(0)
ตะโพนหลวงพ่อเล็ก วัดทำนบ แบบใหญ่








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องตะโพนหลวงพ่อเล็ก วัดทำนบ แบบใหญ่
รายละเอียดพระครูวิชาญพัฒนกิจ หลวงปู่เล็ก จนฺทสโร อายุ 96 ปี 76 พรรษา วัดทำนบ ต.สี่ร้อย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง

พระเถราจารย์ผู้เป็นที่รักและเคารพยิ่งของเพศบรรพชิตและประชาชนชาวจังหวัดอ่างทอง

หลวงปู่เล็กท่านเป็นพระเถราจารย์ซึ่งเก็บตัวเงียบมานานจนปัจจุบัน ท่านไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับเรื่องวัตถุมงคลมากนักประชาชนทั้วไปทราบกันเป็นอย่างดีว่าหลวงปู่ท่านเก่ง วาจาสิทธิ์ และดุมาก แม้แต่หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ยังเคยไล่ให้คนบ้านทำนบที่ไปกราบท่านที่สิงห์บุรีให้มากราบหลวงปู่เล็กไม่ต้องมากราบท่านไกลถึงสิงห์บุรี เคยมีศูนย์พระเข้าไปวุ่นวายกับท่าน ท่านตะเพิดออกมาจนไม่มีใครกล้าเข้าไปอีก หลวงปู่ท่านเป็นพระเถระผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีความเป็นระเบียบแบบแผนชัดเจน ครูบาอาจารย์ในยุคนี้ล้วนแต่เคารพในหลวงปู่ อาทิ หลวงพ่อมี วัดม่วงคัน หลวงพ่อทองหยิบ วัดบ้านกลาง หลวงพ่อ เกลื่อน วัดรางฉนวน หลวงพ่อเสียน วัดมะนาวหวาน ล้วนแต่เคารพนับถือหลวงปู่ ด้วยพรรษาที่อาวุโสมาก และจริยาวัตรที่งดงามของหลวงปู่ แม้กระทั่งวิทยาคม หลวงพ่อทุกรูปทราบดีด้วยเป็นผู้มีวิทยาคมเหมือนกัน ว่าหลวงปู่เล็กท่านเป็นอย่างไร หลวงปู่เล็ก จริงๆแล้วชื่อจริงๆของหลวงปู่ท่านชื่อ ดิเรก หรือในหมู่พระสงฆ์จะเรียกหลวงปู่ว่า พระครูดิเรก แต่ที่ปัจจุบันคนทั่วไปเรียกหลวงปู่ว่าเล็กนั้นมีเหตุที่ว่า สมัยที่หลวงพ่อหรุ่ม วัดบางจักรยังทรงสังขาร ชาวบ้านมักเรียกหลวงพ่อหรุ่มว่า หลวงพ่อใหญ่ เพราะหลวงพ่อหรุ่มท่านดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะอำเภอวิเศษชัยชาญ หลวงปู่เล็กท่านเป็นรองเจ้าคณะอำเภอ คนจึงเรียก หลวงพ่อเล็ก และก็เรียกติดปากตลอดมา หลวงปู่เล็ก ท่านยังมีความสนิทสนมกับหลวงพ่อกร่าย วัดโพธิ์ศรีมาก เพราะเมื่อสมัยที่หลวงปู่เล็กท่านไปเรียนวิทยาคมกับหลวงพ่อเต่า วัดน้ำพุ วัดน้ำพุกับวัดโพธิ์ศรี ไม่ห่างกันมาก ท่านไปมาหาสู่กันเป็นประจำ และถือว่า หลวงปู่เล็กเป็นศิษย์น้อง ที่ได้รับคำแนะนำจากหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อกร่ายท่านด้วย

