(0)
พระปิดตา ผงยาวาสนาจินดามณี หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา จ.สมุทรสาคร






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องพระปิดตา ผงยาวาสนาจินดามณี หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา จ.สมุทรสาคร
รายละเอียดพระปิดตา ผงยาวาสนาจินดามณี หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา จ.สมุทรสาคร
หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา เกจิชื่อดังแห่งสมุทรสาคร พระผงยาวาสนาจินดามณี รุ่นแรก ท่านโด่งดังทางด้านยารักษาโรค เรื่องยาจินดามณีของท่านนั้นเป็นที่เชื่อกันว่าใช้ตำรับเดียวกันกับของวัด กลางบางแก้ว อาราธนาแช่น้ำมนต์รักษาโรคได้

หลวงพ่อทองอยู่ ท่านเป็นหลานแท้ๆ ของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ได้รับการถ่ายทอดวิชาหลายอย่างมาจากหลวงปู่บุญ รวมทั้งการทำผงยาจินดามณี มีพุทธคุณและสรรพคุณวิเศษมากมาย เช่น ใช้รักษาโรค เมตตามหานิยม โชคลาภและความเจริญก้าวหน้า สภาพสวยสมบูรณ์

หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา จ.สมุทรสาคร เป็นพระเกจิอาจารย์ร่วมสมัยและยังเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกับ ลป.เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว แต่ถ้าศึกษากันอย่างลึกซึ้งแล้วจะพบว่าท่านเป็นหลานแท้ ๆ ของลป.บุญครับ เพียงแต่ท่านออกจะเก็บตัวแต่คนพื้นที่รู้จักท่านเป็นอย่างดี เหตุที่บอกว่าเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องก็เพราะว่าท่านเดินทางไปร่ำเรียนวิชา ต่างๆ จาก ลป.บุญ วัดกลางบางแก้ว ไว้หลายอย่าง ทั้งแพทย์แผนโบราณ พุทธาคม และที่เป็นหัวใจสุด ๆ ก็คือ "การทำผงยาจินดามณี" เรียกได้ว่าเป็นสายตรงของวัดกลางบางแก้วเช่นเดียวกัน ประสบการณ์สามารถใช้แทนของลป.เพิ่มได้


ข้อมูลของ #ผงยาวาสนาจินดามณี #ตำรับหลวงปู่บุญ

ตำรับการสร้างยาจินดามณี หรือยาวาสนา ของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ดั้งเดิมนั้นเป็นตำรับของสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว แห่งกรุงศรีอยุธยา ฉบับที่มาอยู่วัดกลางแก้วเป็นตำรับสมุดข่อย ลงทองล่องชาด กล่าวเอาไว้ถึงกรรมวิธีการสร้างที่พิสดารและอานุภาพอัศจรรย์อย่างยิ่ง

กรรมวิธีการสร้าง ประกอบด้วยพิธีกรรมและเครื่องยา แยกเป็นสองส่วน ส่วนที่เป็นเครื่องยานั้นตามตำรับยาพรรณนาเอาไว้อย่างกว้างๆ ในเบื้องต้นของของตำราว่า

“จินดามณีโอสถพิพาสประกอบดอกคราด ดอกจันทน์เกสรบุษบัน เปราะหอมกำยาน โกฐสอ โกศเขมาทองน้ำประสาน เปลือกกุ่มชลธาร กรุงเขมาเท่ากัน ผสมแล้วตำบดพิมเสน ชะมด น้ำผึ้ง รวงรัน กฤษณา น้ำมะนาว น้ำมะเขือขื่นคั้น ผสมยาเข้าด้วยกัน บดปั้นตากกิน เป้นยาวาสนา เลิศล้ำตำราในโลกแผ่นดิน อุปเท่ห์กล่าวไว้ ผู้ใดได้กิน จะสวัสดิ์โสภิณกว่าคนทั้งหลาย พัสดุ เงินทอง จักพูนกูลนอง กว่าโลกหญิงชายนำมาบูชาอหิวาต์ก็วิวาย ระงับอันตราย ทั้งสี่กิริยา โทษหนักเท่าหนัก มาตรแม้นประจักษ์ถึงกาลมรณา ถ้าแม้นใครกินซึ่งยาวาสนากลับน้อยถอยคลาเคลื่อนคลายหายเอย ”

