(0)
วัดใจ พระฤาษีท่องสวรรค์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง หลัง มั่งมีศรีสุข เนื้อดินเผา หายากมากครับ.








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องวัดใจ พระฤาษีท่องสวรรค์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง หลัง มั่งมีศรีสุข เนื้อดินเผา หายากมากครับ.
รายละเอียดวัดใจ พระฤาษีท่องสวรรค์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง หลัง มั่งมีศรีสุข เนื้อดินเผา หายากมากครับ.
ท่องสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

เมื่อกาลเวลาในการฝึกกรรมฐานกับหลวงพ่อปานผ่านมาเดือนเศษ การรักษาอารมณ์ทำได้เป็นปกติ ตั้งอารมณ์นานเท่าใดก็ได้ การเห็นนรกตามความสามารถเดิม เห็นได้ชัดแจ่มใสมาก ไปหาตาลุงง่าย แต่ทว่าการลงนรกเองไปสวรรค์เองไปไม่ได้ และสวรรค์ที่ต้องการเห็นก็ยังไม่เห็น เพื่อน ๆ อีก ๒ คนเขาไล่เบี้ยกสิณ ๑๐ กันจนจบเกม เขาฝึกอภิญญากัน เขามีความสามารถตามพื้นเพและวาสนาบารมีของเขา เขาคล่องด้วยประการทั้งปวง แต่ฉันมันเกะกะ ๆ อยู่ไปไหนไม่รอดเลย ในที่สุดทนความอดอยากไม่ไหว วันหนึ่งใกล้กลางเดือน ๑๐ ฉันคิดว่าสัญญาที่หลวงพ่อให้ไว้กับฉันยังไม่ถึงที่สุด ฉันยังลงไปนรกเองไม่ได้ ไปสวรรค์และพรหมก็ไม่ได้ ฉันต้องไปทวงสัญญากับหลวงพ่อ เมื่อฉันข้าวเช้าเสร็จก็ห่มผ้าตามระเบียบเข้าไปกราบหลวงพ่อ พอเงยหน้าขึ้นท่านถามว่าเธอจะมาทวงสัญญาฉันหรือความจริงเรื่องนี้ยังไม่ได้ พูดกับท่านและยังไม่ได้บอกใครเลย เพียงคิดในใจเท่านั้น แปลกใจ แต่ไม่มีอะไรสงสัยด้วยไม่ว่าอะไรที่ผิดปกติท่านพูดก่อนบอกเสมอ เมื่อท่านถามก็กราบเรียนท่านตามตรง ท่านบอกว่าดี ความจริงเธอไปได้แล้วแต่เธอไม่ไปเอง ฟังแล้วก็ไม่เข้าใจ คิดว่าถ้าไปได้ทำไมเราจะไม่ไป เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เธอกลับไปแล้วเข้าฌานรักษาอารมณ์ให้คงที่ตลอดเวลา รักษาลมจนปรากฏว่าไม่มีลม ลมหายใจ รักษารุปพระให้แจ่มใส ทรงกำลังใจ จับนิมิตไว้ ฉันมีเวลาฉันจะไปแนะเธอ ปัปเดียวไปได้เลย นรก สวรรค์ พรหม เธอไปได้หมดแล้ว พอฟังท่านบอกใจมันพองโตบอกไม่ถูก มีอารมณ์ครึ้มมาก คิดว่าวันนี้แหละถ้าไปได้ละก็นายเอ๋ย ฉันจะเที่ยวไปให้จบแดนเลย อีเมืองไหนที่ใครอยากรู้ฉันจะไปให้ปรุ อารมณ์อย่างนี้มันมีกิเลสตัณหาผสมอยู่ด้วยถึง ๙๐ เปอร์เซ็นต์ มีอารมณ์ดีไม่เกิน ๑๐เปอร์เซ็นต์ หรืออาจมีอารมณ์ดีไม่ถึง ๓ เปอร์เซ็นต์ก็ได้ แต่ก็ช่างเถอะ คนที่บ้าดีอย่างฉันแม้จะเป็นดีผสมชั่ว ทำอย่างไรเสียก็ยอไม่หยุดเมื่อท่านสั่งแล้วก็กราบลาท่านมา เมื่อมาถึงกระท่อมก็ทรงเครื่องครบ พาดสังฆาฏิ นั่งขัดสมาธิตั้งแต่เช้ายันเพล อากาศก่อนฝนจะตกมทันร้อนระอุ ตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ แต่ด้วยฤทธิ์อยากไปสวรรค์อุตส่าห์ทนเอา ทรงสมาธิจนไม่รู้สึกร้อน

