| ชื่อพระเครื่อง |
หากทำอะไรติดขัดไม่มีโชคดวงตกแนะนำอาราธคอบูชาองค์นี้ดูครับ |
| รายละเอียด |
เป็นพระที่ใช้มวลสารสมเด็จโตพรพมรังสีล้วนโดยนำพระสมเด็จกรุวัดเกษไชโยที่ชำรุดแตกหักมาเป็นส่วนผสมหลักและพระสมเด็จกรุวัดระฆังที่ชำรุดแตกหัก ที่หลวงปู่นาคมอบให้แถมลูกศิษย์สายตรงสมเด็จโตมาร่วมอธิฐานจิตหลายเกจิคณาจารย์ได้แก่ หลวงปู่นาค วัดระฆัง เป็นต้น พระเนื้อผงพิมพ์อู่ทองพระประธาน วัดอ่างทอง จ.อ่างทองปี2491 วัดอ่างทองวรวิหาร หรือเรียกสั้นๆว่า "วัดอ่างทอง" เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก ตั้งอยู่บริเวณข้างศาลากลางจังหวัดอ่างทอง เดิมเป็นวัดเล็กๆ 2 วัด ชื่อวัดโพธิ์เงินและวัดโพธิ์ทองสร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 ต่อมาในปี พ.ศ.2443 สมัยรัชกาลที่ 5 เสด็จทางชลมารคผ่านวัดทั้งสองนี้ จึงโปรดฯ ให้รวมวัดสองวัดเป็นวัดเดียวกัน และพระราชทานนามว่า วัดอ่างทอง พระพิมพ์ของวัดอ่างทองวรวิหาร มีห้าทรงพิมพ์ คือ
1. พิมพ์สมเด็จ 7 ชั้นอกวี
2. พิมพ์สมเด็จ 7 ชั้นไหล่ตรง
3. พิมพ์ขุนแผน
4. พิมพ์อู่ทอง
5. พิมพ์นางพญา
สำหรับพิมพ์อู่ทองและพิมพ์นางพญา แกะเป็นรูปหลวงพ่อทอง ซึ่งเป็นพระประธานในพระอุโบสถ ใช้แม่พิมพ์เดียวกัน เพียงแต่เปลี่ยนกรอบกระจกเท่านั้น พระทั้ง 5 พิมพ์ใช้แม่พิมพ์ทองเหลือง ซึ่งสั่งทำพร้อมกับแม่พิมพ์ พระพิมพ์ที่ระลึกของวัดไชโยวรวิหาร วัตถุประสงค์ในการจัดสร้างเพื่อให้เป็นที่ระลึกในการบูรณะพระอุโบสถของวัดอ่างทองวรวิหารและเป็นพระประจำวัดของทั้งสองวัด สร้างพร้อมกับพระพิมพ์ที่ระลึกแห่งชาตกาล ครบรอบ 160 ปี ในปี พ.ศ.2491 ที่จะมาถึง จึงเริ่มสร้างพระพิมพ์ทั้งสองวัดพร้อมกัน ราวเดือนมีนาคม พ.ศ.2448 เพื่อให้พิมพ์ทั้งหมดถึงแดดในหน้าแล้ง (คือการตากพระให้แห้งสนิท ในฤดูร้อนและฤดูหนาว) มวลสารที่ใช้ใช้พระสมเด็จเกษไชโย ของสมเด็จฯโต ที่ชำรุดนำมาบดรวมกับมวลสารอื่น ๆ ตามกรรมวิธี โดยวัดไชโยวรวิหารเป็นผู้ทำการผสมเนื้อหา ซึ่งในการสร้างพระแต่ละครั้งต้องใช้กำลังคนมาก พระ เณร ที่ต้องศึกษาพระธรรมวินัย ชาวบ้านต้องประกอบสัมมาอาชีพ เด็กวัด ก็ต้องเรียนหนังสือ เมื่อได้เนื้อหาตามความต้องการ ก็แบ่งออกเป็น 2 ส่วน สำหรับวัดไชโยวรวิหาร 1 ส่วน ของวัดอ่างทองวรวิหาร 1 ส่วน เนื้อหายุคแรก ๆ จะออกวรรณเหลืองนมข้น ส่วนผสมครั้งต่อ ๆ มา จะออกเหลืองอ่อน ถึงขาวนวล เข้าพิธีพุทธาภิเษก ณ วิหารหลวงวัดไชโยวรวิหาร ราวต้นปี พ.