ชื่อพระเครื่อง | ศิษย์เอกหลวงพ่อพิธ ตะกรุดหลวงพ่อเตียง วัดเขารูปช้าง จ.พิจิตร ลงรักถักเชือก พร้อมเชือกคาดเอวเดิมๆ |
รายละเอียด | ศิษย์เอกหลวงพ่อพิธ ตะกรุดหลวงพ่อเตียง วัดเขารูปช้าง จ.พิจิตร ลงรักถักเชือก พร้อมเชือกคาดเอวเดิมๆ
ตะกรุดหลวงพ่อเตียง วัดเขารูปช้าง จ.พิจิตร
ลงรักถักเชือก พร้อมเชือกคาดเอวเดิมๆ ศิษย์เอกหลวงพ่อพิธ ใช้แทนหลวงพ่อพิธ ได้อย่างสนิทใจ
ดอกนี้ยาว 3.2 นิ้ว
ถ้ามีตะกรุดยันต์คู่ชีวิตอยู่ติดตัว ไม่ต้องกลัวอันตรายใดๆ"......ยันต์นี้เป็นหนึ่งในตำราพิชัยสงคราม ที่ได้ระบุไว้ว่าเป็นยันต์ชั้นสูง หาประมาณค่ามิได้ ถึงกับมีคำว่า(เขียนตามคำเก่าแกโบราณ)
"ยันต์อะสิสัตติที่ลงกะตุด(ตะกรุด)นี้ลงแล้วไม่ต้องเสกยิงเอาเถิด" _ความตอนหนึ่งที่มีการบันทึกไว้โดย หลวงพ่อเรือง วัดบ้านดง นั่นหมายถึงยันต์นี้มีคุณวิเศษในตัวเอง เขียนจบไม่ต้องเสก ไม่ต้องลงอะไรเพิ่ม ใช้บูชาติดกายได้เลย แล้วถ้าได้รับการบริกรรมคาถาปลุกเสกจากเถราจารย์ที่มีญาณสมาบัติสูงส่ง จะยิ่งดีขนาดไหน?...คิดดู!
ตะกรุดคู่ชีวิต หลวงพ่อเตียง วัดเขารูปช้าง ตะกรุดนี้ท่านจะลงจารด้วยอักขระยันต์คู่ชีวิต หรือยันต์อะสิสัตติ ตะกรุดของท่านจะจารทั้ง๒ด้าน คือทั้งด้านนอกและด้านใน การสร้างสวย ประณีต ไม่สุกเอาเผากิน ยันต์ที่ใช้ที่ปรากฏก็คือ ยันต์ของหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน ตกทอดสู่หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง และสืบทอดต่อมายัง หลวงพ่อเตียง วัดเขารูปช้าง
@>>>>พระครูพิพัฒน์ธรรมคุณหรือหลวงพ่อเตียง อดีตเจ้าอาวาสวัดเขารูปช้าง อ.เมือง จ.พิจิตร อันดับที่๑ เท่าที่ปรากฏในข้อมูลของกรมการศาสนา ปกครองวัดตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๗ ๒๕๑๙ วัดเขารูปช้างซึ่งเป็นวัดอยู่ทางใต้ไม่ไกลกับวัดฆะมังเท่าไหร่ ศิษย์สายหลวงพ่อเงินวัดบางคลานโดยสืบทอดพุทธาคมมาจากหลวงพ่อพิธวัดฆะมัง ท่านจึงได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมและการสร้างตะกรุดโทน หรือตะกรุดคู่ชีวิต รวมถึงวิปัสสนาธุระและกสิณจากหลวงพ่อพิธ
วัตถุมงคลที่โดดเด่นเป็นที่รู้จักคือตะกรุด เหรียญรุ่นแรก รูปหล่อรุ่นแรก ปัจจุบันเริ่มหายากสนนราคาปรับสูงขึ้นตามลำดับ
หลวงพ่อเตียงเกิดเมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์พ.ศ. ๒๔๔๔ ตรงกับวันพฤหัสบดีขึ้น ๑๓ ค่ำเดือน ๓ ปีฉลูที่บ้านดงกลางตำบลดงปาคำอำเภอเมืองจังหวัดพิจิตร
อุปสมบทเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์พ.ศ. ๒๔๖๖ ณพัทธสีมาวัดดงกลางโดยมีพระครูศิลธรารักษ์ (ยิ้ม ทัดเที่ยง) เจ้าอาวาสวัดท่าหลวงและเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรเป็นพระอุปัชฌาย์เจ้าอธิการปุ่นเป็นพระกรรมวาจาจารย์และพระปลัดเป้าเป็นพระอนุสาวนาจารย์ศึกษาพระธรรม ตลอดเวลาในสมณเพศท่านเป็นผู้ยึดมั่นเคร่งครัดพระธรรมวินัยอบรมสั่งสอนพุทธบริษัทให้ยึดมั่นในพระรัตนตรัยสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากและเอาใจใส่ในการพระศาสนาต่อมาได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่พระครูพิพัฒน์ธรรมคุณ เมื่อย่างเข้าสู่วัยชราบั้นปลายของชีวิตท่านเริ่มอาพาธด้วยโรคพยาธิต่างๆต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นประจำ และท่านได้ถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคมพ.ศ. ๒๕๒๐ เวลา ๐๙.๒๐น. รวมสิริอายุ ๗๖ ปี ๕๓ พรรษา
อภินิหารในการทำพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล ของหลวงพ่อเตียง ที่วัดเขารูปช้างครั้งหนึ่ง หลังจากทำพิธีเสร็จแล้วก็มีการจำหน่ายวัตถุมงคลของหลวงพ่อ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่เคารพบูชาในตัวของหลวงพ่อได้มีของดีไปใช้ประจำตัว ในครั้งนี้ ได้มีนายชาญ รอดเกิด เป็นผู้หนึ่งที่มีความเลื่อมใสศรัทธาจึงมาเช่าตะกรุดของหลวงพ่อ ๑ ดอก เมื่อได้ตะกรุดแล้วก็เดินเข้าไปในตลาดเขารูปช้าง ในขณะนั้นเองนายชาญ ก็ถูกยิงหลายสิบนัดกระสุนไม่ถูกนายชาญแม้แต่ลูกเดียว ซึ่งเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ ว่านายชาญจะรอดตายมาได้ ทั้งนี้เพราะอภินิหารและ ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโดยแท้ ยิงไก่ไม่ดังเมื่อหลวงพ่อทำตะกรุดและสังวาลย์ ออกจำหน่ายครั้งแรกๆ ประชาชนยังไม่ค่อยเลื่อมใสจึงนำไปผูกคอไก่แล้วยิงด้วยปืนลูกซองปรากฏว่าไม่ดัง ข่าวการลองของไม่ดัง ปากต่อปากเล่าลือกันมากต่างก็พากันมาเช่าของหลวงพ่อไปใช้ประจำตัวเจ้าอธิการเทิ้มเล่าว่าตะกรุดของหลวงพ่อจำหน่ายดีมากรอดตายเพราะตะกรุดหลวงพ่อ วันหนึ่งนายอินทร์ คนดงกลาง ซึ่งเป็นหลานของหลวงพ่อได้ขี่จักรยานออกมาจากบ้านเพื่อจะไปธุระที่บ้านท่าข่อย ต. เมืองเก่า ในขณะที่ขี่จักรยานมานั้นได้ถูกคนร้ายลอบยิงด้วยปืนลูกซอง ถูกท้ายทอยด้านขวาล้มควํ่า แต่กระสุนไม่ระคายผิวหนัง คนร้ายคิดว่าตายแล้วก็หนีไป นายอินทร์ก็ลุกขึ้นกลับบ้าน ต่อมาแผลที่ถูกยิงถอนยวง เมื่อซักถามนายอินทร์ว่ามีอะไรดี นายอินทร์ตอบว่า มีตะกรุดของหลวงพ่อเตียงดอกเดียวเท่านั้น
ยังไม่จบแค่นั้น...อภินิหารรูปหล่อได้มีราษฎรคนหนึ่งมีอาชีพขี่มอเตอร์ไซด์รับจ้าง บ้านอยู่ ตำบลบางไผ่ อำเภอบางมูลนากได้มาที่วัดของหลวงพ่อและได้เช่ารูปหล่อไป ๑ องค์ เมื่อเช่าไปแล้วก็พกติดตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะมีอาชีพรับจ้างวันหนึ่งในขณะที่ขี่มอเตอร์ไซด์อยู่นั้น ได้ถูกคนร้ายลอบยิงด้วยปืนยูเอสอาร์มี่ ถูกที่ด้านหลังปรากฏว่าเสื้อขาด แต่ไม่เข้าเพราะอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์โดยแท้ รอดตายเพราะตะกรุดหลวงพ่อนายอุดม คำหมู่ ซึ่งเป็นหลานชายของเจ้าอธิการเทิ้ม เจ้าอาวาสวัดเขารูปช้างปัจจุบัน เล่าว่า ในขณะที่นายอุดม อยู่บ้านตามลำพัง ได้มีพวกขโมยหลายคนเข้ามาในบ้านแล้วช่วยกันจับนายอุดม เมื่อถูก จับนายอุดมก็ร้องให้คนช่วย พวกขโมยเกิดโมโห ที่ว่านายอุดมร้องเสียวดังจึงควักปืนคอล์ซุปเปอร์ขนาด ๑๑ มม. ยิงนายอุดม หวังจะฆ่าปิดปากเสีย เสียงดังแซะ พวกขโมยก็สับนกปืนอีก ก็ไม่ดัง นายอุดมเมื่อเห็นว่าไม่ดังก็มีกำลังใจฮึดสู้พวกโจร แต่เนื่องจากนายอุดมเป็นคนรูปร่างเล็ก จึงสู้พวกโจรไม่ได้ พวกโจรก็ยิงอีกไม่ดังเช่นเคย เมื่อเห็นว่าไม่ดังแน่จึงช่วยกันปล้นนายอุดมเอาของดี ปรากฏว่าพวกขโมยได้ตะกรุดโทน ๓ ชั้น และเหรียญของหลวงพ่อไป นายอุดมคงเหลือแต่สายติดมืออยู่ พวกขโมยยิงอีกทีไม่ดังเช่นเคย เรื่องนี้เจ้าอธิการเทิ้มเป็นผู้ยืนยันว่าเป็นความจริง นายอุดม รอดตายมาได้ก็เพราะวัตถุมงคลของหลวงพ่อ แหวนของหลวงพ่อจ.