(0)
ปางห้ามญาติ ประจำของคนเกิดวันจันทร์ เหรียญพระประจำวันเกิด "ยี่สิบห้าพุทธศตวรรษ" ปีพ.ศ. 2500 - เหรียญทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ หลังยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ ฉลองพุทธศาสนาก้าวข้ามช่วงกึ่งพุทธกาล กว่า 2,500 ปี






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องปางห้ามญาติ ประจำของคนเกิดวันจันทร์ เหรียญพระประจำวันเกิด "ยี่สิบห้าพุทธศตวรรษ" ปีพ.ศ. 2500 - เหรียญทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ หลังยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ ฉลองพุทธศาสนาก้าวข้ามช่วงกึ่งพุทธกาล กว่า 2,500 ปี
รายละเอียดปางห้ามญาติ ประจำของคนเกิดวันจันทร์ เหรียญพระประจำวันเกิด "ยี่สิบห้าพุทธศตวรรษ" ปีพ.ศ. 2500 - เหรียญทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ หลังยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ ฉลองพุทธศาสนาก้าวข้ามช่วงกึ่งพุทธกาล กว่า 2,500 ปี

เหรียญพระประจำวันเกิด ยี่สิบห้าพุทธศตวรรษ
พิมพ์พุ่มข้าวบิณฑ์ – หลังยันต์พระเจ้าห้าพระองค์


พรหมชาติพยากรณ์ ได้ทำนายพุทธศาสนายุคพระพุทธโคดมว่า มีกาลเวลาเจริญรุ่งเรืองยาวนาน 5,000 ปี พ้นจากนี้ไปก็จะเป็นยุคของพระศรีอริยเมตไตรย์เข้ามาเชื่อมต่อ ด้วยฉะนี้เมื่อถึงปีพุทธศักราช 2500 หรือ 25 พุทธศตวรรษ พุทธศาสนิกชนทั่วโลกจีงได้ให้ความสำคัญกับช่วงของคาบเวลา ด้วยเส้นทางของพระพุทธศาสนาได้เดินทางมาถึงซึ่ง “กี่งพุทธกาล” แล้ว

พุทธศาสนาในประเทศไทยในยุคกึ่งพุทธกาล นับเป็นยุคที่มีความสมบูรณ์ ศาสนาพุทธอันเป็นศาสนาประจำชาติไทย ได้บ่มเพาะประชาชนในชาติให้เป็นผู้ครองตนประพฤติดี ปฏิบัติชอบ เหล่าศาสนสาวกขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ได้กำหนดจิต ตั้งใจสร้างกุศลบุญอันยิ่งใหญ่เพื่อร่วมเฉลิมฉลองก้าวผ่านเวลากึ่งพุทธกาลนี้อย่างที่สุด

ดังจะพบเห็นศาสนสถานถาวรวัตถุต่าง ๆ ที่บังเกิดขึ้นครอบคลุมเกือบทั่วทั้งประเทศ รวมถึงปฐมฤกษ์ในการดำเนินงานก่อสร้างปูชนียสถานเพื่อเป็นพุทธบูชาและเป็นพุทธานุสรณียสถาน ณ พุทธมณฑล เมื่อวันวิสาขบูชา ปี พ.ศ. 2500 และยังได้มีการจัดสร้างพระเครื่อง พระบูชากันอย่างยิ่งใหญ่ในปีพุทธศักราชนี้

“เหรียญพระประจำวัน 25 พุทธศตวรรษ” เป็นเหรียญทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ เนื้อทองฝาบาตร ด้านหน้าเป็นรูปพระพุทธปางประจำวันในแต่ละวัน เดินเส้นคู่เกาะขอบเหรียญทั้งสองด้าน ส่วนด้านหลังเหรียญเป็นยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ และข้อความ “ยี่สิบห้าพุทธศตวรรษ” ในวโรกาสมหามงคลกาลที่พระพุทธศักราชเวียนมาบรรจบครบรอบ 2,500 ปี

----------------------------------------------------------------

ปางพระพุทธรูปประจำวันเกิดทั้ง 7 ปางที่มาเป็นตัวแทนเคารพของคนที่เกิดในแต่ละวัน แต่ถึงกระนั้นการกำหนดพระพุทธรูปแต่ละปางให้ตรงกับทั้ง 7 วันในสัปดาห์นี้ มีมาแต่สมัยใด ยังไม่ปรากฏแน่ชัด โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 7 ปางดังนี้

ประจำของคนเกิดวันอาทิตย์
ปางถวายเนตร : เมื่อครั้งพระบรมศาสดาได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ก็ได้ประทับเสวยวิมุตติสุข (สุขอันเกิดจากความสงบ) อยู่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นระยะเวลา 7 วัน จากนั้นได้เสด็จไปประทับยืน ณ ที่กลางแจ้งทางทิศอีสานของต้นพระศรีมหาโพธิ์ ทอดพระเนตรต้นพระศรีมหาโพธิ์โดยไม่กระพริบพระเนตรเลยตลอดระยะเวลา 7 วัน

