(0)
+++ เคาะเดียวแดง +++พระสมเด็จปรกโพธิ์ อกร่อง รุ่นแรก เนื้อผงผสมว่านสีเปลือกมังคุด มีกลิ่นหอมมาก พุทธคุณด้านเมตตา ค้าขาย หลวงปู่นนท์ สำนักสงฆ์เขาพรานธูป หัวหิน








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่อง+++ เคาะเดียวแดง +++พระสมเด็จปรกโพธิ์ อกร่อง รุ่นแรก เนื้อผงผสมว่านสีเปลือกมังคุด มีกลิ่นหอมมาก พุทธคุณด้านเมตตา ค้าขาย หลวงปู่นนท์ สำนักสงฆ์เขาพรานธูป หัวหิน
รายละเอียดพระสมเด็จปรกโพธิ์ อกร่อง รุ่นแรก เนื้อผงผสมว่านสีเปลือกมังคุด มีกลิ่นหอมมาก พุทธคุณด้านเมตตา ค้าขาย หลวงปู่นนท์ สำนักสงฆ์เขาพรานธูป หัวหิน
รับประกันแท้ตามกฎ
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน120 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูล - 10 ก.พ. 2559 - 12:38:15 น.
วันปิดประมูล - 11 ก.พ. 2559 - 12:42:26 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลkaitamon (2.2K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 10 ก.พ. 2559 - 12:39:04 น.



ประวัติหลวงพ่อนน จนฺทวิโรสำนักสงฆ์เขาพรานธูป
หลวงพ่อนน จนฺทวิโร สำนักสงฆ์เขาพรานธูป ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบฯ เกิดเมื่อ---/ 08/2474(ปีมะแม) ปัจจุบันอายุ 83ปี เป็นชาวตำบลนาพรม อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี จบการศึกษาชั้น ป.4 บิดาชื่อนายขวง มารดาชื่อนางสาย กล่ำเรือง หลวงพ่อนน จนฺทวิโร เป็นลูกพี่-ลูกน้อง กับหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยบิดาของหลวงพ่อยิดเป็นพี่ชายของบิดาหลวงพ่อนน แต่คนละบิดา
แม่สายกล่ำเรืองมีลูกทั้งหมด 7 คน หลวงพ่อนนฯเป็นบุตรคนที่ 3 ปัจจุบันพี่น้องหลวงพ่อนนฯ เสียชีวิตทั้งหมดเหลือเพียงน้องสาวคนสุดท้องและหลวงพ่อนนเท่านั้นที่ยังอยู่ที่พึ่งได้พบกันอีกครั้งหลังจากไม่พบกันนานนับสิบปี คือแม่เหมือน กล่ำเรือง พักอยู่ที่ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี
หลวงพ่อนน จนฺทวิโร ออกบวชครั้งแรกเมื่ออายุได้ครบ 21 ปีบริบูรณ์บวชตามประเพณี โดยหลวงพ่อเพลิน วัดหนองไม้เหลืองเป็นอุปชา ครั้นเมื่อบวชได้ไปจำพรรษาอยู่กับหลวงพ่อหวล(หลวงลุง) และได้ร่ำเรียนวิชาคาถา อาคมต่างๆจากหลวงพ่อหวล ครั้งนั้นหลวงพ่อหวลท่านได้ทำปลัดขิกเป็นเครื่องรางฯ เพื่อให้ศิษย์ยานุศิษย์ที่มาร่วมบุญ ไว้ติดตัวกัน หลวงพ่อหวลจึงให้หลวงพ่อนนเป็นพระที่คอยแกะปลัดขิกและได้สอนหลวงพ่อนน ให้ช่วยจารปลัดขิกให้กับหลวงพ่อหวล (หลวงลุง)อีกทางด้วย หลวงพ่อหวลยังได้สอนให้หลวงพ่อนนฯศึกษาวิชาปลัดขิกจากหลวงพ่อหวลทั้ง คาถาอาคมรวมถึงวิชาด้านสมุนไพรฯ อีกหลายแขนง

