รายละเอียด |
#ลูกอม มีคนเคยขอหลวงพ่อท่านลองยิง!!!!!!
ท่านบอกได้สิสามนัด จ่อยิงใกล้ๆเอาใส่ตลับแล้วตอกตะปูติดต้นมะพร้าวใว้ ยิงจ่อๆ ไม่โดนเลยกดไปหกนัดหมดโม่ยิงออกหมดแต่ไม่โดนไม่เป็นอะไรเลยแบบเผาขน!!!!
ลูกอมดินโป่ง(เผา) ๑๗ แห่ง
*หลวงพ่อวิเชียรเล่าให้ฟังว่า หลวงพ่อท่านขึ้นไปข้างบน
เห็นข้างบนเขากำลังก่อไฟเผาดินโป่ง ทำลูกอมกัน ท่านก็ไปช่วยเขาทำ เมื่อลงมาท่านก็ทำบ้าง นั่งเสกหน้ากองไฟจนธรรมมาสน์จะไหม้ จนศิษย์ต้องเอากาบกล้วยมาปิดขาธรรมมาสน์ไว้ไม่งั้นไหม้แน่ๆ
ลูกอมนี้เป็นสูตรการสร้างจากข้างบน มีอานุภาพด้านเสริมกำลังในขณะทำสมาธิเข้ากรรมฐานนี่ดีมาก อีกด้านของเขาก็เมตตามหานิยม ส่วนด้านอื่นๆก็แล้วแต่จะอธิษฐานใช้
มีลูกศิษย์ท่านอมลูกอมนี้เป็นล่ำเป็นสัน จะกินข้าวกินน้ำก็อม จะนอนก็ยังจะอม มีคืนหนึ่งแกเผลอกลืนลงไป เอาไงหล่ะทีนี้ แกเลยจุดธูปบอกหลวงพ่อ เอาผ้าขาวปูรองไว้ข้างๆที่แกนอน รุ่งเช้าปรากฎลูกอมที่แกกลืนลงไปกลับมาวางอยู่บนผ้าขาวได้อย่างน่าอัศจรรย์
ที่แน่ๆครับลูกอมของท่านอมได้ ไม่ละลาย แถมยังเหมาะแก่การทำสมาธิอย่างมาก!!!!!!!หลวงพ่อวิเชียร วชิโร จอมมังเวทย์สหายธรรมคู่บุญพระครูพิศิษฐชโลปการ
โดย ศศิภรรทร์ กีรติศักดิ์
สมัยก่อนวัดเนินสุทธาวาสนี้เคยมีพระอาจารย์สำคัญรูปหนึ่งมีตำแหน่งเป็น รองเจ้าอาวาสคู่บารมีของหลวงพ่อเกลี้ยง หลวงพ่อรูปนั้นก็คือ หลวงพ่อวิเชียร วชิโร ท่านผู้นี้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาวัดเนินสุทธาวาสควบคู่กับหลวงปู่เกลี้ยงมาโดยตลอดโดยเฉพาะเรื่องพิธีกรรมการบวงสรวงการสร้างวัตถุมงคลรุ่นต่างๆของวัดเนินฯจะเรียกได้ว่าท่านเป็นเจ้าพิธีประจำวัดเนินฯเลยก็ว่าได้ ท่านมีฉายาที่สาธุชนและลูกศิษย์วัดเนินฯกล่าวขวัญถึงหลวงพ่อคือ หลวงพ่อจอมขมังเวทย์ ที่มีฉายาดังกล่าวเพราะหลวงพ่อวิเชียร ท่านชอบสงเคราะห์ญาติโยมในทางแก้ไขเรื่องเร้นลับกำหลาบภูตผีปีศาจหรือสิ่งที่มองไม่เห็นเป็นพิเศษ บุคคลทั่วๆไปจึงมองหลวงพ่อทั้งสองมีคุณวิเศษต่างกันไปถ้าพูดภาษาชาวบ้านคือ หลวงปู่เกลี้ยง ท่านจะเก่งทางบุ๋น หมายถึงด้านการพัฒนา การปกครอง ด้านเมตตามหานิยม รักษาสงเคราะห์คลายทุกข์ด้วยความเย็น ส่วน หลวงพ่อวิเชียร ท่านจะเก่งทางบู๊ หมายถึงด้านคงกระพัน มหาอุตม์ ปราบปรามสิ่งเลวร้ายขจัดปัดเป่าด้วยความร้อนจากไฟคุณธรรม แม้จะอยู่ ณ สถานที่เดียวกันแต่ทั้งสองก็หาได้แข่งบารมีกันไม่ ในทางตรงกันข้ามกลับช่วยกันพัฒนาวัดเนินสุทธาวาสให้เจริญรุ่งเรืองมาจนถึงทุกวันนี้