หลวงพ่อพระครูวิชาญพัฒนกิจ หลวงปู่เล็ก จนฺทสโร นามเดิม ดิเรก แซ่อึ๊ง เกิดเมื่อ วันอังคารที่ 24 มิถุนายน แรม 11ค่ำเดือน 7 พุทธศักราช 2462 ท่านเกิดที่ตำบลพระประโทนเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ทางบ้านหลวงปู่มีฐานะดีมั่งคั่ง โดยหลวงปู่ท่านมีความเกี่ยวเนื่องเป็นเครือญาติกับหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว โดยโยมแม่ของหลวงปู่เล็กท่านจะเรียกหลวงปู่บุญว่า หลวงตา เมื่อหลวงปู่เล็ก เจริญวัยขึ้นทางโยมมารดาของหลวงปู่ได้ให้หลวงปู่บวชเป็นสามเณรเข้าเรียนที่วัดมหาธาตุ กรุงเทพมหานคร โดยมี สมเด็จพระวันรัต (กิมเฮง เขมจารี) เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งเดิมหลวงปู่ก็มีญาติอยู่แถวย่านบางลำพูด้วย จึงเป็นเหตุให้โยมแม่ของท่านให้เข้ามาเรียนที่กรุงเทพโดยไม่เป็นกังวล หลวงปู่เข้ามาร่ำเรียนสรรพวิทยาต่างๆที่วัดมหาธาตุโดยเรียนนักธรรมแผลกบาลี จนมีความชำนาญ และ ต่อมาก็บวชพระที่วัดประดู่ฉิมพลี โดย มี สมเด็จพระวันรัต (กิมเฮง เขมจารี) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อพระครูวิริยกิตติ หรือหลวงปู่โต๊ะ วัดปรพดู่ฉิมพลี พระกรรมวาจาจารย์ และมีอำมาตย์โทพระยาภิรมย์ภักดี เป็นผู้อุปภัมป์ในการอุปสมบทของหลวงปู่ อาจารย์ท่านแรกๆของหลวงปู่เป็นฆารวาสที่มีชื่อเสียงมาก สมัยนั้น แม้แต่หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี และหลวงปู่สด วัดปากน้ำยังนับถือ และถือเป็นอาจารย์ฆารวาสของหลวงปู่ทั้งสองด้วย ท่านนั้นคือ หลวงสักทัศน์พลยุทธท่านเป็นนายทหารเก่าที่มีวิทยาคมสูง ซึ่งก่อนที่หลวงปู่จะเรียนสรรพวิทยาต่างๆจากหลวงสักทัศน์พลยุทธนั้น หลวงปู่ท่านเคยเป็นไข้รากสาด และรักษาไม่หายสมัยนั้นท่านยังเป็นสามเณร อาจารย์สอนหนังสือของหลวงปู่ที่วัดมหาธาตุ จึงพาหลวงปู่ไปหาหลวงสักทัศน์พลยุทธ ในการรักษาครั้งนั้นยังความประหลาดใจกับหลวงปู่เป็นอย่างมาก โดยคุณหลวงได้เขียนกระดานชนวนลบผง ผสมน้ำมนต์ให้หลวงปู่ฉัน ซึ่งผงธรรมดาๆเมื่อผสมน้ำมนต์และฉันเข้าไปนั้น ผงธรรมดาๆกลับมีรสชาติกลับกลายเป็นพิมเสนอย่างน่าอัศจรรย์ใจ หลังจากนั้นหลวงปู่ก็ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของคุณหลวงศึกษาสรรพวิชาด้านการรักษาโรค และยังได้ร่ำเรียนวิทยาคม กับทั้งหลวงปู่โต๊ะ และ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ หลวงปู่เล็กท่านจำพรรษาอยู่กับหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลายพรรษา จนท่านได้เล่าเรียนวิทยาคมจากหลวงปู่โต๊ะ สรรพวิทยาคมหลายแขนง เช่น การถอนคุณไสย ยันต์ตรีนิสิงเห การเสกพระปิดตา และยันต์ นะ ปัดตลอด ซึ่งหลวงปู่เล็กท่านชำนาญยันต์นะปัดตลอดนี้มาก