(0)
@@@สีผึ้งเขียว เหนียวทรัพย์ สุดยอดมหาเสน่ห์ เปิดแบ่ง ประมาณ2หัวไม้ขีดไฟ@@@A14








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่อง@@@สีผึ้งเขียว เหนียวทรัพย์ สุดยอดมหาเสน่ห์ เปิดแบ่ง ประมาณ2หัวไม้ขีดไฟ@@@A14
รายละเอียดประวัติการสร้างสีผึ้งหลวงปู่ทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง จ.ระยอง
(สีผึ้งยุคแรก) สีผึ้งยุคแรกของหลวงพ่อทาบถูกสร้างขึ้นในประมาน พ.ศ 24 กว่าๆ ในสมัยหลวงพ่อทาบยังไม่ได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดกระบก แต่ท่านก็ได้เอาวิชาที่เรียนมาสร้างพระและสีผึ้งจุดประสงค์เพื่อจะนำปัจจัยมาบูรณะวัด และส่งเสริมพุทธศทานา หลวงพ่อทาบท่านได้สร้างสีผึ้งขึ้นมาโดยจะมีสีน้ำตาลเข้ม แต่ชาวบ้านจะเรียกติดปากว่าสีผึ้งดำ และได้แจกให้ยาติโยมนำไปบูชากันและบอกวิธีบูชาให้แต่ท่านห้ามนำไปใช้ในทางที่ผิดศิลธรรม แต่ก็ยังมีคนที่มีจิตใจไม่ดีนำสีผึ้งของท่านไปใช้ในทางผิดศิลธรรมจนได้ ดังที่มีคำเล่าเลือกันว่ามีชายง่อยอยู่คนหนึ่งอาศัยอยู่ใกล้วัดกระบก แต่ที่แปลกใจเพราะว่าชายง่อยที่ฐานะยากจนและรูปก็ไม่หล่อ แต่กับมีเมียถึงหกคนเป็นที่เล่าลือไปทั่ว แต่หลวงพ่อทาบท่านเห็นแล้วว่าขืนยังแจกสีผึ้งต่อไปคงจะไม่ดีแน่ ท่านจึงแบ่งสีผึ้งส่วนหนึ่งเก็บเอาไว้ผสมพระแต่ส่วนอื่นท่านได้เททิ้งน้ำจนหมด และไม่แจกให้ใครอีกเลย และนี่คือที่มาของชายง่อยมีเมียถึงหกคน แต่ก็มีคนที่เอาไปรวมกับประวัติของสีผึ้งเขียวซึ่งเป็นปวัติที่ผิดเพี้ยนจางเรื่องจริงครับ สีผึ้งยุคแรกของท่านนั้นหายากกว่าสีผึ้งเขียวหลายเท่าครับเพราะท่านแจกได้ไม่มาก ก็เททิ้งน้ำจนหมด
(สีผึ้งยุคที่สอง) สีผึ้งยุคที่สองหลวงพ่อทาบท่านได้สร้างหลังจากได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดกระบกแล้วประมาน 2494 แต่ที่ท่านสร้างสีผึ้งยุคที่สองขึ้นมาท่านไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะแจกเฉพาะสีผึ้ง แต่ท่านกะว่าแจกให้ยาทโยมบุชาพร้อมกับเสือที่แกะจากเขี้ยวเสือ โดยสีผึ้งยุคที่สองของท่านจะเป็นสีผึ้งสีขาวอมเหลืองครับ แต่เมื่อท่านสร้างเสือเสร็จท่านก็ลองวิชาโดยการปลุกเสกเสือแล้วปล่อยให้เสือเข้าป่าไป เมื่อท่านปล่อยเสือไปแล้ว ท่านก็ทำพิธีเรียกให้กลับ แต่ปรากฏว่าเสือที่ท่านปล่อยไปนั้นไม่กลับมาตามที่ท่านเรียก ท่านจึงเอยว่าเห็นทีฉันจะเอาดีทางนี้ไม่ได้แน่ๆ ท่านก็เลยแจกสีผึ้งที่หลือให้แกชาวบ้านจนหมดแต่ก็มีไม่มากนักเพราะท่านหุงแค่หม้อเดียวจึงทำให้ไม่ค่อยจะพอเห็นสีผึ้งยุคนี้ของท่านมากนักครับ สีผึ้งยุคที่สองของท่านนี้่จะดีไปทางมหาอำนาจมากกว่ามหาเสน่หรือมหานิยม
สีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบ หลวงพ่อทาบท่านหุงสีผึ้งยุคที่สามเมื่อประมาน พ.ศ 2498 โดยรวบรวมวัตถุมงคลหลายชนิด โดยใช้เวลาหาวัตถุมงคลประมานสองปี เมื่อได้วัตถุที่ต้องการแล้ว ท่านก็เริ่มหุงสีผึ้งแต่คราวนี้สีผึ้งของท่านนั้นเป็นสีเขียวมรกต( หรือสีเขียวแก้ว )และเมื่อท่านหุงสีผึ้งเสร็จท่านก็นำมาแจกจ่ายให้ญาตโยมได้บูชากัน โดยท่านจะให้ญาตโยมที่มาบุชาสีผึ้งจากท่านนำตลับมาเอง เราจึงจะเห็นว่าตลับสีผึ้งหลวงพ่อทาบนั้นมีด้วยกันมากมายหลายรูปแบบ และเมื่อนำตลับมาให้ท่านแล้ว ท่านก็จะให้กลับไปก่อนแล้วค่อยมารับในวันหลัง แต่บางคนมาไกลก็จะนอนรอที่วัดหรือไม่ก็บ้านญาตที่อยู่ในจังหวัดระยองหรืออำเภอใกล้เคียง แต่ถ้าเป็นคนในพื้นที่ก็จะกลับบ้านไปก่อน ส่วนใครที่รออยู่ที่วัด บางคนก็ได้ช่วยหลวงพ่อผสมและบดว่านเพื่อให้หลวงพ่อนำไปหุงสีผึ้งเพื่อจะได้เสร็จไวขึ้น และเมื่อหุงเสร็จหลวงพ่อทก็จะตักใส่ตลับแล้วปลุกเสกอีกครั้ง สรุปเวลาทั้งหมดที่ญาตโยมจะได้รับสีผึ้งเขียวจากท่านก็ปาเข้าไปสองถึงสามวันเลยครับ แต่ก็ได้ครบทุกคนและเมื่อรับสีผึ้งจากท่านๆก็จะบอกวิธีการใช้และคาถาบูชาและยังย้ำให้ทุกคนนำสีผึ้งไปใช้ให้ถูกต้องห้ามนำไปใช้ในทางที่ผิดศิลธรรมท่านบอกว่ามันเป็นบาป คราวนี้ท่านที่สังสัยว่าทำไมคนแถวบ้านผมและอีกหลายๆท่านจึงมีสีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบเยอะนัก เพราะทีแรกท่านจะแจกให้ทุกคนเป็นตลับๆแล้วแต่ใครจะเอาตลับอะไรมาใส่ตลับเล็กก็ได้น้อยตลับใหญ่ก็ได้ไปเยอะ
คราวนี้มาแก้ความสังสัยกันว่าสีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบนั้น ทำไมบางท่านบอกว่าสีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบต้องเป็นสีขียวมรกตแบบเขียวแก้วสีเขียวเข้มไม่ใช่ แต่บางท่านก็บอกว่าสีเขียวเข้มใช่แต่สีเขียวแก้วไม่ใช่ ผมขออธิบายเพื่อให้เข้าใจนะครับว่าไม่ว่าเขียวแก้วหรือเขียวเข้ม ใช่ของหลวงพ่อทาบทั้งนั้นละครับ เพียงแต่หม้อแรกๆสีผึ้งของท่านจะออกเป็นสีเขียวแก้วคับ แต่มีเหตุที่ทำให้สีผึ้งเขียวของสีเขียวเข้มขึ้นก็เพราะสีเขียวแก้วมันไปเหมือนกับของหลวงพ่อโป๊ะวัดบ้านบึงจังหวัดอุบลมั้งครับผมจำไม่ได้ซึ่งหลวงพ่อโป๊ะก็เป็นอีกองค์ที่เคยสอนวิธีหุงสีผึ้งให้หลวงพ่อทาบ สมัยหลวงพ่อทาบยังเป็นฆาราวาส เพราะว่ามีคนเอาสีผึ้งเขียวมาให้หลวงพ่อทาบปลุกเสกซ้ำเพราะผ่านมาทำบุญที่วัดก็เลยเอาสีผึ้งไปให้ท่านปลุกเสกซ้ำ แต่เมื่อหลวงพ่อทาบได้เห็นสีผึ้งของโยมที่นำมาท่านก็บอกว่าอันนี้ไม่ใช่ของฉันแต่เป็นของหลวงพ่อโป๊ะวัดบ้านบึงแต่ก็ใช้ได้เหมือนกัน นะ ต่อมาท่านเลยเพิ่มตัวว่านที่ทำให้สีผึ้งเป็นสีเขียวมากกว่าเก่าเลยเป็นเหตุทำให้สีผึ้งเขียวของท่านมี ความเข้มมากขึ้น

#รูปที่3 เป็นตัวอย่างที่นำสีผึ้งไปส่องกับไฟให้เห็นมวลสาร#
ราคาเปิดประมูล99 บาท
ราคาปัจจุบัน129 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูล - 03 ก.ค. 2564 - 15:08:11 น.
วันปิดประมูล - 04 ก.ค. 2564 - 18:50:07 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลแทนบางนา (1.3K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     129 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    ittipat (1.3K)

 

Copyright ©G-PRA.COM