(0)
สมเด็จพระนั่งเมือง รุ่นมหาเศรษฐีสมปรารถนา ท่านเจ้าคุณสุริยัน วัดป่าวังน้ำเย็น หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน และศิษย์สายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง อธิฐานจิต








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องสมเด็จพระนั่งเมือง รุ่นมหาเศรษฐีสมปรารถนา ท่านเจ้าคุณสุริยัน วัดป่าวังน้ำเย็น หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน และศิษย์สายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง อธิฐานจิต
รายละเอียดสมเด็จพระนั่งเมือง รุ่นมหาเศรษฐีสมปรารถนา
ท่านเจ้าคุณสุริยัน (พระวชิรญาณวิศิษฏ์ วิ.) ประธานสงฆ์วัดป่าวังน้ำเย็น จังหวัดมหาสารคาม

หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน และเกจิคณาจารย์
ทั้งหมด 71 รูปพุทธาภิเษกอธิษฐานจิตในพิธี
ณ วัดป่าวังน้ำเย็น วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2566 เวลา 13.00 น.

************************


หลังจากที่ได้ทักทายพูดคุยกันแล้วก็ต้องรอเวลา
ซึ่งปรากฏว่าท่านเจ้าคุณสุริยัน (พระวชิรญาณวิศิษฏ์ วิ.)
ประธานสงฆ์วัดป่าวังน้ำเย็น ได้เมตตาเลื่อนเวลาให้เร็วขึ้น
จากเวลา ๑๔.๐๐ น. ขึ้นมาเป็นเวลา ๑๓.๓๙ น.
โดยที่ได้นิมนต์หลวงปู่บุญมา ปุญฺญาภิรโต (พระเทพภาวนาวิกรม วิ.) วัดชัยภูมิพิทักษ์
ให้เป็นผู้จุดเทียนชัย ส่วนท่านเจ้าคุณสุริยันเอง จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย


กระผม/อาตมภาพเข้าที่ได้ก็ภาวนา จัดกระแสไปตามแต่จะเห็นว่าของใครเป็นของใคร
โดยเฉพาะงานนี้เอามหาลาภทั้งหมดไว้นอกสุด
เนื่องเพราะว่าท่านเจ้าคุณสุริยันจะสร้างพระพุทธรูปนั่งเมือง ความสูง ๑๖๘ เมตร
เพื่อไว้เป็นที่สักการบูชาของประชาชนชาวพุทธทั่วโลก


ซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้นั้น ราคาประเมินในการก่อสร้างรวมพญานาคแล้วก็อยู่ที่ ๖๕๐ ล้านบาทโดยประมาณ
ถ้าไม่เอามหาลาภไว้ด้านนอก ก็ไม่รู้ว่าอีกกี่ปีกว่าที่จะหาเงินมาสร้างเสร็จ..!


ดังนั้น..ท่านใดถ้าหากว่าต้องการพระด้านลาภผลโดยตรงอีกรุ่นหนึ่ง
ก็ให้มาหาพระกริ่งนั่งเมือง รุ่นมหาเศรษฐีสมปรารถนา ของวัดป่าวังน้ำเย็นนี้ไปใช้งาน
ถ้าไม่รู้ว่าจะภาวนาอย่างไร ก็ภาวนาควบกับพระคาถาเงินล้านไปเลย


กระผม/อาตมภาพเองนั่งอยู่จนกระทั่ง "พระ" ท่านบอกว่าทำน้ำมนต์ได้
ก็จัดแจงทำน้ำมนต์ พอดีกับพระมหานาคสวดพุทธาภิเษกจบลงพอดี
จึงเป็นพระเกจิอาจารย์รูปเดียวที่ลุกไปพรมน้ำมนต์ได้ตรงเวลาทุกประการ
ทำให้กลายเป็นเป้าหมายของกล้องทีวีทุกกล้อง ที่หันมาจับอยู่คนเดียว


ระหว่างที่พรมน้ำมนต์ก็มองเห็นบรรดาครูบาอาจารย์ที่ได้รับนิมนต์มาร่วมงาน อย่างเช่น

ท่านอาจารย์ติ๋ว (พระครูวิมลญาณอุดม) วัดมณีชลขัณฑ์

ท่านอาจารย์อ๊อด (พระครูโสภณภัทรเวทย์) วัดสายไหม

ท่านอาจารย์แป๊ะ (พระครูยติธรรมานุยุต) วัดสว่างอารมณ์ เป็นต้น

รุ่นใหญ่อย่างหลวงพ่ออวยพร (พระครูปฐมวราจารย์) วัดดอนยายหอมก็มาด้วย

หรือแม้กระทั่งหลวงพ่อขวัญชัย (พระครูวิจิตรธรรมรัตน์) วัดนามะตูมก็มาเช่นกัน

บรรดาพระเถรานุเถระสายภาคอีสานก็มาด้วยกันหลายต่อหลายรูป รวมแล้วถ้าจำไม่ผิดก็คือ ๗๑ รูปด้วยกัน
ถือว่าเป็นงานพุทธาภิเษกที่ใช้พระเกจิอาจารย์ได้เปลืองมาก ๆ ทีเดียว..!