จนมีครั้งหนึ่ง หลวงปู่ได้ถ่ายทอดยันต์นี้ให้กับลูกศิษย์ของท่าน ตอนที่ท่านมาอยู่ วิเศษชัยชาญแล้ว หลวงปู่ท่านได้ถ่ายทอด ยันต์ นะ ปัดตลอด ให้กับ หลวงพ่อเกษม วัดม่วง จนเป่ายันต์ใส่ใบพลู จนทะลุติดในใบพลูจนตลอดเก้าใบ เรื่องนี้จริงๆไม่ค่อยอยากเล่ามากเพราะเจตนาเดิมของหลวงปู่ท่านไม่ชอบให้เขียน แต่ว่าผู้เขียนเห็นว่าเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นและเพื่อเชิดชูบารมีหลวงปู่ ผมก็จะเล่าให้ฟัง มีพระเณรยืนยันเรื่องนี้ได้ชัดเจน ยันต์นะปัดตลอดนี้ ถ้าผู้ที่สำเร็จแล้ว สามารถจะเป่ายันต์ให้ไปติดที่ใดก็ได้ตามแต่ใจนึก และอธิฐานยันต์นี้ให้มีอิทธิคุณในทางใดก็ได้ ทั้งโภคทรัพย์ มหานิยม คงกระพัน...ผู้ที่ทำได้ท่านก็เงียบ ไม่เอามาประเจิดประเจ้อ ให้เกิดความวุ่นวายกับตนเอง ต้องไปเป็นขี้ข้าเขา ใช้ให้จารโน่นทำนี่ ทำให้เกิดความไม่สงบ หลวงปู่ท่านเคยบ่นๆกับคนแถวๆวัดทำนบในทำนองนี้.... และเป็นอีกสาเหตุที่ท่านไม่อยากวุ่นวายแบบพระเกจิยุคปัจจุบัน ขอแทรกเรื่องเกี่ยวกับยันต์นะปัดตลอดสักเล้กน้อย หลวงปู่เล้กท่านมีความมั่นใจและประทับใจในองคืหลวงปู่โต๊ะ อย่างมาก ครั้งหนึ่งหลวงปุ่ท่านเคยเล่าเรื่องที่ท่านเรียน นะปัดตลอดกับหลวงปู่โต๊ะ ให้กับเจ้าอาวาสวัดแปดแก้ว อ่างทองฟังว่า หลวงพ่อข้า(หมายถึงหลวงปู่โต๊ะ) เก่งจริง เขียนยันต์ด้วยแป้งเสกใส่มือ แล้วเป่าพ้วงเดียว จะให้ไปติดตรงไหนในกุฏิก็ได้ มีครั้งหนึ่งแขก ที่นับถือหลวงปู่โต๊ะมาขอเรียน นะปัดตลอด หลวงปู่โต๊ะท่านก็สอนให้และให้ทำให้ดู แขกคนนั้นท่อง พุธโธ และเป่า พ้วงเดียว สำเร็จเดี๋ยวนั้นเลย ยันต์ไปติดข้างฝากุฏิได้ทันที หลวงปุ่เล็กท่านบอกว่าแปลกมาก แต่ท่านก็บอกว่าถ้าจิตมั่น และมั่นใจว่าใช้ได้ มันก็สำเร็จ ทุกอย่างมันอยู่ที่จิต

เมื่อสักครุเล่าถึงหลวงปุ่เล้กท่านเก้บตัว ไม่ค่อยยุ่งกับใครมากนัก แต่ทว่า ท่านเก็บตัวขนาดนี้ พระเณร ก็ยังทราบถึงกิตติคุณของท่าน ถ้าไม่เชื่อผม ผู้อ่านก็ลองไปถามพระวัดไหนก็ได้ในจังหวัดอ่างทอง ที่บวชมาพรรษาเกินสิบพรรษาขึ้นไป น้อยรูปที่จะไม่ทราบกิตติคุณของหลวงปู่เล็ก วัดทำนบ อย่างที่ผมกล่าวข้างต้นว่านอกจากหลววปู่โต๊ะแล้วหลวงปู่เล็กท่านยังได้เรียนวิทยาคมจากหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ด้านน้ำมันมนต์ เรื่องการรักษากระดูก ซึ่งน้อยคนที่จะทราบว่าหลวงพ่อสด ท่านมีความชำนาญมาก ในระหว่างนั้นหลวงปู่ได้ร่ำเรียนกรรมฐานควบคู่ไปด้วย โดยไดัฝากตัวเป็นศิษย์ และขึ้นกรรมฐาน กับ พระสุธรรมธีรคุณ ( วงศ์ จนฺทวงฺโส) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ซึ่งท่านอยู่ในยุคหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ หลวงปู่เล็กมีความนับถือในองค์หลวงพ่อวงศ์อย่างมาก เหตุด้วยหลวงพ่อวงศ์ท่านมีสรรพวิชาที่หาคนเสมอได้ยาก ณ เวลานั้น โดยหลวงปู่เล็กจะเรียกหลวงพ่อวงศ์ว่า "หลวงพ่อ" สมัยนั้นสมเด็จพระสังฆราช (อยู่) วัดสระเกศ ท่านก็มีความเมตตาต่อหลวงพ่อวงศ์มาก ถึงขนาดให้หลวงพ่อวงศ์ ย้ายเข้ามาอยู่กุฏิเดิมของท่านได้ ที่สำคัญหลวงพ่อวงศ์ท่านเป็นสื่อกลางและมีส่วนสำคัญในการแนะนำให้หลวงปู่เล็ก มาอยู่วิเศษชัยชาญโดยที่หลวงพ่อวงศ์ ท่านมีความสนิมสนมกับครูบาอาจารย์ทางสายวิเศษชัยชาญอยู่เดิม กล่าวถึงหลวงพ่อวงศ์ท่านมีความศักดิ์สิทธิ์มาก ครั้งหนึ่งมีชาวบ้านมาหาหลวงพ่อ มีเรื่องเดือดร้อน โดยมีคนตั้งท้องและเด็กตายในท้องแม่ ไม่ยอมออก หลวงพ่อวงศ์ท่านก็ให้แม่เด็ก กลืนสายสิญญ์และกินน้ำมนต์ตามเข้าไป ไม่นานหญิงคนนั้นก็ปวดท้อง สักพักเด็กไหลพรวดออกมา โดยมีสายสิญคล้องติดคอออกมาด้วย เป็นที่อัศจรรย์ หลวงพ่อวงศ์ ท่านเป็นหนึ่งในครูบาอาจารย์ที่มานั่งปรกปลุกเสก เหรียญหล่อหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ วิเศษชัยชาญ เมื่อปี 2482 อีกด้วย

หลวงปู่เล็ก ก่อนที่ท่านจะมาจำพรรษาที่อ่างทอง ครั้งแรกท่านจำพรรษาที่วัดหน้าโคก ซึ่งเป็นเขตติดต่อระหว่างอำเภอผักไห่ และอำเภอวิเศษชัยชาญ โดยการส่งตัวมาของคณะสงฆ์ เพื่อให้มาตรวจการสอดแนม วัดน้ำพุ ซึ่งสมัยนั้น หลวงปู่เต่า วัดน้ำพุท่านโด่งดังมากด้านการรักษาโรค ถอนคุณกระทำ วันหนึ่งๆมีคนมาขอให้หลวบพ่อเต่ารักษาเรือนพัน ทางการจึงเพ่งเล็งเกรงว่าจะเกิดการก่อตัวของกลุ่มคน อาจก่อการกบฏต่อราชอาณาจักร ซึ่งสมัยนั้นทางการระมัดระวังเรื่องนี้มาก แต่ทว่าจากการสอดแนม หลวงปู่เล็ก ท่านมาเจอของจริง โดยสารพัดโรคที่มาพึ่งบารมีหลวงพ่อเต่า ที่โดนคุณไสย เป็นฝี และเป็นโรคภัยอันหาสาเหตุไม่ได้ วันหนึ่งๆมีผู้คนมารับการรักษาฟรีจากหลวงพ่อโดยท่านจะตั้งกระบุงไว้หนึ่งลูก ใครจะทำบุญก็ทำไม่ทำท่านก็ไม่ว่า ในแต่ละวันคนนับร้อยครับ บางวันเรือนพัน ท่านอ่านไม่ผิดน่ะครับ บางวันนับพันคน งานวัดย่อยๆเลยทีเดียว และหลวงพ่อท่านมิได้รักษาทีละคนนะครับ ท่านรักษาทีละหนึ่งศาลา คนเต็มศาลา เข้ามาในวงสายสิญหลวงพ่อ ใครถูกของคุณไสยทุกชนิด อาเจียนออกหมด รักษาฝีที่ว่าเป็นแล้วตาย ท่านรักษาหายขาด ท่านสามารถกำหนดวันแตกของฝีได้มิมีพลาด และทำการรักษาอย่างชำนาญมาก ในการรักษาคนแต่ละครั้งหลวงพ่อท่านจะขึ้นนั่งธรรมมาสห่มครองผ้าเรียบร้อย