| ชื่อพระเครื่อง | พระซุ้มปรางค์ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.ลพบุรี เนื้อดิน |
| รายละเอียด | วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เป็นวัดที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากในยุคที่ลพบุรีเป็นเมืองหลวงแห่งที่สองของกรุงศรีอยุธยา หลังจากที่สิ้นรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชไปแล้ว วัดนี้ก็ได้เริ่มเสื่อมโทรมลง ขาดการดูแลรักษา ถูกปล่อยให้รกร้างว่างเปล่ามาหลายสมัย ทำให้วัตถุโบราณต้องชำรุดและหักพัง จนกระทั่งหมดสภาพของวัด ทิ้งภาพเศษอิฐและกองปูนให้คนรุ่นหลังได้ชมเป็นที่น่าเสียดายยิ่งนัก
เมื่อวัดพระศรีรัตนมหาธาตุได้เสื่อมโทรมลงตามกาลเวลา ก็ได้มีบุคคลกลุ่มหนึ่งหรืออาจจะหลายกลุ่ม เข้าไปแสวงหาขุดค้นของมีค่า เรียกกันว่าพวกนักลักลอบขุดกรุ พวกที่ไม่กลัวบาปแอบลักลอบขุดกรุที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเหล่านี้ได้แอบเจ้าหน้าที่ของบ้านเมืองในสมัยนั้นเข้าไปขุดหาสมบัติในยามค่ำคืนได้อย่างสะดวก ทั้งนี้เพราะว่าในสมัยก่อน ณ วัดพระศรีฯ เป็นสถานที่เปลี่ยวปราศจากผู้คนทั้งยังเป็นพื้นที่รกชัฏ มีอาณาบริเวณกว้างขวางเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง
การลักลอบขุดกรุของพวกขโมยได้แอบขุดค้นกันเรื่อยมา ไม่สามารถบอกได้ว่าเข้ามาลักลอบขุดกันกี่ครั้งกี่คราว จนกระทั่งไม่มีของมีค่ามีราคาให้ชมเอาเสียเลย แต่ก็นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่ ในเวลาต่อมากรมศิลปากรได้เข้ามาบูรณะดูแลรักษา และได้มีการอนุมัติให้เจ้าหน้าที่ขุดค้นอย่างเป็นทางการ พวกที่ลักลอบจึงได้สร่างซาลงไป แต่ก็ยังมีการแอบลอบขุดหากันอยู่บ้างเล็กน้อย และจากการขุดหาสมบัติกันตั้งแต่เริ่มแรก ได้ขุดพบวัตถุโบราณ พระบูชาสมัยต่างๆ มีตั้งแต่สมัยทวาราวดีลงมา รวมทั้งพระเครื่องหลากหลายพิมพ์ทรงแปลกแตกต่างกันมากมายบางพิมพ์ก็ไม่เป็นที่รู้จักกัน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดเหนือกว่าพิมพ์อื่นๆ เห็นจะเป็นพระร่วงยืนและพระหูยาน ส่วนพระพิมพ์อื่นๆ ที่พบก็มีพระนาคปรก พระอู่ทอง พระซุ้มนครโกษา พระนารายณ์ทรงปืน พระยอดขุนพล พระเขมรขนนก พระร่วงนั่ง พระซุ้มปรางค์ พระหลวงพ่อจุก พระหลวงพ่อหมอ พระร่มโพธิ์ พระซุ้มกระรอกกระแต พระแผงเกษร พระร่วงคืบ ฯลฯ
พระเครื่องทั้งหมดที่ขุดพบบริเวณวัดพระศรีฯได้กระจัดกระจายไปสู่ผู้ที่ต้องการมากมาย เป็นที่ใฝ่ฝันของพวกที่เข้ามาหากินและเข้ามารับราชการในจังหวัดลพบุรี เพราะเชื่อในเรื่องพุทธคุณ อันวิเศษสุดจากพระเครื่องกรุนี้ พระซุ้มปรางค์ที่ได้ขุดพบ ก็เป็นพระเครื่องอีกพิมพ์หนึ่งที่มีประวัติดีเด่นมายาวนาน แม้ว่าขนาดขององค์พระจะใหญ่ไปสักหน่อยก็ตาม แต่ทว่าคนโบราณเขาก็นิยมใช้พกติดตัวกันไป
พระซุ้มปรางค์นี้ เป็นพระที่มีอันดับรองๆ จากพระหูยาน พระร่วง พระหลวงพ่อจุก ปัจจุบันได้ถูกหลงลืมไปเพราะหาได้ยาก ขนาดของพระแม้ว่าจะเขื่องไปสักหน่อยแต่ก็เป็นที่ชื่นชอบของนักสะสมเมืองลพบุรีและผู้นิยมพระกรุพระเก่า มีลักษณะเป็นพระรูปทรงคล้ายใบเสมากว้างประมาณ 4 ซม. สูง 7 ซม. ภายในเป็นองค์พระประทับนั่งมารวิชัย ขัดสมาธิราบ อยู่เหนืออาสนะบัวสองชั้นแลดูพุทธลักษณะ คล้ายกับพระหูยานบัวสองชั้น เพียงแต่องค์พระมีขนาดย่อกว่าคือ หน้าตักกว้างประมาณ 1.5 ซม. ช่วงไหล่ 1 ซม. ส่วนสูงขององค์พระจากฐานถึงปลายเกศประมาณ 2.5 ซม. ที่มุมของดอกบัวงามทั้งสองด้านมีเสาซุ้มตั้งอยู่
