ชื่อพระเครื่อง | *** เคาะเดียว *** พระหางหมาก (พระมหาลาภ) ปิดทองเดิม สภาพสวย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง (1) |
รายละเอียด | หลวงพ่อวิรัช โอภาโส อดีตเลขาหลวงพ่อฯ กล่าวถึงเรื่องการสร้างพระหางหมาก
หลวงพี่ประทีป หลวงพี่บัญชา อาตมา ปรึกษากันสร้างพระหางหมาก
เพราะคนมารอพระคำข้าวต้องรอออกพรรษา (รอหลวงพ่อเสกข้าวในพรรษา ๓ เดือน)
จึงปรึกษากับหลวงพี่อนันต์ ท่านเห็นดีด้วย จึงให้ท่านกราบเรียนถามหลวงพ่อเลย
หลวงพ่อเห็นดีด้วยเรื่องสร้างพระหางหมาก ก็ถามอาตมาว่า จะเอาแบบไหนดี
ตอบว่าเอาพิมพ์สมเด็จโต (สมเด็จ ๓ ชั้น) หลวงพ่อว่า " ดี ให้เอาสีชมพู จะได้เข้ากับสีจีวร" ขณะหลวงพ่อนั่งรับแขก หลวงพ่อเรียกอาตมาเข้าพบ พูดว่า
"พระหางหมากเปลี่ยนเป็นพระยืน ๓๐ ศอกดีไหม?" ก็ตอบว่า "ดีครับ"
"แต่ให้ท่านนั่งลงนะ" ตอบว่า "ครับ"
อาตมาก็มานั่งคิดว่า แล้วท่านอุ้มบาตรอยู่จะทำอย่างไร ? พอหลวงพ่อเลิกรับแขก
ลุกขึ้นยืนจะไปเข้าห้องน้ำ อาตมาก็เข้าไปถามหลวงพ่อว่า
"หลวงพ่อครับ หลวงพ่อจะให้ทำพระหางหมากพิมพ์พระยืน ๓๐ ศอก แต่ให้ท่านนั่งลง
แต่ท่านอุ้มบาตรอยู่ จะทำไงครับ ต้องให้ท่านอุ้มบาตรด้วยหรือเปล่าขอรับ? "
ไม้เท้าลอยมา โป๊ก! มึนเลย ท่านยืนหัวเราะ บอกว่า
"แกจะโง่ให้ท่านอุ้มบาตรอยู่ทำไม ก็เอาบาตรออกซิ"
ก็นึกขึ้นได้ว่า ที่หลวงพ่ออนุญาตให้สร้างแบบสมเด็จโต เพื่อรักษากำลังใจลูกศิษย์ (พวกเรา) จึงคล้อยตามไปก่อน จึงนึกย้อนไปได้ว่า เคยมีคนมาถามหลวงพ่อว่า
"ทำไมหลวงพ่อไม่สร้างพระขี่ครุฑ ขี่ไก่ แบบหลวงพ่อปานบ้าง ?"
หลวงพ่อเลยตอบว่า "สร้างไม่ได้หรอก เป็นการตีเสมอครูบาอาจารย์ เป็นการไม่สมควร"
นี่หลวงพ่อก็เคารพสมเด็จโตเป็นครูบาอาจารย์เช่นเดียวกัน เพราะว่าการสร้างพระคำข้าว
หลวงพ่อก็ให้สร้างแบบจำลองพระประธานในวิหาร ๑๐๐ เมตร ซึ่งเป็นพระคำข้าวองค์แรกของวัดท่าซุง ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า หลวงพ่อให้เราเอาแบบพระพุทธรูปในวัดท่าซุงเป็นแบบ ไม่ต้องเลียนแบบที่อื่นเขาด้วย
หลังพิธีพุทธาภิเษกที่วิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร หลวงพ่อ เมตตาเล่าให้ฟังว่า
สมเด็จ องค์ปัจจุบันเสด็จมาเป็นประธานเอง ระหว่างปลุกเสกมองไปเห็นสมเด็จหางหมาก แต่ละองค์เปล่งแสงสว่างจ้ายิ่งกว่าดวงไฟ ๑๐๐ แรงเทียนซะอีก...