และใช้นิ้วชี้ของท่านวนที่กระดานในการรักษา เรียกว่า วิชานิ้วเพชร หรือวิชาเรียกโรค วิชากระจายโรค ที่ท่านร่ำเรียนมาจนสำเร็จ ขนาดคนเป็นอัมพาต ท่านก็รักษาหายด้วยยา กล้วยเสกและอาคมท่าน คนถูกคุณไสยพอเข้ามาในวงสายสิญท่านถึงกับต้องอาเจียนออกมาทันที วิชานิ้วเพชรนี้ หลวงพ่อท่านได้รับถ่ายทอดจากหลวงพ่อภักดิ์ วัดโบสถ์สุดยอดปรมาจารย์แห่งแขวงเมืองวิเศษชัยชาญ ชาวบ้านวัดน้ำพุ ทราบกันดีว่านิ้วชี้หลวงพ่อนั้นศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะเมื่อมีเรื่องเดือดร้อนอะไรไปหาหลวงพ่อท่านจะใช้นิ้วชี้ท่าน วนที่กระดานที่ท่านนั่ง อาการหรือโรคต่างๆเหล่านั้นที่ปากฏอาการหายไปทันที แม้แต่จอมพลผิน ชุณหะวัณ ท่านเคยนิมนต์หลวงพ่อเต่าไปรักษาฝีภรรยาท่านจนหายขาดและถวายเรือยนต์ไว้หนึ่งลำ หลวงปู่เล็กท่านจึงเข้าฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงพ่อเต่าวัดน้ำพุตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และวัดน้ำพุนี้เองหลวงปู่เล็กท่านได้อยู่ร่ำเรียนวิชานานที่สุดและหลวงปุ่เล้กท่านก้ได้รับถ่ายทอดมาจนครบถ้วน หลวงปู่เล้กท่านก้นำวิทยาคมที่เรียนมาจากหลวงพ่อเต่า มาสงเคาระชาวบ้านบ้างตามสมควร แต่ท่านไม่ได้ทำให้ใครบ่อยนัก เหตุเพราะท่านไม่ชอบความวุ่นวายแบบอาจารย์ท่านที่ต้องรับแขกวันๆนึงหลายๆร้อยคน

หลวงปู่เล็กนอกจากจะเรียนกับหลวงพ่อเต่าแล้ว ยัง เรียนสรรพวิชาต่าวๆจากหลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน ซึ่งหลวงพ่อนุ่ม ท่านมีชื่อเสียงด้านการสร้างเบี้ยแก้ การรักษาโรค ทำน้ำมนต์ การลบผงมหาราช หลวงปู่ได้ไปมาหาสู่วัดนางในเป็นเวลานานตั้งแต่ครั้งหลวงพ่อนุ่ม จนมาถึงหลวงพ่อชม และ จนมาถึงยุค ปัจจุบัน ท่านจะมาที่วัดนางในเป็นประจำ แต่หลังจากท่านชราภาพ และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ท่านจึงไม่ด้มาที่วัดนางในอีกจนปัจจุบัน

หลวงปู่เล็ก วัดทำนบท่าน เป็นพระเถราจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏบัติชอบอยู่ในกรอบพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด จนเป็นที่เคารพของทั้งพระ และฆารวาสในจังหวัดอ่างทอง เรื่องราวที่ท่านรู้เหตุการล่วงหน้า รู้วาระจิต เรื่องนี้ถึงผมไม่เขียน คนบ้านทำนบก็ทราบกันดี เพราะเจอกันมามาก นึกอะไรจะพูดอะไร ท่านดักทางจนพูดกันไม่ออก หลวงปู่เล็กท่านเป็นพระที่ดุ คนทำนบยำเกรงท่านมากๆ เกรงบารมีหลวงปู่กันตั้งแต่รุ่นชวด ยันรุ่นหลาน ไม่ค่อยมีใครกล้าไปวุ่นวายกับท่านมากนัก