(0)
๑๑๑ รูปเหมือนหล่อรุ่นแรก และรุ่นเดียว ท่านอาจารย์นำ วัดดอนศาลา ก้นเงิน ปีพ.ศ. 2519 - นิ้วหัวแม่มือสมบูรณ์ เหล่าเกจิสายเขาอ้อร่วมปลุกเสกจนลังแตก พร้อมออกบัตรฯ หลังจบประมูล ๑๑๑








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่อง๑๑๑ รูปเหมือนหล่อรุ่นแรก และรุ่นเดียว ท่านอาจารย์นำ วัดดอนศาลา ก้นเงิน ปีพ.ศ. 2519 - นิ้วหัวแม่มือสมบูรณ์ เหล่าเกจิสายเขาอ้อร่วมปลุกเสกจนลังแตก พร้อมออกบัตรฯ หลังจบประมูล ๑๑๑
รายละเอียดรูปเหมือนหล่อรุ่นแรก ท่านอาจารย์นำ ปีพ.ศ. 2519
วัดดอนศาลา จ.พัทลุง

เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๙ คณะผู้จัดสร้างมีความประสงค์นำเอารายได้จากการบูชาพระเครื่อง ไปสร้างถาวรวัตถุในวัดดอนศาลาเพื่อเป็นการกุศล จึงได้กราบเรียนให้ท่านอาจารย์นำทราบถึงวัตถุประสงค์ในการสร้างครั้งนี้

เมื่อทราบวัตถุประสงค์แล้วท่านอาจารย์นำก็ได้นั่งนิ่งอยู่สักครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า”ถ้าจะสร้างก็ต้องรีบดำเนินการโดยเร็ว เพราะชีวิตอาตมาใกล้เข้ามาแล้ว เกรงจะไม่ทันการ” ทำเอาคณะผู้จัดสร้างนิ่งอึ้งไปตามๆกัน เพราะว่าขณะนั้นท่านอาจารย์นำก็กำลังอาพาธอยู่แล้วท่านอาจารย์นำก็ได้กล่าวต่อไปอีกว่า”การสร้างนั้นเป็นสิ่งดี เพราะจะได้เป็นครั้งสุดท้าย แต่ขอให้รีบทำเถิด”

คณะผู้จัดสร้างนำเอาแผ่นโลหะมาให้ท่านเพื่อที่จะลงยันต์เป็นเชื้อชนวนในการสร้าง หลังจากที่ได้นำเอาแผ่นโลหะจำนวนมากไปให้ท่านอาจารย์นำตามที่ต้องการแล้ว ในเดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๕๑๙ คณะผู้จัดสร้างก็ได้เดินทางไปรับแผ่นยันต์จากท่าน ซึ่งแผ่นยันต์เหล่านั้นท่านอาจารย์นำได้ลงไว้อย่างเรียบร้อย และได้กล่าวว่า”ลงให้สุดท้ายแล้ว”.นอกจากแผ่นยันต์ที่ท่านอาจารย์นำได้ลงจารให้ไว้ ยังมี
• ชนวนศักดิ์สิทธิ์พระเครื่อง
• พระบูชาสมัยเก่าที่ชำรุด และ
• โลหะสมัยบ้านเชียงจำนวนมาก

ซึ่งคณะผู้สร้างได้นำไปถวายท่านอาจารย์นำปลุกเศกอีกครั้ง ก่อนที่จะทำการหล่อหลอม และท่านก็ได้รับปลุกเศกพร้อมกับกล่าวว่า”ขอให้สร้างให้เสร็จเดือนหน้า เพราะใกล้เต็มที่แล้ว”(หมายถึงเดือนกันยายน) แต่ปรากฏว่า การดำเนินการสร้างในครั้งนั้นไม่อาจที่จะสร้างสิ้นในเดือนกันยายนได้ เพราะการจัดสร้างได้ทำอย่างพิถีพิถันที่สุด