หลวงพ่อนน ร่ำเรียนวิชากับหลวงพ่อหวล ได้จนครบก็มีอันต้องตัดสินใจลาสิกขาฯ ออกมาด้วยครอบครัว พ่อ-แม่ขาดแคลนคนช่วยทำสวนทำไร่ ด้วยครอบครัวของหลวงพ่อมีฐานะยากจน ขาดเงินทุนที่จะจ้างแรงงานมาช่วยเหลือ โยมพ่อ-แม่ของหลวงพ่อนนฯ เวลาที่ต้องการแรงงานหนักๆ ท่านจึงกราบลาสิกขากับหลวงลุง เมื่ออายุได้ครบ 30 ปี เมื่อหลวงพ่อนน สึกจากพระมาเป็นฆราวาส ท่านได้ใช้วิชาที่ร่ำเรียนมาจากหลวงพ่อหวล คอยปัดเป่าช่วยเหลือ ชาวบ้านที่มาให้ช่วยรักษา โรคภัยต่างๆทางด้านสมุนไพร ปัดเป่าซาง ตัดต้อ ต่อกระดูก เมื่อหลวงพ่อนน มีครอบครัวได้พาครอบครัวมาจับจองที่ทำไร่-ทำสวนที่เขต ตำบลหนองพลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จนอายุได้ 55 ปี บิดา-มารดาของหลวงพ่อนนฯได้เสียชีวิตลง และบุตรธิดาก็ได้มีครอบครัวกันหมดทุกคนแล้ว หลวงพ่อนนฯท่านจึงได้ตัดสินใจออกบวชอีกครั้ง ที่วัดหนองพลับ ต.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยครั้งนี้มีหลวงพ่อก้อนเป็นอุปชา บวชครั้งนี้หลวงพ่อนน ท่านเดินทางแสวงบุญยังวัดต่างๆ และคอยช่วยชาวบ้านที่มาทำบุญด้วยตลอดมา หลวงพ่อได้ไปจำพรรษาอยู่กับหลวงพ่อยิดยังวัดหนองจอกผู้พี่ชายระยะนึง หลวงพ่อยิด รู้ว่าหลวงพ่อนนจารปลัดขิกได้ๆให้ช่วยจารปลัดขิกให้หลวงพ่อยิดปลุกเสก จนหลวงพ่อยิดมรณภาพ เมื่อ พ.ศ.2537 หลวงพ่อนน จึงได้ออกเดินทางไปเรียนวิชาต่อกระดูก กับหลวงงพ่อวัดสำโหรง อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อยู่วัดสำโหรงได้เป็นเวลาสองปี หลวงพ่อนนท่านก็ได้ย้ายมาจำพรรษาที่ วัดเขานกกระจิบ เขตอำเภอหัวหินอยู่ได้ระยะหนึ่ง หลวงพ่อนนได้รับการชวนจากหลวงพ่อเอื้อนเจ้าอาวาสวัดอนันต์ให้ไปช่วยสร้างวัด ยังบนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ บ้านป่าละอู อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งขณะนั้นยังเป็นป่าดงดิบ เดินทางไปลำบากมากแต่เมื่อครั้งเป็นฆราวาส หลวงพ่อนน ท่านเคยไปทำไร่อยู่บนนั้นมาระยะหนึ่งแล้ว หลวงพ่อเล่าว่าการสร้างวัดที่นี่มีความลำบากมากด้วยพื้นที่วัดตั้งอยู่บนภูเขา ขาดปัจจัยในการจ้างเครื่องจักร ถึงขนาดหลวงพ่อนนฯต้องใช้วัวควายลากเสา เพื่อมาสร้างศาลาและโบสถ์ที่วัดอานันท์แห่งนี้ ซึ่งขณะนั้นที่วัดอานันท์มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่เพียงสองรูปเท่านั้น พระสงฆ์ช่วยกันสร้างศาลาวัดสองรูปร่วมกับชาวบ้านที่ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาคอยช่วยเหลืออยู่จนเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา การก่อสร้างศาลาวักและโบสถ์เหลือรายละเอียดไม่มากนัก หลวงพ่อนนจึงได้ ย้ายลงมาจำพรรษาที่วัดมาลัยทับใต้ ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ครั้นมาพำนักที่วัดทับใต้แห่งนี้หลวงพ่อนนฯท่านก็ได้ใช้วิชาที่ร่ำเรียนมาคอยช่วยเหลือชาวบ้านที่มาให้ช่วยเหลืออยู่เป็นประจำและช่วยชาวบ้านด้านสมุนไพรอยู่ตลอดมา หลวงพ่อนน จำพราษาอยู่ยังวัดมาลัยทับไต้ได้หลายปี ท่านจึงคิดจะเดินทางต่อไปอยู่ยังวัดที่จังหวัดเพชรบุรี บ้านเกิด ได้มีชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านทุ่งเสือนอน ทราบข่าวว่าหลวงพ่อจะย้ายไปยังวัดอื่นต่อ จึงได้รวมตัวชาวบ้านได้ประมาณ 7-8 คนไปนิมนต์หลวงพ่อเพื่อมาจำพรรษาที่ยัง สำนักสงฆ์เขาพรานธูปนะปัจจุบัน ขณะที่ไปนิมนต์หลวงพ่อนน นั้นเป็นช่วงที่หลวงพ่อท่านกำลังจะออกเดินทาง พอดีนับว่าเป็นโชคดีของชาวบ้าน ที่ไปนิมนต์หลวงพ่อมาอย่างยิ่ง ชาวบ้านนิมนต์หลวงพ่อมายังสำนักสงฆ์ฯอีกทั้งหลวงพ่อไพโรจน์เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล ท่านก็ได้เคยปรารภไว้ว่าอยากให้หลวงพ่อ ไปช่วยพัฒนาหลวงพ่อจึงได้มาพำนักที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ เมื่อ ปี พ.ศ. 2552 ซึ่งขณะนั้นกำลังร้าง ขาดการณ์ดูแลเพราะไม่มี พระสงฆ์จำพรรษาอยู่เลย กุฎิเก่าที่มีอยู่ ตั้งอยู่ในบริเวณด้าน ทิศเหนือของ สำนักสงฆ์ในปัจจุบัน ( ที่ๆตั้งฐานหลวงพ่อขาวปัจจุบัน )