เพราะอารมณ์เป็นเอกัคตารมณ์ คือ ทรงอารมณ์เดียวจนไม่รู้สึกว่าหายใจ เห็นภาพหลวงพ่อองค์ยิ้มสวยอร่ามแพรวพราวระยิบระยับคล้ายเพชรอย่างดีประดับ ทั่วองค์ ลืมความปวดเมื่อยความร้อนเสียสิ้น มีอารมณ์แจ่มใส อารมณ์เหมือนมีพระอาทิตย์ปรากฏในอกสัก ๑๐๐ ดวง เมื่อเสียงกลองเพลปรากฏ อารมณ์ที่กำหนดไว้เดิมว่าถึง ๑๑ น. อารมณ์จงคลาย มันก็คลายตัวของมันเอง ความจริงไม่ได้ยินเสียงกลองเพล เพื่อนทั้ง ๓ แอบมายืนอยู่ข้างกระท่อมเมื่อไรไม่รู้ เจ้าฤาษีโพธิวัตรอ้ายเจ้าเกลอมันถามว่าจะไปสวรรค์หรือวะ กูนึกว่าไปแดกข้าวลิงเสียแล้ว อ้ายเจ้าระยำนี่มันเก่งกว่าฉันเยอะ มันถามก็เลยทำเฉยเสียไม่ตอบมัน ต่างพากันไปฉันข้าวเพล เมื่อพบหลวงพ่อท่านบอกว่า ฉันไม่ว่างเลยแขกมากจริง ๆ เป็นพวกก่อสร้าง เพลแล้ว เธอฉันเสร็จแล้วไปเตรียมตัวไว้ตามที่ฉันสั่ง ฉันว่างฉันจะไปแนะให้ เรื่องของตัณหาพายุ่ง ความอยากเป็นกำลังใหญ่ เมื่อฉันเพลแล้วก็เข้ากรรมฐานกันใหม่ หมายถึงการทำสมาธิกันอีก ท่านอาจตำหนิเอา เลยทำตามแบบที่เรียนมาทุกประการ ไม่มีอะไรหนัก ตัดกังวล ไม่มีความฝืน วางอารมณ์ทุกประการ จับนิมิตเป็นสรณะ คำว่าสรณะหมายถึงว่าที่พึ่ง คือนิมิตกับลมหายใจเข้าออกเท่านั้นที่จะบอกสัญลักษณ์อารามณ์ฌาน รักษาอารมณ์ ทรงอารมณ์เป็นปกติตั้งแต่เพลถึง ๑๔ น. ไม่เห็นหลวงพ่อท่านมา อากาศที่มีฝนตั้งเค้ามันร้อนอย่าบอกใครเชียว ระอุไปหมดทั้งตัว จีวรสบงชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ หลวงพ่อท่านไม่มาก็คิดว่า เรานั่งตั้งแต่เช้า จะฝืนอิริยาบทเกินไป จึงคิดจะผ่อนคลายอิริยาบท