คณะผู้จัดสร้างจึงได้เดินทางไปกราบเรียนท่านอาจารย์นำว่า พระยังไม่เสร็จ เมื่อกราบเรียนแล้วปรากฏว่าท่านอาจารย์นำได้นั่งนิ่งไม่พูดว่าอะไร ตามองออกไปข้างหน้าในลักษณะที่ยากจะคาดเดาได้ว่าท่านคิดอย่างไร ทำเอาคณะที่ไปครั้งนั้นอึดอัดใจไปตามๆ กัน ท่านนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นก็กล่าวว่า”เอาเถอะ!อย่าให้เกินเดือนตุลาคม พ่อจะรอ ถ้าเกินจากนั้นไม่รอแล้ว”

จากนั้นคณะผู้จัดสร้างก็ได้กลับไปดำเนินการสร้างต่อไป ซึ่งในการสร้างได้พิถีพิถันเรื่องเนื้อพระจะต้องออกมาสวยงามจึงต้องเพิ่มทองคำและเงินลงไปอีกจำนวนมาก จนได้เนื้อเป็นที่พอใจ จากนั้นก็ได้เริ่มเทหล่อพระ ซึ่งได้รูปเหมือนขนาดเล็กทั้งหมดเพียง ๑,๖๐๐ องค์เท่านั้น

เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๑๙ พระได้หล่อเสร็จเรียบร้อย จึงได้รีบนำเอาพระไปที่วัดดอนศาลา เมื่อกราบเรียนให้ท่านอาจารย์นำทราบปรากฏว่าท่านรู้สึกดีใจจนเห็นได้ชัด จากนั้นก็ได้นำเอาพระไปวางไว้ในพระอุโบสถวัดดอนศาลา โดยเอาผ้าขาวคลุมพระไว้

ในวันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๙ เมื่อทกอย่างจัดเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็เห็นว่าท่านอาจารย์นำซึ่งนอนมาหลายวันแล้วเพราะอาพาธอยู่ แต่วันนั้นท่านกลับลุกขึ้นด้วยความสดชื่นกว่าปกติ แล้วก็ได้เข้าไปจุดเทียนชัย และนั่งเข้าสมาธิเพ่งพลังจิตปลุกเสก ร่วมกับพระเกจิอาจารย์ผู้เข้มขลังทางคาถาอาคมของสายใต้เช่น
• พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง
• พ่อท่านหมุน วัดเขาแดง
• อาจารย์ พล.ล.ล.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ฯลฯ

เป็นเวลาประมาณสองชั่วโมง ขณะที่กำลังปลุกเศกอยู่ด้วยความเงียบสงบภายในพระอุโบสถวัดดอนศาลา ท่ามกลางความเงียบที่ทุกคนนั่งชมพิธีอยู่นั้น ได้ปรากฏมีเสียง ”เปรี๊ยะ” ดังออกมาจากกองพระเครื่องที่คลุมผ้าขาวในปริมณฑลพิธี แต่เนื่องจากพิธียังไม่เสร็จสิ้นจึงยังไม่มีใครไปเปิดดู

ครั้นเมื่อท่านอาจารย์นำออกจากสมาธิแล้วก็ได้บอกว่า ”สำเร็จแล้ว” จากนั้นคณะผู้จัดสร้างก็ได้เข้าไปเปิดผ้าขาวที่คลุมพระเครื่องออกดู เพื่อให้รู้ว่าเสียงดัง ”เปี๊ยะ” นั้นมาจากอะไร และเมื่อเปิดผ้าขาวออก ทุกคนเห็นเป็นที่น่าอัศจรรย์กันทุกคนคือ ลังไม้ที่บรรจุพระเครื่องได้แตกออก และพระเครื่องได้กระจายทั่วไป.การที่พระเครื่องซึ่งบรรจุอยู่ในลังไม้ได้กระจัดกระจาย เพราะลังไม้แตกนั้น จะเป็นไปเพราะสาเหตุไม่ได้ แต่เป็นไปเพราะพลังจิตที่ท่านอาจารย์นำ และพระเกจิอาจารย์ที่มาร่วมปลุกเศก ได้เพ่งตรงไปรวมที่กองพระเครื่อง และอัดจนแน่น เป็นพลังที่กระทั่งดันลังไม้แตก

