| รายละเอียด | หลวงปู่เภา จันธธัมโม วัดป่าจอมตาล รุ่น ๑ เอกมงคล หนองคาย พระผู้เหยียบผ้าขาวม้าข้ามแม่น้ำโขง
เปิดตำนานพระอภิญญาลุ่มน้ำโขง'ญาท่านเภา'วัดบ้านเวินโพนพิสัย
จ.หนองคาย เป็นดินแดนที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในแถบลุ่มน้ำโขง มีพระเถราจารย์ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นครูบาอาจารย์ ต้นธาตุ ต้นธรรม หลายรูปด้วยกัน ล้วนแต่เป็นผู้มีความรู้ความสามารถในเรื่องคาถาอาคมและไสยเวทย์ จนเป็นที่เลื่องลือเล่าขานเป็นตำนานสืบทอดอย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้
อาทิ ญาท่านป้อง บ้านหนองกุ้ง, หลวงปู่คำสิงห์ สุภัทโธ วัดสิงหารินทาราม, หลวงปู่ด่อน อินทสาโร วัดถ้ำเกีย ฯลฯ ซึ่งส่วนมากท่านเหล่านี้ได้ล่วงลับไปแล้ว
แต่ที่ยังดำรงขันธ์อยู่ในขณะนี้ และผู้เขียนอยากแนะนำคือ ญาท่านเภา วัดบ้านเวิน ซึ่งผู้เขียนเองไม่เคยรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของท่านมาก่อน จนได้พูดคุยกับคุณเอก นาครทรรพ พี่ชายใจดี ผู้ที่สนใจในศาสตร์เดียวกัน ซึ่งปัจจุบันท่านได้พักร้อนงานการเมือง และได้หันมาศึกษาหาความรู้ด้านพระพุทธศาสนาในระดับปริญญาโท
คุณเอก เล่าว่า...ในช่วงเวลาที่ สปป.ลาว มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบใหม่ ทำให้บ้านเมืองเกิดความ
เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline
เปิดตำนานพระอภิญญาลุ่มน้ำโขง'ญาท่านเภา'วัดบ้านเวินโพนพิสัย
จ.หนองคาย เป็นดินแดนที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในแถบลุ่มน้ำโขง มีพระเถราจารย์ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นครูบาอาจารย์ ต้นธาตุ ต้นธรรม หลายรูปด้วยกัน ล้วนแต่เป็นผู้มีความรู้ความสามารถในเรื่องคาถาอาคมและไสยเวทย์ จนเป็นที่เลื่องลือเล่าขานเป็นตำนานสืบทอดอย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้
อาทิ ญาท่านป้อง บ้านหนองกุ้ง, หลวงปู่คำสิงห์ สุภัทโธ วัดสิงหารินทาราม, หลวงปู่ด่อน อินทสาโร วัดถ้ำเกีย ฯลฯ ซึ่งส่วนมากท่านเหล่านี้ได้ล่วงลับไปแล้ว
แต่ที่ยังดำรงขันธ์อยู่ในขณะนี้ และผู้เขียนอยากแนะนำคือ ญาท่านเภา วัดบ้านเวิน ซึ่งผู้เขียนเองไม่เคยรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของท่านมาก่อน จนได้พูดคุยกับคุณเอก นาครทรรพ พี่ชายใจดี ผู้ที่สนใจในศาสตร์เดียวกัน ซึ่งปัจจุบันท่านได้พักร้อนงานการเมือง และได้หันมาศึกษาหาความรู้ด้านพระพุทธศาสนาในระดับปริญญาโท
