(0)(0)
พระรอดละโว้ เนื้อทองเหลือง วัดกำแพง ต.บ้านชี อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ปี พ.ศ. 2482








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต





ชื่อพระเครื่อง พระรอดละโว้ เนื้อทองเหลือง วัดกำแพง ต.บ้านชี อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ปี พ.ศ. 2482
รายละเอียด พระรอดละโว้ ใส่ ตลับงานทองอิตาลีเป็นเพียงแต่งานทองปลอมที่มีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงทองคำแท้และผลิตขึ้นมาแก้ปัญหาของผู้ใช้งานที่พบปัญหาแพ้ คัน ลอก เขียว สวยเหมือนทองจริง
วัดกำแพง ตำบลบ้านชี อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี
หนึ่งในพระเครื่องหลวงพ่อเดิม
กล่าวได้ว่า พระรอดละโว้ที่ได้สร้างขึ้น ณ วัดกำแพง ตำบลบ้านชี อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี นั้น เป็นหนึ่งในพระเครื่องที่หล่อด้วยโลหะ ที่สร้างขึ้นในสายสำนักวัดสุทัศนเทพวรารามได้อย่างมิเคอะเขิน เนื่องเพราะในพิธีเททองหล่อพระรอดละโว้นั้น ได้ดำเนินการภายใต้คำปรึกษาของพระศรีสัจจญาณมุนี (สนธิ์ ยติธโร) ซึ่งต่อมาได้เลื่อนเป็น ‘พระมงคลราชมุนี’ แห่งวัดสุทัศนเทพวรารามแต่โดยมากมักคุ้นกับนามสมณศักดิ์ที่ ‘พระศรีสัจจญาณมุนี’ มากกว่า และมักคุ้นกับนาม ‘เจ้าคุณศรีฯ (สนธิ์)’
พระรอดละโว้ นอกเหนือจากเนื้อโลหะแล้ว ยังมีเนื้อผงอีกด้วย อีกทั้งยังมีวัตถุมงคลอื่นๆ ที่ออกในวาระเดียวกันเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๒ อีกหลายชนิด คือ
• แหวนเกราะเพชร
• ธงพระฉิม
• ธงแม่โพสพ
• ธงกำจัดโจรภัย
• ธงกำจัดภูตผี
เหตุที่เรียกขานพระเครื่องในพิมพ์ทรงพระรอดละโว้นั้น ด้วยทางผู้สร้างได้กำหนดเรียกขานในชื่อพิมพ์ ‘พระรอดละโว้’ ทั้งที่โดยพิมพ์ทรงแล้วเป็นพิมพ์ ‘พระชัยวัฒน์’ ของวัดสุทัศนเทพวราราม ซึ่งนำมาเป็นแบบแม่พิมพ์
ดำเนินการสร้างขึ้นโดย พระสุทธิพงศ์มุนี (พงศ์ พุทฺสโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดบพิตรภิมุข ระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๙๐-๒๕๐๑ เมื่อครั้งยังเป็นที่พระมหาพงศ์ จำพรรษาที่วัดจักรวรรดิราชาวาส (วัดสามปลื้ม) ซึ่งเป็นชาวบ้านขาม ตำบลบ้านชี อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี และได้อุปสมบท ณ วัดกำแพง แต่ได้เข้ามาจำพรรษาเพื่อศึกษาเล่าเรียนในกรุงเทพมหานคร
ครั้งหนึ่งได้เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านเกิด ได้พบว่าวัดกำแพงได้ชำรุดทรุดโทรมลงเป็นอันมาก จึงได้คิดที่จะบูรณปฏิสังขรณ์ให้สมบูรณ์ดังเดิม หากยังขาดปัจจัยในการบูรณะจึงได้ดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นเพื่อสมนาคุณแก่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินในการบูรณะวัดกำแพง
