(0)
พระนางกำแพง เนื้อดิน ลานทุ่งเศรษฐี จ.กำแพงเพชร แชมป์ติดรางวัลที่1 งานประกวด เลี่ยมทองสวยๆ พร้อมบัตรรับรอง GPra







ชื่อพระเครื่องพระนางกำแพง เนื้อดิน ลานทุ่งเศรษฐี จ.กำแพงเพชร แชมป์ติดรางวัลที่1 งานประกวด เลี่ยมทองสวยๆ พร้อมบัตรรับรอง GPra
รายละเอียดพระนางกำแพง เนื้อดิน ลานทุ่งเศรษฐี จ.กำแพงเพชร แชมป์ติดรางวัลที่1 งานประกวด เลี่ยมทองสวยๆ หนาทองดี G.79% พร้อมบัตรรับรอง GPra

องค์นี้เส้นสายลายพิมพ์ ติดชัดครบถ้วน หลักฐานเนื้อนุ่มนวล ว่านดอกมะขาม ฝ้า ราดำ แลกลมกลืน เป็นพระดูง่าย สามารถใช้แทน พระกำแพง "ซุ้มกอ" ทุ่งเศรษฐี เจ้าพ่อแห่งลานทุ่งเศรษฐี ได้อย่างสบายใจเลยครับ


พระนางกำแพง เนื้อดิน ลานทุ่งเศษรฐี กำแพงเพชร พบน้อยหายาก พระเครื่อง กำแพงเพชร นี้ได้ประมาณกันว่ามีอายุกว่า 700 ปี ขึ้นไป น่าบูชาและสะสมครับ ด้วประติมากรรมที่มีเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตัวของพระเครื่องเมืองกำแพงเพชร ความงดงามทางพุทธศิลปะ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศิลปะเชิงช่างของสกุลช่างชั้นสูง และความเยี่ยมยอดทางพุทธคุณครบเครื่องครบครัน โดยเฉพาะพระพิมพ์ที่ค้นพบในบริเวณลานทุ่งเศรษฐีหรือเมืองนครชุม ซึ่งมีทั้งพระเนื้อดินเผา พระเนื้อชิน พระเนื้อสัมฤทธิ์ และพระเนื้อว่านบุเงินบุทอง จึงล้วนเป็นที่นิยมสะสมของบรรดาพุทธศาสนิกชนและนักนิยมสะสมพระเครื่องทั้งหลาย

กำแพงเพชรเมื่อในอดีต
จากซากวัตถุโบราณบางชิ้นแสดงให้รู้ว่า กำแพงเพชร เมื่ออดีตนั้น คงเป็นส่วนหนึ่งที่ ขอม เข้ามามีอำนาจปกครองอยู่ จนกระทั่งถึง พ.ศ. 1890 พระยาเลอไท กษัตริย์องค์ที่ 4 ในราชวงศ์พระร่วงแห่งกรุงสุโขทัย ได้โปรดให้ฟื้นฟูบูรณะเมืองกำแพงเพชรขึ้นใหม่พร้อมกับพระราชทานนามว่า นครชุม แล้วยกให้เป็นเมืองลูกหลวงควบคู่กันไปกับ ศรีสัชนาลัย กำแพงเพชร แม้จะมีชื่อใหม่ในยุคนั้นว่า นครชุม แล้วก็ตาม ชาวเมืองก็ยังคงเรียกว่า ชากังราว หรือ นครชุม ตลอดมาจนถึงสมัยอยุธยา ในแผ่นดินของ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ จึงได้กลับมาเรียกเมือง 2 ชื่อนี้ใหม่อีกครั้งว่า กำแพงเพชร และได้กันเรื่อยมาจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ ก่อนหน้าที่จะเรียกกันว่า กำแพงเพชร นั้น ปรากฏว่าเมื่อ พ.ศ. 1900 ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ พระมหาธรรมราชาลิไทย ครองราชย์อยู่นั้น พระองค์นับเป็นกษัตริย์องค์เดียวของกรุงสุโขทัย ที่ทรงฝักใฝ่การพระศาสนามากกว่าด้านการทหาร และในช่วงระยะ พ.ศ. 1900 ดังกล่าวนี้เอง กำแพงเพชร นับว่าเป็นเมืองสำคัญยิ่งนัก ทั้งนี้ก็เพราะ พระพุทธศาสนา ได้เจิดจ้าขึ้นอย่างคาดไม่ถึง จากศิลาจารึกหลักที่ 3 ได้แสดงให้รู้ว่า พระมหาธรรมราชาลิไทย ได้เสด็จไปสถาปนาพระบรมธาตุ, ปลูกพระศรีมหาโพธิ์, และยังได้บำเพ็ญพระราชกุศลเกี่ยวกับการพระศาสนาไว้ ณ ที่ นครชุม นั้นอีกเป็นอันมาก
นอกจากนั้น กำแพงเพชร จากตำนานยังได้กล่าวไว้ว่า เมืองนี้ได้เคยเป็นที่ประดิษฐานองค์พระแก้วมรกต, และพระพุทธสีหิงค์อีกด้วย