หลังจากพรมน้ำมนต์ รับไทยธรรมแล้ว
กระผม/อาตมภาพออกจากศาลามาก็ต้องรับการทำบุญจากญาติโยม FC วัดท่าขนุน ที่มาดักรออยู่หลายราย
กว่าที่จะหารองเท้าของตนเองพบว่าไปซุกอยู่ที่ไหน
หลังจากนั้นก็หลบออกประตูข้างของวัดป่าวังน้ำเย็นมา
ขณะที่ท่านอื่นไม่ทราบเหมือนกันว่าทำน้ำมนต์เสร็จแล้วหรือยัง ?


โดยเฉพาะหลวงพ่อหนุน (พระครูวิชัยสารคุณ) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร เพิ่งจะเดินทางมาถึง
แล้วยังถามกระผม/อาตมภาพอีกว่า "จะกลับแล้วหรือ ?"
โดยที่ไม่ได้นึกเลยว่าตัวเองมาช้าอะไรได้ขนาดนั้น..!


ในงานพุทธาภิเษกลักษณะแบบนี้ ถ้าหากว่าไม่ติดขัดอยู่ที่การจัดกระแสต่าง ๆ แล้ว
ต้องถือว่าเป็นงานที่ค่อนข้างจะสบาย เพราะว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาสงเคราะห์ด้วยพระองค์เอง
เมื่อพระองค์ท่านประทับนั่งลงในพิธีเต็มองค์แล้ว ก็บอกว่าเสร็จเรียบร้อย
ให้กระผม/อาตมภาพทำน้ำมนต์ได้ ก็ไม่คิดว่าจะตรงกับที่บรรดาพระมหานาคสวดพุทธาภิเษกเสร็จพอดี


การสวดพุทธาภิเษกของพระมหานาคทางด้านภาคอีสานนี้ ค่อนข้างที่จะลากเสียง
เพราะว่าคงจะเคยชิน เนื่องเพราะว่าบรรดาคนอีสานทั้งหลาย
ส่วนใหญ่ก็จะมักจะ "ม่วน" กับบรรดากลอนลำต่าง ๆ มาตั้งแต่เกิด
แม้กระทั่งการสวดมนต์ก็ยังใส่ทำนองเข้าไป
จนกระทั่งคนที่ไม่มีพื้นฐานฟังไม่รู้เรื่องเสียด้วยซ้ำไป
ว่าท่านทั้งหลายสวดอะไรบ้าง..!?

ต้องบอกว่าแล้วแต่ภาคใครก็ภาคนั้น ความนิยมต่างกัน
ก็ได้แต่ "แสวงหาจุดร่วม สงวนจุดต่าง" เพื่อทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ..!

หลังจากที่ลาออกมาแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้เดินทางเพื่อที่จะกลับสู่ที่พักคืนนี้เลย
ถ้าหากว่าไปถึงตามเวลา ก็น่าจะก่อนเที่ยงคืน เชื่อว่าคงจะมีเวลาพักอีกไม่น้อย
ระหว่างทางน่าจะสะสม "เสบียงบุญ" ได้เป็นกอบเป็นกำ
แล้วหลังจากนั้น รุ่งขึ้นก็ต้องไปงานต่ออีก


ต้องบอกว่าระยะนี้งานต่อเนื่องกันจนแทบจะไม่มีเวลากลับวัดเลย
ไม่ทราบเหมือนกันว่าญาติโยมที่ไปหาทางวัด อย่างเช่น
ท่านพลตรีศรชัย มนตริวัต จะบ่นไปกี่กระบุงโกย
เพราะอุตส่าห์ขึ้นไปถึงทองผาภูมิแล้ว
ปรากฏว่าเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนหนีมาอยู่ที่ภาคอีสานเสียนี่..!
ก็ต้องบอกว่าท่านทั้งหลายควรที่จะประสานงานไปล่วงหน้า
ไม่ใช่ว่าเดินทางขึ้นไปเอง โดยหวังว่าจะได้พบ
โอกาสที่ผิดหวังมีเกินกว่า ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์เสียอีก..!

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=9846
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน150 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 15 ต.ค. 2567 - 16:13:32 น.
วันปิดประมูล - 17 ต.ค. 2567 - 19:36:49 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลฉัตรเงิน (2K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 15 ต.ค. 2567 - 16:14:04 น.



.


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 15 ต.ค. 2567 - 16:14:15 น.



.


 
ราคาปัจจุบัน :     150 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    thitipant (2.4K)

 

Copyright ©G-PRA.COM
www1