อันมีบันทึกของพระสุทธิพงศ์มุนี (พงศ์ พุทฺสโร) ครั้งยังเป็นเพียงพระมหา ถึงการดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลในครั้งนั้นว่า
“มูลเหตุที่จะเปิดกรุมหัศจรรย์ เนื่องจากข้าพเจ้าเป็นคนชาติภูมิอยู่บ้านนั้น และได้เริ่มก่อสร้างปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุ คือ ศาลาการเปรียญขึ้นที่วัดกำแพง ๑ หลัง แต่มีการขัดข้องด้วยการเงิน ทำไปไม่สะดวกด้วยประการต่างๆ เพราะความยากจนของประชาชนชาวพื้นเมือง ซึ่งจะรวบรวมให้เป็นก้อนนั้นแสนยาก หากจะรอการเงินฟื้นตัวขึ้นแล้วจึงจะทำต่อไปก็จะไม่ทันการ ด้วยเหตุศาลาหลังเก่าที่มีอยู่ชำรุดมาก จนเกือบจะอาศัยไม่ได้แล้ว ทั้งนี้ข้าพเจ้าพร้อมด้วยเจ้าอาวาส และคณะทายกทายิกาทั้งหลายจึงตกลงใจว่า จำต้องทำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขึ้นสักอย่าง แล้วแจกให้เป็นที่ระลึกแก่บรรดาท่านที่ใจบุญ หรือผู้ที่ต้องการไปบูชาเป็นของขลัง เพื่อเก็บมูลค่าที่เหลือจัดทำการสร้างสรรค์ต่อไป จักเป็นการเหมาะสมัย และอาจได้ผลดี เหตุนี้ข้าพเจ้าจึงได้พยายามเสาะหาตำรับ ซึ่งบุรพาจารย์นับถือว่า เป็นของศักดิ์สิทธิ์ชั้นเยี่ยม คือ ตำราแหวนเกราะเพชร พระรอดละโว้ ธงพระฉิม ธงแม่โพสพ ธงกำจัดโรคภัย ธงกำจัดภูติผีปิศาจและความไข้ ได้ที่วัดสามปลื้ม (จักรวรรดิราชาวาส) มาจัดทำตามลัทธิที่ตำรับบอกไว้ เมื่อทำเสร็จแล้วจึงอาราธนา ท่านพระเถระผู้เฒ่าที่ทรงคุณพิเศษเด่นอยู่ในสมัยนี้หลายองค์ มาทำพิธีปลุกเสกที่วัดกำแพง ดังมีในใบโฆษณานั้นแล้ว โอกาสนี้ข้าพเจ้าขออัญเชิญอำนาจความสัจที่บริสุทธิ์ ซึ่งข้าพเจ้าและคณะผู้ร่วมการได้ตั้งสัตยาธิษฐานบำเพ็ญกิจพระพุทธศาสนา จงบันดาลผลที่ประสงค์ให้สำเร็จโดยปราศจากอุปสรรคใดๆ ทุกประการเร็วพลันเทอญ”
การดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลของพระมหาพงศ์ (พระสุทธิพงศ์มุนี) ในครั้งนั้น มีพระอธิการทองคำ ธมฺมสโร เป็นประธาน และพระมหาพงศ์ เป็นผู้ดำเนินการ
มีพระศรีสัจจญาณมุนี (สนธิ์ ยติธโร) เป็นประธานในพิธีเททอง ซึ่งได้ดำเนินการจัดสร้างขึ้น ณ วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพมหานคร จากนั้นจึงได้นำมาจัดทำพิธีปลุกเสก ณ วัดกำแพง ตำบลบ้านชี อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี เมื่อวันอังคารที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๒ ตรงกับวันขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๔ ปีเถาะ
โดยในวันที่ ๑๙-๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๒ ทางวัดได้ดำเนินการจัดมหรสพฉลองพิธีมงคลตลอด ๓ วัน ๒ คืน ด้วย
ในพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลดังกล่าวนั้น มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังร่วมในพิธีด้วย คือ
• พระศรีสัจจญาณมุนี (สนธิ์ ยติธโร) วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพมหานคร
• พระครูประศาสน์สิกขกิจ (พริ้ง) วัดบางปะกอก กรุงเทพมหานคร
• พระธรรมทานาจารย์ (แนบ) วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพมหานคร
• พระครูปาโมกข์มุนี วัดป่าโมก จังหวัดอ่างทอง
• พระสังฆภาวรามุนี (เนียม) วัดเสาธงทอง จังหวัดลพบุรี
• พระครูนิวาสธรรมขันธ์ (เดิม พุทฺธสโร) วัดหนองโพ จังหวัดนครสวรรค์
นอกจากนั้นยังมีพระเกจิอาจารย์อื่นๆ อีกหลายรูป
กล่าวสำหรับพระรอดละโว้ที่ได้จัดสร้างขึ้น มี ๒ ประเภทด้วยกันคือ เนื้อโลหะ และเนื้อผง สำหรับเนื้อโลหะนั้น จำนวนสร้างประมาณ ๒,๐๐๐ องค์ ส่วนเนื้อผงคาดคะเนว่าจำนวนสร้างคงพอๆ กัน
พุทธลักษณะของพระรอดละโว้ เป็นรูปองค์พระปฏิมากรปางสมาธิ ประทับนั่งบนอาสนะฐานบัวสองชั้น มีฐานเขียงรองรับอยู่ด้านใต้อีกชั้นหนึ่ง อย่างไรก็ตามพุทธลักษณะของพระรอดละโว้นั้นถ่ายพิมพ์จากพระชัยวัฒน์ แต่ได้ทำปีกข้างออกไป โดยปีกข้างทำเป็นกรอบรูปทรงเล็บมือ
มีด้วยกันหลายพิมพ์ทรง คือ พิมพ์ต้อข้างรัศมีหน้าเดียว พิมพ์ต้อข้างรัศมีสองหน้า พิมพ์ต้อไม่มีรัศมีหน้าเดียว และพิมพ์ชะลูด
ในเนื้อโลหะหล่อด้วยโลหะผสมแก่ทองเหลือง พื้นผิวองค์พระมีรูพรุน แต่จะมีมีความแห้งของโลหะ หากนับอายุกาลแต่วันที่สร้างถึง ณ ปี พ.ศ. นี้ ผ่านความยาวนานถึงกว่า ๕๐ ปี ย่อมมีธรรมชาติขงความเก่าปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนขนาดองค์พระกว้างประมาณ ๑.๔ เซนติเมตร สูงประมาณ ๒ เซนติเมตรในเนื้อผงมีพุทธลักษณะเหมือนกัน หากแต่เนื้อหามีทั้งสีขาว ชมพู เหลือง แดง เขียว ม่วง และฟ้าจัดเป็นของดีจากเมืองละโว้อีกพิมพ์ทรงหนึ่งสำหรับนักสะสมพระเครื่องทั้งหลาย และสำหรับผู้สะสมพระเครื่อง ‘หลวงพ่อเดิม’ ด้วยเป็นหนึ่งในพระเครื่องที่หลวงพ่อเดิมได้ร่วมปลุกเสก
2.พระรอดหนองมน ติดที่ 2 ลพบุรีล่าสุด มีดหลวงพ่อบุญมี ยุคปลาย ที่ 1 งานลพบุรี ล่าสุด
พระเครื่องขนาดเล็กที่พบในจังหวัดลพบุรีชนิดหนึ่งที่ได้รับการตั้งชื่อว่าพระรอด และตามด้วยชื่อกรุ คือกรุวัดหนองมนต์ และเรียกกันสั้นๆ ว่า พระรอดหนองมนต์ ก็จะรู้กันดีว่าเป็นพระเนื้อตะกั่วสนิมแดง องค์เล็กๆ พุทธคุณเด่นทางด้านแคล้วคลาดมีประสบการณ์รอดตายมามาก จนมีชื่อเสียงโด่งดัง
พระรอด วัดหนองมนต์ ประวัติพระเกจิอาจารย์ที่สร้างนั้นไม่ปรากฏชัดเจน ทราบแต่ว่าเมื่อตอนต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งเดินทางมาจากจังหวัดพิจิตร ได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดหนองมนต์ อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี และได้มาเป็นเจ้าอาวาส วัดหนองมนต์ ครั้งที่ท่านเดินทางมาจากจังหวัดพิจิตรนั้น ท่านก็ได้นำพระเครื่องเนื้อตะกั่วติดตัวมาด้วยเป็นจำนวนมาก เป็นพระเครื่องเนื้อตะกั่วขนาดเล็ก สันนิษฐานว่าท่านได้สร้างไว้ก่อนหน้าที่จะเดินทางมาอยู่ที่วัดหนองมนต์ และท่านคงปลุกเสกเอง พอท่านมาเป็นสมภารวัดหนองมนต์ท่านก็ได้สร้างพระเจดีย์ไว้ 2 องค์ สูงประมาณ 3 วา ตรงบริเวณด้านหน้าโบสถ์ และท่านก็ได้นำพระทั้งหมดบรรจุไว้ในองค์พระเจดีย์ ส่วนในเรื่องประวัติของพระเกจิอาจารย์รูปนี้ไม่ได้มีผู้บันทึกไว้ มีเพียงแต่การบอกเล่าสืบต่อกันมาเท่านั้น หลังจากที่ท่านมรณภาพแล้วก็ไม่ได้มีใครสนใจพระเครื่องที่บรรจุอยู่ในองค์พระเจดีย์เลย