เรื่องรู้เหตุการล่วงหน้านี้เจอกันมาเยอะ ถ้าไม่เชื่อผม ก็ลองไปถามคนทำนบดูเอาเองครับ บ้านไหนก็ได้ คนไหนก็ได้ ที่เขียนมาให้อ่านกันมาจากบานความจริงที่ท่านเองก็ตรวจสอบได้ดดยไปถามเอาเองครับ แต่ผมจะยกตัวอย่างสักเรื่อง คือ มีครั้งหนึ่งศิษย์แถวตลิ่งชัน ได้สร้างพระเพื่อแจกฟรี ไปขอเมตตาหลวงปู่เล็กท่านเสกให้ ก่อนออกจากบ้านจุดธูปบอกกล่าวท่านก่อนว่าจะขอบารมีหลวงพ่อปลุกเสกพระขอให้หลวงพ่อเมตตา ขับรถมาสักพัก พอมาถึงวัดทำนบ กรรมการวัดท่านหนึ่งออกมายืนรอโบกรถ ให้เข้าจอดและบอกว่า หลวงพ่อท่านรออยู่ คณะที่ไปมองหน้ากันแบบงงๆ แต่ก้อมยิ้ม เพราะมาไม่ผิดที่แน่แล้วแบบนี้ พอเข้าไปถึงหลวงพ่อท่านนั่งห่มผ้าเรียบร้อย รออยู่แล้ว พอคณะบอกกล่าวท่านว่าจะเอาพระมาเสกท่านก็ให้วางไว้ห่างจากท่านน่าจะเมตรกว่า หลวงพ่อก็ไม่ได้หยิบกล่อง จับกล่องหรือแม้แต่โยงสายสิญแต่อย่างใด ท่านนั่งเทศไปคุยไปเล่าเรื่องเก่าๆให้ฟัง ตาก้มองกล่องไปเป็นพักๆ สักประมาณครึ่งชั่วโมง ท่านก้ขอเหรียญมาดูหนึ่งเหรียญ ท่านพิจารณาสักพัก ท่านก็ให้เก็บใส่ถุงไปตามเดิม คนที่หยิบใส่ถุงคิดในใจว่าจะเอาเหรียญนี้วางไว้ปากถุง ได้หยิบง่ายๆ คือว่าจะเอาไว้เอง พอคิดเท่านั้นหลวงพ่อท่านพูดขึ้นมาทันทีว่า ใส่ไปไว้ลึกๆ แล้วคนๆให้ทั่วๆ สรุปว่าแห้วไปคราวนั้น เหตุการแบบนี้มิได้เกิดขึ้นกับคณะนี้เพียงครั้งเดียวนะครับ หลายๆคณะเจอกันมามาก ใครไม่เจอเองไม่รู้ เรื่องนี้คนยืนยันหลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น อีกเรื่องหนึ่ง มีลูกศิษย์ของหลวงปู่ได้เอารูปหลวงปู่ไปบูชาบนหิ้ง และตั้งกระถางธูปจุดธูปบูชาทุกวัน จนครั้งหนึ่งมากราบหหลวงปู่ หลวงปู่ท่านทักว่า เวลาบูชาไม่ต้องจุดธูปหน้ารูป ท่านแสบตา และท่านยังไม่ตาย พี่ชายคนนั้นถึงกับอึ้งไปครู่หหนึ่งเลยทีเดียว อีกเรื่องเกิดขึ้นที่งานวัดนางใน พี่ชายท่านนี้ชื่อหนุ่มอยู่ที่ปทุมธานี เมื่อก่อนไม่เคยรู้จักหลวงปู่เล็กมาก่อน พี่หนุ่มเล่าให้ผมฟังเองเรื่องมีอยู่ว่า พี่หนุ่มมางานประจำปีวัดนางใน วันนั้นพี่หนุ่มนั่งอยู่ในเต็นท์ กับแขกอีกจำนนวนมาก สักพักก็มีพระหลายรูปเดินมาเพื่อที่จะขึ้นไปสวดมนต์บนวัดนางใน พี่หนุ่มไปสะดุดตาพระอยู่รูปหนึ่ง ท่านเดินเอาร่มทำเป็นไม้เท้าค้ำยันเดินมา อายุท่านมากชราภาพแล้ว เดินมารูปเดียว พี่หนุ่มก็นึกในใจว่า หลวงตาวัดไหนเดินมาแก่มากแล้วยังมางาน และพี่หนุ่มก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก พักเดียว ระหว่างที่พี่หนุ่มเพลินๆหลวงตารูปนั้นเดินมาหา และเอามือตบเข่าพี่หนุ่ม