ชื่อพระเครื่อง | ***วัดใจ100-.+บัตรG-PRA***เหรียญเสมาหลวงพ่อแช่ม งานผูกพัทธสีมา วัดตาก้อง จ.นครปฐม ปี ๒๕๓๑ เนื้อทองแดง พิมพ์ด้านหน้าเหมือนเหรียญเสมารุ่นแรก ใช้แทนรุ่นแรกได้ สวยๆ พร้อมบัตรG-PRAครับ |
รายละเอียด | เหรียญเสมาหลวงพ่อแช่ม งานผูกพัทธสีมา วัดตาก้อง จ.นครปฐม ปี ๒๕๓๑ เนื้อทองแดง พิมพ์ด้านหน้าเหมือนเหรียญเสมารุ่นแรก ใช้แทนรุ่นแรกได้ สวยๆ น่าบูชา
"หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง" เป็นพระเกจิอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่มีชื่อเสียงอยู่ในยุคสมัยสงครามอินโดจีน และสงครามโลกครั้งที่ 2 สมัยนั้นท่านเดินทางร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลตามวัดต่างๆ แทบจะทุกวัด พูดได้ว่า สมัยนั้นมีการปลุกเสกวัตถุมงคลที่ไหนๆ จะต้องมีหลวงพ่อแช่มร่วมปลุกเสกอยู่ด้วยเสมอๆ แทบจะขาดไม่ได้เลย ประวัติของหลวงพ่อแช่ม ท่านเป็นลูกศิษย์ของ "หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก" ซึ่งหลวงพ่อทาท่านนี้ก็จัดว่า เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้แก่กล้าทางกสิณ และวิทยาคมเป็นที่นับถือของคนนครปฐมแต่อดีตมาก นอกจากนี้หลวงพ่อแช่มท่านยังมีความนับถือ และชอบพอเป็นพิเศษกับ "หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว" แม้ว่าหลวงปู่บุญท่านจะมีฐานะเป็นเจ้าคณะมณฑลนครชัยศรี ส่วนหลวงพ่อแช่มเป็นพระสงฆ์ที่อยู่ในการปกครองดูแลของหลวงปู่บุญ และมีอาวุโสอ่อนกว่าหลวงปู่บุญหลายปี แต่หลวงปู่บุญก็ยังนับถือในคุณวิเศษของหลวงพ่อแช่ม และได้เล่าถึงอภินิหารของหลวงพ่อแช่มให้ลูกศิษย์ท่านอื่นๆ ฟังเสมอๆ เล่ากันว่า หลวงพ่อแช่มท่านเป็นพระสงฆ์ที่ค่อนข้างจะร้อนวิชาอยู่สักหน่อย ซึ่งพระสงฆ์ที่ร้อนวิชานี้เขาว่า มักจะแสดงวิชาหรือฤทธิ์ให้ชาวบ้านและลูกศิษย์เห็นอยู่เสมอๆ ตอนที่มีพิธีปลุกเสกเหรียญหล่อคันธารราษฎร์ของวัดพระปฐมเจีดย์เมื่อปี พ.ศ. 2472 หลวงพ่อแช่มก็ได้รับนิมนต์ร่วมปลุกเสกพร้อมกับพระเกจิอาจารย์อื่นๆ อีกหลายท่าน เมื่อเสร็จพิธีแล้วมีคนไปขอวัตถุมงคลจากพระเกจิอาจารย์ท่านต่างๆ ที่มาร่วมปลุกเสกกัน ซึ่งหลวงพ่อแช่มก็มีคนไปขอวัตถุมงคลจากท่านเช่นกัน เล่ากันว่า พอมีคนไปขอหลวงพ่อแช่ม ท่านจะเอาวัตถุมงคลโยนเข้าไปในกองไฟที่กำลังลุกโชน จากนั้นก็เอามือล้วงหยิบวัตถุมงคลจากกองไฟ ออกมาแจกให้โดยที่ไม่มีแสดงอาการปวดแสบร้อน และมือท่านก็ไม่โดนไฟลวกไหม้ด้วย นอกจากนี้ที่เล่ากันมากคือว่า ท่านสามารถย่นระยะทางได้ สำหรับเรื่องการย่นระยะทางของหลวงพ่อแช่มเป็นเรื่องที่มีการเล่าขานกันมากทีเดียว ในส่วนของวัตถุมงคลนั้น หลวงพ่อแช่มท่านก็สร้างขึ้นมาหลายอย่างด้วยกั้น เช่น กุมารทองดูดรก ตะกรุด ผ้ายันต์ ฯลฯ แต่ที่วงการนิยมเล่นหากันมากก็ได้แก่ "เหรียญกงจักร" ซึ่งด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อแช่มนั่งยกมือด้านซ้ายขึ้นในกิริยาอาการของการห้ามและมีปืนยาวไขว้อยู่ด้านล่าง ส่วนด้านหลังเป็นยันต์รูปหนุมาน สำหรับเหรียญกงจักรรุ่นนี้ก็เป็นเหรียญที่วงการพระเครื่องให้ความนิยมมากเหรียญหนึ่ง ประสบการณ์ดีทางแคล้วคลาด คงกระพัน และมหาอุด แต่เหรียญกงจักรรุ่นนี้มีอยู่สองบล็อกด้วยกันคือ "บล็อกหูเดียว" กับ "บล็อกสองหู" ในวงการจะให้ความนิยมเหรียญบล็อกหูเดียวสูงกว่าเล็กน้อย คือ บล็อกหูเดียว สวยๆ เล่นหากันตั้งแต่หลักพันแก่ๆ ไปจนถึงหมื่นกว่าๆ ส่วนบล็อกสองหูเล่นหากันในราวหลักพันกลางๆ ถึงหลักพันแก่ๆ วัตถุมงคลของหลวงพ่อแช่มที่ท่านสร้างและปลุกเสกนั้น ไม่ว่าจะเป็นอะไรล้วนแต่มีประสบการณ์กับผู้ใช้อย่างกว้างขวาง ซึ่งไม่ใช่เป็นเพราะว่า ท่านเก่งทางคาถาอาคมอย่างเดียว แต่ท่านยังมีอำนาจทางพลังจิตสูงด้วย เล่ากันว่า หลวงพ่อแช่มท่านสำเร็จ "กสิณ" ซึ่งผู้ใดที่สำเร็จกสิณจะสามารถแสดงฤทธิ์ได้แบบที่คนธรรมดาทำไม่ได้ ในเรื่องของวิชาอาคมหรือไสยศาสตร์นี้ ถ้าหากปราศจากพลังอำนาจทางจิต การนำเอาวิชาอาคม หรือไสยศาสตร์มาใช้ก็ไม่ได้ผล แต่สำหรับผู้ที่มีพลังอำนาจจิตแล้วจะสามารถนำเอาวิชาเหล่านี้มาใช้ได้ผลเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ตามที่ตำราบอกเอาไว้จริงๆ ในบรรดาวัตถุมงคลของหลวงพ่อแช่มก็มี "พระขุนแผนดินหน้าตะโพน" อีกอย่างหนึ่งที่เป็นของดีน่าใช้ และราคาก็ไม่แพงด้วย ราคาในการเล่นหาตามสนามทั่วๆ ไปก็อยู่แค่หลักร้อยกลางๆ ถึงหลักร้อยแก่ๆ เท่านั้นเอง แต่เมื่อดูถึงขั้นตอนของวิธีการสร้างแล้วพระขุนแผนดินหน้าตะโพนของหลวงพ่อแช่มเป็นของดีที่ไม่อาจมองข้ามไปได้เลย เหตุที่เรียกพระเครื่องพิมพ์นำหน้าว่า "พระขุนแผน" นั้น ก็เนื่องมาจากหลวงพ่อแช่มท่านสร้างพิมพ์โดยเลียนแบบมาจาก "พระขุนแผนพิมพ์พลายเดี่ยว กรุวัดบ้านกร่าง จ. สุพรรณบุรี" แต่มีขนาดเล็กกว่ามาก ส่วนด้านหลังเป็นยันต์คล้ายตัว "อุณาโลม" กดเป็นร่องลึก ส่วนที่เรียก "ดินหน้าตะโพน" ตามหลังก็เนื่องมาจากว่า หลวงพ่อแช่มท่านนำเอาดินที่ปิดหน้ากลองตะโพนมาสร้าง "ตะโพน" เป็นกลองชนิดหนึ่ง มีลักษณะหัวสอบ ท้ายสอบ ขึงด้วยหนังทั้งสองข้าง มีขารอง ใช้ตีด้วยฝ่ามือ ที่หนังกลองทั้งสองข้างนิยมเอาดินละเอียดกับข้าวสุกมาคลุกให้เข้าด้วยกันแล้วปิดเอาไว้ ซึ่งจะทำให้เมื่อตีแล้วมีเสียงทุ้มไพเราะน่าฟัง ในการละเล่นสมัยก่อนจะมีกลองตะโพนเป็นเครื่องดนตรีประกอบเอาไว้ด้วยเสมอๆ สมัยก่อนดินที่นำมาผสมกับข้าวสุกเพื่อปิดหนังหน้ากลองตะโพนนั้น นิยมเอาไปให้อาจารย์ที่มีความรู้ทางวิชาอาคม ผสมของดีทางเมตตามหานิยม และปลุกเสกให้โดยเชื่อกันว่า เมื่อเอาดินผสมข้าวสุกและของดีและปลุกเสกแล้วมาปิดที่หนังหน้ากลองตะโพน เวลาตีจะทำให้มีเสียงไพเราะทำให้คนได้ยินได้ฟังเกิดความหลงใหล และอยากจะดูการละเล่นนั้นๆ เล่ากันว่า สมัยก่อนเมื่อมีการละเล่นจะต้องมีการบรรเลงเครื่องดนตรีเป็นการโหมโรงก่อน