หลวงพ่อวิเชียรท่านเป็นชาวชลบุรีโดยกำเนิดเกิดในตระกูล พงษ์พระเกตุ เกิดวันที่ ๓๑ กันยายน พ.ศ.๒๔๗๑ แรม ๒ ค่ำเดือน๑๐ ปีมะโรง โยมบิดาชื่อนายทศ โยมมารดาชื่อนางสิน มีน้องสาวชื่อนางบุญให้ อินทรมงคล ประวัติการอุปสมบทของท่านไม่มีการจดบันทึกว่าบวชวัดใด?ผู้ใดเป็นพระอุปัชฌาย์และพระคู่สวด ทราบแต่ว่าเดิมทีท่านเป็นทหารเก่าภายหลังได้มาอยู่วัดเนินฯขณะที่ท่านกำลังช่วยงานก่อสร้างพัฒนาวัดอยู่ ได้พบชายชราปริศนาสวมเสื้อสีขาวขุ่นทักท่านด้วยประโยคเดิมๆว่า เห็นแล้วจำ ทำให้จริง คู้น... พอท่านจะเดินมาถามให้หายสงสัยว่าพ่อเฒ่าท่านนั้นต้องการบอกอะไร ชายชราคนนั้นก็หายไปกลางวันแสกๆ เมื่อท่านครุ่นคิดปริศนาอยู่หนึ่งคืนรุ่งเช้าท่านก็ออกเดินทางไปยังวัดกษัตรธิราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อกราบนมัสการหลวงปู่เทียม สิริปัญโญ พระเกจิชื่อดังในการทำตะกรุดในยุคนั้น หลวงพ่อวิเชียรไปสังเกตุการทำตะกรุดจากหลวงพ่อเทียมอยู่หลายวัน จนไปๆมาๆอยู่ ๓ เดือน จึงจำวิธีการทำตะกรุดมาหัดทำเองบ้างที่วัดเนินฯระหว่างที่ท่านกำลังฝึกฝนด้านวิชาอาคมอยู่นั้นท่านก็เริ่มหนักไปทางการปฏิบัติสมถะกรรมฐาน แม้ในเวลานอนก็ยังนอนฝึกสมาธิ ท่านเคยเล่าให้ศิษย์ใกล้ชิดฟังว่าครั้งหนึ่งเคยนอนภาวนาเสกเหรียญหลวงพ่อโตปี ๐๖ จนตัวลอยขึ้นแบบไม่ตั้งใจแต่พอได้สติออกจากภวังค์ท่านกลับภาวนากดตัวเองลง พอลงได้สำเร็จเหรียญหลวงพ่อโตกลับกระโดดลอยขึ้นอย่างอัศจรรย์ หลวงพ่อนั่งปฏิบัติกรรมฐานขั้นอุกฤษฎ์จนภายในจิตของท่านเกิดตัว รู้ บางอย่างขึ้น เช่นเห็นสิ่งที่คนทั่วไปมองไม่เห็น ,รู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างเม่นยำจนชื่อเสียงขจรขจายไปทั่ว ชาวบ้านทั่วไปรู้จักกิตติศัพท์มาขอให้ท่านช่วยเหลือสงเคราะห์เป็นจำนวนมากจนเกิดสมญานาม หลวงพ่อเชียรจอมขมังเวทย์ ถ้าไล่ผีแล้วไม่มีที่ไม่ไป แม้แต่หลวงปู่เกลี้ยงเองก็ยังชื่นชมในความสามารถด้านนี้ของท่าน เมื่อถึงเวลางานประจำปีเมื่อไหร่วัดเนินฯจะสร้างวัตถุมงคล หลวงปู่เกลี้ยงเป็นต้องมอบหน้าที่ให้หลวงพ่อวิเชียรเป็นแม่งานทุกครั้งไป ในฝ่ายหลวงพ่อวิเชียรก็น่าชื่นชมแม้จะเป็นเจ้าพิธีสร้างวัตถุมงคลพร้อมกับเป็นประธานปลุกเสกหลักแต่ก็ไม่เคยสร้างเหรียญเป็นรูปตัวท่าน ท่านมักบอกกับลูกศิษย์ว่า ให้อาจารย์เกลี้ยงเขาอยู่หน้า เขารับแขกไป ส่วนฉันชอบงานพิธีกรรม ได้ฟังแล้วก็อดคิดถึงคนในสมัยนี้ไม่ได้ว่า ถ้าคนในบ้านเราสามัคคีไม่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นเหมือนหลวงพ่อทั้งสองรูปนี้ประเทศเราก็คงพัฒนาไปกว่านี้แล้ว
สำหรับการสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อวิเชียรก็มีเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะหลวงพ่อมักเกิดนิมิตพิเศษเกี่ยวกับวิธีการสร้างวัตถุมงคลต่างๆที่ผิดแผกแตกต่างไปจากสำนักอื่นๆตัวอย่างเช่นมวลสารที่จะนำมาทำก็เกิดจากหลวงพ่อนิมิตว่าสถานที่ไหนมีของทนสิทธิ์,ของมงคลที่เชื่อว่ามีดีอยู่ในตัวอยู่แล้วเช่นคด,แร่พระร่วง,ปรอท,ว่าน,มะขามกลาย รวมเวลาทั้งหมดที่รวบรวมมวลสารวิเศษเหล่านี้๒๒ปี ตอนแรกๆลูกศิษย์ลูกหาก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไรนัก แต่พอไปขุดค้นหามวลสาร ต่างก็พบตามคำพูดของหลวงพ่อทุกครั้งไปราวกับหลวงพ่อมี ตาทิพย์
อีกเรื่องหลวงพ่อนิมิต(ฝัน)ถึง หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบมาตามให้ท่านและหลวงพ่อเกลี้ยงไปจดตำราที่วัดสัตหีบนำมาสร้างประโยชน์ต่อพระศาสนา หลวงพ่อวิเชียรเชื่อตามนั้นและชวนหลวงปู่เกลี้ยงเดินทางไปตามนิมิต เมื่อถึงวัดสัตหีบลูกศิษย์หลวงพ่ออี๋ก็ตอบปฏิเสธว่าไม่มีตำหรับตำราอะไรเหลือทิ้งไว้ที่วัดเพราะไม่แน่ใจในคำพูดพระต่างถิ่น หลวงพ่อวิเชียรเถียงว่า มีสิตำรามันรูปร่างนั้นโน้นอย่างนี้บอกลักษณะจนเสร็จสรรพ เท่านั้นเองพระอาจารย์รูปนั้นได้ยกมือไหว้ขอขมาและมอบตำราให้ทั้ง ๒ ท่านจดไปใช้โดยดี
วัตถุมงคลวัดเนินฯ ยุคแรกของหลวงพ่อวิเชียรสร้างก่อนปี๒๕๐๐ส่วนใหญ่เป็นตะกรุด,ผ้ายันต์และปลัดขิก ทำไว้พอสมควรและหาชมได้ยากในปัจจุบัน
ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๓ ท่านสร้างพระเครื่องออกมาพิมพ์แรกเรียกว่า พระสามฉัตร สร้างจากผงปถมังที่ท่านเขียนและลบเองผสมกับมวลสารพิเศษจากนิมิต,ว่านยาเก่าหลวงพ่อโตวัดเนินฯ,ดินเจ็ดป่าช้า,ว่านสบู่เลือด พุทธลักษณะพิมพ์ทรงผลาญไถ พระเป็นรูปพระพุทธสิหิงส์ที่ประดิษฐานอยู่บนหอพระเมืองชลฯ เหนือพระเศียรและซ้าย-ขวาของพระมีฉัตรประดิษฐานอยู่ พระบางองค์มีเม็ดแร่พระร่วงฝังอยู่ จำนวนการสร้างไม่เกินหลักพัน ประสบการณ์ด้านวัตถุมงคลรุ่นนี้ออกแนวคงกระพันแคล้วคาดมีคนทดลองด้วยวิธีแผลงๆมาแล้วหลายครั้งแต่ก็ได้รับบทเรียนไปตามๆกัน
