(0)
ตะกรุดเนื้อเงิน หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต





ชื่อพระเครื่อง ตะกรุดเนื้อเงิน หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์
รายละเอียด เนื้อเงินสวยๆพร้อมบัตรสมาคมครับ ยาว 4.5ซม นำไปขึ้นคอขนาดกำลังดีเลยครับ ยังไม่เคยเห็น จี ออกบัตรนะครับ
ตะกรุดหลวงพ่อเดิม หลอมไม่ละลายที่วัดราชบพิธฯ
แอดมินไปอ่านเจอข้อเขียนคุณสุรเวทย์ เสนภูษา ได้นำข้อความบันทึกคุณประดิษฐ์ ลิ้มประยูร มาลง อ่านแล้วมีความเพลิดเพลินบันเทิงใจมาก จึงอยากมาแบ่งปันแฟนเพจ ได้อ่านด้วย โดยจะแบ่งมาลงเป็นตอนๆ แต่ถ้าคนกดไลค์น้อย คงลงตอนเดียวจบ ถ้าชอบช่วยกดไลค์กันเยอะๆ
ข้าพเจ้า ประดิษฐ์ ลิ้มประยูร อดีตพนักงานรถไฟ แห่งประเทศไทย
และอดีตแชมป์มวยรุ่นเฮฟวี่เวท แห่งกรุงสยามได้มีความสนใจเกี่ยวกับเครื่องลาง ของขลัง และเวทย์มนต์คาถามาตั้งแต่ครั้งเมื่อเริ่มหัดชกมวยใหม่ๆ มวยไทย และมวยสากลนั้นลีลาการชกผิดกันมวยสากลใช้กำปั้นหุ้มนวมตะบันกันด้วยสมอง แต่มวยไทยใช้สมองและทุกส่วนของร่างกายเข้าห้ำหั่นกันอาวุธอันแหลมคมที่เกิดจากอวัยวะภายนอกของร่างกาย ก่อให้เกิดการบาดเจ็บอยู่เสมอ
อย่างน้อยก็คิ้วแตก ปากแตก หัวแตก หรือร้ายแรงก็อวัยวะภายในช้ำจนถึงตายการชกมวยไทยจึงต้องมีการสรวมมงคล มีการเสกเป่า และใช้ผ้าประเจียดพันแขนมาตั้งแต่ครั้งมวยคาดเชือก ที่อันตรายกว่ามวยต่อยนวมเสียอีกนักมวยไทยทุกคนต้องรู้จักคาถา รู้จักไหว้ครู รู้จักเคารพท่านผู้ประสิทธิประสาทวิชามีขั้นตอนหลายอย่าง จึงมักปรากฏบ่อยๆว่านักมวยรุ่นเดียวกันกับข้าพเจ้าหลายคนล้วนไม่เคยต้องอาวุธคู่ต่อสู้จนถึงกับแตกเลือดไหลโกรกส่วนมากบวมปูดหรือเลือดออกซิบๆเท่านั้น
เหตุนี้เองเมื่อข้าพเจ้าได้มาอยู่รถไฟสายเหนือจึงได้รับการแนะนำจากเพื่อน พ.ข.ร.