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีปลุกเศกนั้น บรรดาลูกศิษย์ก็ได้ประคองพาท่านอาจารย์นำกลับกุฏิ เมื่อถึงกุฏิแล้ว ท่านก็ได้บอกกับบรรดาลูกศิษย์ว่า ”อีก ๓ วันพ่อจะไปแล้วนะ” ครั้นเมื่อ ๓ วันผ่านไปจากวันที่ท่านได้บอกบรรดาลูกศิษย์ คือวันที่ ๒๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๙ ซึ่งเป็นวันกำหนดที่ท่านอาจารย์นำได้บอกลาลูกศิษย์ไว้ เวลากลางคืนบรรดาลูกศิษย์และชาวบ้านหลายคนได้ไปหาท่านที่กุฏิ ซึ่งท่านก็ได้สนทนาและบอกลาลูกศิษย์กับชาวบ้านด้วยใบหน้าปกติและสดชื่น ไม่มีแสดงอาการเจ็บปวดจากการอาพาธแต่อย่างใด

ครั้นเมื่อเวลา ๒๒.๐๐ น. ท่ามกลางความมืดของกลางคืน ท่านอาจารย์นำได้กล่าวอำลาบรรดาลูกศิษย์และชาวบ้านเป็นครั้งสุดท้ายด้วยเสียงปกติว่า ”พ่อลาแล้ว” จากนั้นท่านก็ล้มตัวลงนอนและละสังขารไปอย่างสงบ และขณะที่ท่านอาจารย์นำได้ละสังขารไปนั้น ท่ามกลางความเงียบสงบของเวลากลางคืน และท่ามกลางความเศร้าโศกของบรรดาลูกศิษย์และชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ ก็ได้ปรากฏเหตุการณ์มหัศจรรย์ขึ้นมาอีก คือได้ปรากฏมีเสียงบรรเลงแตสังข์กังวาลรอบๆบริเวณวัดดอนศาลา ทั้ง ๆ ที่บริเวณนั้น ไม่มีบ้านใครจัดงานบรรเลงเลย แล้วเสียงแตสังข์นั้นมาจากไหน?

------------------------------------------

รูปเหมือนรุ่นนี้ช่างได้แกะพิมพ์ได้อย่างสวยงาม และเหมือนองค์จริงของท่านมาก ความพริ้วของผ้าสังฆาฎิและริ้วจีวรดูเป็นธรรมชาติ เป็นรูปเหมือนของท่านอาจารย์นำ นั่งสมาธิพาดสังฆาฏิ มือประสานวางบนหน้าตัก
• ด้านหน้า - ที่ฐานเขียนว่า”ชินวโร” ซึ่งเป็นฉายาของท่านอาจารย์นำ
• ด้านหลัง - ตอกโค้ดตัว”นะ” ไว้ที่ปลายสังฆาฏิในรูปวงกลม
• ฐานด้านล่าง - ได้เจาะเป็นช่องว่างบรรจุผงอนันตคุณ ซึ่งเป็นผงวิเศษที่ท่านอาจารย์นำ ได้เพียรพยายามสร้างมานาน แล้วก็ใช้แผ่นเงินอุดปิดทับไว้

(ขอขอบคุณ แหล่งข้อมูลต่าง ๆ และขออนุญาติเผยแพร่เกียรติคุณของครูบาอาจารย์ ด้วยความเคารพ)
ราคาเปิดประมูล8,950 บาท
ราคาปัจจุบัน9,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 28 ก.ย. 2561 - 17:39:26 น.
วันปิดประมูล - 01 ต.ค. 2561 - 22:45:44 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลsudjarit (4.2K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     9,000 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    chatnarong_ch (156)

 

Copyright ©G-PRA.COM