(0)
@@@หลวงพ่อพ่วง วัดกก พิมพ์ขุนเเผนซุ้มเรือนเเก้วใหญ่ เนื้อดิน @@@@








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่อง@@@หลวงพ่อพ่วง วัดกก พิมพ์ขุนเเผนซุ้มเรือนเเก้วใหญ่ เนื้อดิน @@@@
รายละเอียดท่านเป็นพระเกจิยุคเดียวกันกับ พระภาวนาโกศลเถระ(เอี่ยม) หรือที่รู้จักกันดีในนาม เจ้าคุณเฒ่า วัดหนัง ซึ่งมีบ่อยครั้งที่หลวงปู่เอี่ยม มักจะให้หลวงพ่อพ่วง นั่งที่อุปัชฌาย์ ในพิธีบวชพระใหม่ แทนท่านเสมอๆ และ ท่านมักจะพูดกับลูกศิษย์ ว่า “หลวงพ่อพ่วงท่านนี้นี่แหละ เก่งจริง” เรียกได้ว่า ถ้าหาวัตถุมงคลของท่านเจ้าคุณ เฒ่า วัดหนังไม่ได้ก้อบูชาพระชุดนี้ แทนได้เลยครับ หลวงพ่อพ่วงท่านเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อมิ่ง วัดกก และ เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง ผู้สร้างพระหล่อเหรียญจอบอันลือลั่นของวงการ พระชุดเนื้อดิน ท่านสร้างไว้ในราวปี 2473 โดยที่ ท่านได้เก็บพระจำนวนหนึ่ง ไว้บนเพดานพระอุโบสถวัดกก ประสบการณ์ ด้านความเข้มขลังของพระชุดนี้ ผู้คนแถบบางขุนเทียนทราบกันเป็นอย่างดี ...มีอยู่ครั้งหนึ่ง หลังจากท่านมรณภาพไปแล้ว หลวงพ่อมิ่ง ได้นำพระออกมาแจก ใน ตอนนั้น มีนายสิบตำรวจ สน.ท่าข้าม ท่านนึง นำไปทดลองยิง ปรากฏว่ายิงไม่ออก
ในระยะหลัง ทางวัดได้นำพระชุดนี้ออกมาแจกจ่ายประชาชนที่ทำบุญ จึงเกิดมีประสบการณ์ หลากหลาย ทั้งทางด้าน เมตตาและ ที่โดดเด่นมากก้อคือ เรื่องแค้วคลาด และคงกระพันชาตรี อาทิเช่น รอดจากอุบัติเหตุ และ ถูกปล้น หรือ ถูกรุมแทงไม่เข้า เพราะมีพระชุดนี้คุ้มครองตัว ดังมีข่าวเนืองๆ เป็นต้น .....พิมพ์พระของท่านจะเหมือนของหลวงพ่อโหน่งวัดคลองมะดัน พระของท่านสำหรับองค์ที่เนื้อจัดๆ ผ่านการใช้งาน มีบางคนเอาไปตีเป็นพระหลวงพ่อโหน่งมานักต่อนัก
“หลวงพ่อพ่วง” เป็นพระเถระที่ชาวบ้านเคารพนับถือและมีศีลาจารวัตรดียิ่ง สามารถปกครองพระให้มีระเบียบเรียบร้อย จึง แต่งตั้งให้เป็น “พระอุปัชฌาย์” เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๐ ซึ่ง ขณะนั้นท่านมีพรรษาได้เพียง ๒๐ พรรษาเท่านั้นเพราะสมัยนั้น “พระอุปัช ฌาย์” มิใช่จะตั้งกันได้ง่าย ๆ เพราะช่วงนั้น “บาง ขุนเทียน” มีเพียงรูปเดียวคือ “หลวงปู่เอี่ยม” หรือ “เจ้าคุณเฒ่าวัดหนัง” ต่อมาจึงมี “หลวงพ่อพ่วง” เพิ่มอีกเป็น ๒ รูป ดังนั้นสมัยที่ “หลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง” ทำการบวชก็มี “หลวงพ่อ” เป็นพระกรรมวาจาจารย์และหลังบวชแล้ว ก็ได้ศึกษาทางด้านวิปัสสนาและพุทธาคมจาก “หลวงพ่อพ่วง” อีกเรื่องที่ต้องเล่าให้ฟังคือ “พระอรุณ อรุโณ” สมัยเด็กก็บวชอยู่ที่ “วัดกก” จึงได้เป็น “ลูกศิษย์” ของ “หลวงพ่อพ่วง” เล่าว่า “หลวงพ่อพ่วงเป็นพระที่เคร่งมาก ไม่เคยจับเงินเลย ใครถวายท่านก็ให้ศิษย์เก็บเอาไว้ไม่แตะต้องทั้งสิ้น มีอยู่ครั้งหนึ่งท่านไปสวดมนต์ฉันเพลที่บ้านญาติโยมซึ่งเอาเรือมารับ พอท่านลงจากกุฏิไปแล้วลูกศิษย์ก็ออกจากกุฏิใส่กุญแจ ซึ่งกุญแจนั้นสามารถกดเข้าไปก็ล็อกได้แต่วันนั้นเมื่อล็อกแล้ว ปรากฏว่าลืมลูกกุญแจไว้ในกุฏิ ดังนั้นเมื่อ “หลวงพ่อพ่วง” กลับจากกิจนิมนต์จึงเข้ากุฏิไม่ได้แต่ท่านก็มิได้ว่ากล่าวใด ๆ สั่งให้ลูกศิษย์ไปหิ้วของที่ท่าน้ำครั้นลูกศิษย์กลับมาก็พบว่า “หลวงพ่อ” เข้าไปอยู่ในกุฏิแล้วโดยที่ประตูกุฏิยังคงปิดอยู่เช่นเดิม ซึ่งเรื่องนี้สร้างความสงสัยให้กับ “พระอรุณ อรุโณ” เป็นอย่างยิ่งแต่ก็ไม่กล้าถามเพราะทราบดีอยู่ก่อนแล้วว่า “หลวงพ่อ” มีวิชาอาคมเข้มขลัง อีกเรื่อง “หลวงพ่อน้อม” อดีตเจ้าอาวาสวัดกกเล่าให้ผู้คนฟังขณะ “หลวงพ่อพ่วง” สร้าง “พระเนื้อดิน” ในปี พ.ศ. ๒๔๗๓ นั้น “นายจง พึ่งพรหม” ซึ่งเป็นช่างแกะแม่พิมพ์เดินผ่านมาหลวงพ่อจึงเรียกแล้วบอกว่า “ให้ไปดู นายตู้ พึ่งพรหม น้องชายที่บ้านซิว่ายังอยู่ดีหรือ” นายจงได้ยินจึงรีบไปดูปรากฏว่า “นายตู้” ผู้น้องชายกำลังเจ็บไข้ไม่สบายจึงกลับมาบอกหลวงพ่อซึ่งท่านก็ไม่ว่ากระไรแต่ พอวันรุ่งขึ้น “นายตู้” ก็เสียชีวิต “หลวงพ่อ” จึงได้แต่บอกว่า “เขาหมดอายุแล้ว” ซึ่งเรื่องนี้ “หลวงพ่อน้อม” เล่าว่าได้ยินมากับหูของท่านเองจึงแสดงว่า “หลวงพ่อพ่วง” มีญาณวิเศษหยั่งรู้กาลชะตาของคนอื่นได้เหมือนตาเห็นนอกจากนี้ “พระอรุณ อรุโณ” ยังพูดถึงมงคลวัตถุของหลวงพ่อพ่วงว่า “พระเนื้อดินเผา” ของ “หลวงพ่อ” มีพุทธคุณเยี่ยมมีคนได้รับประสบการณ์กันมากมายนับไม่ถ้วน