ศ.2490 เพื่อให้ทันงานฉลองเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพและทำบุญอายุครบ 64 ปี ของพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระโพธิวงศาจารย์ ที่จะมาถึงในไม่กี่เดือนข้างหน้า สำหรับพระพิมพ์ของวัดไชโยวรวิหาร ได้ออกให้เช่าบูชา ในปี พ.ศ.2491 ในวาระครบรอบ 160 แห่งชาตะกาลของสมเด็จ ฯ โต ต่อมาราวปี พ.ศ.2495 ช่วงฤดูน้ำ เกิดน้ำเซาะตลิ่งหน้าวัดพัง ท่านเจ้าคุณพระมหาพุทธพิมพาภิบาลโสภโชติเถระ(วร อินทรสมบูรณ์) เจ้าอาวาสสมัย นั้น ได้ดำริที่จะสร้างเขื่อนกั้นตลิ่งหน้าวัดไชโยวรวิหาร ให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ.2496 ก่อนที่ฤดูน้ำหน้าที่จะมาถึงอีก แต่เนื่องจากเหรียญที่ระลึก และวัตถุมงคล ที่จัดสร้างไว้ลดจำนวนลง ไม่เพียงพอที่จะหาปัจจัย พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระโพธิวงศาจารย์ สุนธรมหาเถระ (แผ้วอัมพชาติ) ท่านได้ปรารภต่อท่านเจ้าคุณพระมหาพุธพิมพาภิบาล โสภโชติเถระ(วร อินทรสมบูรณ์) ซึ่งหลวงปู่วร มีอายุและกาลพรรษา มากกว่า 2 ปี ว่ามีความประสงค์ขอให้ทางวัดไชโยวรวิหาร จัดสร้างพระพิมพ์สมเด็จขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เพื่อหารายได้ในการสร้างเขื่อน ทางวัดไชโยวรวิหาร จึงได้จัดสร้างพระพิมพ์สมเด็จขึ้นอีกครั้งราวปี 2498 โดยใช้แม่พิมพ์เดิมทั้งหมด วรรณจะออกขาวนวล ถึง ขาว และเข้าพิธีพุทธาภิเษก ราวต้นปี พ.ศ.2500 (นี่คือที่มาของเขื่อนเหลือง และ เขื่อนขาว ของวัดไชโยครับ) และนำออกให้เช่าบูชา ในวาระครบรอบ 170 ปี แห่งชาตะกาลของสมเด็จฯ โต ท่าน ในปี พ.ศ.2501 พุทธคุณด้านเมตตามหานิยม ด้านแคล้วคลาดปลอดภัย และโภคทรัพย์โชคลาภ และด้านส่งเสริมดวงชะตาอำนาจวาสนา ก็จะช่วยให้ผู้บูชาทำกิจการใดๆให้สำเร็จเช่นค้าขาย ก็ราบรื่นไม่มีปัญหาอุปสรรคเงินไหลเข้ามือตลอด ช่วยดวงชะตาสำหรับคนที่รู้สึกว่าทำอะไรไม่ประสบความสำเร็จติดขัดอยู่ตลอดเวลาให้ทำอะไรสำเร็จผ่านลุล่วงได้ดี และคนที่ดวงตกชะตาตกต่ำหรือชะตาขาดอันเนื่องมาจากกรรมเก่าหรือเจ้ากรรมนายเวรนี้มาทวงหนี้กรรมเก่า พระอู่ทองปี2491จะช่วยพยุงดวงชะตาให้ค่อยดีขึ้นกลับร้ายกลายเป็นดี แต่ต้องทำบุญเช่นไถ่ชีวิตสัตว์เป็นต้นถ้าหนักมากนำแช่น้ำอาธารธนาอาบล้างสิ่งอัปมงคลคุณไสยได้ |
| ราคาเปิดประมูล |
100 บาท |
| ราคาปัจจุบัน |
500 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
| เพิ่มขึ้นครั้งละ |
100 บาท |
| วันเปิดประมูล |
อา. - 23 พ.ย. 2568 - 06:30:23 น. |
| วันปิดประมูล |
ส. - 29 พ.ย. 2568 - 09:28:36 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
| ผู้ตั้งประมูล |
lerdlit (2.8K)   
|