| ชื่อพระเครื่อง | พระกริ่งอังคีรส วัดป่าประดู่ ระยอง พิมพ์เล็ก หลวงปู่ทิมปลุกเสก |
| รายละเอียด | สภาพสวย ผิวทองเต็มๆ กริ่งดัง
ประวัติการสร้างพระชุดนี้มีดังนี้ครับ
ในการดำริสร้างพระประจำเมืองระยองขึ้นนั้นเนื่องจากการประชุมหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัด
โดย นายดำรง สุนทรศารทูล ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธาน
ได้พิจารณาเห็นว่าจังหวัดระยองไม่มีพระพุทธรูปสำคัญประจำจังหวัดไว้เป็นที่
เคารพสักการะเป็นส่วนรวมเลย
เมื่อถึงคราวที่จะประกอบพิธีเป็นสำคัญ เช่น รัฐพิธี งานเทศกาลประจำปี ฯลฯ
ก็คงใช้แต่พระพุทธรูปที่มีอยู่ซึ่งจะต้องยืมจากวัดต่างๆมาประกอบพิธีดังกล่าว
หากได้มีการสร้างขึ้นโดยให้ประชาชนในจังหวัดมีส่วนร่วมสร้าง
ก็จะเป็นสัญลักษณ์ที่ร่วมแห่งกุศลจิตของมวลพุทธศาสนิกชนในจังหวัดระยองดียิ่งขึ้น
จึงได้นำความดำรินี้ขึ้นหารือในที่ประชุมสงฆ์ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนที่ประชุมมีมติ
เป็นเอกฉันท์ ว่าควรจัดสร้างพระพุทธรูปประจำเมืองขึ้น
โดยจำลองแบบพระพุทธสิหิงค์ซึ่งประดิษฐาน ณ พระที่นั่งพุทธไธสวรรค์ทิพยอาสน์
ขนาดเท่าองค์จริงแต่สร้างด้วยเนื้อเงินบริสุทธิ์ หน้าตักกว้าง 65 เซนติเมตร 1 องค์
กับสร้างด้วยองค์สัมฤทธิ์ขนาดเล็กกว่าองค์จริง หน้าตักกว้าง 48 เซนติเมตร อีก 1 องค์
จังหวัดจึงได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต
ซึ่งก็ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สร้างได้ตามความประสงค์
นับได้ว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นเกล้า
พิธีการหล่อพระพุทธรูปประจำเมืองระยอง ได้กระทำขึ้นในสมัย
นายดำรง สุนทรสารทูล ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง
ประธานในพิธีหล่อ คือ ฯพณฯ นายถวิล สุนทรศารทูล
ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
(ท่านผู้นี้เคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เมื่อ พ.ศ. 2486)
ได้จัดพิธีหล่อขึ้นที่สวนศรีเมือง เมื่อวันที่ 17-18 เมษายน พ.ศ.2508 เวลา 20.53 น. กับ 45 วินาที
โดยมีเถรานุเถระผู้ทรงคุณจากทั่วทั้งจังหวัดระยองดังนี้
1 ท่านพระครูภาวนาภิรัต หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่
2 ท่านพระครูอรรถโกศล หลวงปู่ทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง
3 ท่านพระครูวิจิตรธรรมวัตร หลวงพ่อรัตน์ วัดหนองกระบอก เจ้าคณะอำเภอ บ้านค่าย
4 ท่านพระครูภาวนานุโยค หลวงพ่อหอม วัดซากหมากป่าเรไร(รูปจำลองบรมครูฤษี อิสริโกมุณี ประดิษฐานอยู่เบื้องขวา)