และท่านพูดว่า "อ่าว ว่ายังไงล่ะไอ้หนุ่ม" พี่หนุ่มอึ้ง เพราะว่าครั้งแรกพี่หนุ่มแค่มองและคิดในใจเท่านั้น ไม่นึกว่าท่านจะเดินเข้ามาหา และเรียกชื่อได้ถูกต้อง ทั้งๆที่ตอนพี่หนุ่มมองดูท่าน พี่หนุ่มอยู่ในกลุ่มคนจำนวนมาก และไม่มีทางที่ท่านจะทราบได้แน่นอน พี่หนุ่มจึงตามหาพระรูปนั้นว่าท่านอยู่วัดไหน ภายหลังจึงทราบว่าท่านอยู่วัดทำนบ ชื่อ หลวงปู่เล็ก หลังจากนั้นพี่หนุมจึงไปมาวัดทำนบเป็นว่าเล่น เข้ากราบทำบุญ เป็นประจำ พี่หนุ่มนั้นมีความเคารพในองค์หลวงปู่เล็กอย่างมาก หลังจากพบเจอจังๆในเหตุการณ์ครั้ง ประชาชนชาววิเศษชัยชาญ ชาววัดทำนบ และชาวอ่างทอง ทราบกันดีว่าหลวงปู่ท่านเป็นพระผู้มีศีลาจารวัตรที่งดงาม เคร่งครัดพระธรรมวินัย ประกอบกับวิทยาคมของท่านก็มิได้เป็นรองผู้ใด หลวงปู่ท่านเคยกล่าวกับชาวบ้านทำนบท่านหนึ่งว่า "ของๆกูไม่ใช่ของโหล แบกะดิน"


การเสกพระของหลวงปู่ในแต่ละครั้ง

เรื่องการเสกพระของหลวงปู่ ถ้าใครที่เคยไปกราบท่าน ไปขอท่านเสกพระที่วัดทำนบสมัยท่านยังแข็งแรง คงทราบดีว่าหลวงปู่เสกพระโดยไม่เคยจับสายสิญ บางคนเอาพระมาเสก เข้ามากราบท่าน ท่านทราบเจตนาท่านก็เสกให้ตั้งแต่คลานเข่าเข้ามาแล้ว อันนี้เจอกันมาหลายราย ลองไปถามคนทำนบดูเอง บางครั้งเอาพระไปเสก ท่านขอดูเหรียยเดียว กล่องที่ใส่พระไม่ต้องเอาเข้ามาไกล้ๆท่าน ท่านเสกเหรียยเดียว และเอาเหรียยที่เสกไปไว้รวมกัน ท่านบอกใช้ได้เหมือนกันหมด อย่างที่ผมบอก และเคยกล่าวไว้ ว่าท่านสำเร้จวิชา นะปัดตลอด ผมเองไม่ทราบว่าหลวงปู่ท่านถึงระดับไหนเพราะผมไม่กล้าเดา แต่ครุบาอาจารย์ผม ท่านบอกว่า ที่ท่านเสกแบบนี้ เป้นความชำนาญเฉพาะของท่าน และท่านใช้นะปัดตลอดในการเสก บางท่านไม่เข้าใจ ก็ขอให้เข้าใจตามนี้ สำหรับคนที่เคยไปกราบหลวงปู่คงเข้าใจดีอยู่แล้ว คนบ้านทำนบ แม้รูปภาพหลวงปู่ที่ขอท่านถ่ายไว้ แต่ไม่กล้าเอาไปให้ท่านเสก ก็ยังเอามาห้อยคอกันโดยไม่เสียกำลังใจ และมีประสบการณ์มากด้านรถยนต์ประสบอุุบัติเหตุไม่ได้รับอันตราย คนทำนบเองเชื่อถือและเคารพหลวงปู่อย่างมาก
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน1,500 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 29 พ.ย. 2559 - 21:30:25 น.
วันปิดประมูล - 02 ธ.ค. 2559 - 02:41:01 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลschorlanz (317)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     1,500 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    papa12 (2K)

 

Copyright ©G-PRA.COM