เมือง กำแพงเพชร นี้ได้ประมาณกันว่ามีอายุกว่า 700 ปี ขึ้นไป นับเป็นเมืองหน้าด่านที่ต้องเผชิญกับภัยสงครามตั้งแต่สมัยอยุธยาเรื่อยมา จนถึงสมัยกรุงธนบุรี ตั้งแต่ พ.ศ. 1926-2317
ราคาเปิดประมูล900 บาท
ราคาปัจจุบัน12,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 14 มิ.ย. 2565 - 14:51:02 น.
วันปิดประมูล - 23 มิ.ย. 2565 - 21:27:21 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลmidori (5.6K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 14 มิ.ย. 2565 - 14:51:14 น.



พระนางกำแพง เนื้อดิน ลานทุ่งเศรษฐี จ.กำแพงเพชร แชมป์ติดรางวัลที่1 งานประกวด เลี่ยมทองสวยๆ หนาทองดี G.79% พร้อมบัตรรับรอง GPra

องค์นี้เส้นสายลายพิมพ์ ติดชัดครบถ้วน หลักฐานเนื้อนุ่มนวล ว่านดอกมะขาม ฝ้า ราดำ แลกลมกลืน เป็นพระดูง่าย สามารถใช้แทน พระกำแพง "ซุ้มกอ" ทุ่งเศรษฐี เจ้าพ่อแห่งลานทุ่งเศรษฐี ได้อย่างสบายใจเลยครับ


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 14 มิ.ย. 2565 - 14:51:35 น.



องค์นี้เส้นสายลายพิมพ์ ติดชัดครบถ้วน หลักฐานเนื้อนุ่มนวล ฝ้า ราดำ แลกลมกลืน เป็นพระดูง่าย ตามมาตราฐานสากล...

จัดส่งพร้อมใบประกาศและบัตรรับรอง.


ข้อมูลเพิ่มเติม 3 - 14 มิ.ย. 2565 - 14:52:46 น.



#"มีกูแล้วไม่จน" พระนางกำแพง เนื้อดิน ลานทุ่งเศษรฐี จ.กำแพงเพชร ใช้แทนพระกำแพงซุ้มกอได้อย่างสบายใจเลยครับ นอนมาในกรุเดียวกัน.

พระนางกำแพงองค์นี้เส้นสายลายพิมพ์ ติดชัดครบถ้วน หลักฐานเนื้อนุ่มนวล ว่านดอกมะขาม ฝ้า ราดำ แลกลมกลืน เป็นพระดูง่าย ตามมาตราฐานสากล

"ใครมีกูไว้ไม่จน" เนื้อดินกรุบรมธาตุ แท้หายากและราคาไปไกลแล้ว ประวัติชัดเจนมีอยู่ในงานประกวด ครับ
ตำนานพระกรุทุ่งเศรษฐีที่ทำให้ได้รับความนิยมมากกว่ากรุอื่นๆก็คือเรื่องประวัติการสร้างพระ คนส่วนใหญ่เคยได้ยินเรื่องราวของแผ่นลานเงินที่จารึกประวัติการสร้างพระซุ้มกอกรุบรมธาตุ ที่มีบทความตอนหนึ่งว่า " ใครมีกูไว้ไม่จน " ซึ่งมีตำนานเล่าขานกันมาแต่ยุคโบราณว่า พระมหาเจดีย์องค์นี้นั้นเจ้าพระยาศรีธรรมโศกราชได้สร้างขึ้นเป็นพุทธบูชา ซึ่งคณะผู้สร้างประกอบไปด้วย พระฤๅษี สมณชีพราหมณ์ พราหมณาจารย์ มาประชุมพร้อมกันจักสร้างพระพิมพ์เพื่อทำการบรรจุเข้าไว้ในองค์พระมหาเจดีย์เพื่อเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา

จำนวนกรุต่างๆในจังหวัดกำแพงเพชรตามประวัติรวบรวมได้ประมาณ 53 กรุ จะมีกรุทุ่งเศรษฐีรวมอยู่ด้วยมีจำนวน 9 กรุ วิธีการแบ่งกรุโดยทั่วไปอาศัยเส้นลำน้ำแม่ปิงเป็นหลัก แนวลำน้ำแม่ปิงไหลจากเหนือลงใต้ ให้นับทางฝั่งขวาของลำน้ำซึ่งเป็นทุ่งกว้างอยู่ตรงข้ามตัวเมืองกำแพงเพชร เรียกว่าทุ่งเศรษฐี

