ประวัติ.หลวงปู่โต๊ะ กำเนิดที่ บ้านใกล้คลองบางน้อย ตำบลบางพรหม อำเภอบางคณฑี จังหวัดสมุทรสงคราม มีนายลอย และนางทับ เป็นบิดามารดา เกิดเมื่อวันอังคาร ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 ปีกุน ตรงกับวันที่ 27 เดือนมีนาคม พ.ศ. 2430 มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน รวม 2 ท่านโดยท่านเป็นคนโต คือ
1. พระราชสังวราภิมณฑ์ (หลวงปู่โต๊ะ)
2. นายเฉื่อย รัตนคอน (ถึงแก่กรรมไปแล้ว)
ในวัยเด็กท่านเป็นเด็กที่เฉลียวหลาดว่องไว รู้ผิดชอบชั่วดี กตัญญู มีความขยันอดทน นิสัยอ่อนโยน
มันจะตามพ่อแม่ไปวัดเป็นประจำและสามารถจำบทสวดมนต์ได้อย่างแม่นยำ
ครั้นเมื่อท่านมีอายุย่างเข้า 17 ปี ก็ได้ทำการบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดประดู่ฉิมพลี เมื่อในปี พ.ศ. 2477 โดยมีพระอธิการสุข เจ้าอาวาสวัดประดู่ฉิมพลีในสมัยนั้นเป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้ตั้งใจศึกษาพระปริยัติธรรม ท่องเรียนพระสูตรต่างๆ ได้อย่างแม่นยำและว่องไว สนใจในการเจริญสมาธิกรรมฐาน
เมื่ออายุครบ 20 ปีท่านก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดประดู่ฉิมพลี เมื่อวันอังคาร เดือน 8 ขึ้น 7 ค่ำ ปีมะแม ตรงกับวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2450 เวลา 15.30 น. โดยมี
พระครูสมณธรรมสมาธาน (แสง) วัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นพระอุปัชฌาย์
พระครูอักขรานุสิต (ผ่อง) วัดนวลนรดิศ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
และพระครูธรรมวิรัติ (เชย) วัดกำแพง เป็นอนุสาวนาจารย์
มีฉายาในพระพุทธศาสนาว่า "อินฺทสุวณฺโณ" ท่านได้ตั้งใจในการศึกษาพระธรรม
ต่อมาพระอธิการคำเจ้าอาวาสวัดประดู่ฉิมพลีในสมัยนั้นได้ลาสิกขาบทออกไป ท่านจึงรับภาระหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสวัดประดู่ฉิมพลี เมื่อท่านมีอายุได้ 26 ปี พรรษา 6
ด้วยความมุมานะท่านสอบได้ น.ธ. ตรีได้ เมื่อปี พ.ศ. 2455
ออกจาริกธุดงค์ไปศึกษากับพระอาจารย์รุ่ง (หลวงพ่อรุ่ง) วัดท่ากระบือ จังหวัดสมุทรสาคร จากนั้นก็ได้ไปศึกษาวิปัสสนากับหลวงพ่อโหน่ง วัดอัมพวัน (วัดคลองมะดัน) อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี และได้ธุดงค์ไปทางเหนืออีกหลายครั้ง พร้อมทั้งศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐานต่อกับพระอาจารย์หลายอาจารย์ด้วยกัน เมื่อออกพรรษาแล้วต่อจากนั้นท่านก็ได้เดินธุดงค์ไปทางภาคใต้ และได้จำพรรษาอยู่ที่ปัตตานี จากนั้นท่านได้เลยไปจำพรรษาอยู่ที่สิงคโปร์หลายปี เมื่อหลวงปู่กลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดประดู่ฉิมพลีตามเดิมแล้ว ท่านได้สร้างรอยพระพุทธบาทจำลอง ซึ่งทำด้วยไม้สักประดับมุก และได้นำไปประดิษฐานไว้ที่วัดในประเทศสิงคโปร์ (จำชื่อวัดไม่ได้) ปัจจุบันนี้รอยพระพุทธบาทจำลอง ได้กลายเป็นวัตถุโบราณไปแล้ว
ด้านการสร้างพระเครื่องหลวงปู่เริ่มจากการสร้างพระสมเด็จ ๑๓ พิมพ์ แจกให้ลูกศิษย์และชาวบ้านที่เข้ามาหาท่าน หลังจากนั้นมีการจัดทำพระกลีบบัวเนื้อเมฆพัด, พระสมเด็จพิมพ์ห้าชั้น, พระสมเด็จพิมพ์คะแนน และพระสมเด็จเนื้อผงผสมชานหมากก่อนปี 2500 หลังจากปี 2500 ไปแล้ว พระเครื่องของหลวงปู่ ลูกศิษย์แออนุญาตจากหลวงปู่ แล้วจัดทำและสร้างมาถวายให้ทั้งนั้น แต่หลวงปู่ท่านก็ตั้งใจปลุกเสกให้ เช่น พระปิดตาจัมโบ้, พระปิดตารุ่นปลดหนี้, พระปิดตาจัมโบ้รุ่นสอง ฯลฯ
หลวงปู่ได้มรณภาพในวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ.2524 เวลา 09.55 น. ท่านก็สิ้นลมด้วยอาการสงบดุจนอนหลับไป ณ กุฏิสายหยุด นับอายุได้ 93 ปี 10 เดือน กับ 22 วัน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดให้เชิญศพไปตั้งที่ศาลา 100 ปี วัดเบญจมบพิตร พระราชทานเกียรติยศศพเป็นพิเศษ พร้อมฉัตรเบญจาเครื่องประกอบเกียรติยศครบทุกประการ เสด็จฯ ไปทรงเป็นประธานในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศล 7 วัน 50 วัน 100 วัน และตามโอกาสอันควรหลายวาระ ในการบำเพ็ญพระราชกุศลออกเมรุและพระราชทานเพลิงเผาศพ ณ เมรุหน้าพลับพลาอิสริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส ก็ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธาน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่พระราชสังวราภิมณฑ์ ตลอดจนศิษยานุศิษย์ ทุกคนหาที่สุดมิได้.
ตลอดเวลาที่อยู่ในสมเพศ ท่านได้ศึกษาพระธรรมอย่างแตกฉาน และเชี่ยวชาญในวิปัสสนาธุระ เป็นที่ศรัทธาของผู้คนทุกชนชั้น พระเครื่องที่หลวงปู่ปลุกเสกก็ยังเป็นสิ่งยืดเหนี่ยวจิตใจให้ลูกศิษย์ลูกหาและผู้บูชาอีกด้วยครับ. |
|