นอกจากนี้ยังได้แยกเครื่องยาไว้อย่างละเอียดว่าสมุนไพร ชนิดใดจะเอาส่วนไหนประกอบกับอะไร บดเป็นผงละเอียด เคล้ากับตัวประสาน สมุนไพรนั้นมีมากมายหลายชนิด แยกออกเป็นสัดส่วนว่าส่วนไหนใช้เท่าใดและให้ลงหรือเสกด้วยคาถาอย่างไรบ้าง เมื่อปลุกเสกเครื่องยาแต่ละส่วนตามคาถาที่กำกับแล้วก็เอาเครื่องยามาประสม กันมีคาถาฤาษีประสมยาประกอบไว้อีกโสตหนึ่ง

การจัดพิธี ท่านให้เลือกเอาวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ กลางเดือน 12 ซึ่งหากปีใดได้ราชาฤกษ์ หรือเพชรฤกษ์จัดว่าดีเยี่ยม ให้จัดเครื่องสังเวยเทวดา บัตรพลีต่าง ๆ รวมทั้งราชวัตรฉัตรธง ภายในพระอุโบสถและมีสายสิญจน์รอบพระอุโบสถแต่ละทิศให้ลงยันต์ประจำทิศด้วย ผ้าแดงเอาไว้ ด้านหน้าพระอุโบสถให้ลง ยันต์ตรีนิสิงเห และยันต์จินดามณีประกอบไว้เป็นพิเศษด้วย เมื่อได้ฤกษ์ให้ชุมนุมเทวดา แล้วให้พระภิกษุ และฆราวาสที่ร่วมพิธีพร้อมกันโดยเฉพาะฆราวาสนั้น หากเป็นหญิงให้ใช้สาวพรหมจารีซึ่งรักษาศีลอุโบสถมาแล้ว 3 วัน ส่วนชายก็ให้รักษาศีลอุโบสถเช่นเดียวกัน

ผู้ร่วมพิธีปั้นเม็ดยาจะต้องท่องคาถาปั้นเม็ดยาได้ เพื่อใช้ภาวนาตลอดระยะเวลาการปั้นเม็ดยา และยาที่ปั้นสำเร็จเป็นเม็ดในพิธีแล้วจะต้องนำไปปลุกเสกด้วยมนต์อีกอย่าง น้อย 7 เสาร์ 7 อังคาร

อุปเท่ห์การใช้ยาจินดามณี

ก่อนใช้ยาท่านให้เสกยาด้วยคาถาดังนี้

“ จินดามณี ปิยังมันตัง ยะสังธาสังโกมัง อุปะสันติ สิเนหัง มาตาปิตาวะ โอระสัง ปะโพตันจะ มหาราชา ตะวังมังโป สัตตุโนทีปัง กาเรเทโว สุโป เสทิกิญจิ เทโว เยสักโก ปัชชัง ทัสมิง กินเนวา ทัตวาปิยัง กันตัง สาริปุตโต ภวันตุเม สิทธิลาภัง ชนานะเย มณีจินดา ปิยัง จะธะนัง สัพเพชะนา พหูชะนา ปิยังมะมะ ”

นอกจากนั้นยังได้กล่าวถึงอานุภาพของการใช้ยาจินดามณีไว้ ดังนี้

หากใครได้รับประทานแล้วจะบันดาลให้เกิดสิริสวัสดีและลาภผล

หากบูชาเอาไว้จะป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ แม้แต่อหิวาตกโรค

ผู้ใดมีไว้จะปราศจากอันตรายใด ๆ ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง หรือนอน

ผู้ใดต้องโทษทัณฑ์ใด ๆ ก็บรรเทาเบาบางลงได้

ผู้ใดที่ป่วยหนักแม้แทบจะสิ้นชีวิต หาได้รับประทานยาจินดามณีแล้วก็จักรรอดตายฟื้นหายจากโรคนั้น ๆ

