(0)
ผ้ายันต์ หลวงปู่เผือก วัดสาลีโข จังหวัด นนทบุรี ยุคต้น หายาก เก่า อภินิหารหลวงปู่เผือก








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องผ้ายันต์ หลวงปู่เผือก วัดสาลีโข จังหวัด นนทบุรี ยุคต้น หายาก เก่า อภินิหารหลวงปู่เผือก
รายละเอียดผ้ายันต์ หลวงปู่เผือก วัดสาลีโข จังหวัด นนทบุรี ยุคต้น หายาก เก่า อภินิหารหลวงปู่เผือก กว้าง 39 cm สูง 48 cmเข้มขลังมาก
หลวงปู่เผือก เกิดเมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 3 ค่ำ เดือนอ้าย (ปีชวด พ.ศ.2299) เป็นชาวกรุงศรีอยุธยา บิดาเป็นชาวจีนที่เดินทางเข้ามาประกอบอาชีพค้าขายในประเทศไทย ส่วนมารดาเป็นคนไทย หลวงปู่เผือกบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดพุทไธสวรรย์ สมัยนั้นความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาของคนไทยมีมาก หลวงปู่เผือกท่านจึงได้เล่าเรียนพระปริยัติธรรม ควบคู่ไปกับการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จนแตกฉานตั้งแต่เป็นสามเณรครับ
ก่อนกรุงศรีอยุธยาจะแตก โยมบิดามารดาของหลวงปู่เผือกได้อพยพหลบภัยสงครามจากรุงศรีอยุธยา หลวงปู่เผือกที่ขณะนั้นยังเป็นสามเณรได้ติดตามมาคอยดูแลโยมบิดามารดาพร้อมกลุ่มผู้อพยพ จนมาถึงบริเวณสุดแนวโค้งของแม่น้ำเจ้าพระยาตรงข้ามกับเกาะเกร็ด กลุ่มผู้อพยพจึงได้ตั้งหลักแหล่งพักอาศัยทำมาหากิน ในบริเวณดังกล่าวมีสำนักสงฆ์เก่าแก่อยู่แห่งหนึ่ง สามเณรเผือกจึงได้จำพรรษาในสำนักสงฆ์นั้น ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นวัดสาลีโข ในปัจจุบันนี้
ต่อมาสมเด็จพระเจ้าตากสินได้ทรงขับไล่พม่าออกไปจากประเทศไทยได้สำเร็จและทรงตั้งกรุงธนบุรีขึ้นเป็นเมืองหลวง สามเณรเผือกจึงได้เดินทางย้อนกลับไปกรุงศรีอยุธยา เพื่อศึกษาวิชาการต่อ พออายุท่านครบบวช ท่านจึงได้เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดป่าแก้ว ซึ่งเป็นวัดฝ่ายอรัญวาสี เมื่อวันศุกร์ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 8 ปีมะแม จ.ศ. 1138 (พ.ศ.2319) ได้รับฉายาว่า ธัมมะโกศล เวลาออกพรรษาหลวงปู่เผือกท่านชอบออกธุดงควัตรเสมอ จนทำให้ท่านมีความเชี่ยวชาญด้านกรรมฐานและมีวิชาอาคมแก่กล้าเป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไปถึงแม้ท่านจะมีอายุไม่มากนัก (สหธรรมมิกของท่านที่มีชื่อเสียงคือ สมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน)
