(0)
พิมพ์โบราณคางหมู ปลุกเสกโดยครูบาดวงดี สุภภัทโท วัดท่าจำปี อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ จัดสร้าง ปี ๒๕๐๗ พระดี พิธีใหญ่ เมตตาเด่น มากด้วย ประสบการณ์ น่าสะสม ราคาขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องเก็บก่อนราคาแรงกว่านี้








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต





ชื่อพระเครื่อง พิมพ์โบราณคางหมู ปลุกเสกโดยครูบาดวงดี สุภภัทโท วัดท่าจำปี อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ จัดสร้าง ปี ๒๕๐๗ พระดี พิธีใหญ่ เมตตาเด่น มากด้วย ประสบการณ์ น่าสะสม ราคาขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องเก็บก่อนราคาแรงกว่านี้
รายละเอียด พิมพ์โบราณคางหมู ปลุกเสกโดยครูบาดวงดี สุภภัทโท วัดท่าจำปี อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ จัดสร้าง ปี ๒๕๐๗ พระดี พิธีใหญ่ เมตตาเด่น มากด้วย ประสบการณ์ น่าสะสม ราคาขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องเก็บก่อนราคาแรงกว่านี้ สายตรงไม่ควรพลาดครับ
ครูบาดวงดี เกิดเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2449 ที่บ้านท่าจำปี ต.ทุ่งสะโตก อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ บิดามารดาเป็นชาวไร่ชาวนา โดยหลวงปู่เป็นบุตรคนที่ 7 จากพี่น้องทั้งหมด 8 คน เริ่มเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เมื่ออายุ 11 ขวบ หลังติดตามพ่อแม่ไปทำบุญตักบาตรถวายภัตตาหารแด่ท่านครูบาศรีวิชัย ซึ่งขณะนั้นถูกทางการจังหวัดลำพูน นำตัวมากักขังบริเวณที่วัดพระธาตุเจ้าหริภุญชัย (วัดหลวงลำพูน) ในข้อหาเป็นพระอุปัชฌาย์เถื่อนไม่มีหนังสืออนุญาตบวชพระ โดยครูบาศรีวิชัยเห็นเข้าก็ทักว่าให้พ่อแม่พาเข้าวัด พร้อมประสาทพรให้ ไม่กี่วันต่อมาจึงเข้าถวายตัวเป็นศิษย์หรือเด็กวัด (ขะโยม) ให้ครูบาโปธิมา อธิการวัดท่าจำปี ซึ่งคอยพร่ำสอนหนังสือให้ และบรรพชาเป็นสามเณรโดยมีครูบาโสภา เจ้าอาวาสวัดท่าจำปีเป็นพระอุปัชฌาย์ และถูกส่งตัวไปรับใช้ครูบาศรีวิชัยที่วัดพระสิงห์ ซึ่งอยู่ในช่วงที่ครูบาศรีวิชัยกำลังแก้ข้อกล่าวหาต่าง ๆ
กระทั่งบวชเป็นพระภิกษุเมื่ออายุ 21 ปี ที่วัดสารภี โดยมีครูบาโสภาเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า “สุภัทโท” และมาจำพรรษารับใช้ครูบาศรีวิชัยเหมือนเช่นเดิม กระทั่งครูบาศรีวิชัยประสบปัญหาต้องแยกตัวไปแสวงบุญในพม่า บรรดาลูกศิษย์ลูกหาของครูบาศรีวิชัยต้องแยกย้ายกันไปแสวงบุญคนละทิศละทางจน พ.ศ. 2480-2481 ครูบาศรีวิชัยถูกชำระความพ้นผิดเดินทางกลับเมืองลำพูน แต่อยู่ได้ไม่นานก็มรณภาพที่วัดจามเทวี ขณะหลวงปู่อายุ 32 ปี หลังจากนั้นหลวงปู่ก็เดินทางไปก่อสร้างวัดวาอารามเจริญรอยตามท่านครูบาศรีวิชัยผู้เป็นพระอาจารย์ และปฏิบัติกรรมฐานที่วัดป่าเมี้ยงป๋างมะกล้วย อ.แม่แตง ซึ่งท่านมาสร้างไว้ในป่าดง นาน 7 ปี ก่อนจะมาสร้างวัดท่าจำปีจนแล้วเสร็จ และดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าจำปี กับเจ้าคณะตำบลทุ่งสะโตก กระทั่งได้รับสถาปนาประทวนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นประทวนเจ้าคณะตำบล และได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทที่ “พระสุภัทรสีลคุณ” ณ พุทธมณฑล จ.นครปฐม จน พ.ศ. 2540 ได้เลื่อนเป็นชั้นเอกราชทินนามเดิม และ พ.ศ. 2550 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่พระมงคลวิสุต ขณะอายุ 103 ปี ย่าง 104 ปี
ราคาเปิดประมูล 290 บาท
ราคาปัจจุบัน -- ยังไม่มีผู้เสนอราคา -- (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ 10 บาท
วันเปิดประมูล ศ. - 26 ก.ค. 2567 - 19:36:42 น.
วันปิดประมูล จ. - 05 ส.ค. 2567 - 19:36:42 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูล Jeab_Sirin (2.2K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 ศ. - 26 ก.ค. 2567 - 19:36:54 น.