สักครู่จึงคลายสมาธิทรงอารมณ์ไว้ในอุปจารสมาธิคือรักษานิมิตไว้พอเห็นถนัด เปลื้องเครื่องทรงเต็มยศพระออก เครื่องเต็มยศพระก็คือ สบง ๑ สังฆาฏิ (ผ้าพาดบ่า) ๑ จีวร (ผ้าที่ห่มพระ) ๑ รวมเป็น ๓ ตัวด้วยกัน สำหรับอังสะ (ผ้าพาดชั้นในคล้ายเสื้อชั้นใน) รัดประคดเอว (ผ้าคาดพุง) ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องประกอบ เมื่อเอาสังฆาฏิ จีวรออกแล้วยังไม่แก้สบงด้วยเกรงว่าสุนัขมันจะอาย ไปเอาผ้าสำหรับอาบน้ำฝนที่เขานิยมถวายกันวันเข้าพรรษามาผลัดนุ่งแทน แล้วจึงเปลื้องสบงออก ผ้าอาบน้ำฝนอีกผืนหนึ่งมาคล้องคอ ผืนแรกนุ่งลอยชาย เมื่อเปลี่ยนเครื่องเสร็จก็ถือกล่องสบู่ ขันน้ำ เข้าห้องน้ำที่ทำไว้ติดกระท่อม พอเข้าไปในห้องน้ำอาศัยไอน้ำทำให้เกิดความเย็นมีความสบายเกิดขึ้น คิดจะอาบน้ำทันทีก็เกรงว่าจะเป็นไข้ เพราะกำลังร้อนจัด อารมณ์ก็จับนิมิตไว้เป็นปกติ ใจคิดว่าถ้าเราไปได้จะไปชั้นดาวดึงส์ก่อน เพราะชั้นนั้นเขาว่ามีนางฟ้ามากเหลือเกิน และเป็นเทวสถานของพระอินทร์ อยากจะเห็นพระอินทร์ อยากเห็นจุฬามณี อยากเห็นสวนดอกไม้บนเมืองสวรรค์ เมื่อคิดแล้วก็ปล่อยอารมณ์คิดเสีย ด้วยเกรงว่าอารมณ์จะฟุ้งซ่านเกินไป ถ้าหลวงพ่อท่านมา หากทรงฌานไม่ทันท่านจะหาว่าขัดคำสั่ง เมื่อปล่อยอารมณืแล้วคิดว่าจะพักในห้องน้ำแล้วจึงจะอาบน้ำ จึงนั่งพิงตุ่มน้ำ ตุ่มน้ำมีความเย็นกำลังสบาย จิตที่ทรงสมาธิตลอดวันเมื่อมีความสบายเกิดขึ้น ไม่มีอารมณืเครียดทางกาย ใจว่างจากความอยาก อารมณ์เป็นเอกัคตารมณ์มาทันที

อารมณ์ดับวูบแล้วก็มีความรู้สึกตัวคล้ายตื่นจากหลับ มันไม่ได้ตื่นที่ตุ่มน้ำ มันไปตื่นที่ไหนก็ไม่รู้ เห็นตัวเองยืนอยู่มีอาการคล้ายตายวาระแรก คือ พอเพลินมีอารมณ์วูบแล้วเห็นตัวเองยืนอยู่ข้างร่างเดิม แต่คราวนี้ไม่เป็นอย่างนั้น มีความรู้สึกว่าตัวเองมายืนอยู่ข้างสวนดอกไม้ สวนนี้ช่างสวยเหลือเกิน มีดอกไม้ล้วน ๆ ปลูกไว้เป็นระเบียบ แต่ละสีไม่ปะปนกัน เป็นแถวยาวเหยียด ไม้ดอกแต่ละต้นมีสภาพเหมือนแก้วแพรวพรายไปทั้งต้น ไม้และดอกก็เป็นแก้วไปทั้งหมด มันสวยบอกไม่ถูกจริง ๆ สถานที่นั้นเงียบสงัด ไม่มีใครเลย ยืนแปลกใจสงสัยอยู่ครู่หนึ่งได้ยินเสียงแจ๋ว ๆ ฟังเพราะจับใจ ไม่แหบ ไม่เครือ เสียงมีกังวานแจ่มใสดังมาข้างหลัง เสียงนั้นเป็นเสียงหญิง ได้ยินเธอพูดว่า โอ้โฮ ! พระคุณเจ้ามาโปรดชาวสวรรค์หรือเจ้าคะ พวกดิฉันขอฟังเทศน์เจ้าค่ะ พวกเรา พระท่านมาโปรดแล้ว มาฟังเทศน์กันเร็ว เธอพูดเอาเองตามประสาผู้หญิง ไม่เคยให้ฉันตอบเลย พอเหลียวไปมองดูเธอ เห็นหญิงร่างอรชรอ้อนแอ้นเอวเล็กเอวบาง ร่างสมส่วนสมทรงทุกอย่าง เครื่องแต่งตัวสีเขียวอ่อนมองเย็นตา นุ่งผ้าจีบคล้ายละคร มีเนื้อบาง ๆ แต่มองไม่เห็นเนื้อ เป็นเสื้อแขนสั้นมีผ้าสไบเฉียงเหมือนอุบาสิกาสมัยโบราณ ผ้าทั้งหมดเป็นสีเดียวกัน เครื่องประดับแพรวพราวบอกไม่ถูก มองดูระยับไปทั้งร่าง คิดในใจว่าเธอนี่ช่างสวยและร่ำรวยเสียจริง ๆ เป็นลูกเต้าเหล่าใครกัน เมื่อเธอเรียกพวกเธอ พอสิ้นเสียง ปรากฏร่างสาวสวยรุ่นราวคราวเดียวกันนับร้อยแต่งตัวเหมือนกันหมด สวยเหมือนกัน รูปทรงไม่ต่างกันเลย ผิวพรรณหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกันมาก มานั่งพับเพียบพนมมือเป็นแถว กะประมาณพวกเธอเห็นจะเกินกว่าทหาร ๕ กองพันเป็นไหน ๆ แต่ไม่เห็นมีผู้ชายเลย