สมัยรัชการที่ 1 หลวงปู่เผือกท่านมีชื่อเสียงมากและโด่งดังเข้าไปถึงหูของบรรดาขุนนาง เจ้านายในวัง ต่างมากันมาหาท่านเพื่อขอวัตถุมงคลหรือขอให้ท่านลงอักขระ เพื่อความเป็นมงคลหรือต้องการหนังเหนียว ว่ากันว่าท่านทำได้ขลังนัก ทำให้มีลูกศิษย์มาขึ้นกับท่านมาก เรียกว่าในช่วงนั้นวัดสาลีโขเจริญรุ่งเรืองสุดขีด



สมัยรัชการที่ 4 หลวงปู่เผือกได้รับพระราชทานพระราชทินนามว่า พระครูธรรมโกศล ตำแหน่ง สังฆปาโมกข์ฝ่ายอรัญวาสี แขวงนนทบุรี และเป็นเจ้าคณะเมืองนนทบุรี หลวงปู่เผือกได้รับพระราชทานเรือกันยาหลังคาแดง มีฝีพายเต็มอัตราเป็นเรือประจำตำแหน่งสำหรับออกตรวจคณะสงฆ์ในเขตปกครอง หลวงปู่เผือกละสังขารในสมัยรัชการที่ 4 พ.ศ.2405 สิริอายุรวม 106 ปีครับ
การพบหลวงปู่เผือกของหลวงพ่อสมภพ
สำหรับ เหรียญหลวงปู่เผือก ที่ปรากฏ ภาพให้ศึกษานั้น เป็นเหรียญรุ่นแรก ที่จัดสร้างขึ้นโดย หลวงพ่อสมภพ เตชปุญโญ พระลูกวัดสาลีโข ด้วยประสบการณ์ อันมากมาย ทำให้เหรียญนี้โด่งดังมาก นักสะสมเหรียญรุ่นเก่าๆ จะรู้จักกันดี และเช่าหากันในราคาแพง หลวงพ่อสาลีโข ชื่อแท้ท่านคือหลวงพ่อสมภพเตชปุญโญอดีตพระลูกวัดสาลีโขภิตาราม ที่ถูกหลวงปู่เผือกในสภาวะวิญญาณ ซึ่งทรงอานุภาพดวงหนึ่งเปลี่ยนชะตาชีวิตหน้ามือเป็นหลังมือในคืนวันขึ้น 15 ค่ำของปี พ.ศ.2502 ขณะที่ ท่านบวชได้เพียงพรรษาเดียวffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
ดวงวิญญาณที่ไร้รูปแต่เต็มปรี่ด้วยทิพยอำนาจอันยากหยั่งถึงได้พร่ำสอนถ่ายทอดความรู้นานาให้พระสมภพโดยไม่รู้เหน็ดเหนื่อยนับแต่เรื่องเล็กน้อย เช่น คาถาอาคมจนถึงเรื่องใจ คือสมาธิ และยังบรรจุพระเวทย์สารพัดประดามีให้พระสมภพหมดสิ้นกระทั่งพาพระหนุ่มผู้อ่อนโลกออกธุดงค์ในป่าลึกเพื่อฝึกฝนจิตตานุภาพ เพื่อทบทวนวิชาที่ให้ไปและเพื่อทดสอบอำนาจจิตอภิญญาของพระสมภพก้อเก่งกล้าสามารถผ่านทุกขั้นตอนจากไปหลายปี กลับมาอีกทีก็มิใช่พระสมภพองค์เดิมหากเป็นพระอาจารย์สมภพที่เพียบพร้อมด้วยคุณลักษณะแห่ง “คุรุ” ทางไสยเวทย์ความแตกฉาน และอภินิหารของพระอาจารย์สมภพเป็นสิ่งที่ผู้ไปพบจะทราบดีหาคนเก่งอย่างนี้ได้ยากนัก ราวปี พ.ศ.2515 หนังสือพิมพ์ “บางกอกไทม” ลงข่าวหน้าหนึ่งครึกโครมว่า สตรีนางหนึ่งนาม น.ส. แป๋วมีอาการเจ็บป่วยอย่างหนักหาสาเหตุไม่ได้ ครั้นญาติมั่นใจว่าเห็นทีจะถูกคุณไสยเข้า ก็หอบหิ้วกันมาพบพระอาจารย์ท่านเริ่มรักษาตามกระบวนการที่หลวงปู่เผือกสั่งสอนมาผู้ป่วยก็เกิดขยอกขย้อนจะอาเจียนเมื่อนำกระโถนใบใหญ่วางลงตรงหน้า น.ส.