(0)
เหรียญหลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล รุ่นลาภผลพูนทวี เนื้อทองแดง ปี 2520 จ.อุดรธานี ตอกโค้ด นิยม พร้อมบัตรรับรอง G- PRA







ชื่อพระเครื่องเหรียญหลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล รุ่นลาภผลพูนทวี เนื้อทองแดง ปี 2520 จ.อุดรธานี ตอกโค้ด นิยม พร้อมบัตรรับรอง G- PRA
รายละเอียดเหรียญหลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล รุ่นลาภผลพูนทวี เนื้อทองแดง ปี 2520 จ.อุดรธานี ตอกโค้ด นิยม พร้อมบัตรรับรอง G- PRA
ราคาเปิดประมูล500 บาท
ราคาปัจจุบัน5,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 29 ต.ค. 2565 - 07:39:50 น.
วันปิดประมูล - 02 พ.ย. 2565 - 20:47:04 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลบรีสพระช่วย (2.6K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 29 ต.ค. 2565 - 07:40:19 น.



เหรียญหลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล รุ่นลาภผลพูนทวี เนื้อทองแดง ปี 2520 จ.อุดรธานี ตอกโค้ด นิยม พร้อมบัตรรับรอง G- PRA


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 29 ต.ค. 2565 - 07:40:32 น.



เหรียญหลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล รุ่นลาภผลพูนทวี เนื้อทองแดง ปี 2520 จ.อุดรธานี ตอกโค้ด นิยม พร้อมบัตรรับรอง G- PRA


ข้อมูลเพิ่มเติม 3 - 29 ต.ค. 2565 - 07:40:49 น.



เหรียญหลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล รุ่นลาภผลพูนทวี เนื้อทองแดง ปี 2520 จ.อุดรธานี ตอกโค้ด นิยม พร้อมบัตรรับรอง G- PRA


ข้อมูลเพิ่มเติม 4 - 29 ต.ค. 2565 - 07:41:18 น.



หลวงปู่ขาว อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี

อันที่จริงสถานที่ตั้งวัดได้เปลี่ยนนามไปแล้วตามการปกครอง จากที่อยู่ข้างต้นเป็น อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ด้วยถูกยกสถานะ อำเภอ ให้เป็นจังหวัด ทว่าผมถนัดปากจริง ๆ ให้ดิ้นตายกับที่อยู่เดิม จึงขอยกไว้คนเถิดจะว่าจมปลักก็ยอม

หลวงปู่ขาว อนาลโย เดิมชื่อ ขาว โคระถา เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2431 ณ บ้านบ่อชะเนง ต.หนองแก้ว อ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี บิดาชื่อ พั่ว มารดาชื่อ รอด โคระถา มีพี่น้องร่วมอุทร 7 คน โดยท่านเป็นบุตรคนที่ 4

ท่านแต่งงานเมื่ออายุได้ 20 ปี โดยอยู่กินกับ นางมี กระทั่งมีบุตรด้วยกัน 7 คน ต่อมาภรรยาท่านทำในสิ่งมิบังควรคือคบชู้สู่ชาย เป็นเหตุให้ท่านโกรธแค้นมากถึงกับเอามีดดาบติดตามไปหมายจะฆ่าคนทั้งสอง หากเมื่อท่านไปได้ครึ่งทางเกิดความคิดอันหนึ่งผุดขึ้นมาว่า

ที่คิดว่าเราเป็นฝ่ายดีเป็นฝ่ายถูกนั้น แต่เราก็ลุแก่อำนาจโทสะความอาฆาตมาดร้าย เราคิดจะฆ่าคนทีเดียวสองคน จะจัดว่าใครเลวร้ายกว่าใคร?

บัดนั้นเอง ท่านก็เกิดความสลดสังเวชขึ้นในจิต นึกเห็นแต่ความเมตตาสงสารและการให้อภัย ยกมือขึ้นประณมว่า สาธุ ๆ ที่พระธรรมมาโปรดปรานสงบเพลิงกิเลสลงจากใจได้ไม่ทำให้ท่านต้องตกนรก ครั้นพิจารณาเห็นความไม่เที่ยงในชีวิตทางโลกชัดแจ้งแก่จิตแล้ว ท่านจึงปลงใจบวชคิดปฏิบัติธรรมให้เต็มกำลังความสามารถตน