คุณเอก เล่าว่า...ในช่วงเวลาที่ สปป.ลาว มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบใหม่ ทำให้บ้านเมืองเกิดความไม่สงบขึ้น ชาว สปป.ลาว ต่างต้องหาที่พึ่งทางใจ โดยเฉพาะ ญาท่านเภา ได้เป็นที่พึ่งทางใจให้แก่ชาวลาวได้เป็นอย่างดี โดยต่างแวะเวียนมาให้ท่านลงน้ำมันงา จารศีรษะ และฝังทองคำดิบ เพื่อให้เกิดความแคล้วคลาดคงกระพัน ทำให้ชื่อเสียงของ ญาท่านเภา ขจรขจายไปทั่วทั้งสองฝั่งโขง
ต่อมาท่านได้ลี้ภัยสงครามมายังเมืองไทย เหตุเพราะท่านได้สักยันต์ให้ทหารปฏิบัติการฝ่ายตรงข้ามกับทางราชการ ลูกศิษย์ใกล้ชิดคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า...ขณะที่ท่านฝ่าวงล้อมทหารออกมา ท่านได้ใช้วิชากำบังร่าง หนีออกมาฝั่งไทยได้อย่างปลอดภัย ปัจจุบันท่านมีอายุ ๘๕ ปี จำพรรษา ณ วัดบ้านเวิน จ.หนองคาย จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งชาว จ.หนองคาย ให้ความเคารพนับถือในตัวท่านเป็นอันมาก
ญาท่านเภา เกิดในสกุล สาวรักษ์ เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๔๗๑ ณ บ้านดงกะลึม เมืองหาดทรายฟอง (ปัจจุบันขึ้นกับเมืองปากงึ่ม) แขวงนครเวียงจันทน์ สปป.ลาว เป็นบุตรคนที่ ๓ โดยมีพี่น้องทั้งหมด ๔ คน บิดาชื่อจารย์อุ่น มารดาชื่อ วรรณี
ชีวิตในวัยเด็กของท่านก็เหมือนกับชาวชนบททั่วไป เป็นชาวนา เมื่ออายุ ๒๑ ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนา ณ วัดบ้านเลิด เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๔๙๑ โดยมี พ่อแม่บุ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า จันทธัมโม
ท่านมีความสนใจใฝ่ในการศึกษา จึงเดินทางไปศึกษาหาความรู้ที่ตัวเมืองเวียงจันทน์ โดยฝากตัวเป็นศิษย์ ญาพ่ออุ่น ที่วัดพระธาตุหลวงใต้
ในช่วงที่ท่านศึกษาวิชากรรมฐานอยู่ที่วัดพระธาตุหลวงใต้นี้เอง ทำให้ท่านมีความสนิทสนมเป็นพิเศษกับ ญาท่านป้อง และญาท่านป้องนี่เองที่เป็นผู้สอนคัมภีร์มูลกัจจายน์ให้แก่ญาท่านเภา
คัมภีร์นี้ว่าด้วยหลักไวยากรณ์ของภาษาบาลี หรือภาษามคธ และข้ออธิบายจากคัมภีร์ต่างๆ ท่านได้จดรวบรวมไว้อย่างละเล็กละน้อย แล้วเขียนแปลเป็นภาษาไทยกำกับ
นอกจากนี้ ญาท่านป้อง ยังสอนไสยเวทย์วิทยาคมให้แก่ญาท่านเภา อีกด้วย
ญาท่านเภา เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านทั้งสองฝั่งโขง ด้วยท่านเป็นที่พึ่งที่อาศัยของบรรดาชาวไทยและชาวลาว ด้วยอุปนิสัยที่รักสันโดษ มักน้อย ท่านชอบอยู่อย่างเงียบๆ ในกุฏิเล็กๆ มีปกติอยู่ในองค์ภาวนาพระกรรมฐาน วิชาแก้วสี่ดวง ซึ่งผู้ที่ฝึกสำเร็จจะสามารถแสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้ เป็นวิชาที่สืบทอดกันในดินแดนแถบนี้ จึงไม่แปลกที่ พระเถราจารย์ เหล่านี้จะมีอิทธิฤทธิ์ ทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างมหัศจรรย์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินผิวน้ำ ย่นระยะทาง ห้ามฟ้าห้ามฝน เสกพยนต์รูปสัตว์ ฯลฯ