แป๋วก็อาเจียนโอ้กใหญ่ กลิ่นคาวปนเน่าคละคลุ้งในภาชนะนั้นไม่เพียงมีของเหลวสีคล้ำช้ำเลือดช้ำหนอง หากปรากฎซากงูเน่าจนเห็นกระดูกโพลนทั้งตัวนอนอยู่ก้นกระโถนอย่างน่าตกตะลึง ท่านพระอาจารย์อธิบายว่า มีบางคนประสงค์ให้ น.ส.แป๋วตายอย่างทรมานจึงใช้เดรัจฉานวิชาชั้นสูงปล่อยงูเป็นๆ เข้าท้องหากแก้ไม่ตกย่อมถึงตาย นี่งูก็เน่าจวนหมดตัวแล้วถ้าปล่อยทิ้งไว้ในท้องอีกไม่นาน น.ส.แป๋วไม่รอดสมใจฝ่ายตรงข้ามแน่นอนข่าวนี้เป็นดุจเชื้ออย่างดีที่โหมศรัทธามหาชนให้ลุกโชนคนนับพันนับหมื่นหลั่งไหลไปวัดสาลีโขเพื่อพึ่งใบบุญแห่งหลวงปู่เผือกและพระอาจารย์สมภพผู้เป็นตัวแทน ทุกคนได้รับความเมตตาจากพระอาจารย์ อย่างไม่เลือกชั้นวรรณะและทุกคนร่ำร้องหาความสงเคราะห์จากหลวงปู่เผือกดวงวิญญาณอมตะของท่านก็ยังแผ่บารมีครอบคลุมทั่วถึงอย่างไม่เลือกรักเลือกชัง บรรดาศิษยานุศิษย์ที่ไปหาหลวงพ่อสมภพ บางคนไม่รู้จักชื่อของหลวงพ่อ เห็นว่าอยู่วัดสาลีโข ก็เลยเรียกท่านว่า หลวงพ่อวัดสาลีโข หรือ หลวงพ่อสาลีโข หลวงพ่อสมภพ ได้เล่าถึงความเป็นมาของ เหรียญหลวงปู่เผือก รุ่นแรกนี้ว่า สร้างขึ้นมาจากนิมิตที่ได้พบเห็นในสมาธิ โดยการประทับรางทรงหลวงปู่เผือกปลุกเสก (เหมือนกับ พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ผู้สร้าง พระหลวงพ่อทวด) ซึ่งคาถาและอักขระเลขยันต์ต่างๆ หลวงพ่อสมภพ เตชปุญโญ มีแต่นั่งสมาธิทางจิตรเท่านั้น ที่สามารถติดต่อกับหลวงปู่เผือกได้ บอกวิธีการลงอักขระเลขยันต์ หลวงปู่เผือกนั่งบนหลังสิงห์ด้านหน้าและด้านหลังลงบนเหรียญ รุ่นแรก ในปี 2507 คาถานี้ก็ใช้ในการปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ ต่อมาโดยตลอด และพิธีก็เหมือนกันไปแล้วแต่รุ่น ยันต์คล้ายๆ กันท่านบอกว่าวัตถุมงคลของ ลป.เผือก ดีทุกรุ่น เก็บไว้เถอะ (ท่านก็เล่าความตั้งใจในรุ่นแรกต่อ) <O:p></O:p>
ท่านไม่ต้องการให้เหมือนกับเหรียญหลวงพ่อต่างๆ ที่พบเห็นโดยทั่วไป จึงได้ลงอักขระเลขยันต์จนเต็มพื้นที่ของเหรียญ ซึ่งท่านกำหนด ให้มีขนาดใหญ่เท่ากับกล่องไม้ขีดไฟสมัยนั้น และไม่มีตัวอักษรไทยเลย <O:p></O:p>
ปีที่สร้างเหรียญนี้คือ พ.ศ. 2507 ปลุกเสกนาน 3 ปีเต็ม จำนวนสร้าง เนื้อทองคำมากกว่า 3 เหรียญ จำนวนนี้ยังไม่ขอยืนยัน เนื้อเงิน 108 เหรียญ เนื้อทองแดงชุบทอง 2,510 เหรียญ (เท่ากับปี พ.ศ.) โดยนำไปปลุกเสกที่ถ้ำแก่งละว้า จ.กาญจนบุรี เป็นการปลุกเสกเดี่ยวตลอดไตรมาส เมื่อออกพรรษาแล้ว ก็ได้แจกแก่ศิษยานุศิษย์ ไปจำนวนหนึ่ง ในปี 2510 ส่วนที่เหลือได้ประกอบพิธีปลุกเสกอีกครั้งที่วัดสาลีโข เมื่อวันเสาร์ห้า ปี 2512 และปลุกเสกต่ออีก 3 เดือน หลวงพ่อบอกว่า ได้ลงทุนลงแรง และตั้งใจมากกับการสร้าง เหรียญหลวงปู่เผือก รุ่นนี้ เมื่อทราบว่าลูกศิษย์นำไปใช้ได้ผลดี ในทุกด้านก็รู้สึกดีใจ ในอดีต ชุมชนย่านวัดสาลีโข ขึ้นชื่อว่าเป็นดงนักเลง ถึงกับมีคำพูดกันติดปากว่า "หนังไม่เหนียวห้ามเที่ยวสาลีโข" ซึ่งทุกวันนี้หากเซียนพระพูดถึงวัตถุมงคล วัดสาลีโข ก็จะนึกถึงประโยคนี้ด้วย <O:p></O:p>
