวัตถุมงคลส่วนตัวมาร่วมพิธีด้วยเป็นจำนวนมาก คุณวรวิทย์ได้เปิดกล่องพร้อมนำตัวอย่างวัตถุมงคลที่จัดทำแต่ละชนิดออกให้หลวงปู่ได้ชม ทั้งเนื้อทองคำ เงิน ทองแดง ตะกั่ว พระผง โปสเตอร์ และลูกแก้ว พอถึงเวลา ๒ ทุ่ม หลวงปู่เริ่มอธิษฐานจิต อัญเชิญบารมีพระพุทธเจ้าทั้งแสนโกฏจักรวาล รวมทั้งบารมีครูบาอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย มาประดิษฐานที่วัตถุมงคล และหลวงปู่ได้ตั้งจิตอธิษฐานให้สว่างไปทั้งสามโลก คือ พรหมโลก เทวโลก และมนุษยโลก สักครู่หนึ่ง หลวงปู่ลืมตาขึ้น ยกมือข้างขวาขึ้นลูบพระที่อยู่เบื้องหน้า สุดท้ายท่านก็กล่าวขอให้หลวงปู่ทวดและเทวดาปกปักรักษาวัตถุมงคลนี้ตลอดไป ให้ปิดกั้นภัยอันตรายทุกอย่าง จากนั้นท่านก็ให้ผู้ที่มาร่วมงานตั้งจิตอุทิศผลบุญไปทั่วโดยรอบสุดขอบจักรวาล อนันตจักรวาล
พอเสร็จพิธี หลังจากกราบลาหลวงปู่แล้ว คุณวรวิทย์ก็แจกจ่ายเหรียญเนื้อทองแดงบางส่วนให้กับตัวแทนหมู่คณะหลายคน เพื่อหาโอกาสแจกจ่ายให้กับผู้เหมาะสมในโอกาสต่อไป ส่วนวัตถุมงคลอันเป็นสมบัติส่วนตัวของผู้ที่นำมาร่วมในพิธีนั้น ข้าพเจ้าไม่ทราบว่ามีอะไรบ้าง เพราะมากมายเหลือ เกิน ทราบว่าบางท่านก็นำมาชนิดหมดหิ้งพระที่บ้านตนเองเลยทีเดียวก็มี

๕. ทำไมจึงชื่อว่ารุ่นเปิดโลก เช้าวันรุ่งขึ้น ได้มีลูกศิษย์หลวงปู่ที่เป็นนักปฏิบัติบางคน ซึ่งไม่ได้มาร่วมงาน ได้กราบเรียนหลวงปู่ว่าเมื่อคืนไม่รู้ที่วัดสะแกมีอะไร กำหนดจิตดูเห็นหลวงปู่ทวดลอยอยู่เต็มท้องฟ้าวัดสะแก หลวงปู่ก็บอกกับผู้นั้น รวมทั้งลูกศิษย์คนอื่น ๆ ณ ที่นั้นว่า “เมื่อคืนข้าเสกให้แบบเปิดสามโลกเลยนะ” นี่เอง น่าจะเป็นที่มาของการพูดปากต่อปากกระทั่งกลายมาเป็นชื่อรุ่นว่า “รุ่นเปิดสามโลก” หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “รุ่นเปิดโลก” ๖. วัตถุมงคลรุ่นเปิดโลกมีความศักดิ์สิทธิ์กว่าพระรุ่นอื่นจริงหรือ
คำกล่าวข้างต้น ค่อนข้างจะกล่าวเกินเลย เพราะเหตุที่หลวงปู่เคยพูดให้เพื่อนข้าพเจ้าฟังว่า เวลาที่ท่านตั้งจิตอธิษฐานพระที่ทางวัดจัดทำมาให้นั้น ท่านจะส่งกระแสจิตอัญเชิญพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ บรรจุเข้าในวัตถุมงคลทั้งใหม่และเก่าทั้งหมดของท่าน ไม่ว่าจะวัตถุมงคลนั้นจะ ณ ที่ใดก็ตาม ดังนั้น เมื่อทราบความตามนี้แล้ว ก็ขอให้ผู้มีวัตถุมงคลของหลวงปู่รุ่นใด ๆ ก็ตาม ขอได้โปรดอย่าหวั่นไหวไปตามค่านิยมที่ตลาดเขาแต่งแต้มให้เลย และโปรดระลึกถึงพระที่หลวงปู่ให้ความสำคัญสูงสุด ที่หลวงปู่เรียกว่า “พระเก่า พระแท้” นั่นก็คือ จิตของเราที่ฝึกฝนอบรมดีแล้วนั่นเอง เพราะพระองค์นี้เท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งที่เที่ยงแท้แน่นอนของเราทุกคน การมีพระภายนอก ก็ล้วนต้องการที่จะโยงเข้าหาการสร้างพระภายในให้เกิดให้มีขึ้น หากปราศจากการสร้างพระภายในแล้วไซร้ การมีพระภายนอก แม้มากเท่าใด ก็ยังไม่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ปลอดภัยอย่างแท้จริง อีกทั้งยังไม่นับว่ารู้จักองค์แท้ของหลวงปู่ ดังที่ท่านกล่าวเชิงท้าทายนักปฏิบัติว่า

“ตราบใดที่แกยังไม่เห็นความดีในตัว ก็ไม่นับว่าแกรู้จักข้าแต่ถ้าเมื่อใด แกเริ่มเห็นความดีในตัวเองแล้ว เมื่อนั้น...ข้าจึงว่า แกเริ่มรู้จักข้าดีขึ้นแล้ว”

บทความจาก http://www.pantown.com/board.php?id=42196&area=3&name=board3&topic=1&action=view
ราคาเปิดประมูล10 บาท
ราคาปัจจุบัน60,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูล - 04 ก.ค. 2557 - 14:40:57 น.
วันปิดประมูล - 06 ก.ค. 2557 - 17:58:19 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลพิณเปี๊ยะ (1.5K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 04 ก.ค. 2557 - 14:41:31 น.



..


 
ราคาปัจจุบัน :     60,000 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    niti_jueng (163)

 

Copyright ©G-PRA.COM
www1