พ.ศ.๒๕๐๙ สร้างลูกอมตำหรับเบื้องบน มีการเผาตามฤกษ์ต่างๆลูกอมหลวงพ่อวิเชียรถ้าทำตกหายถ้าเจ้าของเป็นคนมีศีลธรรมดี ลูกอมจะกลับมาหาเจ้าของได้เองมีพุทธคุณด้านเมตตาแคล้วคลาด
พ.ศ.๒๕๓๑ หลังจากหลวงพ่อวิเชียรว่างเว้นจากการสร้างวัตถุมงคลมานานเนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ ทางคณะศิษย์โดยมีอาจารย์อนันต์ นันทกูลรับเป็นเรี่ยวแรงแทนหลวงพ่อในการจัดสร้างพระเครื่องสมเด็จโมรา-วชิโร พระมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมชิ้นฟักด้านหน้านำพระเครื่องกรุพนัสนิคมมาเป็นแบบในซุ้มชินราชเนื้อพระมีหลายสี แต่สีหลักๆคือสีเขียวจะเรียกกันว่า พระโมรา ส่วนสีแดงจะเรียกว่า พระวชิโร ด้านหลังประทับยันต์นะตำหรับของหลวงพ่อ นอกจากนี้ยังมีพระปิดตาโสฬสมงคลประดิษฐานยันต์ประจำตัวหลวงพ่อทั้ง ๑๖ แบบเช่น นะมหาระงับ,นะแตก,นะบังเกิด,นะโอ้ฟ้าผ่า เป็นต้น , พระเครื่องยันต์นะทรงแผ่นดินพิมพ์น้ำเต้า,พิมพ์ปีกแมลงปอ,พระเครื่องนะบิน ฯลฯ พระเครื่องชุดเนื้อผงของวัดเนินฯนี้เป็นพระเครื่องมีศิลป์ที่แปลกตามีเสน่ห์ในตัวครับ
พ.ศ.๒๕๓๕ สร้างเหรียญรุ่นแรกเรียกว่าเหรียญนาคเกี้ยววชิโร ๓ รู ๗ เหลี่ยม เหรียญรุ่นนี้เป็นที่นิยมและแสวงหากันมากเพราะใช้ในทางแก้อาถรรพ์ เปลี่ยนฮวงจุ้ย กันดวงตก นับเป็นเหรียญรุ่นแรกและรุ่ยสุดท้ายของหลวงพ่อ หลวงพ่ออายุอ่อนกว่าหลวงปู่เกลี้ยง ๑๐ ปี แต่เป็นที่น่าเสียดายที่หลวงพ่อวิเชียรได้ถึงกาลมรณภาพไปก่อนด้วยโรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน เมื่อวันอังคารที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๗ สิริอายุ ๖๖ ปี ๒ เดือน ๒๔ วัน ทิ้งไว้เพียงอนุสรณ์แห่งความดีงามและผลงานในการพัฒนาคน พัฒนางานในวัดให้เป็นที่ประจักษ์และกล่าวสรรเสริญ
สำหรับเรื่องราวเกร็ดประวัติสำคัญๆระหว่างหลวงพ่อวิเชียร วชิโร กับ หลวงปู่เกลี้ยง จะสมบูรณ์ไปมิได้ถ้าขาดบุคคลสำคัญท่านหนึ่งคือท่านอาจารย์อนันต์ นันทกูล ท่านเป็นศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อวิเชียรและได้อยู่กับหลวงพ่อจนวาระสุดท้ายพร้อมกับหลวงปู่เกลี้ยง
ขอขอบพระคุณผู้ให้ข้อมูล : พระครูพิศิษฐชโลปการ(หลวงปู่เกลี้ยง มนุญฺโญ) วัดเนินสุทธาวาส
อาจารย์อนันต์ นันทกูล ปราชญ์ท้องถิ่นผู้เชี่ยวชาญด้านเลขยันต์และ
จิตรกรรม วัดเนินสุทธาวาส (ศิษย์หลวงพ่อวิเชียร วชิโร)
คุณวุฒินันท์ ป้องป้อม ผู้ศึกษาวิจัยเรื่องศาสตร์โบราณภาคตะวันออก |