“คุณปู่เยื้อน บุญฟัก” เป็นอีกผู้หนึ่งที่รู้เห็นเรื่องอภินิหารของ “หลวงพ่อพ่วง” โดยได้เล่าให้ผู้ใกล้ชิดฟังว่า “คราวหนึ่งหลวงพ่อพ่วง” ไปงานสวดสดับปกรณ์ครั้นสวดจบในหลวง “รัชกาลที่ ๕” ทรงถวายเงินที่ห่อด้วยผ้าให้ท่านโดยที่ “หลวงพ่อ” ไม่รู้ว่าในห่อผ้านั้นเป็นเงินจึงไปหยิบ แต่เมื่อมารู้ภายหลังท่านรีบยกเงินห่อนั้นให้ “ปู่เยื้อน” ซึ่งขณะนั้นยังเป็นเด็กและคอยติดตามหลวงพ่อไปในทุกงานรับกิจนิมนต์ พร้อมทั้งยกย่องหลวงพ่อว่าเป็นผู้ไม่ติดในโทสะ เพราะท่านไม่เคยโกรธหรือดุด่าว่าใครแต่ท่านมีตบะแรงกล้าคนเห็นจึงเกรงกลัว แม้แต่รสอาหารท่านก็ไม่หลงเพราะตลอดชีวิตสมณะของท่านเอาแต่ “ฉันเจ” กระทั่งมรณภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๐ ทิ้งไว้แต่อนุสรณ์แห่งคุณงามความดีและพระเครื่องอันเข้มขลังไว้ช่วยเหลือผู้ เลื่อมใสศรัทธาต่อไป
หลวงพ่อพ่วงท่านสร้างพระเนื้อดิน ผสมผง ใช่ว่าจะเป็นเนื้อดินล้วน เพราะท่านได้ผสมผงพุทธคุณลงไปด้วย เท่าที่คนพบปรากฏมีทั้งหมดขณะนี้ 18 พิมพ์ แต่หลวงพ่อน้อมจำได้ว่าจะมีมากกว่านี้ แต่ยังไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ใดบ้าง เมื่อพิมพ์เสร็จแล้วท่านได้นำเข้าเผาโดยสุมแกลบที่ลานวัด ขณะเผาท่านจะไปเฝ้าบริกรรมปลุกเสก แสดงว่าท่านต้องการแผ่พลังจิตลงไปขณะพระได้รับความร้อน เป็นการหนุนเตโชธาตุ ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับหลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน สุพรรณบุรี ซึ่งปลุกเสกขณะพระกำลังเผาเช่นกัน
หลังจากเผาแล้ว จึงได้นำเข้าปลุกเสกภายในอุโบสถวัดกก เป็นเวลานานหลายพรรษา ท่านปลุกเสกอยู่ตลอดแทบทุกวันหลังจากทำวัตรสวดมนต์ในพระอุโบสถตั้งแต่ปี พ.ศ.2473 จนถึง ปี พ.ศ.2479 รวมแล้วได้ 6 ปีเต็ม จึงนำพระเครื่องทั้งหมดขึ้นเก็บไว้บนเพดานพระอุโบสถ 6ปีเต็ม นอกจากท่าน หลวงพ่อพ่วงจะทำการปลุกเสกเดี่ยวแล้ว ยังไม่รวมถึง พระภิกษุที่ทำ วัตรเช้า และ ทำวัตรเย็นเป็นกิจวัตรอีก...........รับประกันเเท้
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน700 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 17 ก.ย. 2551 - 04:44:10 น.
วันปิดประมูล - 18 ก.ย. 2551 - 09:18:43 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลนงเพชรรัตน์ (698)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 17 ก.ย. 2551 - 04:44:44 น.
.


..........


 
ราคาปัจจุบัน :     700 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    bwoody17 (622)

 

Copyright ©G-PRA.COM