(พนักงานขับรถไฟ)ด้วยกันที่อาศัยอยู่ในอ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ให้ได้รู้จักกับพระอาจารย์รูปหนึ่ง
เมื่อปีพ.ศ. ๒๔๘๐พระอาจารย์รูปนั้นคือ หลวงพ่อจันทร์ วัดคลองระนง ข้าพเจ้าได้กราบนมัสการท่านให้ท่านรดน้ำมนต์ ท่านได้ทำตะกรุด และผ้าประเจียดให้กับข้าพเจ้าข้าพเจ้านับถือท่านเป็นอาจารย์คนแรกที่ได้ประสิทธิวิชาให้กับข้าพเจ้า
ทุกครั้งที่หลวงพ่อจันทร์จะทำของหรือรดน้ำมนต์ให้กับข้าพเจ้าท่านมักจะเอ่ยถึงนาม หลวงพ่อเดิม หรือท่านพระครูนิวาสธรรมขันธ์ วัดหนองโพให้ข้าพเจ้าฟังเสมอ
ท่านบอกว่าหลวงพ่อเดิมคือ พระอาจารย์ของท่านวิชาทุกอย่างที่ได้ทำของให้กับข้าพเจ้านั้น ได้รับมาจากหลวงพ่อเดิมทั้งสิ้นข้าพเจ้าจึงค่อยๆคุ้นกับพระนามของหลวงพ่อเดิม และต่อๆมาเมื่อสอบถามคนรถไฟด้วยกันก็มีเสียงเล่าลือหนาหู ว่าหลวงพ่อเดิมนั้นศักดิ์สิทธิ์นักข้าพเจ้าได้แต่ฟังไม่ได้แวะไปนมัสการเพราะในตอนนั้นการรถไฟมิได้หยุดรถที่สถานีรถไฟหนองโพ แต่เลยไปหยุดที่เนินมะกอกแทนการจะลงนมัสการท่าน ต้องย้อนขึ้นไปลำบากมาก
ในขณะเดียวกันเรื่องราวเกี่ยวกับคนตกรถไฟแล้วไม่เป็นอันตรายมีหนาหูแม้แต่ขบวนที่ข้าพเจ้าอยู่ก็เคยมีคนตกลงไป แต่กลับไม่เข้าใต้ล้อคงถลอกปอกเปิกเพียงเล็กน้อย ร่างกายไม่มีส่วนไหนบุบสลายเมื่อสอบถามดูก็ได้ความว่ามีตะกรุด หรือเหรียญ ปี๒๔๗๐ ของหลวงพ่อเดิมติดตัวข้าพเจ้าก็ยังคงไม่ได้ไปนมัสการอยู่เช่นเคย เพราะถือว่าหลวงพ่อจันทร์ ก็เพียงพอแล้ว>>
อภินิหารปรากฏต่อสายตา
พ.ศ. ๒๔๘๐ ปลายปีหลวงพ่อจันทร์ได้ขอร้องให้ข้าพเจ้าเดินทางเข้ากรุงเทพฯกับท่านโดยท่านได้เอาจดหมายจากวัดราชบพิธฯในนามคณะกรรมการจัดการหล่อรูปสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์มานิมนต์ท่านไปร่วมพิธีพุทธาภิเษกที่วัดนั้น
ท่านบอกกับข้าพเจ้าว่าท่านอาจารย์(หลวงพ่อเดิม) ได้รับนิมนต์ด้วยเหมือนกัน และได้เรียกท่านไปที่วัดหนองโพพร้อมทั้งฝากให้ช่วยเรียนพระเถระชั้นผู้ใหญ่ และคณะกรรมการด้วยว่าท่านเป็นพระบ้านนอกไม่ค่อยจะถนัดในการจะลงไปกรุงเทพฯ ขอส่งแผ่นฝาบาตรลงอักขระไปร่วมหล่อรูป และวัตถุมงคลด้วยเพื่อแสดงความคารวะต่อสมเด็จพระสังฆราชเจ้าที่ได้ทรงสิ้นชีพิตักษัยไปแล้วนั้น
หลวงพ่อจันทร์ท่านจึงได้นำเอาตะกรุดฝาบาตร ติดตัวลงไปข้าพเจ้าจึงติดตามหลวงพ่อจันทร์ลงมากรุงเทพฯเพื่อร่วมงานพุทธาภิเษกที่วัดราชบพิธฯในครั้งนั้นวันงานมาถึง (วันที่ และเดือนข้าพเจ้าจำไม่ได้แล้ว)ถึงรอบของหลวงพ่อจันทร์เข้านั่งปรก ข้าพเจ้าถือย่ามตามเข้าไปส่งบรรยากาศในพิธีนั้นเยือกเย็น คณะกรรมการได้ให้ตำรวจและสารวัตรทหารเข้ามารักษาการเพื่อไม่ให้มีการเฮละโลเข้าไปกวนใจพระเกจิอาจารย์ที่มาร่วมพิธีการเข้าออกของพระเกจิอาจารย์นั้นจะให้เข้าออกทางประตูที่จัดเอาไว้ให้เป็นพิเศษหาไม่แล้วท่านจะได้รับความลำบากมาก