ครั้นก้มลงมองดูตัวเองกลับมีสภาพเหมือนอสุรกุ๊ยเพราะหัวโล้นนุ่งผ้าลอยชาย และมีผ้าคล้องอีก ๑ ผืน รู้สึกอายใจมาก ถามเธอว่าที่นี่เขาเรียกเมืองอะไร เธอตอบว่าเมื่อก่อนจะมาท่านพระคุณเจ้าว่าจะไปเมืองไหน ตอบเธอว่าฉันอยากเห็นดาวดึงส์ อยากเห็นสวนดอกไม้ เธอตอบว่าที่นี่เขาเรียกว่าดาวดึงส์เจ้าค่ะ สวนนี้เขาเรียกว่า สวนจิตรลดาวัลย์ เป็นสวนของพระอินทร์ ขอพระคุณเจ้ากรุณาเทศน์โปรดพวกฉันเป็นการเสริมสร้างบารมีสักกัณฑ์เถิดเจ้า ค่ะ พอทราบว่าเป็นดาวดึงส์ก็ตกใจ คิดว่ามาได้อย่างไร และแม่พวกนี้ทราบความคิดของเราได้อย่างไร จึงถามเธอว่าเธอทราบได้อย่างไรว่าฉันคิดจะมาดาวดึงส์ เธอตอบว่าเทวดาทราบความคิดของคนเจ้าค่ะ มนุษย์คิดเทวดาทราบแล้ว และที่พระคุณเจ้าคิดอยากแต่งงานกับนางฟ้า พระอินทร์ท่านก็ทราบแล้ว ถ้าหากพระคุณเจ้ายังมีความประสงค์อย่างนั้นไม่มีทางมาดาวดึงส์หรือสวรรค์ ชั้นใดได้เลย ตอนนี้พระคุณเจ้ามีอารมณ์ชั่วระงับแล้ว ทรงสมาธิสมบูรณ์ มาได้

พอเธอพูดตรงใจเลวเข้าชักอายบอกไม่ถูกเลย และเรื่องที่เธอขอให้เทศน์จะเอาอะไรมาเทศน์ด้วยไม่เคยเรียนเทศน์ พอบวชก็มุ่งปฏิบัติ ตอบเธอว่าฉันบวชใหม่เทศน์ไม่เป็น ขออย่าให้เทศน์เลย เธอตอบว่าเทศน์ตามที่ทราบแล้วกันเจ้าค่ะ คำสองคำก็พอแล้ว ที่นี่พระมาโปนดยาก อยากฟังเทศน์ก็ไม่ใคร่ได้ฟัง นาน ๆ จะมีพระทรงคุณวิเศษมาสักครั้ง เธอยิ่งพูดฉันยิ่งอาย อารมณืที่คิดอยากจะเป็นผัวนางฟ้าไม่มีเลย ด้วยพวกเธอเห็นพระแล้วไม่ทำท่าเหมือนสาว ๆ ในเมืองมนุษย์ สาวเมืองมนุษย์ยังมีการพูดหยอกเย้าล้อเลียน พวกนางฟ้านี่จะฟังแต่เทศน์อย่างเดียว แล้วพวกเธอก็สวยเสียจนไม่อยากรัก เพราะคิดว่าถ้าขืนรักเธอคงไม่ตกลงด้วยแน่ เมื่อทราบว่าเขาไม่ตกลงด้วยก็ไม่คิดรัก เลยสบายใจดีกว่าเยอะ เมื่อทนอายไม่ไหวก็ขอร้องเธอว่า ฉันแต่งตัวไม่เป็นปริมณฑลคือไม่ถูกต้องตามระเบียบของพระยังเทศน์ไม่ได้ ขอให้กลับไปแต่งตัวใหม่ก่อน แม่นางฟ้าก็จอมตื๊อเหลือเกิน แกบอกว่าพวกแกไม่ต้องการเครื่องแต่งตัว พวกเธอต้องการแต่ธรรมเท่านั้น แม่ตื๊อสะเด็ดเลย ในที่สุดก็ตัดบทว่ารอก่อน ฉันยังแต่งตัวไม่เป็นปริมณฑลเพียงใดฉันก็จะไม่เทศน์ ขอให้ฉันกลับลงไปแต่งตัวใหม่ก่อน