สมเด็จ ท่านตรัสว่า อานุภาพของสมเด็จหางหมากนั้น รอบรัศมี ๔ เมตร กัมมัตภาพรังสีจะเข้าไม่ได้เลย ถ้าใช้ในการรบเพื่อประเทศชาติ คำว่าตายรับรองว่าไม่มี แต่ถ้าใครนำไปใช้ในทางที่ผิด จะถูกปืนยิงแสกหน้าตาย...!
สำหรับหางหมากหรือหางพลูนั้น เมื่อเสกหมากก่อนฉันแล้วนำหางพลูที่เหลือ
มาผสมกับผงทำเป็นพระ แล้วนำเข้าพุทธาภิเษกอีกครั้ง
สำหรับผลนั้น มีความต้องการในทางลาภมากที่สุด และอย่างอื่นก็ขอท่านไว้ทุกอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ให้ผลเป็นพิเศษแด่ท่านที่นำไปบูชาในระยะใกล้มาแล้ว ขอให้ถามผลจากท่านที่เคารพจริงก็แล้วกัน สำหรับพระหางพลูนี้มีผลเช่นเดียวกัน แต่หนักไปในทางที่พูดเป็นที่จับใจคนมีลาภสักการะเสมอกัน "
๗๒. พระสมเด็จหางหมาก
จะไหวหรือหลวงพี่...? หัวหน้าชาติชายป่าไม้จอมเฮี้ยบ (ปัจจุบันคือพระชาติชาย สุธมฺมธนปาโล) ถามขึ้นทั้งที่อ้าปากพะงาบ ๆ อย่างกับปลาติดแห้ง อาตมาเองก็มีสภาพไม่ต่างกันเท่าใดนัก...
สิบเอ็ดลูกเขาของบึงลับแลยังไม่เหนื่อยแทบขาดใจเหมือน ๓๐๐ เมตรของที่นี่... แดง (มงคล จอมผา) ที่นอนแผ่หราทับเป้หลัง พูดพลางตอบพลาง อากาศแทบทุกอณูของที่นี่ แฝงไว้ด้วยแรงกดดันมหาศาล...
พระและฆราวาสเดนตายทั้งสาม เดินทางมาเพื่อจะพิสูจน์ว่า แร่ยูเรเนียมที่ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน เมตตาบอกไว้นั้น มันจะมีมากมายขนาดไหน แล้วก็สมใจนึกบางลำภู แค่ปากประตูก็แทบเอาชีวิตไม่รอดซะแล้ว...!
ดูจากสภาพทั่วไปก็เป็นป่าธรรมดานี่เอง จะผิดจากที่อื่นก็ตรงแห้งแล้งกรอบเกรียมไปหมดเท่านั้น เนินเขาที่ต้องปีนก็เตี้ยนิดเดียว คะเนด้วยสายตาแล้วสูงไม่เกิน ๔๐๐ เมตร แบบนี้ก็หมูตายชัก...
ใช่...เกือบจะตายชักจริง ๆ อากาศมันทั้งแน่นทั้งหนัก เดินเข้าไปคล้ายกับเดินสวนน้ำตกก็ไม่ปาน แต่ละคืบแต่ละศอกเหมือนทวนกระแสคลื่น ต้องทุ่มเทกำลังทั้งหมดถึงตะเกียกตะกายเข้าไปได้ทีละนิด...
ที่ร้ายกาจที่สุดคือ เหมือนกับว่าอ๊อกซิเย่นในอากาศไม่มีเหลืออยู่เลย หายใจแทบสุดชีวิตได้อากาศไม่ถึงครึ่งปอด หน้ามืดวูบวาบ ไม่ทราบว่าจะหมดสติลงไปในวินาทีไหน จะหวังพึ่งใครก็ไม่ได้ ปางตายด้วยกันทั้งนั้น...!
หลังพิธีพุทธาภิเษกที่วิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร หลวงพ่อ เมตตาเล่าให้ฟังว่า สมเด็จองค์ปัจจุบัน เสด็จมาเป็นประธานเอง ระหว่างปลุกเสกมองไปเห็นสมเด็จหางหมากแต่ละองค์ เปล่งแสงสว่างจ้า ยิ่งกว่าดวงไฟ ๑๐๐ แรงเทียนซะอีก...
