รายละเอียด | งานบุญอายุวัฒนมงคล๑๐๓ปี'พระอุดมญาณโมลี' (หลวงปู่จันทร์ศรี)
คณะศิษยานุศิษย์ได้กำหนดจัดงานทำบุญอายุวัฒนมงคล ครบ ๑๐๓ ปี พรรษา ๘๓ เพื่อเป็นการน้อมถวายมุทิตาสักการะแด่พระเดชพระคุณ พระอุดมญาณโมลี (หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๙ (ธรรมยุต) และเจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ พระอารามหลวง ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ในวันที่ ๘-๙-๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๗
กำหนดการจัดงาน...วันพุธที่ ๘ ตุลาคม พิธีบวชเนกขัมมะบารมี (ชีพราหมณ์)...แสดงธรรมเทศนา....วันพฤหัสบดีที่ ๙ ตุลาคม ร่วมตักบาตรเทโวโรหณะ...ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์...แสดงธรรมเทศนา...พระสงฆ์ ๑๐ รูป เจริญพระพุทธมนต์ และสวดทักษิณานุปาทาน...พระเถระ ๑๐ รูป อธิษฐานจิตวัตถุมงคล
วันศุกร์ที่ ๑๐ ตุลาคม ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ๑๐๔ รูป, ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระเถระ ๕๐ รูป, พระสงฆ์ ๕๐ รูป สวดทักษิณานุปาทาน, พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ๑๐ รูป เจริญพระพุทธมนต์, ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์-สามเณร ๑๐๔ รูป...เวลา ๑๓.๐๐ น. น้อมถวายมุทิตาสักการะแด่พระเดชพระคุณ พระอุดมญาณโมลี (หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป)...สอบถามรายละเอียดโทร.๐๘-๑๒๖๐-๐๗๔๘, ๐๘-๔๙๕๕-๓๒๘๕, ๐๘-๖๕๑๓-๐๕๔๖ (ตั้งโรงทาน)
พระอุดมญาณโมลี (หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป) เป็นศิษย์สายพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ท่านอยู่ในร่มเงาแห่งพระบวรพุทธศาสนา ตั้งแต่อายุ ๑๔ ปี ได้เคยอุปัฏฐากรับใช้พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต และได้หลักการปฏิบัติกรรมฐานนับแต่นั้นมา
หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป นามเดิม "จันทร์ศรี แสนมงคล" เกิดเมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๔๕๔ ณ บ้านโนนทัน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้เข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๔๖๘ อายุ ๑๔ ปี ณ วัดโพธิ์ศรี อ.เมือง จ.ขอนแก่น
ระหว่าง พ.ศ.๒๔๖๘-๒๔๗๐ สามเณรจันทร์ศรี หมั่นท่องทำวัตรเช้า ทำวัตรค่ำ สวดมนต์เจ็ดตำนานสิบสองตำนาน และพระสูตรต่างๆ จนชำนาญ อีกทั้งได้ศึกษาอักษรธรรม อักษรขอม อักษรเขมร จนอ่านออกเขียนได้คล่องแคล่ว แล้วมาฝึกเทศน์มหาชาติชาดกทำนองภาษาพื้นเมืองภาคอีสาน แล้วอยู่ปฏิบัติธรรมถึง ๓ ปี จากนั้นได้ร่วมเดินทางกับพระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ และ พระอาจารย์ลี สิรินธโร ออกไปแสวงหาความวิเวกตามป่าเขา และพักตามป่าช้าในหมู่บ้านต่างๆ เพื่อเข้ากรรมฐาน และศึกษาอสุภสัญญา ปฏิบัติธุดงควัตร ๑๓ ตามแบบบูรพาจารย์อย่างเคร่งครัด
ต่อมาได้ขึ้นไปแสวงหาวิโมกข์ธรรมบนภูเก้า อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู เลยขึ้นไปถึงถ้ำผาปู่ จ.เลย วัดป่าอรัญญิกาวาส อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี พักที่วัดหินหมากเป้ง แล้วเดินทางข้ามแม่น้ำโขงไปนครหลวงเวียงจันทน์ พักที่โบสถ์วัดจันทน์ ครบ ๗ วัน กลับมาหนองคาย แล้วเข้าอุดรธานี
ครั้นเมื่ออายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดศรีจันทร์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ.๒๔๗๔ โดยมี พระเทพสิทธาจารย์ (จันทร์ เขมิโย) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระครูพิศาลอรัญญเขตต์ เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโมเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์มหาปิ่น ปญญาพโล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า จนฺททีโป อันมีความหมายเป็นมงคลว่า ผู้มีแสงสว่างเจิดจ้าดั่งจันทร์เพ็ญ
หลวงปู่ได้ปฏิบัติสมณกิจอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่มีบกพร่อง ตลอดมาจนได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่ "พระธรรมบัณฑิต" เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๓ ต่อมา เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๔ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองที่ "พระอุดมญาณโมลี" นับเป็นพระมหาเถระฝ่ายธรรมยุตรูปแรกที่อยู่ส่วนภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ได้รับการสถาปนาเป็นพระราชาคณะชั้น รองสมเด็จพระราชาคณะ
แม้จะมีพรรษายุกาลมากถึง ๑๐๐ ปี ก็ตาม แต่หลวงปู่ยังคงปฏิบัติกิจของสงฆ์และรักษาวัตรปฏิบัติแบบกรรมฐานอยู่สม่ำเสมอ ซึ่งท่านยึดเป็นหลักในการปฏิบัติเสมอ ที่ว่า กยิรา เจ กยิราเถนํ แปลว่า ถ้าจะทำการใด ให้ทำการนั้นจริงๆ ทุกสิ่งทุกอย่างถ้ามีความขยันหมั่นเพียร สิ่งนั้นต้องสำเร็จตามความตั้งใจจริง
นับว่าท่านเป็นพระบริสุทธิสงฆ์ที่ชาวอุดรธานีและใกล้เคียงให้ความเคารพศรัทธามากตลอดมา
ทุกวันนี้ หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป ยังมีความจำเป็นเลิศ แม้อายุย่างเข้าวัยชรา แต่ยังจำเหตุการณ์ต่างๆ ในอดีตได้อย่างแม่นยำ
หลวงปู่จันทร์ศรี เป็นหลวงปู่ใจดีของลูกหลานญาติโยม โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ ไม่ยึดติดลาภสักการะ และไม่ยึดติดในบริวาร ชีวิตของท่าน สมถะเรียบง่าย เป็นอยู่อย่างสามัญ แม้ท่านจะได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบการปกครองคณะสงฆ์ แต่หลวงปู่จันทร์ศรี ก็ไม่ทิ้งการปฏิบัติกัมมัฏฐาน |