ท่านออกบวชครั้งแรกเมื่ออายุได้ 31 ปี ในฝ่ายมหานิกายที่ วัดโพธิ์ศรี บ้านบ่อชะเนง ต.หนองแก้ว อ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2462 มี พระครูพุฒิศักดิ์ เจ้าคณะอำเภอเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์บุญจันทร์เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และอยู่จำพรรษาที่วัดโพธิ์ศรีเพื่อศึกษาพระธรรมวินัยนี้ถึง 6 ปี

เมื่ออยู่ที่วัดนั้นได้เล็งเห็นโทษของเพื่อนภิกษุที่ไม่ปฏิบัติตามธรรมวินัย ทำให้สลดใจนักคิดขึ้นว่าเป็นดังนี้ก็ไม่สมเจตนาที่ออกบวชมาเพื่อมรรคเพื่อผล จึงไปกราบลาพระอุปัชฌาย์เพื่อออกปฏิบัติธรรม

หลวงปู่ขาวเที่ยวธุดงค์ไปเรื่อยจนได้ยินผู้คนเล่าขานถึงกิตติคุณในท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ท่านก็เกิดความกระหายใคร่จะได้พระแท้อย่างนี้เป็นครู จึงได้เดินทางออกตามหาอยู่เป็นนาน ผ่านป่าเขาลำเนาไพรจนถึงพระธาตุพนม ถึงอุดรธานี วกมาหนองคาย ด้วยเวลานั้นได้ทราบว่าท่านพระอาจารย์ใหญ่วิเวกมาจำพรรษาที่อำเภอท่าบ่อ

ครั้นหลวงปู่ได้มาอยู่ปฏิบัติกับท่านพระอาจารย์มั่น ก็รับรู้ได้ว่านี่คือครูบาอาจารย์ที่ใฝ่หา และนี่คือธรรมแท้ที่ได้ยิน แต่เวลาไม่นานนักท่านพระอาจารย์ใหญ่ก็ออกธุดงค์หนีหายไปอีกด้วยท่านไม่ปรารถนาคลุกคลีกับหมู่คณะเพราะท่านยัง ไม่จบกิจพระศาสนา

ต่อมาได้ทราบว่าท่านพระอาจารย์มั่นอยู่ที่เชียงใหม่ หลวงปู่ก็ตามไป เสาะหาไป ด้วยความยากลำบากกระทั่งได้พบและถือเป็นวาสนาอย่างที่สุด เมื่อท่านพระอาจารย์ใหญ่อนุญาตให้อยู่จำพรรษาด้วย

ครั้นอยู่ใกล้ครูผู้วิเศษสุด หลวงปู่ก็เร่งความเพียรเป็นการใหญ่แทบไม่หลับไม่นอน บางวันท่านเดินจงกรมสลับนั่งสมาธิจนสว่าง คืนหนึ่งจิตเกิดรวมลงอย่างเต็มที่ถึงฐานเดิมแห่งจิต พักใหญ่จึงถอนขึ้นมาแล้วเกิดโอภาสสว่างกระจ่างแจ้งในใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้ท่านอัศจรรย์เพลิดเพลินกับธรรมจนรุ่งสางทีเดียว

พอออกจากสมาธิหลวงปู่ก็รีบไปอุปัฏฐากท่านพระอาจารย์มั่นขนบริขารท่านลงมายังที่ฉัน แต่แล้วหลวงปู่ก็เห็นสายตาท่านพระอาจารย์ใหญ่จับจ้องมองท่านตลอดจนผิดสังเกต จากเดิมที่เคยกลัวเกรงท่านพระอาจารย์มั่นเอาหนักหนาอยู่แล้ว ครั้งนี้ยิ่งรู้สึกกระดากอายและหวั่นหนักเข้าไปอีก สำคัญว่าชะรอยเราคงทำอะไรผิดไปหรืออย่างไรแน่

ขณะที่ใจเต้นไม่เป็นส่ำ ท่านพระอาจารย์มั่นก็เปรยขึ้นมาว่า

“เออ...ท่านขาวนี้ภาวนาอย่างไร คืนนี้จิตจึงสว่างไสวมากผิดกับที่เคยเป็นมาทุก ๆ คืนนับแต่มาอยู่กับผม ต้องอย่างนี้สิจึงสมกับผู้มาแสวงธรรม ทีนี้ท่านทราบหรือยังว่าธรรมอยู่ที่ไหน คืนนี้สว่างอยู่ที่ไหนล่ะท่านขาว”

หลวงปู่ประณมมือตอบว่า “สว่างอยู่ที่ใจครับผม”