พิมพ์โบราณคางหมู ปลุกเสกโดยครูบาดวงดี สุภภัทโท วัดท่าจำปี อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ จัดสร้าง ปี ๒๕๐๗ พระดี พิธีใหญ่ เมตตาเด่น มากด้วย ประสบการณ์ น่าสะสม ราคาขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องเก็บก่อนราคาแรงกว่านี้ สายตรงไม่ควรพลาดครับ
ครูบาดวงดี เกิดเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2449 ที่บ้านท่าจำปี ต.ทุ่งสะโตก อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ บิดามารดาเป็นชาวไร่ชาวนา โดยหลวงปู่เป็นบุตรคนที่ 7 จากพี่น้องทั้งหมด 8 คน เริ่มเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เมื่ออายุ 11 ขวบ หลังติดตามพ่อแม่ไปทำบุญตักบาตรถวายภัตตาหารแด่ท่านครูบาศรีวิชัย ซึ่งขณะนั้นถูกทางการจังหวัดลำพูน นำตัวมากักขังบริเวณที่วัดพระธาตุเจ้าหริภุญชัย (วัดหลวงลำพูน) ในข้อหาเป็นพระอุปัชฌาย์เถื่อนไม่มีหนังสืออนุญาตบวชพระ โดยครูบาศรีวิชัยเห็นเข้าก็ทักว่าให้พ่อแม่พาเข้าวัด พร้อมประสาทพรให้ ไม่กี่วันต่อมาจึงเข้าถวายตัวเป็นศิษย์หรือเด็กวัด (ขะโยม) ให้ครูบาโปธิมา อธิการวัดท่าจำปี ซึ่งคอยพร่ำสอนหนังสือให้ และบรรพชาเป็นสามเณรโดยมีครูบาโสภา เจ้าอาวาสวัดท่าจำปีเป็นพระอุปัชฌาย์ และถูกส่งตัวไปรับใช้ครูบาศรีวิชัยที่วัดพระสิงห์ ซึ่งอยู่ในช่วงที่ครูบาศรีวิชัยกำลังแก้ข้อกล่าวหาต่าง ๆ
กระทั่งบวชเป็นพระภิกษุเมื่ออายุ 21 ปี ที่วัดสารภี โดยมีครูบาโสภาเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า “สุภัทโท” และมาจำพรรษารับใช้ครูบาศรีวิชัยเหมือนเช่นเดิม กระทั่งครูบาศรีวิชัยประสบปัญหาต้องแยกตัวไปแสวงบุญในพม่า บรรดาลูกศิษย์ลูกหาของครูบาศรีวิชัยต้องแยกย้ายกันไปแสวงบุญคนละทิศละทางจน พ.ศ. 2480-2481 ครูบาศรีวิชัยถูกชำระความพ้นผิดเดินทางกลับเมืองลำพูน แต่อยู่ได้ไม่นานก็มรณภาพที่วัดจามเทวี ขณะหลวงปู่อายุ 32 ปี หลังจากนั้นหลวงปู่ก็เดินทางไปก่อสร้างวัดวาอารามเจริญรอยตามท่านครูบาศรีวิชัยผู้เป็นพระอาจารย์ และปฏิบัติกรรมฐานที่วัดป่าเมี้ยงป๋างมะกล้วย อ.แม่แตง ซึ่งท่านมาสร้างไว้ในป่าดง นาน 7 ปี ก่อนจะมาสร้างวัดท่าจำปีจนแล้วเสร็จ และดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าจำปี กับเจ้าคณะตำบลทุ่งสะโตก กระทั่งได้รับสถาปนาประทวนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นประทวนเจ้าคณะตำบล และได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทที่ “พระสุภัทรสีลคุณ” ณ พุทธมณฑล จ.นครปฐม จน พ.ศ. 2540 ได้เลื่อนเป็นชั้นเอกราชทินนามเดิม และ พ.ศ. 2550 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่พระมงคลวิสุต ขณะอายุ 103 ปี ย่าง 104 ปี


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 ศ. - 26 ก.ค. 2567 - 19:37:06 น.