จวบจนกระทั่งปีพ.ศ.2490 ได้มีคนร้ายลักลอบเข้ามาขุดหาสมบัติที่องค์พระเจดีย์ทั้งสอง คงคาดว่าจะมีทรัพย์สมบัติหรือมีพระทองคำ พระเงินบ้าง แต่ปรากฏว่าเปล่า หามีไม่ คงมีเพียงพระตะกั่วองค์เล็กๆ เท่านั้น คนร้ายก็ไม่ได้สนใจ ทิ้งพระเครื่องดังกล่าวไว้กองอยู่กับพื้น เมื่อถึงตอนเช้ามีเด็กวัดไปพบเข้าและนำมาเล่นกัน ทางวัดเห็นเข้าจึงได้รวบรวมมาเก็บไว้ที่กุฏิ และก็จากคำบอกเล่าทำให้ทราบว่าเป็นพระที่หลวงพ่อที่มาจากพิจิตรอดีตเจ้าอาวาสสร้างไว้เท่านั้น หลังจากนั้นอีก 2-3 ปีก็มีคนไปขอพระนี้จากที่วัด พระท่านก็แจกจ่ายชาวบ้านไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีคนสนใจนัก เนื่องจากองค์พระก็ไม่ได้สวยงามอย่างไร พอย่างเข้าปีพ.ศ. 2500 ก็เกิดเหตุที่ทำให้ผู้คนเข้าไปที่วัดเพื่อขอเช่ากันอย่างมากมาย เรื่องที่ทำให้ดังเป็นพลุแตกเนื่องมาจากทหารพลร่มของลพบุรีซึ่งได้แสดงการโดดร่มกันทุกปี และในปีนี้เกิดอุบัติเหตุ มีนายทหารท่านหนึ่งโดดร่มลงมาแล้วร่มไม่กาง แต่กลับไม่เสียชีวิตหรือกระดูกหักแต่อย่างใด ไม่เป็นอะไรเลย ปรากฏว่าในคอห้อยพระรอด วัดหนองมนต์ อยู่องค์เดียวที่ได้รับแจ้งจากทางวัด
หลังจากข่าวนี้แพร่สะพัดออกไปต่างคนต่างก็เข้าไปยังวัดหนองมนต์เพื่อขอเช่าพระรอดกรุนี้กันอย่างแน่นขนัด ทางวัดก็เปิดให้เช่าองค์ละ 25 บาทเท่านั้น หลังจากนั้นก็มีทหารอากาศท่านหนึ่งถูกฟ้าผ่าจนสลบไป หลังจากมีผู้พบและนำส่งโรงพยาบาล พอฟื้นขึ้นมาก็ไม่เป็นอะไรเลย สายสร้อยที่ใส่อยู่ไหม้ละลายเสียหายทั้งเส้น ในสายสร้อยมีพระรอด วัดหนองมนต์อยู่ด้วย นอกจากนี้ก็มีอีกรายต่อสู้กับคนร้ายก็ไม่ได้รับอันตราย ต่อมาก็มีคนนำพระรอดหนองมนต์ไปผูกคอไก่แล้วลองยิงดูกลับยิงไม่ออก เท่านั้นแหละพระรอดหนองมนต์ก็หมดจากวัดอย่างรวดเร็ว
พระรอด วัดหนองมนต์นี้เป็นพระเนื้อตะกั่ว และมีสนิมแดงขึ้นอยู่ประปราย เป็นพระที่มีขนาดเล็ก พิมพ์ไม่ค่อยชัดเจนนัก และมีคนที่ใส่พระรอดหนองมนต์รอดตายอย่างเหลือเชื่อ จึงได้เรียกขานกันว่าพระรอด วัดหนองมนต์ ปัจจุบันพระแท้ๆ ก็หายากแล้ว ของปลอมมีระบาดกันมาก สนนราคาก็ยังไม่แพงมากนักครับ แต่ก็หาแท้ๆ ยาก
3."มีดเทพศาสตรา" หรือที่เรียกทั่วๆไปว่า "มีดหมอ" มีดหมอยุคปลายหลวงพ่อบุญมี รางวัลที่ 1 ลพบุรี ล่าสุด
