(0)
พระขรรค์ พระพุทธจักรพรรดิเหนือพรหม หลวงตาม้าเสก






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องพระขรรค์ พระพุทธจักรพรรดิเหนือพรหม หลวงตาม้าเสก
รายละเอียดรุ่นมหาเมตตา)
ปลายของพระขรรค์เป็นรูปลักษณ์ของ พระพุทธเจ้าทรงเครื่องจักรพรรดิ นั่งอยู่เหนือพรหม หรือเรียกว่า พระเหนือพรหม เน้นถึงความเมตตาไม่มีประมาณ ความเมตตาเป็นคุณลักษณะเอกของพระโพธิสัตว์ ซึ่งมุ่งช่วยเหลือโลกของโอปปาติกะ มนุษย์ และสัตว์ทั้งหลาย ที่ยังเวียนว่ายตายเกิด และผู้ใดที่นำหลักพรหมวิหาร 4 มาใช้ควบคู่ในการดำเนินชีวิต แล้วจะพบแต่ความราบรื่นและคล่องตัว
วัตถุดิบที่นำมาสร้างคือเนื้อสำริด ฝีมือการสร้างอย่างปราณีต รายละเอียดคมชัด หลวงตาม้า เมตตาอธิษฐานจิตและจารด้วยตัวเองทุกด้าม
#ความหมายของพระเหนือพรหม
ซึ่งพระเหนือพรหม นั้นอ้างถึงชัยชนะตอนที่พระพุทธเจ้า ทรงโปรดท้าวพกาพรหม ซึ่งในอดีตเป็นมารดาของพระพุทธเจ้าในสมัยที่พระองค์ยังเสวยพระชาติเป็นพระกาเผือก เนื่องจากท้าวผกาพรหม ได้จุติเป็นพรหมอยู่เป็นเวลานานมากๆ เลยเกิดมิจฉาทิฏฐิ และคิดว่าตัวเองมีฤทธิ์มากไม่มีใครเทียบ ด้วยเข้าใจว่าพรหมคือสิ่งสูงสุดที่เป็นอัตตา พระพุทธเจ้า ทรงเสด็จขึ้นไปยังพรหมโลกและทรงปราบพยศท้าวพกาพรหมให้สามารถลดทิฏฐิมานะลงได้ เมื่อท้าวพกาพรหมลดมานะลงแล้วพระองค์ได้แสดงธรรม จนต่อมาได้ดวงตาเห็นธรรมได้เป็นพระอริยบุคคล
กล่าวถึงพุทธคุณ และปาฏิหาริย์ของ
พระเหนือพรหม ใครมีไว้บูชา เรื่องร้ายจะกลับกลายเป็นดี คนดวงตกก็รอดได้ จากร้ายกลายเป็นดี เป็นมิตรกับวิญญาน คุณไสยมนต์ดำมิอาจครอบงำ จากศัตรูกลายเป็นมิตร บูชาติดตัวไว้ เทพ พรหม เทวดาและมนุษย์รักใคร่เมตตาปราณี