พิมพ์โบราณคางหมู ปลุกเสกโดยครูบาดวงดี สุภภัทโท วัดท่าจำปี อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ จัดสร้าง ปี ๒๕๐๗ พระดี พิธีใหญ่ เมตตาเด่น มากด้วย ประสบการณ์ น่าสะสม ราคาขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องเก็บก่อนราคาแรงกว่านี้ สายตรงไม่ควรพลาดครับ
ครูบาดวงดี เกิดเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2449 ที่บ้านท่าจำปี ต.ทุ่งสะโตก อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ บิดามารดาเป็นชาวไร่ชาวนา โดยหลวงปู่เป็นบุตรคนที่ 7 จากพี่น้องทั้งหมด 8 คน เริ่มเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เมื่ออายุ 11 ขวบ หลังติดตามพ่อแม่ไปทำบุญตักบาตรถวายภัตตาหารแด่ท่านครูบาศรีวิชัย ซึ่งขณะนั้นถูกทางการจังหวัดลำพูน นำตัวมากักขังบริเวณที่วัดพระธาตุเจ้าหริภุญชัย (วัดหลวงลำพูน) ในข้อหาเป็นพระอุปัชฌาย์เถื่อนไม่มีหนังสืออนุญาตบวชพระ โดยครูบาศรีวิชัยเห็นเข้าก็ทักว่าให้พ่อแม่พาเข้าวัด พร้อมประสาทพรให้ ไม่กี่วันต่อมาจึงเข้าถวายตัวเป็นศิษย์หรือเด็กวัด (ขะโยม) ให้ครูบาโปธิมา อธิการวัดท่าจำปี ซึ่งคอยพร่ำสอนหนังสือให้ และบรรพชาเป็นสามเณรโดยมีครูบาโสภา เจ้าอาวาสวัดท่าจำปีเป็นพระอุปัชฌาย์ และถูกส่งตัวไปรับใช้ครูบาศรีวิชัยที่วัดพระสิงห์ ซึ่งอยู่ในช่วงที่ครูบาศรีวิชัยกำลังแก้ข้อกล่าวหาต่าง ๆ
กระทั่งบวชเป็นพระภิกษุเมื่ออายุ 21 ปี ที่วัดสารภี โดยมีครูบาโสภาเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า “สุภัทโท” และมาจำพรรษารับใช้ครูบาศรีวิชัยเหมือนเช่นเดิม กระทั่งครูบาศรีวิชัยประสบปัญหาต้องแยกตัวไปแสวงบุญในพม่า บรรดาลูกศิษย์ลูกหาของครูบาศรีวิชัยต้องแยกย้ายกันไปแสวงบุญคนละทิศละทางจน พ.ศ. 2480-2481 ครูบาศรีวิชัยถูกชำระความพ้นผิดเดินทางกลับเมืองลำพูน แต่อยู่ได้ไม่นานก็มรณภาพที่วัดจามเทวี ขณะหลวงปู่อายุ 32 ปี หลังจากนั้นหลวงปู่ก็เดินทางไปก่อสร้างวัดวาอารามเจริญรอยตามท่านครูบาศรีวิชัยผู้เป็นพระอาจารย์ และปฏิบัติกรรมฐานที่วัดป่าเมี้ยงป๋างมะกล้วย อ.แม่แตง ซึ่งท่านมาสร้างไว้ในป่าดง นาน 7 ปี ก่อนจะมาสร้างวัดท่าจำปีจนแล้วเสร็จ และดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าจำปี กับเจ้าคณะตำบลทุ่งสะโตก กระทั่งได้รับสถาปนาประทวนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นประทวนเจ้าคณะตำบล และได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทที่ “พระสุภัทรสีลคุณ” ณ พุทธมณฑล จ.นครปฐม จน พ.ศ. 2540 ได้เลื่อนเป็นชั้นเอกราชทินนามเดิม และ พ.ศ. 2550 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่พระมงคลวิสุต ขณะอายุ 103 ปี ย่าง 104 ปี


ข้อมูลเพิ่มเติม 3 ศ. - 26 ก.ค. 2567 - 19:37:18 น.