สำหรับวิธีการใช้ได้กล่าวไว้ในส่วนท้ายตำรา ขอยกมาบางส่วนดังนี้

"ถ้าใช้รักษาอหิวาตกโรค หรือท้องเดิน ให้เอายอดทับทิมต้มผสมกับกานพลูแลน้ำปูนใสแล้วฝนเม็ดยาใส่ลงไป ดื่มรับประทานหายจากโรคแล"

"แก้โรคเสมหะดีขึ้น ให้ใช้ดีหมีผสมน้ำร้อนแล้วใส่ยาหอมจินดามณีฝนผสมลงไปรับประทาน"

"ถ้าเกิดคดีความขึ้นโรงขึ้นศาลให้เอายาใส่น้ำเสกด้วย “ เอกัง จินดามณีมันตัง ” เป็นเมตตามหานิยมแล้วเอาน้ำประพรมศีรษะแล้วอมเม็ดยาไว้ตลอดเวลาจะชนะความ สิ้นแล และเป็นเมตตามหานิยมแก่คนทั้งปวง"

ให้มีปัญญาดี เสกด้วยพระคาถานี้ 3 จบ

“ ตะโตโส ปัณฑิโต ปีหิโล อัตถะ ทัสสีมะ โหสะโถ ” แล้วอมยา จะเล่าบ่นมนตร์คาถา สารพัดวิชาจำได้สิ้นที่ลืมหลงก็จะรำลึกได้แล

ให้เสกด้วย “เอกัง จินดามณี นาคา มันตัง” ไปในที่ไหน ๆ งูมิกัด

ให้ภาวนาด้วย “อุ อา กะ สะ” ทำไร่ทำนาทำการงานมิรู้เหน็ดเหนื่อยแล

ให้ภาวนาด้วย “บทยันทุนนิมิตตัง อามังคะ สัญจะ ๆ” จบหนึ่งเอายาติดตัวไว้จะกลับลางนิมิตร้ายให้กลายเป็นดีแล

ให้อมเม็ดยาเอาไว้แล้วนั่งเหนือลม ภาวนาว่า “อิตถี จิตตัง ปิยัง มะมะ”หญิงคนรักจะรักและหลงเรามิหนีห่างกายไปไหนได้เลยแล

เมื่อจะเดินทางไปสารทิศไหน เข้าหาเจ้านายผู้ใหญ่ให้เอายาแช่น้ำ ใช้น้ำมนต์สระหัว อมเม็ดยาและภาวนาว่า “สัตถาเทวะมนุสานัง พุทโธภะคะวาติ” 7 ครั้ง ผู้ใหญ่ เจ้านายหายโกรธช่วยเหลือเราทุกทางแล

ถ้าเผอิญด้วยหมู่ศัตรูคิดร้ายให้อมเม็ดยาแล้วภาวนาว่า “พามานา อุ กะ สะ นะ ทุ” 8 คาบ ชนะศัตรู ศัตรูทำร้ายเรามิได้ แคล้วคลาดสารพัดแล

เอาเม็ดยาติดตัวไว้ป้องกันสรรพโรคภัย ป้องกันเสนียดจังไร กันยายีด้วยคุณไสย คุณผี คุณคน สารพัดพิษ ผิดสำแดง เมื่อต้องยาเบื่อยาเมา เอารากมะนาวหนึ่ง มะปรางหนึ่ง หัวหนุมานกระทืบแท่นหนึ่ง ฝนทำน้ำกระสายกินเถิดมิเป็นไร อย่าประมาทเลย เคยแก้ยาสั่งมาแล้วถ้าติดเม็ดยากับตัวไปมิต้องเราเลยแล

ให้มีเม็ดยาติดตน ถึงคราวอับจนจะได้ใช้ ตามืดหูมืดได้ใช้ทุกเมื่อ มีอำนาจวิเศษ คุณมากนัก ตีค่าไว้ถึง 8 ตำลึงทองแล
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน550 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 21 พ.ค. 2566 - 23:31:57 น.
วันปิดประมูล - 24 พ.ค. 2566 - 08:23:11 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลAom_nara (659)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     550 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    junshern222 (1.7K)

 

Copyright ©G-PRA.COM