(0)
พระอุปัทเทยยะ เลข๑๘ หลวงพ่อหนุน วัดพุทธโมกข์ องค์นี้รวม 3 สี เงิน ทอง น้ำเงิน สวยมาก ก้นฐานอุดจีวร เกศาหลวงพ่อหนุน สายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องพระอุปัทเทยยะ เลข๑๘ หลวงพ่อหนุน วัดพุทธโมกข์ องค์นี้รวม 3 สี เงิน ทอง น้ำเงิน สวยมาก ก้นฐานอุดจีวร เกศาหลวงพ่อหนุน สายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
รายละเอียดเมื่อสิบกว่าปีก่อนหลวงพ่อหนุน สุวิชโยท่านได้เดินธุดงค์ไปทั่วประเทศ จนไปถึงเมืองลำปาง มีนิมิตว่าเทวดามาบอกให้เข้าไปเอาพระในหุบเขา มีถ้ำลึกลับที่มีสมบัติมีพระพุทธรูปโบราณอยู่ ฝันติดต่อกันอยู่หลายครั้ง จึงได้เดินค้นหาจนไปถึงถ้ำในป่าลึกตามนิมิต แต่ไม่พบองค์พระมีแต่ชิ้นหนังที่รองฐานพระมีอักขระอุปปัทเทยยะ อยู่ ท่านดูเสร็จแล้วเก็บไว้ที่เดิมไม่ได้เอากลับมา . หลายปีผ่านไปหลวงพ่อได้มาสร้างวัดพุทธโมกข์ วันหนึ่งในตอนค่ำพระหนุ่มในวัดมีอาการแปลกคล้ายถูกเจ้าเข้า ไปบอกหลวงพ่อให้ไปเอาพระองค์ที่ตามหาอยู่หลายปีเสด็จมาอยู่ที่วัดแล้ว หลวงพ่อและคณะจึงไปตรงสถานที่ที่พระหนุ่มบอก ซึ่งปัจจุบันคือบริเวณก่อนถึงโบสถ์ที่กำลังสร้าง หลวงพ่อได้เตรียมขุดพระซึ่งโผล่มาแต่ยอดเกศ ท่านลองเอามือเขี่ยและโกยดินบริเวณนั้น พระหลุดจากพื้นมาง่ายดาย พระองค์นี้มียันต์อุปัทเทยยะอยู่บริเวณใต้ฐานองค์พระ ซึ่งเคยเห็นในแผ่นหนังและตามนิมิต ท่านจึงนำมาเก็บรักษาไว้จนถึงทุกวันนี้ . เรื่องนี้ได้รับฟังมาจากอาจารย์อึ่ง วัดนาเดื่อ ลูกศิษย์ท่าน ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์คืนนั้นด้วย . ตำนานพระพุทธรูปลึกลับดำดินและยันต์อุปัทเทยยะ อันลือลั่น.! แห่งวัดพุทธโมกข์ (พระพุทธรูป-ยันต์ คู่บารมีหลวงพ่อหนุน) . บทที่1 ตอน พระพุทธรูปลึกลับดำดิน . ....ดึกสงัด..หลังจากทำวัตรเสร็จ4ทุ่ม ในคืนเดือนหงายของช่วงฤดูหนาวที่ผ่านพ้น ราวๆปี2524-2525 (จำพ.ศ.ไม่ได้) ณ ภายในวิหารสวดมนต์วัดพุทธโมกฯ (หลังที่ว่านี้ อยู่ด้านหน้าโบสถ์หิน สมัยนั้นมุงด้วยหญ้าคา)"ตอนนี้พระพุทธรูปองค์นั้นได้เสด็จมาถึงวัดพระคุณเจ้าแล้ว" . เสียงพูดของเด็กวัดรุ่นใหญ่วัยหนุ่มดังขึ้น ซึ่งเขากำลังคุยอยู่กับหลวงพ่อหนุนนั่นเอง ทั้งสองหันหน้าเข้าหากันในระยะห่างพอประมาณ แต่จะคุยกันด้วยเรื่องอะไรนั้น ผู้เขียนซึ่งนอนเล่นอยู่ใกล้ๆในระยะห่างประมาณ2วา(อยู่ไกลไม่ได้กลัวผี555) ก็ไม่ได้สนใจอะไรตามประสาเด็กๆ (ตอนนั้นผู้เขียนอายุได้ประมาณ9-10ขวบ) แต่พอได้ยินประโยคที่ว่า "ตอนนี้พระพุทธรูปองค์นั้นได้เสด็จมาถึงวัดพระคุณเจ้าแล้ว" ประโยคนี้แหละที่กระตุ้นเร่งเร้าให้ผู้เขียนหันมาสนใจในบุคคลทั้ง2ว่า เอ๊ะ..