พิมพ์โบราณคางหมู ปลุกเสกโดยครูบาดวงดี สุภภัทโท วัดท่าจำปี อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ จัดสร้าง ปี ๒๕๐๗ พระดี พิธีใหญ่ เมตตาเด่น มากด้วย ประสบการณ์ น่าสะสม ราคาขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องเก็บก่อนราคาแรงกว่านี้ สายตรงไม่ควรพลาดครับ
ครูบาดวงดี เกิดเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2449 ที่บ้านท่าจำปี ต.ทุ่งสะโตก อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ บิดามารดาเป็นชาวไร่ชาวนา โดยหลวงปู่เป็นบุตรคนที่ 7 จากพี่น้องทั้งหมด 8 คน เริ่มเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เมื่ออายุ 11 ขวบ หลังติดตามพ่อแม่ไปทำบุญตักบาตรถวายภัตตาหารแด่ท่านครูบาศรีวิชัย ซึ่งขณะนั้นถูกทางการจังหวัดลำพูน นำตัวมากักขังบริเวณที่วัดพระธาตุเจ้าหริภุญชัย (วัดหลวงลำพูน) ในข้อหาเป็นพระอุปัชฌาย์เถื่อนไม่มีหนังสืออนุญาตบวชพระ โดยครูบาศรีวิชัยเห็นเข้าก็ทักว่าให้พ่อแม่พาเข้าวัด พร้อมประสาทพรให้ ไม่กี่วันต่อมาจึงเข้าถวายตัวเป็นศิษย์หรือเด็กวัด (ขะโยม) ให้ครูบาโปธิมา อธิการวัดท่าจำปี ซึ่งคอยพร่ำสอนหนังสือให้ และบรรพชาเป็นสามเณรโดยมีครูบาโสภา เจ้าอาวาสวัดท่าจำปีเป็นพระอุปัชฌาย์ และถูกส่งตัวไปรับใช้ครูบาศรีวิชัยที่วัดพระสิงห์ ซึ่งอยู่ในช่วงที่ครูบาศรีวิชัยกำลังแก้ข้อกล่าวหาต่าง ๆ
กระทั่งบวชเป็นพระภิกษุเมื่ออายุ 21 ปี ที่วัดสารภี โดยมีครูบาโสภาเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า “สุภัทโท” และมาจำพรรษารับใช้ครูบาศรีวิชัยเหมือนเช่นเดิม กระทั่งครูบาศรีวิชัยประสบปัญหาต้องแยกตัวไปแสวงบุญในพม่า บรรดาลูกศิษย์ลูกหาของครูบาศรีวิชัยต้องแยกย้ายกันไปแสวงบุญคนละทิศละทางจน พ.ศ. 2480-2481 ครูบาศรีวิชัยถูกชำระความพ้นผิดเดินทางกลับเมืองลำพูน แต่อยู่ได้ไม่นานก็มรณภาพที่วัดจามเทวี ขณะหลวงปู่อายุ 32 ปี หลังจากนั้นหลวงปู่ก็เดินทางไปก่อสร้างวัดวาอารามเจริญรอยตามท่านครูบาศรีวิชัยผู้เป็นพระอาจารย์ และปฏิบัติกรรมฐานที่วัดป่าเมี้ยงป๋างมะกล้วย อ.แม่แตง ซึ่งท่านมาสร้างไว้ในป่าดง นาน 7 ปี ก่อนจะมาสร้างวัดท่าจำปีจนแล้วเสร็จ และดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าจำปี กับเจ้าคณะตำบลทุ่งสะโตก กระทั่งได้รับสถาปนาประทวนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นประทวนเจ้าคณะตำบล และได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทที่ “พระสุภัทรสีลคุณ” ณ พุทธมณฑล จ.นครปฐม จน พ.ศ. 2540 ได้เลื่อนเป็นชั้นเอกราชทินนามเดิม และ พ.ศ. 2550 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่พระมงคลวิสุต ขณะอายุ 103 ปี ย่าง 104 ปี


ข้อมูลเพิ่มเติม 4 ศ. - 26 ก.ค. 2567 - 19:37:29 น.