มีดหมอเป็นวัตถุมงคลยุคแรกๆที่หลวงพ่อบุญมี ทำขึ้นเนื่องจากสมัยนั้นแถว อ.ท่าวุ้ง เป็นป่ารกทึบคนเป็นไข้ป่าและถูกผีเข้ากันมาก ไม่ว่าจะถูกลมพัดลมเพ ไสยดำกระทำเอา เมื่อนำตัวคนไข้มาหาหลวงพ่อบุญมี ให้ท่านรักษารดน้ำมนต์จะหายกลับไปทุกราย แต่เมื่อเป็นกันอยู่บ่อยๆเข้า หลวงพ่อบุญมีจึงเริ่มสร้างมีดหมอตามวิชาที่ท่านได้ร่ำเรียนมาจาก หลวงปู่ก๋ง ให้ชาวบ้านพกพาติดตัว เพื่อกันไว้ดีกว่าแก้ ปรากฏว่ามีดของท่านมีประสบการณ์มากมาย ชาวบ้านพูดกันปากต่อปาก คนมีมีดหมอของท่านพกติดตัว แค่เหยียบบันไดบ้านคนที่ถูกผีเข้า ผีจะออกหนีกระเจิดกระเจิงทันทีแทบจะไม่ต้องออกแรงไล่กันเลย ประสบการณ์ทางแคล้วคลาด คงกระพันก็มีมาก ชาวบ้านรอดตายเพราะมีดหมอของหลวงพ่อบุญมี มากมายหลายคน
คนจึงเดินทางมาขอบูชามีดหมอของท่านกันมากจนแทบจะทำไม่ทัน วัสดุที่ใช้และฝีมือการทำมีดจึงมีหลากหลาย ทั้ง ฝีมือชาวบ้านเขาสมอคอน ฝีมือช่างพยุหะก็มี เหล็กที่นำมาตีมีดก็มีหลายอย่างแต่แยกได้ใหญ่ๆ ๒ ยุค คือ
๑.ใบมีดยุคแรก จะเป็นเหล็กแท้หรือเหล็กที่เกิดสนิมขุมได้ เทหล่อและตีกันเองที่หมู่บ้านเขาสมอคอนต้องเก็บรักษาให้ดีไม่เช่นนั้นสนิมจะกินใบมีดทั้งใบทำให้ไม่สวยงาม ใบมีดยุคนี้จะตอกยันต์ อักขระต่างๆลงที่ใบมีดครบถ้วน และจะเป็นมีดขนาด 9 นิ้วขึ้นไป...มีดยุคนี้ส่วนใหญ่จะเป็นมีด ด้ามไม้ฝักไม้
๒.ใบมีดสแตนเลส เป็นมีดในยุคกลางและยุคหลัง รวมทั้งลูกศิษย์สร้าง เนื่องจากมีคนต้องการมีดของท่านมากที่วัดทำไม่ทันจึงต้องว่าจ้างโรงงานทำใบมีดมาให้ แล้วนำมาตอกอักขระและประกอบมีดกันที่วัดอีกที อักขระ ยันต์ต่างๆที่ตอกลงในใบมีดลดลงเหลือแต่ที่สำคัญๆเท่านั้น นอกจากเป็นมีดที่เจ้าของสั่งทำพิเศษ...มีดยุคนี้จะมีทั้ง ด้ามไม้ฝักไม้ ด้ามงาฝักไม้ ด้ามงาฝักงา และมีฝีมือช่างพยุหะอีกด้วย
มีดของหลวงพ่อบุญมี บางเล่มอาจดูเหมือนมีดทางสายเกจิอาจารย์ จ.นครสวรรค์ ทำให้มีคนคิดว่าเป็นมีดที่ใช้วิชาการทำเหมือนมีดหลวงพ่อเดิม แต่ความจริงแล้วไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย มีดสำนักวัดเขาสมอคอนเป็นศาสตร์การทำมีดอีกแขนงหนึ่ง ที่มีลักษณะเฉพาะตัวของสำนักนี้ ไม่เหมือนที่ใด
ราคาเปิดประมูล 100 บาท
ราคาปัจจุบัน 500 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ 100 บาท
วันเปิดประมูล อา. - 21 ธ.ค. 2568 - 20:04:30 น.
วันปิดประมูล พ. - 31 ธ.ค. 2568 - 20:04:30 น. (เหลือเวลา 9 วัน 7 ชั่วโมง 2 นาที)
ผู้ตั้งประมูล sak15 (1.9K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     500 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ท่านต้อง login เข้าสู่ระบบก่อน จึงจะสามารถร่วมประมูลได้ !!!


 
(0)
  ประวัติการเสนอราคา
 ผู้เสนอราคาราคาเวลา
  direk_inkul (2.4K) 200 บาท อา. - 21 ธ.ค. 2568 - 20:52:43 น.
  ศิลปศิลาแลง (837)(1) 300 บาท อา. - 21 ธ.ค. 2568 - 21:22:21 น.
  แทนม้าทอง (538) 400 บาท จ. - 22 ธ.ค. 2568 - 07:54:17 น.
  sirisopa (783)(2) 500 บาท จ. - 22 ธ.ค. 2568 - 09:29:23 น.

Copyright ©G-PRA.COM
www1