(0)
เหรียญกลม หลวงปู่ทวด วัดพังเถียะ สงขลา ปี 2502 หลังเก้ารัชกาล ((( แดงวัดใจ 150 )))








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต





ชื่อพระเครื่อง เหรียญกลม หลวงปู่ทวด วัดพังเถียะ สงขลา ปี 2502 หลังเก้ารัชกาล ((( แดงวัดใจ 150 )))
รายละเอียด เหรียญรุ่นนี้จัดสร้างโดย ท่านพระครูปลัดเฉลียว ภูริปัญโญ เจ้าอาวาสในสมัยนั้น... จัดสร้างขึ้นเพื่อหาทุนปัจจัยในการสร้างโบสถ์, ศาลาการเปรียญ และปรับปรุงซ่อมแซม กุฏิสงฆ์ที่ชำรุดทรุดโทรมลง ของวัดพังเถี๊ยะ ท่านพระครูวิสัยโสภณ (อาจารย์ทิม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี) ท่านมาทำพิธีและปลุกเสกให้ รูปแบบเหรียญเป็นเหรียญกลม ด้านหน้าเป็น หลวงพ่อทวดนั่งเต็มองค์ ส่วนด้านหลัง เป็นรูป 9 รัชกาล จัดได้ว่าเป็นหลวงพ่อทวด...ต่างวัด... ที่ปลุกเสกโดย ท่านอาจารย์ทิม แห่ง วัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี เหมือนกันและหาชมได้ยากพิมพ์หนึ่ง... ในปัจจุบัน แต่ราคายังไม่แพงมากเหมือนกับเหรียญออกจากวัดช้างให้…แต่ในสภาพสวยๆ จะหาได้ยาก เหมาะกับท่านที่ชอบและต้องการมีหลวงปู่ทวดไว้ใช้เพื่อบูชาจริงๆ เรื่องของพุทธคุณคงไม่ต่างกันมากและได้เหรียญดี,เหรียญสวย,เหรียญเก่าปีพ.ศ.ลึก และพระอาจารย์ทิมท่านก็เสกให้เหมือนกันครับ............ประวัติ หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด วัดช้างให้ สมเด็จเจ้าพะโคะหรือหลวงพ่อทวด เป็นที่รู้จักของชาวไทยทุกภูมิภาคในฐานะพระศักดิ์สิทธิ์ที่มีอิทธิปาฏิหาริย์และอภิญญาแก่กล้าจนได้สมญาว่า “หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด”ท่านถือกำเนิดตรงกับ วันศุกร์ เดือนสี่ ปีมะโรง พุทธศักราช 2125 เมื่อกาลล่วงมานานจนเด็กชายปูอายุได้เจ็ดขวบ บิดาได้นำไปฝากสมภารจวง วัดกุฏิหลวง (วัดดีหลวง) เพื่อให้เล่าเรียนหนังสือเด็กชายปูมีความเฉลียวฉลาดมาก สามารถเรียนหนังสือขอมและไทยได้อย่างรวดเร็ว ครั้นอายุได้ 15 ปี ก็บรรพชาเป็นสามเณรและบิดาได้มอบแก้ววิเศษไว้เป็นของประจำตัว ต่อมาสามเณรปูได้ไปศึกษาต่อกับสมเด็จพระชินเสน ที่วัดสีหยัง (สีคูยัง) ครั้นอายุครบอุปสมบทจึงได้เดินทางไปศึกษาต่อที่นครศรีธรรมราช ณ สำนักพระมหาเถระปิยทัสสี ได้ทำการอุปสมบทมีฉายาว่า “ ราโม ธมฺมิโก ” แต่คนทั่วไปเรียกท่านว่า “ เจ้าสามีราม ” หรือ “ เจ้าสามีราโม ” เจ้าสามีรามได้ศึกษาอยู่ที่วัดท่าแพ วัดสีมาเมือง และวัดอื่นๆ อีกหลายวัด เมื่อเห็นว่าการศึกษาที่นครศรีธรรมราชเพียงพอแล้วจึงขอโดยสารเรือสำเภาเดินทางไปกรุงศรีอยุธยา ขณะเดินทางถึงเมืองชุมพร เกิดคลื่นทะเลปั่นป่วน เรือไม่สามารถแล่นฝ่าคลื่นลมไปได้ต้องทอดสมออยู่ถึงเจ็ดวัน ทำให้เสบียงอาหารและน้ำหมดบรรดาลูกเรือตั้งข้อสงสัยว่าการที่เกิดเหตุอาเพศในครั้งนี้เพราะเจ้าสามีราม จึงตกลงใจให้ส่งเจ้าสามีรามขึ้นเกาะและได้นิมนต์ให้เจ้าสามีรามลงเรือมาด ขณะที่นั่งอยู่ในเรือมาดนั้น ท่านได้ห้อยเท้าแช่ลงไปในทะเลก็บังเกิดอัศจรรย์น้ำทะเลบริเวณนั้นเป็นประกายแวววาวโชติช่วง เจ้าสามีรามจึงบอกให้ลูกเรือตักน้ำขึ้นมาดื่มก็รู้สึกว่าเป็นน้ำจืด จึงช่วยกันตักไว้จนเพียงพอ นายสำเภาจึงนิมนต์ให้ท่านขึ้นสำเภาอีก และตั้งแต่นั้นมาเจ้าสามีรามก็เป็นชีต้นหรืออาจารย์สืบมา เมื่อถึงกรุงศรีอยุธยา ก็ได้ไปพำนักอยู่ที่วัดแค ศึกษาธรรมะที่ วัดลุมพลีนาวาส ต่อมาได้ไปพำนักอยู่ที่วัดของสมเด็จพระสังฆราช ได้ศึกษาธรรมและภาษาบาลี ณ ที่นั้นจนเชี่ยวชาญจึงทูลลาสมเด็จพระสังฆราชไปจำพรรษาที่วัดราชนุวาส เมื่อประมาณ พ.