พิมพ์โบราณคางหมู ปลุกเสกโดยครูบาดวงดี สุภภัทโท วัดท่าจำปี อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ จัดสร้าง ปี ๒๕๐๗ พระดี พิธีใหญ่ เมตตาเด่น มากด้วย ประสบการณ์ น่าสะสม ราคาขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องเก็บก่อนราคาแรงกว่านี้ สายตรงไม่ควรพลาดครับ
ครูบาดวงดี เกิดเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2449 ที่บ้านท่าจำปี ต.ทุ่งสะโตก อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ บิดามารดาเป็นชาวไร่ชาวนา โดยหลวงปู่เป็นบุตรคนที่ 7 จากพี่น้องทั้งหมด 8 คน เริ่มเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เมื่ออายุ 11 ขวบ หลังติดตามพ่อแม่ไปทำบุญตักบาตรถวายภัตตาหารแด่ท่านครูบาศรีวิชัย ซึ่งขณะนั้นถูกทางการจังหวัดลำพูน นำตัวมากักขังบริเวณที่วัดพระธาตุเจ้าหริภุญชัย (วัดหลวงลำพูน) ในข้อหาเป็นพระอุปัชฌาย์เถื่อนไม่มีหนังสืออนุญาตบวชพระ โดยครูบาศรีวิชัยเห็นเข้าก็ทักว่าให้พ่อแม่พาเข้าวัด พร้อมประสาทพรให้ ไม่กี่วันต่อมาจึงเข้าถวายตัวเป็นศิษย์หรือเด็กวัด (ขะโยม) ให้ครูบาโปธิมา อธิการวัดท่าจำปี ซึ่งคอยพร่ำสอนหนังสือให้ และบรรพชาเป็นสามเณรโดยมีครูบาโสภา เจ้าอาวาสวัดท่าจำปีเป็นพระอุปัชฌาย์ และถูกส่งตัวไปรับใช้ครูบาศรีวิชัยที่วัดพระสิงห์ ซึ่งอยู่ในช่วงที่ครูบาศรีวิชัยกำลังแก้ข้อกล่าวหาต่าง ๆ
กระทั่งบวชเป็นพระภิกษุเมื่ออายุ 21 ปี ที่วัดสารภี โดยมีครูบาโสภาเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า “สุภัทโท” และมาจำพรรษารับใช้ครูบาศรีวิชัยเหมือนเช่นเดิม กระทั่งครูบาศรีวิชัยประสบปัญหาต้องแยกตัวไปแสวงบุญในพม่า บรรดาลูกศิษย์ลูกหาของครูบาศรีวิชัยต้องแยกย้ายกันไปแสวงบุญคนละทิศละทางจน พ.ศ. 2480-2481 ครูบาศรีวิชัยถูกชำระความพ้นผิดเดินทางกลับเมืองลำพูน แต่อยู่ได้ไม่นานก็มรณภาพที่วัดจามเทวี ขณะหลวงปู่อายุ 32 ปี หลังจากนั้นหลวงปู่ก็เดินทางไปก่อสร้างวัดวาอารามเจริญรอยตามท่านครูบาศรีวิชัยผู้เป็นพระอาจารย์ และปฏิบัติกรรมฐานที่วัดป่าเมี้ยงป๋างมะกล้วย อ.แม่แตง ซึ่งท่านมาสร้างไว้ในป่าดง นาน 7 ปี ก่อนจะมาสร้างวัดท่าจำปีจนแล้วเสร็จ และดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าจำปี กับเจ้าคณะตำบลทุ่งสะโตก กระทั่งได้รับสถาปนาประทวนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นประทวนเจ้าคณะตำบล และได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทที่ “พระสุภัทรสีลคุณ” ณ พุทธมณฑล จ.นครปฐม จน พ.ศ. 2540 ได้เลื่อนเป็นชั้นเอกราชทินนามเดิม และ พ.ศ. 2550 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่พระมงคลวิสุต ขณะอายุ 103 ปี ย่าง 104 ปี


 
ราคาปัจจุบัน :     290 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ท่านต้อง login เข้าสู่ระบบก่อน จึงจะสามารถร่วมประมูลได้ !!!


 
(0)
  ประวัติการเสนอราคา
 
-- ยังไม่มีผู้เสนอราคา --


Copyright ©G-PRA.COM
www1