หลวงพ่อจันทร์ได้นำเอาตะกรุดฝาบาตรของหลวงพ่อเดิมหย่อนลงไปในเบ้าหลอมด้วยจากนั้นจึงเข้าไปนั่งปรก เวลาล่วงเลยไปจนถึงเย็นก็ครบรอบที่หลวงพ่อจันทร์จะออกจากการนั่งปรก พลันก็มีเสียงเอะอะ ภายนอกว่า “ในเบ้าหลอมมีตะกรุดดอกหนึ่งไม่ยอมละลายช่างทองได้พยายามเขี่ยแล้วเขี่ยอีกน่าหนักใจ เป็นตะกรุดฝาบาตรเสียด้วยพระอาจารย์หลายๆองค์ได้ให้ลูกศิษย์ไปดูตะกรุดก็ไม่มีผู้ใดเป็นเจ้าของหลวงพ่อจันทร์ดูเหมือนจะนึกได้ จึงชวนข้าพเจ้าออกไปดู ที่เบ้าหลอมอันร้อนแรงนั้นเองเมื่อมองลงไปก็เห็นตะกรุดฝาบาตรดอกที่หลวงพ่อจันทร์ใส่ลงไปลอยฟ่องอยู่
หลวงพ่อจันทร์จำได้แม่นยำเพราะที่มุมของตะกรุดมีรอยตัดบนมุมทั้งยังมองเห็นรอยจารย์อักขระ และตาตารางที่กดจารย์จนนูนออกมาได้ชัดหลวงพ่อจันทร์ถึงกับอุทานออกมาว่า “พระคุณอาจารย์ กระผมมิได้บอกกล่าว” ท่านได้ให้ช่างทอง เอาเครื่องมือคีบเอาตะกรุดขึ้นมาเหนือเบ้าโลหะที่หลอมอ
ยู่ ข้าพเจ้าเห็นท่านนั่งลงบนพื้นก้มกราบลงไปตรงหน้าเบ้าหลอมด้วยอาการอันเคารพ ท่านพึมพำสักครู่หนึ่งจึงให้ช่างสุมทองปล่อยตะกรุดลงไปในเนื้อทองข้าพเจ้าชะโงกมองขนลุกซุ่ ตะกรุดฝาบาตรดอกนั้นยุบตัวแวบเหมือนกระดาษถูกไฟเผารวมกับเนื้อทองในทันทีทันใด>>
เมื่อเสร็จสิ้นพิธีที่วัดราชบพิธฯแล้วข้าพเจ้าก็ได้ติดตามหลวงพ่อจันทร์มาที่คลองระนง และตอนนี้เองที่ข้าพเจ้ามีความสนใจและเกิดศรัทธาอย่างท่วมท้น ที่จะเข้านมัสการหลวงพ่อเดิมให้จงได้จึงกราบขอให้หลวงพ่อจันทร์ ช่วยพาตัวเข้าไป หลวงพ่อจันทร์ไม่ขัดข้องแต่ผลัดว่าต้องสอบถามดูก่อนว่าหลวงพ่อเดิมอยู่วัดหรือเปล่า
ขอขอบคุณข้อมูลจากคุณสุรเวทย์ เสนภูษา และผู้ที่นำมาลงต่อ
ราคาเปิดประมูล 6,540 บาท
ราคาปัจจุบัน 6,560 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ 20 บาท
วันเปิดประมูล อา. - 17 พ.ย. 2567 - 22:30:18 น.
วันปิดประมูล จ. - 18 พ.ย. 2567 - 22:58:52 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูล xinehp (474)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     6,560 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    jouicepeam (1.2K)

 
(0)
  ประวัติการเสนอราคา
 ผู้เสนอราคาราคาเวลา
  jouicepeam (1.2K) 6,560 บาท อา. - 17 พ.ย. 2567 - 22:58:52 น. (ถึงราคาขั้นต่ำแล้ว)

Copyright ©G-PRA.COM
www1