ผู้ใหญ่2คนนี้กำลังคุยเรื่องอะไรกัน? และสิ่งที่ชวนให้เกิดความพิศวง ชวนสงสัยอีกอย่างก็คือ..ตาเด็กวัดรุ่นพี่แข็ง..ไม่กะพริบ.!!?? (มาเข้าใจในภายหลังว่า อาการแบบนั้นเป็นอาการของพวกพรหมเขาลงมาประสานจิต หรือใช้กำลังฤทธิ์ควบคุมนั่นเอง แต่คนไทยเรานิยมเรียกว่า สิง หรือ เข้าสิง) . สักพักก็เห็นผู้ใหญ่ทั้ง2หยุดคุยกัน แล้วก็จัดแจงแต่งดอกไม้5คู่ เทียนเบี้ย5คู่ใส่จาน แล้วพากันลุกเดินออกไปข้างนอก โดยมุ่งหน้าไปด้านทิศใต้บริเวณลานธรรมปริวาสฯ ซึ่งแต่ก่อนข้างๆลานธรรมนี้จะมีคลองน้ำธรรมชาติ อันเกิดจากการไหลเซาะของน้ำ หากเป็นช่วงหน้าแล้งคลองที่ว่าจะแห้ง และมีหาดหินลูกรังก้อนเล็กๆน่านังเล่นมาก ตอนนี้ผู้เขียนจึงอดไม่ได้ที่จะต้องลุกเดินตามไปดูด้วยความอยากรู้ โดยมีเด็กวัดรุ่นพี่เป็นผู้เดินนำทาง ตามด้วยหลวงพ่อหนุนถือขันธ์ดอกไม้เดินอยู่กลาง แล้วก็ผู้เขียนเดินรั้งท้าย(อย่างกระชันชิดพระกลัวผี) . สักพักก็มาถึงคลองน้ำ (ในปัจจุบัน จะเป็นบริเวณด้านขวามือหลังพระประธานลานธรรมปริวาสฯ) พอลงมาไปถึงคลองก็เลี้ยวขวา เดินเลาะไปตามหาดหินลูกรัง เดินไปสักพักประมาณ30วา เด็กวัดรุ่นพี่ก็นิ่ง ซึ่งมีความหมายว่า "ถึงแล้ว" จากนั้นหลวงพ่อหนุน ก็นั่งลงด้วยอาการสำรวมระวังตั้งใจ วางขันดอกไม้ลง จากนั้นท่านก็ใช้มือทั้งสองข้าง คุ้ยหินลูกรังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนนี้ผู้เขียนพยายามเพ่งสายตาฝ่าแสงจันทร์ในคืนเดือนหงายเพื่อที่จะเห็นให้ได้ว่า พระอาจารย์ท่านคุ้ยหาอะไรกัน.!? บรรยากาศตอนนั้น ดู สงบ..เงียบงัน..คุ้ยลึกลงไปไม่ถึงศอก ทันใดก็ปรากฎว่ามีวัตถุลักษณะกลมๆ มียอดแหลมๆ โผล่ปรากฎแก่สายตา. แม้ว่าแสงจันทร์คืนนั้นอาจจะให้ความสว่างได้ไม่มากนักก็ตาม แต่ลักษณะของสิ่งที่เห็นนั้น ทำให้ผู้เขียนมั่นใจร้อยเปอร์เซนว่า สิ่งนั้นคือ เศียรพระพุทธรูป.!! ผู้เขียนอุทานในใจ อ๋อ ที่แท้พวกผู้ใหญ่พากันมาเอาพระพุทธรูปนี่เอง . แล้วหลวงพ่อหนุนก็ใช้สองมือช้อนพระพุทธรูปองค์นั้นขึ้นมาด้วยอาการเคารพและระมัดระวังมาก ต่อจากนั้นจึงได้อุ้มองค์พระเข้าปะดิษฐานในวิหารเพื่อสักการะบูชา โดยมีเด็กวัดรุ่นใหญ่และผู้เขียนเดินตามมาติดๆ พอวันต่อมาหลวงพ่อหนุนจึงสังเกตุดูเนื้อหรือลักษณะขององค์พระพุทธรูปว่ามีลักษณะอย่างไร จึงพอสรุปได้ว่าเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่โบราณเนื้อดินเผา ฐานขององค์พระกว้างประมาณคืบ และพอพลิกใต้ฐานองค์พระขึ้นมาดู จึงได้เห็นอักขระโบราณประมาณ5-6ตัว(ดูในภาพนะ)ซึ่งหลวงพ่อหนุนท่านเองก็อ่านไม่ออก . จากนั้นหลวงพ่อหนุนจึงได้นำองค์พระไปให้หลวงปู่เกตุ หรือท่านพระครูพิศาลสิกขยุต อดีตเจ้าอาวาสวัดยอดลำธารบ้านนาแก้ว ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ในละแวกรูปหนึ่งที่หลวงพ่อหนุนนับถือท่านอย่างมากได้ดู หลวงปู่เกตุ ท่านได้เมตตาอ่านและถอดใจความของอักขระนั้นว่า เป็นภาษาโบราณ แปลเป็นภาษาบาลีอ่านว่า อุปัทเทยยะ แปลจากบาลีมาเป็นภาษาไทยว่า ปราศจากอุปัทวันตรายต่างๆ(แนวๆนี้แหละ) . หลายๆวันต่อมา..