สำนักสงฆ์เขาพรานธูปแห่งนี้ ที่หลวงพ่อนน จนฺทวิโร ย้ายมาจำพรรษา เริ่มก่อตั้งมาเมื่อปี พ.ศ.2511 เป็นภูเขาลูกรังขนาดย่อมๆ เป็นเขาในตำนาน นายพรานล่าเสือสมัยก่อนเสือชุกชุมมาก จนหมู่บ้านใกล้เคียงตั้งชื่อว่า บ้านทุ่งเสือนอน และบ้านดอนเสือหมอบ เคยมีลุงชาวบ้านกล่าว่าหลวงพ่อจะอยู่ ได้นานแค่ใหนไม่รู้แต่อยากให้อยู่นานๆ เพราะเคยมีพระมาจำพรรษา ได้แค่เพียงปีเดียวก็ย้าย ไปอยู่ที่อื่นต่อตลอด ที่ตั้งสำนักสงฆ์ฯมา
เคยมีโอกาศได้สนทนากับ ตัวแทนหมู่บ้าน ได้เล่าให้ฟังว่านานมาหลายปีแล้ว มีพระธุดงค์ๆผ่านมา ได้แวะปักกฎที่ บริเวณสำนักสงฆ์แห่งนี้ประมาณ 200 รูปได้ แกจึงได้นิมนต์พระสงฆ์ที่ดูอาวุโส ที่นำพระเดินธุดงส์ว่า ให้จำพรรษาที่นี่จะได้มั๊ย หลวงพ่อธุดงส์ท่านกล่าวขึ้นว่า เดียวก็มีเจ้าของเค้ามาอยู่ อาตมาไม่ใช่เจ้าของสถานที่นี้หรอก รออีกหน่อยรุ่งเช้า พระธุดงส์ท่านก็ออกเดินธุดงส์ต่อไป
กลับมาต่อ ขณะที่หลวงพ่อพำนักอยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ หลวงพ่อเห็นว่า กุฎิเก่าที่ พระรูปอื่นได้สร้างไว้ชำรุด ทรุกโทรมมากแล้ว หลวงพ่อนนท่านจึงได้ คิดที่จะสร้างศาลาเอนกประสงค์เพื่อใช้ รองรับกับญาติโยมที่มาทำบุญได้ใช้ สอยอย่างสะดวกสะบาย หลวงพ่อนนขณะมาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์เขาพรานธูป นี้ท่านก็ได้ทำปลัดขิกเองโดยเหลาปลัดขิก จารและปลุกเสกให้กับ ผู้ที่มาร่วมบุญและบอก บุญสร้างศาลา เอนกประสงค์ขึ้น แต่ปลัดขิกที่หลวงพ่อเหลา ขณะนั้นไม่ทัน หลวงพ่อเลยนำระฆังโบราณที่ โยมนำมาถวาย จำนวนสองใบไปทำเป็นพระ ไว้เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้มาร่วมบุญกับหลวงพ่อ จนศาลาเอนกประสงค์เสร็จสมบูรณ์ ผมได้มีโอกาศเข้ามาทำบุญกับหลวงพ่อในช่วงปลายปี พ.ศ. 2555 ช่วงนี้ที่ได้รับรู้เหตุการณ์ จากต้าปี พ.ศง 2556 มาขณะนั้นผมหลวงพ่อจะสร้างอุโบสถ์ ได้ให้ช่างทำพระจัดทำ วัตถุมงคลขึ้นเพื่อที่จะใช้บอกบุญ กับผู้มาร่วมบุญ เพราะหลวงพ่อจะ วางศิลาฤกษืโบสถ์ จึงได้จัดทำ วัตถุมงคลขึ้นอย่างเป็นทางการณ์ขึ้น โดยหลวงพ่อให้เรียกว่า เหรียญนะโมพุทธายะ รุ่น1 เพื่อสร้างอุโบสถ เกิดเหตุการณ์ขึ้นมากมาย เมื่อใกล้วันที่จะวางศิลาฤกษ์ เมื่อทางสำนักสงฆ์เชิญ พราหม์ที่จะทำพิธีวางศิลาฤกษ์โบสถ์และเททองหล่อพระประธานโบสถ์ ในวันที่ 11 เมษายน พ.ศ.2556 พราหม์ที่รับเชิญไว้ ต้องไม่สะบายโดยไม่ทราบสาเหตุ คนแรกขาบวมใหญ่ไม่สามารถเดินได้ คนที่สองปวดหลังขึ้นมาไม่สามารถลุกเดินได้ คนที่สามไม่รับงานนี้ทั้งที่เวลาวางศิลาฤกษ์เหลืออีกเพียง 1 วัน ลูกศิษย์ที่เตรียมพิธีครั้งนั้นต้องไปดู พราหม์ว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นกับพิธี ในคั้งนี้ ได้ความว่า เจ้าป่าที่รักษาเขาพรานธู)นั้นต้องการณ์ให้หลวงพ่อนน เป็นผู้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ ในครั้งนี้เอง คนอื่นบารมีไม่ถึง พราหม์ที่ดูให้บอกมาอย่างนั้น พิธีในครั้งนั้นจึงผ่านไปได้ด้วยดี อิ่มบุญกันทั่วหน้าทั้งผู้จัดและผู้มาร่วมในบุญ