พวกเธอเห็นหลวงตาเฒ่าหัวงูไม่ยอมแน่ เธอก็ยอมตกลง เมื่อคิดว่าจะกลับมันก็ไม่มีอะไนมาก ปรากฏว่ารู้สึกตัวมีอาการคล้ายหลับแล้วตื่นขึ้น นึกถึงสัญญาไม่ใช่นึกถึงความงามของนางฟ้า เรื่องอยากได้นางฟ้าขอยกยอดทิ้งไป รูปร่างอย่างเจ้าโล้นโกนหัวห่มผ้าเหลืองใครเขาเลวอย่างนี้บ้าง กำเริบอยากจะเป็นผัวนางฟ้า มันบ้าเกินไปแล้ว ฉันมีอารมณืเลว ๆ พอที่จะอวดได้เยอะ ถ้าให้คนอื่นเขาเขียน อาการเลว ๆ อย่างนี้ไม่มีใครเขียน เขาก็เขียนยกย่องให้ฉันเป็นเทวดาไปเท่านั้นเอง ปฏิปทาสัตว์นรกอย่างนี้รับรองว่าไม่มีใครเขาเขียนให้ฉเนแน่ เมื่อหาคนอื่นเขียนให้ไม่ได้ ฉันเขียนของฉันเอง ชาวบ้านเขามีดีจะอวดและก็อวดดีกันมาก แต่ฉันมีเลวอวด คนบวม ๆ อย่างฉันยังมีอีก ขณะนี้ยังไม่มีใครโผล่หัวออกมาจากโปง เมื่อมีคนเปิดโปงโผล่หัวให้เห็นสักคนคิดว่าไม่ช้าคงโผล่หัวกันเป็นแถว แล้วพวกเธอทั้งหลายจะได้ทราบความเลวที่ชาวบ้านชอบปกปิด แต่พวกบวมผิดปกติชอบเปิด มันก็จะเป็นเรื่องชวนสนุกไม่น้อยเลย เมื่อความรู้สึกปรากฏ ฉันแน่ใจว่าฉันไม่ได้นั่งหลับฝัน ไปปักใจเอาเองว่าเป็นผลของสมาธิ จึงเดินเข้ากระท่อมนุ่งสบงจีวรพาดสังฆาฏิว่ากันเต็มยศ แต่ทว่าเลยเต็มไปหน่อย เพราะอาศัยที่ไม่ได้ศึกษาพระปริยัติมาก่อน ตอนบวชฉันเห็นหนังสือเล่มหนึ่งเขาเขียนภาพพระมาลัยตอนที่ท่านไปเที่ยวสวรค์ และนรก ท่านมีรองเท้า มีไม้เท้า มีย่าม มีบาตร ฉันเห็นภาพนั้นฉันก็คิดว่าจะไปสวรรค์ต้องมีเครื่องครบตามพระมาลัย ฉันเลยเสริมเครื่องยศเลยพระวินัยเข้าให้ คือพระวินัยมีแต่ สบง จีวร สังฆาฏิ ฉันเติมรองเท้า ไม้เท้า ความจริงไม้เท้าไม่มี ฉันเลยเอาไม้ท่อนเป็นไม้ไผ่ขนาดย่อม โตกว่าแขนนิดหน่อยยาวประมาณ ๑ เมตรเศษ เอามาแทนไม้เท้า มีย่าม มีบาตรสะพายไหล่เสร็จ ทีนี้ตอนที่จะออกไปสวรรค์จะไปตรงไหน จะนั่งในกระท่อมเกรงว่าจะไปไม่ได้ ต้องไปนั่งในห้องน้ำ เพราะไปที่ตรงนั้นจึงไปได้ ความคิดเช่นนี้เป็นความโง่ของฉันเพราะโทษของการที่ไม่ได้ศึกษามาก่อน แต่ท่านที่ศึกษามามาก ๆ ฝ่ายปริยัติเวลาท่านไปกันท่านไปแบบไหนไม่เคยถามท่าน ท่านคงไปได้แน่เพราะท่านไม่โง่เท่าฉัน เมื่อทรงเครื่องเสร็จก็ยุรยาเข้าห้องอาบน้ำ ไม่มีส้วมรวมอยู่ด้วย พอนั่งก้นถึงพื้นรู้สึกว่าไปป๋ออยู่ที่เดิม ไม่ต้องตั้งท่าอะไรเลย ง่ายเหลือเกิน พอขึ้นไปที่เดิมไม่เห็นมีใครสักคน นางฟ้าหรือแม้แต่เงานางฟ้าก็ไม่มี พิจารณาดูตัวเองมันช่างรุงรังเต็มทน คิดว่าเป็นระเบียบจะต้องทำเลยจำใจทำ ยืนเก้ ๆ กัง ๆ สักประเดี๋ยวเดียว คราวนี้ปรากฏเทวดาผู้ชายองค์หนึ่งมาหา ไม่สวมชฎา แต่เครื่องแต่งตัวแพรวพราวไปหมด เสื้อแขนยาว ผ้านุ่งยกสวย มีเพชรประดับเต็มเสื้อผ้าไปหมด มาถึงมายกมือไหว้บอกว่า พระอินทร์ท่านให้นิมนต์ไปที่เทวสภา ตอนนี้ชักยุ่ง คิดว่าเพียงเทศน์ให้นางฟ้าก็จะพอเทศน์แบบบุ่ยใบ้อะไรก็ได้ คราวนี้เกิดมีเทวดาทั้งดาวดึงส์มาฟังกันหมด แถมมีพระอินทร์รวมอยู่ด้วย คงจะแย่แล้วตาเถรมาลัยปลอม แต่ว่าเมื่อเป็นเทวบัญชามายากจะขัด