เสียงจากการโหมโรงซึ่งมีเสียงกลองตะโพนประกอบอยู่ด้วยนั้น เมื่อใครได้ยินแล้วจะร้อนรุ่มอยู่บ้านไม่ได้ต้องมาดูการละเล่นนั้นๆ หลวงพ่อแช่มท่านก็มีคนมาขอให้ท่านปลุกเสกดินที่จะนำไปติดที่หน้ากลองตะโพนอยู่เสมอๆ แม้แต่กลองตะโพนใบใหญ่ของวัดตาก้อง หลวงพ่อแช่มท่านก็เอาดินชนิดนี้ไปปิดที่หน้ากลองด้วย ซึ่งกลองใบนี้ทางวัดจะใช้ตีเวลาทางวัดมีงานหรือตรงกับวันพระ พอตีแล้วเสียงกลองนี้จะได้ยินไปไกล ชาวบ้านพอได้ยินเสียงกลองก็จะพากันมาทำบุญที่วัดกันหลายๆ คน แต่ดินที่ใช้ปิดหน้ากลองตะโพนนี้ เมื่อผ่านไปหลายๆ วันก็จะแห้งและแตกหลุดออกมาจะต้องทำใหม่ปิดอยู่เรื่อยๆ ซึ่งหลวงพ่อแช่มท่านก็รู้ถึงเคล็ดลับทางเมตตามหานิยมของดินหน้าตะโพนชนิดนี้ดี ครั้นเมื่อดินหน้าตะโพนแห้งต้องทำใหม่ ท่านก็จะเก็บของเก่าสะสมเอาไว้เรื่อยๆ จนมีจำนวนมากเพียงพอแล้ว จึงนำเอาดินหน้าตะโพนนั้นมาสร้างเป็นพระเครื่องพิมพ์ขุนแผนโดยหวังอานิสงส์ทางเมตตามหานิยมเป็นหลัก เมื่อได้ดินหน้าตะโพนมาจำนวนมากเพียงพอต่อการสร้างพระเครื่องแล้ว หลวงพ่อแช่มท่านยังได้นำเอามวลสารอีกหายอย่างผสมเข้าไปด้วย ซึ่งก็มี ผงวิเศษ ว่าน ดินอุดรูปู ดินตีนท่า ดินโป่ง ฯลฯ เมื่อคลุกเคล้าเนื้อหามวลสารจนเข้ากันดีแล้ว จึงกดพิมพ์เป็นพระเครื่องโดยมีลูกศิษย์หลายคนช่วยกันกด ระหว่างนั้นก็ตกอยู่ในราว ปี พ.ศ. 2470 กว่า ๆ ว่า ไปแล้วพระขุนแผนดินหน้าตะโพนของหลวงพ่อแช่มมีการสร้างก่อนเหรียญรูปเหมือนท่านตั้งหลายปี พระเครื่องชุดนี้เมื่อกดพิมพ์เสร็จแล้วก็ได้จำนวนพระเครื่องหลายองค์ คิดว่า เป็นหมื่นๆ องค์ เสร็จแล้วหลวงพ่อแช่มก็ปลุกเสกเดี่ยวก่อนนำแจก เนื่องจากจำนวนของพระเครื่องมีมาก จึงทำให้มีของเหลืออยู่ที่วัดอีกหลายปี เมื่อท่านมรณภาพไปแล้วของก็ยังเหลืออยู่ที่วัด แต่ปัจจุบันของได้กระจัดกระจายไปทั่ว หมดจากวัดนานแล้ว ลักษณะของพระขุนแผนดินหน้าตะโพนของหลวงพ่อแช่มนั้น จะทำพอเป็นรูปร่าง รายละเอียดไม่ค่อยลึก และคมชัดนัก หย่อนความสวยงามไปบ้าง สีสันวรรณะออกไปทางสีเทาเข้ม ส่วนของปลอมเท่าที่เห็นจะมีขนาดเล็กกว่าของแท้ และรายละเอียดก็จะยิ่งตื้นเบลอกว่าของแท้เสียอีก สีก็ค่อนข้างจาง ถ้าได้เห็นของแท้บ่อยๆ ก็สามารถแยกความแตกต่างได้ไม่ยาก พูดถึงประสบการณ์ของพระขุนแผนดินหน้าตะโพน หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง เท่าที่ได้รับฟังมาคือ ดีทางเมตตามหานิยม และมหาเสน่ห์ เป็นหลัก และตามมาด้วยแคล้วคลาดกับคงกระพัน เป็นที่หนึ่ง |
ราคาเปิดประมูล | 80 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 380 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 20 บาท |
วันเปิดประมูล | - 10 เม.ย. 2566 - 20:47:44 น. |
วันปิดประมูล | - 11 เม.ย. 2566 - 21:38:53 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
ผู้ตั้งประมูล | assawin (8K)(4)
|