พระซุ้มปรางค์ที่ขุดพบ มีทั้งชนิดเนื้อดิน และชินเงิน จะขอกล่าวถึงแบบที่เป็นเนื้อดินก่อน คือก็เหมือนๆ กันกับพระกรุเนื้อดินชนิดอื่นที่เคยพบมา บางองค์ที่แก่ว่านมากตามซอกส่วนลึกจะแลดูคล้ายกับย่นๆ เนื้อหาจะแลดูละเอียดหนึกหนุ่มนวลตา ถ้าองค์ที่ผสมว่านลงไปน้อย เนื้อพระจะมีความละเอียดปานกลาง แลดูกระเดียดไปทาง เนื้ออิฐ มีความหยาบกว่าพระเครื่องตระกูลพระกำแพง แต่ถ้าเปรียบเทียบกันกับพระเครื่องตระกูลนางพญาและพระขุนแผนแล้ว จะมีความนุ่มนวลกว่ามาก และหากใช้กล้องส่องลึกลงไปในเนื้อพระก็จะเห็นคราบราดำ เป็นดวงๆ ตลอดทั้งองค์แต่ก็มีไม่มากหรือไม่หนาทึบนัก นอกจากนี้จะต้องมีคราบกรุสีเหลืองนวล เกาะติดตามผิวพระอยู่เหนือคราบราดำอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งคราบนวลกรุเหล่านี้เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงอายุความเก่าแก่ของพระที่สร้างมานับร้อยๆ ปีทีเดียว
สำหรับสีของพระซุ้มปรางค์เนื้อดิน ที่ พบมามีอยู่ด้วยกันหลายสี เช่น สีเหลือง สีแดง เป็นส่วนมาก ส่วนสีเขียวและสีดำเป็นสีเนื้อนิยม พบน้อยนับองค์ได้ พระซุ้มปรางค์ประเภทเนื้อชินเงิน มี ทั้ง ผิวสนิมดำ และผิวปรอทสีขาว มีเนื้อในสีขาว คล้ายกับเงินยวง สันนิษฐานว่าส่วนผสมของเนื้อพระน่าจะมีธาตุเงินผสมอยู่ในเนื้อพระ ในองค์พระที่อยู่บริเวณที่ชื้น เนื้อของพระจะเกิดการผุกร่อน กินตัวระเบิดจากด้านในออกมาหรือที่เรียกว่า สนิมเกร็ดกระดี่ หรือสนิมตีนกา นั่นเองยิ่งในองค์ที่อยู่ใต้พื้นกรุ เนื้อพระจะยิ่งผุกร่อน และระเบิดจนชำรุด ยากต่อการรักษาสภาพ ส่วนในองค์ที่เก็บไว้บริเวณที่สูงและแห้ง จะพบว่าเนื้อพระไม่ผุระเบิดมากนักแต่หากใช้กล้องส่องดูตามซอกทั่วๆไป ก็จะเห็นสีเงินขาวรำไร เรียกเนื้อพระชนิดนี้ว่า ผิวปรอท แลดูแห้งผาก เนื้อผิวชนิดนี้ถึงแม้ว่าจะแข็ง แต่ที่ขอบด้านข้างและ ด้านหลังมักจะมี รอยปริลั่นร้าวปรากฏอยู่ไม่มากก็น้อย
พระพุทธคุณของ พระซุ้มปรางค์ พิมพ์นี้คนทั่วไปในเมืองลพบุรี เชื่อกันว่าพระซุ้มปรางค์เป็นพระที่มีพุทธคุณดีเด่นในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะความโดดเด่นในเรื่องคงกระพันและมหาอำนาจเช่นเดียวกันกับพระเครื่องพิมพ์อื่นๆ ที่พบในเมืองนี้ ถึงแม้จะเป็นพระที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ กว้างเกือบเท่าฝ่ามือ แต่ทว่าคนโบราณก็นิยมที่จะพกพาใส่ตัวไว้ในกระเป๋าเสื้อ เหมือนกันกับพระบางพิมพ์ที่สร้างไว้มีขนาดเท่ากัน อาทิ พระโคนสมอ พระพิมพ์ซุ้มกระรอกกระแตเป็นต้น |
| ราคาเปิดประมูล | 3,000 บาท |
| ราคาปัจจุบัน | 5,800 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
| เพิ่มขึ้นครั้งละ | 100 บาท |
| วันเปิดประมูล | - 02 พ.ค. 2559 - 00:05:17 น. |
| วันปิดประมูล | - 03 พ.ค. 2559 - 20:33:18 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
| ผู้ตั้งประมูล | wirat74 (800)   
|