ศ. 2149 ตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระเอกาทศรถ กระทั่งวันหนึ่งถึงกาลเวลาที่ชื่อเสียงของหลวงปู่ทวดหรือเจ้าสามีรามจะระบือลือลั่นไปทั่วกรุงสยาม สมเด็จเจ้าพะโคะหรือหลวงปู่ทวดครองสมณเพศและจำพรรษาอยู่ที่วัดพะโคะ เป็นที่พึ่งของประชาราษฎร์มีความร่มเย็นเป็นสุข ได้ช่วยการเจ็บไข้ได้ทุกข์ บำรุงสุข เทศนาสั่งสอนธรรมของพระพุทธองค์ ประดุจร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงพุทธศาสนิกชนตลอดมา หลังจากนั้นหลายพรรษา สมเด็จเจ้าฯ หายไปจากวัดพะโคะเที่ยวจาริกเผยแผ่ธรรมะไปหลายแห่ง จากหลักฐานทราบว่าท่านได้ไปพำนักที่เมืองไทรบุรี ชาวบ้านเรียกท่านว่า “ ท่านลังกา ” และได้ไปพำนักที่วัดช้างไห้ ชาวบ้านเรียกท่านว่า “ ท่านช้างให้ ” ดังนี้ ท่านได้สั่งแก่ศิษย์ว่าหากท่านมรณภาพเมื่อใด ขอให้ช่วยกันจัดการหามศพไปทำการฌาปนกิจ ณ วัดช้างให้ด้วย ขณะหามศพพักแรมนั้น ณ ที่ใดน้ำเหลืองไหลลงสู่พื้นดิน ที่ตรงนั้นให้เอาเสาไม้แก่นปักหมายไว้ต่อไปข้างหน้าจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่มาไม่นานเท่าไร ท่านก็ได้มรณภาพลงด้วยโรคชรา ปวงศาสนิกก็นำพระศพมาไว้ที่วัดช้างให้ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี สถานที่ที่สมเด็จเจ้าฯ เคยพำนักอยู่ หรือไปมา นับได้ดังนี้ วัดกุฎิหลวง วัดสีหยัง วัดเสมาเมือง นครศรีธรรมราช กรุงศรีอยุธยา วัดพะโคะ วัดเกาะใหญ่ วัดในไทรบุรี และวัดช้างให้ /// ปัจฉิมภาค /// สมเด็จเจ้าฯ ในฐานะพระโพธิสัตว์หน่อพระพุทธภูมิ ผู้ทรงศีลวิสุทธิทรงธรรมและปัญญาญาณอันล้ำเลิศ กอปรด้วยกฤษดาภินิหารและปาฏิหาริย์ไม่ว่าท่านจะพำนักอยู่สถานที่ใด ที่นั่นจะเป็นศูนย์กลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ว่าท่านจะจาริกไป ณ ที่ใด ก็จะมีคนกราบไหว้ฟังธรรม หลักการปฏิบัติของท่านเป็นหลักสำคัญของพระโพธิสัตว์คือช่วยเหลือประชาชนและเผยแพร่ธรรมะให้ชาวโลกอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข มีความเคารพเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์ สมดังคำว่า “ พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ” ตลอดไป
ราคาเปิดประมูล 100 บาท
ราคาปัจจุบัน 150 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ 50 บาท
วันเปิดประมูล จ. - 04 พ.ย. 2567 - 16:01:44 น.
วันปิดประมูล พ. - 06 พ.ย. 2567 - 10:20:01 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูล Sawokyadong (175)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 จ. - 04 พ.ย. 2567 - 16:02:03 น.



1


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 จ. - 04 พ.ย. 2567 - 16:02:20 น.



2


 
ราคาปัจจุบัน :     150 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    เอ็มพระอาทิตย์ (1.7K)

 
(0)
  ประวัติการเสนอราคา
 ผู้เสนอราคาราคาเวลา
  เอ็มพระอาทิตย์ (1.7K) 150 บาท อ. - 05 พ.ย. 2567 - 10:20:01 น. (ถึงราคาขั้นต่ำแล้ว)

Copyright ©G-PRA.COM
www1