สมเด็จท่านตรัสว่า อานุภาพของสมเด็จหางหมากนั้น รอบรัศมี ๔ เมตร กัมมัตภาพรังสีจะเข้าไม่ได้เลย ถ้าใช้ในการรบเพื่อประเทศชาติ คำว่าตายรับรองว่าไม่มี แต่ถ้าใครนำไปใช้ในทางที่ผิด จะถูกปืนที่แสกหน้าตาย...!
นี่ขนาดกัมมันตภาพรังสีเข้าไม่ได้แล้วนะ ไม่ถึงครึ่งทางยังแทบตายเลย ถ้ามันเข้าได้ จะมีสภาพอย่างไรหนอ...? กัดฟันโซซัดโซเซต่อไป ตายก็ตายซิวะ...มาถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าถอยหลังก็เสียชื่อลูกหลวงพ่อหมด...!
หลวงปู่...มีพระสมเด็จหางหมากเหลือบ้างมั้ยครับ...? ผู้กองพงษ์เทพ(พ.ต.พงษ์เทพ พุ่มนิคม) ถามอาตมาที่เพิ่งกลับจากทำวัตรเย็น โดนปล้นหมดตัวไปตั้งนานแล้ว ใจคอเอ็งจะปล้นซ้ำอีกเรอะ...?
ผมเพิ่งกลับจากฝึกภาคสนาม เลยเอาพระของหลวงพ่อไปลองด้วย... น่าน...เจริญล่ะเอ็ง... แล้วผลเป็นอย่างไร...? ผมเอาพระผูกปากกระบอกเครื่องยิงลูกระเบิด ทั้ง ค.๖๐ ทั้ง ค.๘๑ ยิงไม่ออกทั้งนั้น...! ฮื้อ...ปืน ค.มันด้านออกจะบ่อยไป...
มันคงไม่ด้านทุกนัดหรอกครับ พอปืนค.ยิงไม่ออก เพื่อนผมใช้ปืนพกยิงเสียงดังเชียะ...ลูกปืนหล่นอยู่แค่ปากกระบอกนั่นแหละ...! ผลก็คือพระสมเด็จรุ่นนี้ที่มีแค่หนึ่งแสนองค์ หมดเกลี้ยงในพริบตา และขึ้นราคาหูดับไปเลย...!
ไอ้ก้องไปลองมาแล้วหลวงพี่... แดงมารายงานให้ทราบ ก้องมันยิงออกครับ แต่ยิงเท่าไรไม่ถูก ห่างองค์พระเป็นศอกทุกที... อือม์...แบบนี้ค่อยน่าเชื่อถือหน่อย ไอ้เสือก้อง(ศุภฤกษ์ รัชฎาวงศ์) เชื่อมือได้ มันยิงตอกหัวตะปูได้เลย...!
ในงานเป่ายันต์เกราะเพชร ครั้งที่ ๑๖ คุณธนาวุธ เลิศศิริจินดา เอาภาพ พระสมเด็จหางหมาก และ สมเด็จคำข้าว ที่ขึ้นพระธาตุทั้งองค์มาโชว์ให้ดู เป็นที่ฮือฮากันมากเพราะไม่ใช่ของที่จะเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ...
เป็นว่า สิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงให้เป็นพระธาตุ เพื่อรับรองมรรคผลของหลวงพ่อ ปรากฏครบ ๓ สิ่งแล้ว คือ
๑. ชานหมากของหลวงพ่อ
๒. เกศาของหลวงพ่อ
๓. วัตถุมงคลของหลวงพ่อ
สุปฏิปันโน ภควโต สาวกสังโฆ สังฆัง นมามิ
๓๐ กันยายน ๒๕๓๕
พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ |
ราคาเปิดประมูล | 450 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 4,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 50 บาท |
วันเปิดประมูล | - 08 เม.ย. 2559 - 22:03:19 น. |
วันปิดประมูล | - 09 เม.ย. 2559 - 22:31:13 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
ผู้ตั้งประมูล | ศุภกิจอธิคม (2K)
|