ส.ต.รวม เป็นตำรวจสายตรวจประจำหมู่บ้านเขารูปช้าง ได้ขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากตลาดพิจิตรเพื่อจะมาเป็นสายตรวจประจำหมู่บ้านเขารูปช้าง ในขณะที่ขี่มอเตอร์ไซด์ใกล้จะถึงเขารูปช้างมีรถยนต์คันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วสูงชนท้ายรถที่ จ.ส.ต. รวม ขับอยู่ ร่างของ จ.ส.ต. รวมกระเด็นลอยไปในอากาศรถจักรยานยนต์พังยับเยินแต่ตามร่างกายของ จ.ส.ต.รวมไม่มีบาดแผลอะไรเลย ปรากฏว่า จ.ส.ต.รวม ไม่ได้คล้องพระ แต่มีแหวนของหลวงพ่อสวมที่นิ้วเพียงวงเดียว ปัจจุบัน จ.ส.ต.รวมจะไม่ยอมถอดแหวน วงนี้เลยและนับถือหลวงพ่อเตียงอย่างมาก Cr.พระครูวิเวกธรรมมาภิรมย์ (เจ้าอธิการเทิ้ม สนฺตจิตฺโต) อดีตเจ้าอาวาสองค์ที่๒ ที่ปกครองวัดวัดเขารูปช้างต่อจากหลวงพ่อเตียงเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๐-๒๕๓๘
@>>>>ต่อจากนี้เราจะมาพูดถึงยันต์คู่ชีวิตกัน.....จากตำราสมุดข่อยของ หลวงพ่อเรือง วัดบ้านดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก (เถราจารย์อีกหนึ่งท่านที่ทำและลงตะกรุดออกมาได้สุดยอด และของของท่านหายากและพบเห็นได้น้อยมาก) ท่านได้เขียนไว้เป็นหลักฐานว่า..."ยันต์ที่ลงกะตุด (ตะกรุด) นี้ลงแล้วไม่ต้องเสกยิงเอาเถิด"_จะเห็นได้ว่ายันต์นี้มีอานุภาพเพียงใด! ขลังเพียงใด!... คาถาที่ใช้ลงในตะกรุดของท่าน เป็นพระคาถาที่ลงในตารางทั้งสี่มุมเขียนไว้ว่า
อะสิสัตติธะนูเจวะ
สัพเพเตอาวุธานิจะ
ภัคคะภัคคาวิจุณณามิ
โลมังมาเมมะผุสสันติ
การลงอักขระจะลงสลับไปสลับมาในช่องต่างๆไม่ได้เรียงกันอย่างในการอ่าน.
การลงและอาราธนาปลุกเสกตะกรุดของท่านให้เสกดังนี้...
นะโมพุทธายะฯ จะภะกะสะ สะกะภะจะฯ อิติปิโส.....ภะคะวาติฯ
ไตรสระณาคมฯ อะสังอิสุโลปุสะภุภะฯ อิสวาสุ สุสวาอิฯ เมตัญจะ
สัพพะโลกัสสมิงฯ อะสิสัตติธะนูเจวะ สัพเพเตอาวุธานิจะ
ภัคคะภัคคาวิจุณณามิ
โลมังมาเมมะผุสสันติฯ...ให้เสก ๑๐๘ คาบ ถ้ามีเวลาพอ
ถ้าเสกทุกวันมีเวลาน้อยให้ท่านท่องเสก...อะสิสัตติธะนูเจวะสัพเพเตอาวุธานิจะภัคคะภัคคาวิจุณณามิโลมังมาเมมะผุสสันติ...วันละ ๓ จบ
***ประกันพระแท้ตามหลักสากล***
ชมพระองค์อื่นๆได้ที่ร้านเว็บท่าพระจันทร์
http://www.thaprachan.com/กุสลจิตฺโต |
ราคาเปิดประมูล | 8,900 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 9,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 100 บาท |
วันเปิดประมูล | - 04 ม.ค. 2564 - 20:31:17 น. |
วันปิดประมูล | - 06 ม.ค. 2564 - 00:55:01 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
ผู้ตั้งประมูล | Manver (470)
|