ชื่อพระเครื่อง | เงินตรานอโม (หัวนะโม) ชนิดขี้หนู เมืองนครศรีธรรมราช |
รายละเอียด | ตามความเห็นของขุนอาเทศคดี(กลอน มัลลิกะมาส)เขียนไว้ในบทความเรือง เบี๊ยและเงินตราพดด้วงในเมืองนครศรีธรรมราช ในหนังสืออนุสรณ์ ในงานพระราชทานเพลิงศพขุนอาเทศคดีและอาจารย์นะมา โสพาพงศ์ ได้เขียนบทความ เรืองเงินตรานโม ในสารนครศรีธรรมราช เดือน กรกฏาคม 2514 กล่าวถึงเรืองการเกิดเฟื้องเงินตรานโมไว้ว่า เงินตรานโมมีมานานแล้ว คือตั้งแต่ครั้งพระยาศรีธรรมโศกสร้างเมืองนครศรีธรรมราช ประมาณกว่า 1,000 ปี มาแล้ว(มยูร กาญจนสุวรรณ) โดยพระยาศรีธรรมโศกราชทรงปรึกษากับพระมหาเถระและอธิบดีพราหมณ์เพื่อหาอุบายป้องกันโรไข้ห่า ซึ่งยังเกิดอยู่บ่อยๆให้หายขาด พระมหาเถระและอธิบดีพราหมณ์ เห็นพร้อมกันให้เข้าพิธีทำเงินตรานโม
การเข้าพิธีทำเงินตรานโมในครั้งนั้น ตามตำนานพระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราชกล่าวว่า เอาไกรลาสมาตอกตรานโมคำว่าไกรลาส พจนานุกรมหมายความว่าสีขาวเหมือนเงินยวง แต่ในตำนานจดหหมายเหตุที่ได้จากวัดเวียงสระกล่าวว่าใช้เนาวโลหะผสมกันและซัดทอดว่านยาอันมีสรรพคุณวิเศษในเวลาเข้าพิธีหลอม การเข้าพิธีหลอมนั้นตั้งโรงพิธีในบริเวณวัดพระบรมธาตุด้านทิศบูรพา ตลอดเวลาที่เริ่มผสมแร่ธาตุแลซัดว่ายาจนนำเข้าพิมพ์ตอกตรานโม พระภิกษุสงฆ์และพรามหณ์จะต้องเข้าพิธีตามลัทธิ มีสวดพระพุทธคุณและบูชาเทพยดาจนสำเร็จให้ได้จำนวนเงินตรานโม 9 บาตร เมือครบแล้วนำเงินตรานโมทั้ัง 9 บาตร ไปเข้าโรงพิธีอาฏานา(คือตั้งพิธีให้สวดอาติยสูตร สำหรับขับผี เสนียดจัญไร เมืองนครเคยทำกันมาแต่โบราณกาล ในเดือน 4 ของทุกปี เพิ่งมาเลิกเมื่อต้นรัชกาลที่ 7)ซึ่งแต่งไว้ ณ เชิงพระมหาเจดีย์เบื้องบูรพาทิศอีกครั้งหนี่ง ทั้งฝ่ายพุทธศาสนาและไสยศาสตร์ต้องทำพิธีอาฎานามีกำหนด 9 วัน 9 คืน ในบาตรเงินตรานโมทั้ง 9 นั้น ใช้หล่อน้ำไว้ด้วย ถือว่าเป็นน้ำพิธีเพื่อใช้กับเงินตรานโมขับไล่ผีไข้ห่าและเสนียดจัญไรได้ เมื่อเข้าพิธีครบกำหนดแล้ว พระมหาเถระผู้ทรงคุณวิเศษพร้อมด้วยพราหมณ์นำบาตรเงินตรานโมทั้ง 9 บาตรแยกย้ายไปกระทำพิธีอาถรรพเวท ฝังไว้ที่ประตูเมือง ทั่ง 9 และตามใบเสมากำแพงเมืองโดยรอบทั้ง 4 ทิศ ทั้งยังได้โปรยปรายเงินตรานโมและพรมน้ำมนตราธิคุณนั้นด้วย ตามถนนหนทางและสถานที่สำคัญทั่วเมือง เวียงวัง น้ำมนต์โปรยพรมโดยทั่้ว ส่วนที่ยังเหลือแจกจ่ายให้แก่ประชาชนทั่วไป และขณะที่ได้นำเงินตรานโมไปกระทำกิจอาถรรพเวทย์นี่ ทางโรงพิธีในวัดพระบรมธาตุ ทั้งฝ่ายพุทธศาสนาและพรหมณ์ยังคงสวดมนต์ร่่ายเวท และยิงพลุอยู่จนกระทั้งเสร็จพิธี ก็เป็นการเสร็จพิธีขับผีไข่ห่าและล้างเสนียดจัญไรของราชธานีแล้วโดยบริบูรณ์แต่นั้นมาไข้ห่ามิได้เกิดขึ้นอีกเลย ราษฎรอยู่เย็นเป็นสุขประกอบการทำมาหากินตั้งภูมิฐานมั่นคงไพศาลยิ่งขึ้นตามลำดับ
#เงินตรานโมที่ทำในครั้งนั้นมีสองชนิดคือ
1.เงินตาไก่(เฟื้องตาไก่)มีขนาดลักษณะดุจสัณฐานตาไก่
2.เงินขี้หนู(เฟื้องขี้หนู)มีขนาดเขื่องกว่า รูปยาวรีกว่าชนิดตาไก่เล็กน้อย
ส่วนผสมของเงินตรานโม
จากตำนานจดหมายเหตุที่ได้จากวัดเวียงสระ เขาบอกว่าใช้เนาวโลหะและ สัตตโลหะผสมกัน เนาวโลหะท่านผู้เฒ่าเล่าว่า การใช้แร่ธาตุผสมเป็นวัตถุคุ้มกันภัยนั้นในตำรามีอยู่หลายวิธี เช่น
สัตตโลหะ ใช้แร่ธาตุผสมกัน 7-9 อย่าง
เนาวโลหะใช้แร่ธาตุผสมกัน 9 อย่าง คือ
1.ทองคำ
2.ทองขาว(ทองอุไร)
3.ทองแดง
4. เงิน
5.เหล็ก
6.สังกะสี
7. ปรอท
8.พลวง
9.ตะกั่ว
*** หัวนะโม อ.ชุม ปี 13 นั้น ก็ใช้หัวนะโมเก่าที่หว่านรอบเมืองนครในครั้งเกิดโรคห่าระบาด ก็ได้หัวนะโมยุคแรกๆนี่แหละครับ นำมาหลอมสร้างเป็นหัวนะโมใหม่ ทำตามตำราเดิมตั้งแต่ครั้งอดีต |
ราคาเปิดประมูล | 2,500 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 2,550 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 50 บาท |
วันเปิดประมูล | - 04 ก.ค. 2565 - 12:32:39 น. |
วันปิดประมูล | - 15 ก.ค. 2565 - 12:25:25 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
ผู้ตั้งประมูล | w_siriwat (2K)
|