5 ท่านพระครูพิพิธวรญาณ หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า
6 หลวงพ่อแพรว วัดเขายายดา
7 หลวงพ่อรวย วัดท่าเรือ
8 หลวงพ่อเย็น วัดบ้านแลง
9 หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า (มาแทนท่านหลวงพ่อโต วัดเขาซากกระโดน ท่านอาพาธเลยมาร่วมงานไม่ได้)
หลังจากกระทำพิธีหล่อเสร็จแล้ว ได้นำไปตกแต่งให้เรียบร้อยที่กรมศิลปากร
เมื่อช่างกรมศิลปากรตกแต่งเสร็จ ก่อนมีพิธีอัญเชิญเข้าสู่เมืองระยอง
เป็นระยะเวลาที่วัดบวรนิเวศวิหารได้ทำ พิธีพุทธาภิเษกพระราชทาน ภ.ร.ป. ที่ได้จัดสร้างขึ้น
จึงได้ขอเข้าร่วมพิธีพุทธ ภิเษกที่วัดบวรนิเวศฯด้วย
ครั้นถึงกำหนดจึงได้อัญเชิญเข้าสู่เมืองระยอง ซึ่งได้จัดพิธีรับเสด็จกันอย่างมโหฬาร
มีการจัดซุ้มต้อนรับขบวนแห่ของอำเภอ ต่างๆ
นำไปประดิษฐาน ณ อุโบสถวัดป่าประดู่
เพื่อกระทำพิธีพุทธาภิเษกและ
เบิกพระเนตรอีกครั้ง เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2508 ถึงวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2509พิธีในครั้งนี้จาการบอกเล่าของคุณวิวัฒน์ ซึ่งท่านได้เป็นผู้ขับรถ
พาหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ไปปลุกเสกเล่าให้ฟังว่า
นอกจากหลวงปู่ทิมแล้วในพิธีนี้ยังได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกหลายรูป
ที่ท่านจำได้คือ
1 พระเทพสิทธินายก(หลวงปู่นาค วัดระฆัง ซึ่งองค์นี้ท่านจำได้แม่นยำเพราะท่านได้คลานเข้าไปกราบ
แล้วขอของดี หลวงปู่นาคท่านได้พูดกับท่านว่า" โอ๊ยไปขอองค์โน้นสิ(ชี้กลับไปที่หลวงปู่ทิม)
อ่ะในนี้น่ะ เก่งกว่าเขาหมดนี่)
2 พระราชธรรมาภรณ์(หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม)
3 หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส
4 หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว
และหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่
นอกจากนี้ยังมีเกจิในแภบนั้นอีกหลายองค์ซึ่งท่านจำไม่ได้
คุณวิวัฒน์เล่าว่า หลวงปู่ทิมไปถึงพิธีตอนเย็น เมื่อขึ้นยังอาสนะที่ปลุกเสกแล้ว
ท่านนั่งสมาธิตัวตรงและนั่งนิ่งตลอดโดยไม่มีหยุดพักเลยแม้แต่จะจิบน้ำชาหรือเข้าห้องน้ำ
นิ่งจนคุณวิวัฒน์ตกใจว่าท่านยังอยู่หรือเปล่าทำไมไม่กระดุกกระดิกตัวอะไรเลยเหมือนไม่หายใจ
จนคุณวิวัฒน์และผู้ที่ติดตามไปต้องเข้าไปดูด้วยเกรงว่าท่านจะละสังขาร
เมื่อถึงเวลารุ่งอรุณมีเสียงไก่ขันหลวงปู่ได้ถอนจากสมาธิและลุกขึ้นทันทีอย่างกระฉับกระเฉงโดยไม่มีอาการ
เจ็บขาหรือต้องพักขาเหมือนคนทั่วไปเลย เมื่อท่านลุกขึ้นบรรดาเกจิอาจารย์
ในพิธีหลายรูปได้เข้ามากราบและขอให้ท่านลงกระหม่อมเป่าหัวให้ โดยคุณวิวัฒน์ถึงกับตะลึงในภาพที่เห็น