“แต่ก่อนธรรมไปอยู่ที่ไหนเล่าท่านจึงไม่เห็น นั่นแลธรรม ท่านจงทราบเสียแต่บัดนี้เป็นต้นไป ธรรมอยู่ที่ใจนั่นแล ต่อไปท่านจงรักษาระดับจิตระดับความเพียรไว้ให้ดีอย่าให้เสื่อม นั่นแลคือฐานของจิตฐานของธรรม ฐานของความเชื่อมั่นในธรรม และฐานแห่งมรรคผลนิพพานอยู่ที่นั่นแล…”

จากนั้นท่านพระอาจารย์มั่นได้กล่าวว่า “เมื่อคืนนี้ผมส่งกระแสจิตไปดูท่านเห็นจิตสว่างไสวทั่วบริเวณ กำหนดไปทีไรเห็นเป็นอย่างนั้นอยู่ตลอดจนสว่าง เพราะเมื่อคืนนี้ผมมิได้พักนอนเลย เข้าสมาธิภาวนาไปบ้าง ต้อนรับแขกเทพบ้าง กำหนดจิตดูท่านบ้างเรื่อยมาจนสว่างโดยไม่รู้สึก พอออกจากที่จึงต้องมาถามท่านเพราะอยากรู้เรื่องของหมู่คณะมานาน สบายไหม ? ... อัศจรรย์ไหม ?”

คราวนี้หลวงปู่ไม่กล้าเรียนตอบท่าน ได้แต่นิ่งเงียบไปด้วยความยำเกรงเป็นที่สุด นึกในใจว่าจะตอบไปเพื่ออะไรในเมื่อท่าน ส่อง มาเห็นตับเห็นปอดเราหมดแล้ว ทั้งที่เมื่อก่อนก็เชื่ออยู่แล้วว่าท่านพระอาจารย์มั่นสามารถรู้วาระจิตความคิดคน สัตว์ และวิญญาณได้ พอมาเจอเข้ากับตัวเช่นนี้ก็เพิ่มความระมัดระวังจิตเจ้าของยิ่งขึ้นไปอีก ทั้งเกรงกลัวท่านเป็นเท่าทวี

เมื่ออยู่ด้วยท่านพระอาจารย์ใหญ่กระทั่งท่านลงใจซึ่งกันและกัน หลวงปู่ขาวก็ได้รับอนุญาตให้ญัตติเป็นพระธรรมยุติได้ โดยท่านทำญัตติจตุตถกรรมพร้อมกับหลวงปู่หลุย จันทสาโรโดยหลวงปู่หลุยเป็นนาคขวาบวชก่อนท่าน 15 นาที และหลวงปู่ขาวเป็นนาคซ้าย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2468 ตรงกับ แรม 8 ค่ำ เดือน 6 ปีฉลู มีพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์

พอเป็นธรรมยุติก็สะดวกในการประกอบสังฆกรรมต่าง ๆ การอยู่จำพรรษาร่วมกันก็ราบรื่นไม่เป็นอุปสรรค หลวงปู่จึงทำความเพียรได้อย่างหมดห่วงกังวล และในที่สุดท่านก็ จบกิจพระศาสนา ลงที่กระต๊อบเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ณ บ้านโหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ จะพูดอีกทีว่าหลวงปู่ขาวเป็น...

พระอรหันต์ องค์หนึ่งก็ไม่ผิด

ไปดูอัฐิท่านได้

กระดูกคนทั่วไปมีหรือจะแปรเปลี่ยนให้มีลักษณ์ดังเพชร-พลอยได้ อย่าว่าแต่กระดูกเลย แม้เส้นเกศา... แม้เล็บมือ... แม้ชานหมาก หรือแม้แต่ อึ ของท่านก็เป็น...
พระธาตุ !

นี่คือเรื่องจริงซึ่งเกิดขึ้นในโลกที่ปกคลุมด้วยกิเลสตัณหาใบนี้ หลักฐานมีให้ดูอยู่พร้อมสรรพที่วัดถ้ำกลองเพลในปัจจุบัน เรื่องจริงอย่างนี้ใครเชื่อก็จริง หรือใครไม่เชื่อก็จริงอยู่อย่างนั้น เพราะสัจจะความจริงนั้นไม่ขึ้นกับเชื่อหรือไม่เชื่อของใคร

แต่อย่าปรามาสแล้วกัน


 
ราคาปัจจุบัน :     5,000 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    confirmed (163)

 

Copyright ©G-PRA.COM