พอเดินออกนอกที่เดิมไปทางทิศตะวันตกไม่ไกลก็ถึงเทวสภา อาคารหลังนี้สวยระยับจับตาจริง ๆ เขาไม่ได้ใช้หินอ่อนอย่างสภาผู้แทน ของเขาเป็นแก้วหลายสีแพรวพราวระยับตา เป็นแก้วล้วน ๆ ไม่มีหินปนสักนิด มีเทวดานางฟ้านั่งเต็มอาคาร แลดูสวยจริง ๆ วิมานหรืออาคารก็เป็นแก้ว คนก็มีแก้วประดับแลดูรัศมีกายรัศมีแก้วสว่างช่วงโชติสวยงามพรรณาไม่ไหว ใครอยากเห็นก็ไปดูเอาเอง พอเดินเข้าไปใกล้ มีเทวดาองค์หนึ่ง เทวดานี่สวยทุกองค์ นางฟ้าก็สวยทุกคนอย่าพรรณาเลย ท่านเดิมเข้ามาใกล้ ท่านไม่ได้สวมชฎา แต่ในใจมีความรู้สึกว่าท่านเป็นพระอินทร์ ตัวท่านไม่เขียว ผิวค่อนข้างเหลือง ทรวดทรงสวย เทวดาแก่ไม่มี หนุ่มสาวทั้งหมด ท่านออกมาหา ท่านพูดว่า คุณเอาบาตรส่งมาให้โยม บนสวรรค์ไม่มีใครเขาใส่บาตรหรอก ตอนนี้ก็บ่ายแล้ว คุณจะบิณฑบาตเอาไปไหน บอกท่านว่าเห็นเขาเขียนภาพพระมาลัยไว้อย่างนั้นคิดมาสวรรค์ต้องเตรียมพร้อม จึงแต่งมาอย่างนี้ ท่านยิ้มแล้วก็ตอบว่าคราวต่อไปไม่ต้องเอามา ภาพนั้นคนเขียนภาพเขาไม่เคยเห็นพระมาลัยเวลาไปสวรรค์ เขาคิดเอาเอง เขียนตามความคิดเห็น มันไม่ถูกต้องอะไร ไม้เท้าย่ามรองเท้าก็เหมือนกัน ทีหลังไม่ต้องเอามาอายท่านเสียเกือบแย่ เมื่อเข้าไปในเทวสภาท่านก็แนะนำเทวดาหลายร้อยองค์ว่าเป็นพ่อเป็นแม่บ้าง เคยเป็นญาติบ้าง เป็นลูกพี่ลูกน้อง บริวาร ผู้บังคับบัญชา และภรรยา พวกภรรยานี่เกินกว่า ๒๐๐ คนแกไปแออัดอยู่บนนั้น