วัตถุมงคลวัดสาลีโข มีหลายรุ่น แต่มีเหรียญที่พิเศษและแปลกกว่าเหรียญทั่วๆ ไป คือ เหรียญปั๊มใหญ่ รูปสี่เหลี่ยม มีการเขียนอักขระเลขยันต์ไว้จำนวนมาก ในขณะที่การสร้างเหรียญทั่วๆ ไปจะมีการเขียนยันต์หลักๆ ไม่กี่ตัว เช่น ยันต์ นะ โม พุท ธา ยะ ยันต์ มะ อะ อุ ยันต์ อุ อา กา สะ ยันต์ อิ กะ วิ ติ และ ยันต์ สัม มา อะ ระ หัง เป็นต้น จากการอ่านเรียงแถวของยันต์ที่ปรากฏบนเหรียญหลวงปู่เผือก พอคาดคะเนว่า"น่าจะเป็นยันต์เฉพาะของหลวงปู่เผือก" อย่างไรก็ตาม เมื่อนำยันต์บนเหรียญ ไปเปรียบเทียบกับพระคาถาคงกระพัน ซึ่งคุณประจวบ สาเกตุ ได้รวบรวมและ เรียบเรียงไว้ในหนังสือ "อภินิหารหลวงปู่เผือก" พร้อมกับบอกคำอธิบายไว้ว่า "บริกรรมคาถานี้ เมื่อจะเข้าสู้ด้วยศัตรูหมู่พาล" ผลของการภาวนา "อยู่คงแล" คาถาที่ว่า คือ
"นะ อิ เพชรคง อะระหัง สุคะโต ภะคะวา <O:p></O:p>
โม ติ พุทธะสัง อะระหัง สุคะโต ภะคะวา <O:p></O:p>
พุท ปิ อิสวาสุ อะระหัง สุคะโต ภะคะวา <O:p></O:p>
ธา โส มะอะอุ อะระหัง สุคะโต ภะคะวา <O:p></O:p>
ยะ ภะ อุอะมะ อะระหัง สุคะโต ภะคะวา"
เหรียญหลวงเผือก ขี่สิงห์ รุ่นแรก ยันต์บนเหรียญ มีดังนี้
บรรยายภาพด้านหลัง <O:p></O:p>
๑.ยันต์นะโมพุทธายะ หรือเรียกว่า พระเจ้าห้าพระองค์ ซึ่งเป็นแม่ธาตุใหญ่ใช้ได้สารพัด <O:p></O:p>
๒.ยันต์เฑาะว์ การเขียนในอักษรธซ้ายขวาในลักษณะนี้เรียกว่า เฑาะว์ล้อม <O:p></O:p>
๓.ยันต์นะทรหด <O:p></O:p>
๔.ยันต์อุ ซึ่งหมายถึง อุณาโลม <O:p></O:p>
๕.ยันต์ตะบอก <O:p></O:p>
๖.ยันต์หะวะรัง ซึ่งมีคำภาวนาเต็มๆ ว่า หะวะรัง หะวะรัง รักกัน สรณัง คัจฉามิ <O:p></O:p>
๗.ยันต์พุทล้อม <O:p></O:p>
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน600 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 18 เม.ย. 2561 - 18:42:41 น.
วันปิดประมูล - 27 เม.ย. 2561 - 02:52:47 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลแฟรงค์ตาทิพย์ (2.5K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     600 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    Sky009 (656)

 

Copyright ©G-PRA.COM