ฝอยการใช้พระขรรค์จักรพรรดิ

ฝอยการใช้พระขรรค์จักรพรรดิ ผู้ที่มีวาระได้ไปจะได้ใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวม ไม่เก็บเอาไว้เฉยๆ ตามที่หลวงตาม้าท่านเน้นย้ำเสมอว่า ทำอะไรให้ทำให้มีประโยชน์ แล้วให้มีประโยชน์มากๆ ด้วย (เป็นการฝึกปัญญาบารมี) แล้วให้เน้นเรื่องการปฏิบัติธรรมเป็นอันดับแรกเป็นหนึ่งในอุบายที่น้อมนำยกจิตเราให้เข้าสู่กระแสธรรม ที่จริงแล้วการใช้พระขรรค์จักรพรรดิ ก็แฝงไปด้วยกุศโลบายหลายอย่าง การใช้พระขรรค์ที่จะให้ได้ผลดีสามารถช่วยเหลือมนุษย์ และภพภูมิได้อย่างเต็มกำลังนั้น ผู้ใช้พระขรรค์ธาตุขันธ์จะต้องพร้อมสมบูรณ์ จิตต้องมีกำลังในขณะที่ใช้พระขรรค์ ผู้ใช้พระขรรค์จะต้องวางจิตให้ทรงพรหมวิหาร ๔ หากทำได้ตามนี้ ไม่ว่าจะนำพระขรรค์ไปใช้ประโยชน์อย่างไร ก็จะประสบผลสำเร็จทุกประการ อย่าลืมเรื่องสำคัญ ว่าเราต้องหมั่นฝึกปฏิบัติทำสมาธิ เพื่อให้มีกำลังเมื่อถึงเวลานำพระขรรค์ไปใช้งานจริง จะได้ใช้พระขรรค์ได้อย่างเต็มที่ เต็มกำลัง ที่กล่าวมานั้นเป็นกุศโลบายที่ใช้ได้ผลจริงทำได้จริงเป็นการฝึกจิตเดินจิตอย่างหนึ่งที่มีประโยชน์แก่มนุษย์และภพภูมิเป็นอย่างมากฝอยการใช้พระผงกรรมฐานก็จะมีความคล้ายคลึงเหมือนกับการใช้พระขรรค์ แต่พระขรรค์นั้นจะมีจุดเด่นที่แตกต่างออกไปหลายประการด้วยกันเช่น

๑. รูปลักษณ์พระขรรค์จักรพรรดินี้มีลักษณะเป็นรูปลักษณ์ของอาวุธพระจักรพรรดิ มีพลานุภาพมาก รุนแรงดุดันใช้ทั้งป้องกันและปราบทุกสิ่งที่ไม่ดี รวมทั้งคุณไสยอวิชชาทุกชนิด การสร้างพระขรรค์จักรพรรดิตามสูตรหลวงปู่ดู่ นั้น ท่านรวมบารมี ๓๐ ทัศ ด้วย จึงมีผลเชิงเมตตา เรียกว่า ปราบด้วยธรรม ปราบด้วยบารมี เรียกว่า ปราบในโปรด โปรดในปราบ (เป็นบารมีของพระมหาโพธิสัตว์ ที่จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในกาลข้างหน้า)

๒. การนำพระขรรค์จักรพรรดิไปใช้รักษาโรคภัยไข้เจ็บก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถกระทำได้อย่างดีเยี่ยม

๓. พระขรรค์จักรพรรดินี้สามารถอธิษฐานขอใช้งานพระขรรค์แบบสารพัดนึกเฉกเช่นเดียวกับแก้วสารพัดนึกทุกประการ

ความรู้เกี่ยวกับพระเจ้า“จักรพรรดิ”

๑. พระขรรค์จักรพรรดินี้หลวงปู่ดู่ได้รวม สมบัติจักรพรรดิ ทุก ประการ ไว้ภายในพระขรรค์จักรพรรดินี้แล้ว

๒. พระขรรค์จักรพรรดินี้สามารถน้อมนำเอาอาวุธพระจักรพรรดิอีกรูปลักษณ์หนึ่งออกมาได้ (หนึ่งในสมบัติจักรพรรดิ) คือกงจักรพระจักรพรรดิ (จักรแก้ว) เรื่องนี้หลวงตาท่านยืนยัน พร้อมทั้งมีการถ่ายรูปติดกงจักรพระจักรพรรดิที่พระขรรค์ด้วย