จากประสบการณ์ปากต่อปาก เรื่องพุทธคุณด้านเมตตา ของเครื่องราง ของหลวงพ่อนน ทำให้ ชาวบ้านที่มีอาชีพค้าขายมาร่วมบุญ ร่วมสร้างโบสถ์กับหลวงพ่อนน กันอย่างต่อเนื่อง โบสถ์ที่วางศิลาฤกษ์เมื่อ 11 เมษายน พ.ศ.2556 ก็เสร็จภายในเวลาเพียงแค่ 2 ปีขณะนี้คงเหลือแต่เพียงขั้นตอน ขออนุญาติตั้งเป็นวัด หากเสร็จสิ้นแล้วจะ ทำการฝังลูกนิมิตต่อไปจึงจะสมบูรณ์
ขอกล่าวถึงวัตถุมงคลที่หลวงพ่อนน ท่านได้สร้างขึ้นนอกจากปลัดขิกที่เป็นเครื่องราง ด้านค้าขายที่ พ่อค้าแม่ค้าหลายคนชอบใช้แล้ว หลวงพ่อนน ท่านยังได้สร้างวัตถุมงคลอีกหลายอย่าง ที่ศิษย์ยานุศิษย์ได้บูชาไปไว้ใช้ ทุกๆคนที่ได้ไปล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันถึงเรื่อง พุทธคุณของวัตถุมงคลของหลวงพ่อนน ที่ท่านได้ตั้งใจสร้างและปลุกเสก ด้วยพิธีที่เข้มขลังจนทุกๆคน ล้วนแต่แสวงหาเพื่อให้ได้มาครอบครองและมีวัตถุมงคลหลายอย่างที่หลวงพ่อท่านสร้าง


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 10 ก.พ. 2559 - 12:40:01 น.



เนื้อผงออกโซนสีเปลือกมังคุด หายากคับ


 
ราคาปัจจุบัน :     120 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    surin879 (19)(3)

 

Copyright ©G-PRA.COM
www1