กรุทุ่งเศรษฐี ( 9 กรุ)ประกอบด้วย
1)วัดพระบรมธาตุ
2)วัดหนองพิกุล (นิยมเรียกสั้นๆว่า วัดพิกุล)
3)วัดซุ้มกอ หรือ นาตาคำ
4)บ้านเศรษฐี
5)วัดฤาษี
6)วัดน้อย หรือ ซุ้มกอดำ
7)วัดหนองลังกา
8)วัดเจดีย์กลางทุ่ง
และ 9)วัดหัวยาง

ทำไมคนทั่วไปจึงนิยมพระกรุทุ่งเศรษฐีมากกว่ากรุอื่น
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้พระกรุทุ่งเศรษฐีได้รับความนิยมมากกว่ากรุอื่นๆก็คือเรื่องประวัติการสร้างพระ คนส่วนใหญ่เคยได้ยินเรื่องราวของแผ่นลานเงินที่จารึกประวัติการสร้างพระซุ้มกอกรุบรมธาตุ ที่มีบทความตอนหนึ่งว่า " ใครมีกูไว้ไม่จน "
จากประสบการณ์ของผู้บูชาเล่าลือกันว่า มีพุทธคุณดีทางแคล้วคลาด เมตตาสูง และอำนวยโชคลาภโภคทรัพย์มิได้ขาดมือ

พระเครื่องในสกุลกำแพงเพชรนั้น มีตำนานปรากฏชัดเจนจากการพบจารึกบนแผ่นลานเงิน ในกรุขณะรื้อพระเจดีย์องค์ใหญ่ของวัดพระบรมธาตุ เมืองนครชุม และเมื่อ พ.ศ.๒๓๙๒ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี แห่งวัดระฆังฯ ซึ่งขึ้นมาเยี่ยมญาติที่เมืองกำแพงเพชร ก็ได้อ่านศิลาจารึกอักษรไทยโบราณ
ที่วัดเสด็จ ฝั่งเมืองกำแพงเพชรมีอยู่ในจารึกได้กล่าวถึงพิธีการสร้างพระและอุปเท่ห์การอาราธนาพร ะ รวมถึงพุทธานุภาพที่มหัศจรรย์อย่างยิ่งของพระเครื่องสกุลกำแพงเพชรทั้งหลาย จากหลักฐานการศึกษา เทียบเคียงทั้งหลายมีข้อสันนิษฐาน ที่น่าเชื่อถือได้โดยสรุปว่า พระกำแพงเพชรนั้นสร้างโดยพระมหาธรรมราชาลิไท
เมื่อครั้งดำรงพระยศผู้ครองเมืองชากังราว ในฐานะเมืองหน้าด่านสำคัญของอาณาจักรสุโขทัย ก่อนที่จะได้ทรงรับสถาปนาเป็นกษัตริย์องค์ที่ ๕ แห่งราชวงศ์สุโขทัยและ ปลุกเสกโดยพระฤๅษี ดังนั้นอายุการสร้างของพระกำแพงเพชรจนถึงปัจจุบันจึงมีประมาณ ๗๐๐-๘๐๐ ปี พระกรุเมืองกำแพงเพชรกำเนิดที่พระบรมธาตุนครชุม
จังหวัดกำแพงเพชร เป็นพระเครื่องอันดับหนึ่ง ของเมืองกำแพงเพชรมาช้านาน พระที่พบในบริเวณทุ่งเศรษฐีนี้ถ้าเป็นพระเนื้อดินเผาแล้วจะมีเนื้อที่ละเอียดอ่อน พุทธลักษณะเป็นพระเนื้อดินผสมว่านและเกสรดอกไม้ พระเครื่องเมืองกำแพงเพชร เริ่มเป็นที่รู้จักและนิยมกันขึ้นมา ในสมัยของพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ ๕
"พุทธคุณของพระกรุเมืองกำแพงเพชร เน้นหนักทางโภคทรัพย์และ มหานิยม" ผู้ใดมีไว้ในครอบครองจะส่งผลความเจริญก้าวหน้าให้กับชีวิต มีครบเครื่องไม่ว่าเรื่องเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ตลอดจนเรื่องโชคลาภ จนมีคำพูดที่พูดติดปากกันมาแต่โบราณกาลว่า “มีกูแล้วไม่จน” ถ้าไปในที่ต่างๆ อยากกินน้ำ หาน้ำไม่ได้
ท่านให้อาราธนาพระใส่ไว้ในปาก หายอยากน้ำแล ถ้าเอาพระไว้บนศีรษะแล้ว ปืนแลหน้าไม้ยิงมาเป็นห่าฝนก็ไม่ถูกตัวเรา เป็นต้น มีเรื่องเล่าขานต่อๆ กันมาว่า แม้องค์พระจะชำรุดเหลือเพียงครึ่งองค์ หรือแค่เพียงส่วนพระบาทหายไป พุทธคุณพระกำแพง เหล่านี้เชื่อถือกันมาช้านานแล้วตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ฯลฯ