๓. รัศมีการใช้งานของพระขรรค์จักรพรรดิสามารถน้อมจิตส่งไปได้ไกลมาก อธิษฐานยืดพระขรรค์ได้ไกลถึงพรหมโลกเลยทีเดียว อย่างการรักษาโรคเราอยู่ต่างประเทศก็สามารถรักษาคนที่อยู่ประเทศไทยได้ อุปมาเหมือนเราใช้พระขรรค์ไปแตะที่ตัวเขาจริงๆ (พลังงานของพระขรรค์จะไปสัมผัสยังแตะกายทิพย์ของผู้ป่วย) ทั้งนี้ทั้งนั้นจะขึ้นอยู่กับกำลังใจของผู้ใช้พระขรรค์ด้วยว่ามีมากน้อยเพียงใด สามารถน้อมนำพลังงานของหลวงปู่มาใช้ประโยชน์ได้มากเพียงใดแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันเป็นความสามารถเฉพาะตน(ต้องหมั่นฝึกฝนปฏิบัติสมาธิ)

ตัวอย่างการใช้พระขรรค์จักรพรรดิ

๑. การรักษาโรคระยะไกล

ให้หาสื่อที่มีกระแสเกี่ยวเนื่องกันกับผู้ป่วย สามารถใช่รูปภาพ ชื่อนามสกุล หรือที่อยู่ของคนที่จะรักษา แล้วอธิษฐานถึงหลวงปู่ให้พระขรรค์ แผ่รัศมียืดยาวไปแตะที่ตัวคนไข้ แล้วกล่าวสัพเพฯ ฟอกธาตุสัก ๕ จบ แล้วให้เรียกวิญญาณเจ้ากรรมนายเวรของคนไข้มารับบุญ(อนุโมทนารับบุญของหลวงปู่) ซึ่งจะเป็นผลดีแต่เจ้ากรรมนายเวรของคนไข้นั้นเองไม่ได้ไปทำลายเจ้ากรรมนายเวรแต่เป็นการช่วยเหลือให้ปรับเปลี่ยนภพภูมิไปยังสภาวะที่ดีกว่าเดิม เพราะถ้าหากไม่ไปจัดการกับเจ้ากรรมนายเวรของคนไข้ โรคร้ายที่เป็นอยู่จะกลับเป็นซ้ำได้ เพราะไม่ได้รักษาที่ต้นเหตุที่เกิดจากบุพกรรม หากคนไข้อยู่ใกล้ๆ ก็ใช้ปลายพระขรรค์แตะไล่รักษาไปยังแหล่งโรค ซึ่งมองด้วยตาในแล้วจะเห็นเป็นรอยดำๆ มองให้ลึกไปอีกจะเห็นเจ้ากรรมนายเวร ลึกไปอีกจะเห็นสาเหตุด้วย เช่น คนที่เป็นโรคกระเพาะเรื้อรัง บางทีจะรู้เลยว่าคนนี้ชอบใช้ดาบแทงเขา ทีนี้เราก็แก้ถูกจุด เรียกเจ้ากรรมนายเวรมารับบุญ ไม่รับก็ครอบวิมานแบบอัดตูมให้เลย แบบพายุทอร์นาโด(หลวงตาท่านพาลูกศิษย์เรียกวิธีการแผ่บุญแบบอัดพลังไปยังเป้าหมายอย่างรุนแรงและรวดเร็วเหมือนพายุหมุนว่า ทอร์นาโด) จากนั้นก็ไล่ปลายพระขรรค์ไปทั่วตัวเพื่ออธิษฐานปรับธาตุให้สมดุลอีกครั้ง เรียกว่าใช้ทั้งขับ รักษา และฟื้นฟูนั่นเอง (ขับสิ่งไม่ดี เจ้ากรรมนายเวร รักษาจุดตำแหน่งที่เจ็บป่วย ฟื้นฟูสภาพร่างกายโดยรวมเป็น
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน250 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 15 ต.ค. 2564 - 06:57:14 น.
วันปิดประมูล - 16 ต.ค. 2564 - 07:11:29 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลnop168 (19.8K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 15 ต.ค. 2564 - 12:10:10 น.

ไม่มีรอยจารนะครับ แต่เสกแน่นอน


 
ราคาปัจจุบัน :     250 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    ekanut2511 (74)

 

Copyright ©G-PRA.COM