ในทุกๆวันพระหรือวันธรรมดาที่มีพระ-เณร-โยม ไปวัดตอนกลางวันหรือไปฝึกพระกรรมฐานตอนกลางคืน หลวงพ่อหนุนท่านจึงมักจะนำเล่าที่มาของพระพุทธรูปลึกลับองค์นี้ให้บรรดาพระ-เณร-โยม ได้ฟังกันตามที่เวลาและโอกาศจะเอื้ออำนวย ว่าพระพุทธรุปองค์นี้มีที่มายังไง เหตุใดถึงได้ดำดินมาโผล่ที่วัดพุทธโมกฯ และอาศัยที่ผู้เขียนอยู่กับท่านประจำ(เฉพาะช่วงวัยเด็ก)พอได้ยินท่านเล่าบ่อยครั้งเข้า จึงทำให้ผู้เขียนพอจะลำดับเรื่องราวได้ดังต่อไปนี้... . บทที่2 ตอน: หลวงพ่อหนุนผจญถ้ำคอยหาย(ใครเข้าไปแล้วไม่ได้กลับออกมา) . แรงบันดาลใจที่ทำให้ผู้เขียน เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะ 2.1 กลัวจะเลือนหายไปจากความทรงจำ คงเพราะผู้เขียนอายุมากขึ้น(ปี2560ครบ43ปี) 2.2 ผู้อยู่ในเหตุการณ์คืนนั้นมีน้อยและแต่ละท่านก็จำวันเวลาคลาดเคลื่อนเสียแล้วผู้เขียนสังเกตุจากเวลาหลวงพ่อหนุนเล่าในงานปริวาสฯยุคปัจจุบัน ช่วงวันเวลาที่ท่านเล่าจะคลาดเคลื่อนไป เป็น10ปี และพระเณรที่ทันยุคนั้น ปัจจุบันนี้ ยังเหลือแต่ . -พระครูอุดมธีรคุณ วัดสามัคคีเทวนาราม บ.หนองผือน้อย อ.กุสุมาลย์ จ.สกลฯ -หลวงตาเชย วัดป่าสันติวนาวาส บ.หนองกุง ต.ภูเงิน อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด -หลวงตาคง กองงานเลขาหลวงพ่อหนุน วัดพุทธโมกพลาราม บ้านนาเดื่อ . 2.3 มีญาติโยมผู้มีจิตศรัทธา คิดอยากจะสร้างพระพุทธรูปองค์นั้น(ขอเรียกท่านว่าสมเด็จอุปัทเทยยะละกันนะ)เป็นแบบจำลอง เพื่อให้มหาชนได้นำไปสักการะบูชาบ้าง เลยโทรมาถามประวัติพระพุทธรูปจากผู้เขียน ผู้เขียนเลยรับปากไปว่า ขอเวลาทบทวนความจำแล้วจะโพสท์ลงเฟสบุ๊คให้อ่านกัน ..ด้วยความหัวใจที่เคารพสักการะในคุณความดี ที่สถิตทั่วอนันตจักรวาล.. (((อึ่งอ่างสามฤดู เลือดนาเดื่อทุกอณูเนื้อ เชื้อเพลิงไม่ต้อง))) Cr.เพจ วัดนาเดื่อ บ้านนาเดื่อ
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน8,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูล - 01 พ.ค. 2565 - 18:34:22 น.
วันปิดประมูล - 03 พ.ค. 2565 - 12:28:36 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลPipatchaiaot (1K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     8,000 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    nikornn14 (1.8K)

 

Copyright ©G-PRA.COM