ผู้มีวาสนาได้ครอบครองพระเครื่องเมืองกำแพงฯ มีตำนานเล่าขานกัน มาดังนี้แล ฯ

๑) ก่อนคล้องพระ ให้อาราธนาว่า .. พุทธ สัง มัง คะลัง โล เก ฯ .. พุทธัง อาราธนานัง ธัมมัง อาราธนานัง สังฆัง อาราธนานัง ฯ .. พุทธัง ประสิทธิ เม ธัมมัง ประสิทธิ เม สังฆัง ประสิทธิ เม ฯ แล้ว บริกรรมว่า " อิ ติ ปิ โส ภะ กู รา ติ ฯ " 3 จบ หรือ 7 จบ แล้วตามด้วย " อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ ฯ " 3 จบ หรือ 7 จบ จะศักดิ์สิทธิ์ทุกประการแล ฯ

๒.) จะออกผจญข้าศึก ศัตรู หรือ ออกสงคราม ให้ เอาพระใส่น้ำมันหอม หรือน้ำมันงา เสกด้วย นวหรคุณ " อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ ฯ " แล้วเอาน้ำมันหอมทาผม จะศักดิ์สิทธิ์ ตามปรารถนาทุกประการแล ฯ

๓) จะให้คงกระพันชาตรี ให้เอาพระสรงน้ำมันหอม แล้วเสกด้วย " อิ ติ ปิ โส ภะ กู รา ติ ฯ " เสก ๓ จบ หรือ ๗ จบ แล้วใส่ในขันสำริด อธิษฐานตามปรารถนาเถิด จะเกิดผลทุกประการ แล ฯ

๔) จะให้เป็นเมตตามหานิยม ใคร่มาตุคาม ให้เอาพระสรงน้ำมันหอมใส่ใบพลูทาตัว จะประสิทธิ์แก่ชนทั้งหลาย แล ฯ

๕) จะให้สง่า เจรจาเป็นที่น่าเกรงขาม เป็นมหาอำนาจ ให้เอาพระใส่น้ำมันหอม แล้วนำน้ำมันหอม ไปหุงขี้ผึ้ง เสกด้วย " อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ ฯ " ๗ จบ แล้วใช้ขี้ผึ้งทาปาก

๖) จะให้ค้าขายดี มหานิยม เดินทางไกล ขึ้นรถลงเรือ ให้นมัสการด้วย หัวใจพาหุง " พา มา นา อุ กะ สะ นะ ทุ ฯ " แล้ว เอาพระสรงน้ำมันหอม แล้วเสกด้วยพระพุทธคุณ " อิ ติ ปิ โส ภะ กู รา ติ ฯ "๗ จบ จะ ประสิทธิ์ แก่คนทั้งหลายแล ฯ

๗) จะให้สวัสดี สถาพรทุกวัน ให้เอาดอกบัว หรือ ดอกไม้บูชาทุกวัน ปรารถนาสิ่งใดจะสมปรารถนาทุกประการแล ฯ

๘) จะให้ความสูญ ให้เอาพระสรงน้ำมันหอม แล้วเอาด้าย ๑๑ เส้นชุบน้ำมันหอมแล้วนำไปทำไส้เทียนถวายพระ แล้วอธิษฐานตามปรารถนาแล ฯ

๙) ถ้าจะสระหัว ให้เขียนยันต์ไส้เทียนใส่ไส้เทียน ยันต์ตามนี้ ขณะเขียนยันต์ใส่น้ำสระผม ให้บริกรรมคาถาดังนี้
" ทะ ธิ วิ ผะมะ อะ มะ พะ ปะติ พะ มง คุ ฯ อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ ฯ "แล้ง เสกด้วยคาถาว่า " นะ โม ฯ ๓ จบ …. แล้วว่า พาหุง " พา มา นา อุ กะ สะ นะ ทุ ฯ" แล้วว่า " อิ ติปิโส ภะคะวา มหาเชยยังมังคะลัง " แล้วตามด้วย " นะ มะ นะ อะ นอกอ นะ กะ กอ ออ นอ อะ นะอะกะอัง อุมิ อะมิ มะหิสุตัง สุนะพุทธัง อะสุนะอะ ฯ แล้วว่า " กิริมิทิ กุรุมุทุ กะระมะทะ เกเรเมเท ฯ " เสกแต่ละบทว่า ๓ จบ หรือ ๗ จบ แล ฯ จากนั้นจึงลงมือสระผม แล


 
ราคาปัจจุบัน :     12,000 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    mixsick150 (1.7K)(1)

 

Copyright ©G-PRA.COM