เมื่อได้โอกาศคุณวิวัฒน์ จึงแอบถามหลวงปู่ทิมและเล่าให้ท่านฟังที่ท่านได้ยินมา
" หลวงปู่นาคเขาว่าเก่งกว่าเขาหมดเขารู้ได้ไง"
หลวงปู่ทิมตอบว่า " อ่อ จับสายสิจญ์ "
ท่านจึงท่านต่อว่าแล้วจริงไหม
หลวงปู่ทิมนิ่ง ไม่ตอบคำถามนี้
ซึ่งเรียกงานนี้เป็นพิเศษว่า งานฉลองวันขึ้นปีใหม่และสมโภชพระพุทธสิหิงค์ ประจำจังหวัดระยองนอกจากพระพุทธอังคีรสองค์ใหญ่แล้วชนวนที่เหลือทั้งหมดจากการเททองหล่อองค์พระทั้ง2องค์
ได้นำมาสร้างพระกริ่งขนาดเล็กเพื่อแจกให้กับผู้ร่วมบริจาคเงินในการสร้างหอประดิษฐานพระพุทธอังคีรส
ในครั้งนี้เพื่อเป็นที่ระลึก โดยพระขนาดเล็กทั้งหมดแบ่งออกเป็นประเภทดังนี้1 พระกริ่งลอยองค์ มีสร้างด้วยเนื้อ เงิน 100 องค์และ
นวโลหะ 1,000 องค์ ใต้ฐานตอก ร.ย.๐๘ ทุกองค์
(สำหรับเนื้อนวโลหะนั้นได้มีการนำพระกริ่งประมาณ ๒๐๐-๓๐๐ องค์
ปขอให้หลวงปู่ทิมเสกอีกรอบก่อนนำไปแจกจ่ายอีก 2-3 คืนในกุฏิของท่าน
เพื่อนำไปแจกให้หน่วยทหารนาวิกโยธินของระยองที่ไปเข้าร่วมรบในสงคราม)ต่อมาคณะกรรมการได้ปรึกษาหารือกันและมีความเห็นสมควรกราบทูลสมเด็จพระ สังฆราชทรงขนานนามให้เพื่อเป็นสิริมงคล
ซึ่งพระองค์ได้ทรงอนุเคราะห์และถวายพระนามว่า
" พระพุทธอังคีรสธรรมราชา สิหิงคปฏิมาบรมโลกนาถ ระยองประชาราษฏร์บรมบพิต "
อันมีความหมายว่า
" พระพุทธเจ้าซึ่งมีรัศมีซ่านออกจากพระกาย เป็นราชาแห่งธรรม
มีลักษณะลีลาเพียงดังราชสีห์เป็นที่พึ่งของโลก และเป็นมิ่งขวัญที่เคารพบูชาแห่งชาวระยอง "
นับว่าปราถนาของ พุทธศาสนิกชนชาวระยองตามมโนรถทุกประการ
ประสบการณ์ของพระพุทธอังคีรสที่เกิดขึ้นนั้นจะต่างกับ
วัตถุมงคลแบบอื่นกล่าวคือ คุณวิวัฒน์ได้นำพระกริ่งอังคีรส
ที่ได้ทำบุญมาครั้งไปกับหลวงปู่ทิมมาวางบนหิ้ง
ผ่านไประยะหนึ่งพระกริ่งจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออกอย่างอัตโนมัติ
ซึ่งท่านอื่นๆก็จะเป็นลักษณะเดียวกัน คุณวิวัฒน์จึงเข้าไปถามหลวงปู่ทิม
ท่านจึงบอกว่าเป็นไปได้เพราะพระกริ่งชุดนี้มีคุณวิเศษณ์มาก
ท่านตั้งใจเสกให้อย่างเต็มที่และสาเหตุที่หันไปทางทิศตะวันออกนั้น
ก็คือเป็นทิศที่องค์พระสัมมาสัมพุทธทรงนั่งหันพระพักต์เมื่อครั้งทรงตรัสรู้นั่นเอง
เพราะฉนั้นไม่ว่าจะวางไปทางทิศไหน เมื่อเวลาผ่านไปองค์ท่านจะหันไปทางทิศตะวันออกเอง |
| ราคาเปิดประมูล | 1,000 บาท |
| ราคาปัจจุบัน | 4,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
| เพิ่มขึ้นครั้งละ | 100 บาท |
| วันเปิดประมูล | - 28 ก.ย. 2558 - 13:01:13 น. |
| วันปิดประมูล | - 02 ต.ค. 2558 - 19:34:06 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
| ผู้ตั้งประมูล | หนุ่มฉลองกรุง (1.2K)    
|
(