ประจำของคนเกิดวันจันทร์
ปางห้ามญาติ : เนื่องจากพระญาติฝ่ายพุทธบิดาคือ กรุงกบิลพัสดุ์ และพระญาติฝ่ายพุทธมารดาคือ กรุงเทวทหะ ซึ่งอาศัยอยู่บนคนละฝั่งของแม่น้ำโรหิณี เกิดทะเลาะวิวาทแย่งน้ำเพื่อไปเพาะปลูกกันขึ้น ถึงขนาดจะยกทัพทำสงครามกันเลยทีเดียว พระพุทธองค์จึงต้องเสด็จไปเจรจาห้ามทัพ คือ ห้ามพระญาติมิให้ฆ่าฟันกัน

ประจำของคนเกิดวันอังคาร
ปางไสยาสน์ หรือ ปางปรินิพพาน : พระพุทธองค์ได้รับสั่งให้พระจุนทะเถระปูอาสนะลงที่ระหว่างต้นรังคู่หนึ่ง แล้วทรงประทับบรรมทมแบบสีหไสยา ตั้งพระทัยไม่เสด็จลุกขึ้นอีก แต่ก็ยังได้โปรดสุภัททะปริพาชกเป็นอรหันต์องค์สุดท้ายก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน

ประจำของคนเกิดวันพุธ
ปางอุ้มบาตร : พระพุทธองค์และเหล่าพระภิกษุสงฆ์สาวกเสด็จจาริกไปตามถนนหลวงในเมือง และนับเป็นครั้งแรกที่ชาวเมืองกบิลพัสดุ์ได้มีโอกาสชมพระพุทธจริยาวัตรขณะทรงอุ้มบาตร ประชาชนจึงต่างแซ่ซ้องอภิวาทอย่างสุดซึ้ง แต่ปรากฏว่าพระเจ้าสุทโธทนะ พุทธบิดาทรงทราบเข้า ก็เข้าใจผิดหาว่าออกไปขอทานชาวบ้าน พระพุทธเจ้าจึงต้องทรงอธิบายว่า การออกบิณฑบาตรเป็นการไปโปรดเวไนยสัตว์ (ผู้ที่พึงสั่งสอนได้) อันเป็นกิจของสงฆ์ มิใช่การขอทาน

ประจำของคนเกิดวันพฤหัสบดี
ปางสมาธิ หรือ ปางตรัสรู้ : เจ้าชายสิทธัตถะทรงประทับขัดสมาธิบนบัลลังก์หญ้าคาใต้ต้นมหาโพธิ์ ใกล้ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา และได้ตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 ก่อนพุทธศักราช 45 ปี ซึ่งก็ตรงกับวันวิสาขบูชานั่นเอง

ประจำของคนเกิดวันศุกร์
“ปางรำพึง” : ภายหลังจากที่ตรัสรู้ได้ไม่นาน พระพุทธเจ้าซึ่งประทับอยู่ภายใต้ต้นไทร (อชปาลนโครธ) ก็ได้ทรงรำพึงพิจารณาถึงธรรมที่ตรัสรู้ว่าเป็นธรรมที่มีความละเอียดลึกซึ้ง ยากที่มนุษย์ปุถุชนจะรู้ตามได้ จึงเกิดความท้อพระทัยที่จะไม่สั่งสอนชาวโลก ด้วยรำพึงว่าจะมีใครสักกี่คนที่ฟังธรรมะของพระองค์เข้าใจ ร้อนถึงท้าวสหัมบดีพรหมได้มากราบทูลอาราธนาเพื่อทรงแสดงธรรมว่าในโลกนี้บุคคลที่มีกิเลสเบาบางพอฟังธรรมได้ยังมีอยู่

ประจำของคนเกิดวันเสาร์
“ปางนาคปรก” : เมื่อพระพุทธองค์ตรัสรู้ และประทับบำเพ็ญสมาบัติเสวยวิมุตติสุขอันเกิดจากความพ้นกิเลสอยู่ ณ อาณาบริเวณที่ไม่ไกลจากต้นพระศรีมหาโพธิ์แห่งละ 7 วันนั้น ในสัปดาห์ที่ 3 ก็ได้ไปประทับใต้ต้นมุจลินท์ (ต้นจิก) ขณะนั้นฝนได้ตกลงมาไม่หยุด พญานาคตนหนึ่งชื่อ "มุจลินท์นาคราช" ก็ได้ขึ้นมาแสดงอิทธิฤทธิ์เข้าไปวงขนด 7 รอบ แล้วแผ่พังพานปกพระพุทธเจ้าไว้มิให้ฝนตกต้องพระวรกาย เหมือนกั้นเศวตฉัตรถวายพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยความประสงค์มิให้ฝนและลมหนาวสาดต้องพระวรกาย ทั้งป้องกันเหลือบ ยุง บุ้ง ร่าน ริ้น และสัตว์เลื้อยคลานทั้งมวลด้วย จนฝนหาย จึงได้แปลงร่างเป็นมาณพเข้าไปเฝ้าพระพุทธองค์
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน120 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูล - 27 ต.ค. 2561 - 12:21:37 น.
วันปิดประมูล - 28 ต.ค. 2561 - 12:47:21 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลgrantdee (7K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     120 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    TharmPim (102)(5)

 

Copyright ©G-PRA.COM
www1