มีอยู่คนหนึ่งที่ท่านบอกว่าเป็นภรรยาเอกที่เคยอยู่ร่วมกันมาหลายแสนชาติ คนนี้ชื่อว่าพรรณวดีศรีโสภาค คุณเรียกแกสั้น ๆ ว่าแม่ศรี แกเข้ามาหา แกแต่งตัวสวยกว่านางฟ้าอื่นทั้งหมด ทรวดทรงสวยมาก ท่านทางมีอำนาจ ท่านบอกเขามีอำนาจควบคุมเวชยันตวิมานของโยม ท่านแนะนำตัวท่านว่าเคยเป็นพ่อฉันมาหลายแสนชาติ ท่านออกปากอนุญาตในการทัศนาจรดาวดึงส์ บอกว่ามาเมื่อไรก็ได้ โยมอนุญาตทุกสถานที่ ฝ่ายแม่ศรีแกก็บอกว่า ลูกแกลงมาเกิด ๒ องค์ ให้ฉันติดตามสอนจะได้กลับมาที่เดิมหรืออาจไปสูงกว่าเดิม พระอินทร์ท่านเตือนแม่ศรีว่า พระยังหนุ่มอยู่ยังไม่ควรพบลูก รอเมื่อถึงกาลอันสมควรจะพบกันเอง เมื่อท่านแนะนำแล้วก็ถามแม่ศรีว่าเธอทำไมไม่มาเกิด เธอตอบว่าท่านจะลงไปบวช ถ้าฉันไปเกิดด้วยท่านก็ทนบวชไม่ไหว

ฉันทราบว่าท่านจะบวชฉันจึงไม่ไปเกิด เมื่อมีโอกาสคุยใจชักกล้า พอได้เวลาท่านให้ขึ้นแท่นสูงเป็นแก้วเก้าสี ท่านให้เทศน์ ไม่รู้จะเทศน์อะไรเลยเทศน์เรื่องที่ปฏิบัติมา พวกเทวาชอบใจมาก เทศน์เดี๋ยวเดียวก็เลิก พระอินทร์ท่านบอกว่าข้างล่างเกือบสว่างแล้ว นิมนต์กลับก่อน วันต่อไปนิมนต์มาตามสบาย คุณจะมาก็มาได้นานแล้ว คุณไม่ปล่อยอารมณ์ ถ้าปล่อยอารมณ์หรือฉลาดพอ คุณมาได้ตั้งแต่ก่อนบวชแล้ว เมื่อถึงเวลาก็ลาท่านมา ปรากฏว่าเมื่อรู้สึกตัวเวลาเลย ๒ น. ของวันใหม่ เจ้าสามเพื่อนกับหลวงพ่อปานมายืนคุมหน้าห้องน้ำ เจ้าเพื่อนโพธิวัตรมันว่า เฮ้ย บิณฑบาตเมืองสวรรค์ได้อะไรบ้าง มาแบ่งกันกินบ้างซิวะ เลยเอามือเขกหัวมันโป๊กถนัด มันไม่ว่าอะไร ที่เอาเรื่องนี้มาเขียนไม่ใช่ว่าอวดความสามารถ มันเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับนักปฏิบัติตามพระพุทธโอวาท เอามาเขียนเพื่อให้ทราบว่าเมื่อจิตยังมีกังวล การปฏิบัติสมาธิไม่มีผล ถ้าตัดกังวลได้แล้วจะพบผลมหาศาล หลวงพ่อท่านพูดว่า คุณ ฉันทราบว่าคุณไปได้ตั้งแต่เด็กแต่คุณไม่ฉลาด เมื่อฉันเห็นคุณโง่ก็อยากให้คลายโง่ด้วยตนเอง ต่อไปนี้จะไปไหนก็ได้ตามใจชอบแต่อย่าลืมทรงสมาธิ อ่านแล้วก็คิดเอาเอง สำหรับวันนี้ขอพักเท่านี้ วันหน้าคุยใหม่
ราคาเปิดประมูล50 บาท
ราคาปัจจุบัน100 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 11 ม.ค. 2561 - 15:23:50 น.
วันปิดประมูล - 12 ม.ค. 2561 - 16:19:23 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลนรปาน (2.5K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     100 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    wanarat (152)

 

Copyright ©G-PRA.COM
www1