ญาท่านเภา ได้สร้างวัตถุมงคลเป็น นวด (สีผึ้ง), ปลัดขิก, พระคำตัน (พระที่หล่อจากทองคำบริสุทธิ์ทั้งองค์) เป็นของที่ประสิทธิ์ให้เฉพาะตัว มีอานุภาพเป็นที่เลื่องลืออย่างกว้างขวาง ถึงกับชาวลาวพูดกันติดปากว่า...มีพระคำตันแอ่นอกให้ยิงได้เลย
สำหรับเครื่องรางของท่าน อาทิ วัวธนู หรือ พญาช้างธนู ก็ไม่เหมือนของใคร และไม่มีใครทำได้เหมือน เป็นเครื่องรางอีกอย่างหนึ่งที่ลูกศิษย์ ต่างเสาะแสวงหากันมาก คนที่ได้รับมีเฉพาะลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดเท่านั้น
ประสบการณ์ของ พญาช้างธนู นั้น โดดเด่นทางป้องกันบ้านเรือนและภยันตรายต่างๆ เป็นอย่างดี ป้องกันภูตผีปีศาจ และสิ่งอัปมงคลได้สารพัด นอกจากนี้ยังมีผู้เชื่อกันว่าสามารถล่องหนหายตัวได้ด้วย
ส่วนวัตถุมงคลประเภท เหรียญ มีอยู่ ๒ รุ่นคือ เหรียญรูปเหมือนหลังเต่า รุ่นแรก และเหรียญรุ่น ๒ พระอุปคุตมหาเถระ รุ่น ปราบมารบันดาลสุข ด้านหน้าเป็นรูปจำลองของพระอุปคุตมหาเถระเจ้า พระอรหันตสาวกผู้เป็นเลิศด้านการปราบพญามาร ขจัดอุปสรรคสิ่งชั่วร้าย และอุดมลาภ มือขวาทรงบัว มือซ้ายทรงบาตร ประทับบนเรือนแก้วบัลลังก์บัว อธิษฐานจิตปราบมาร ด้านหลังเป็นยันต์ "สายรกพระพุทธเจ้า" หรือสายแห่พุทธเจ้า เป็นตำราวิชาโบราณของชาวอีสาน ลุ่มน้ำโขง มีพุทธคุณทางด้านค้ำคูณคุ้มครองป้องภัย ขจัดอุปสรรค ป้องกันอันตราย แก้คุณ แก้ไสย เรียกโภคทรัพย์
ของเหล่านี้ไม่มีจำหน่ายใดๆ ทั้งสิ้น สร้างแจกเป็นที่ระลึกในหนังสือประวัติท่านชื่อ เปิดตำนานพระอภิญญาศักดิ์สิทธิ์พระผู้มีฤทธิ์แห่งลุ่มน้ำโขง ที่ท่านแจกให้เป็นทานเท่านั้น
วัตถุมงคลของ ญาท่านเภา ทุกรุ่นท่านสร้างไม่มาก ไม่ว่าจะเป็นเหรียญหรือเครื่องรางของขลัง เพราะท่านมีความตั้งใจทำเป็นพิเศษ เรียกว่า ไม่ดีไม่ทำ ไม่ขลังไม่แจก ใครได้ครอบครองถือว่า โชคดีที่สุด
(ขอขอบพระคุณ คุณเอก นาครทรรพ และครอบครัว นาครทรรพ ผู้ให้ข้อมูลบทความนี้)
กรุณาแจ้ง การโอนเงินทุกรายการ กรุณาแจ้งด้วยว่าจำนวนเท่าไหร่ พระอะไรครับเพื่อให้การจัดส่งรวดเร็วยิ่งขึ้น / ไม่แจ้งรายละเอียดส่งช้าครับ ++++ ผ่านMail Box ของทางเวปเท่านั้น
* สำคัญที่สุด **** ทุกยอดโอนกรุณาแจ้งทาง Mail Box G -Pra เท่านั้น ** ไม่รับแจ้งทาง SmS หรือ โทรศัพท์ ทุกกรณี**** /+ จะเปลี่ยนที่อยู่แจ้งตอนโอนเสร็จแล้ว **อย่าแจ้งก่อนกันสับสน+++
- เพื่อป้องกัน ความสับสน หากเปลี่ยนที่อยู่จัดส่ง กรุณาส่งข้อความแจ้งพร้อม การแจ้งโอนเงิน
- หากโอนแล้ว กรุณา แจ้ง
- พระมูลค่าปิด ต่ำกว่า 500 ขออนุญาติส่งแบบลงทะเบียน (ได้รับพระ 5-10 วันหลังส่ง)
- หากต้องการให้ส่งแบบอีเอ็มเอสเพิ่ม 30 บาท |
