(0)
ด่วน++เชิญเข้ามาดูก่อนหลวงปู่แหวนเนื้อผง วัดสารนาถ ปี 16 แถมพลอยคุณแม่บุญเรือน และผงโยคีฮาเร็ม(โสฬสมหาพรหม)อ.ปถม อาจสาคร 1 ชุด








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องด่วน++เชิญเข้ามาดูก่อนหลวงปู่แหวนเนื้อผง วัดสารนาถ ปี 16 แถมพลอยคุณแม่บุญเรือน และผงโยคีฮาเร็ม(โสฬสมหาพรหม)อ.ปถม อาจสาคร 1 ชุด
รายละเอียดเป็นของมรดกตกทอด ที่บ้านเป็นโยมอุปฐากวัดสารนาถเก่าแก่ (วัดสัมพันธวงศ์ วัดราฏบำรุงเพราะที่บ้านเป็นวงดนตรีเก่าแก่ย่านฝั่งธน)ให้บูชาเฉพาะสมเด็จหลวงปู่แหวน ส่วนพลอยเป็นของคุณแม่บุญเรือนอฐิฐานไว้ผมแถมให้คนละ 1 องค์พร้อมผงโยคีฮาเร็ม(โสฬสมหาพรหม) อีกเล็กน้อย รับประกันชั่วชีวิต ใครอยากคืนๆครบทุกบาท
ราคาเปิดประมูล299 บาท
ราคาปัจจุบัน339 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูล - 01 ธ.ค. 2552 - 21:18:48 น.
วันปิดประมูล - 04 ธ.ค. 2552 - 03:14:28 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลaood4321 (1.3K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 01 ธ.ค. 2552 - 21:22:18 น.
.


พระของวัดสารนาถ วัดสัมพันธวงศ์ วัดราฏบำรุง ของที่บ้าน


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 01 ธ.ค. 2552 - 21:23:26 น.
.


ผงโสฬสมหาพรหมที่ผมแถมให้ เป็นของเก่าแก่ใช้สร้างพระมงคล มหาลาภวัดสารนาถ ปี2499


ข้อมูลเพิ่มเติม 3 - 01 ธ.ค. 2552 - 21:24:13 น.
.


กล่องนี้เป็นพลอยของคุณแม่บุญเรือนอฐิฐานไว้ให้วัดสารนาถสร้างพระมงคลมหาลาภปี2499 ผมแบ่งให้บูชา 1 องค์


ข้อมูลเพิ่มเติม 4 - 01 ธ.ค. 2552 - 21:25:30 น.
.


คุณประถม อาจสาคร ได้กล่าวถึงการปลุกเสกพระผงมงคลมหาลาภที่วัดสัมพันธวงศ์ไว้ในหนังสือพลังเหนือโลกซึ่งมาจากบันทึกของอาจารย์คุณประถมคือพระอริยคุณาธาร เป็นลักษณะที่พิสูจน์ยากเพราะเป็นเรื่องของการพิจารณาด้วยตาทิพย์ คนธรรมดามองไม่เห็น นำมาลงให้พิจารณาไตร่ตรองกันเอง
ในพิธีที่วัดสัมพันธวงศ์มีผู้เก่งกาจอยู่มากมายอาทิ โยคีโยฮาเล็บ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เป็นต้นแต่ทุกคนต่างเห็นตรงกันว่าพระอริยคุณาธาร ท่านมีความรู้กว้างขวางที่สุดจนโยคีโยฮาเล็บ ขนานนามท่านว่า โยคีสันตจิตจึงเชิญท่านมาช่วยตรวจสอบการอัญเชิญพรหมชั้นต่างๆจริงเท็จอย่างไร<O </O
การปลุกเสกพระที่พระอุโบสถ วัดสัมพันธวงศ์ เจ้าการพิธีได้จัดให้มีการอัญเชิญพรหม เสด็จลงทำการปลุกเสกพระ และนิมนต์พระสงฆ์( ตามที่กล่าวถึงในเรื่องมวลสารการสร้างพระแล้วนั้น) ปลุกเสกซ้ำอีกครั้งหนึ่ง โยคีโยฮาเล็บ (อาจารย์ชื่น จันทร์เพ็ชร) บ้านพรานนก และ พ.ต.ท.ชลอ อุทกภาชน์ เป็นเจ้าพิธีอัญเชิญพระพรหม พระอริยคุณาธารได้เข้าร่วมในงานพิธีนี้ และเพื่อสอบว่าพระพรหม รับอัญเชิญมาประกอบพิธีหรือไม่
พิธีเริ่มตอนบ่าย 4 โมงโดยมีพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ต่อจากนั้นโยคีโยฮาเล็บและ พ.ต.ท. ชลอฯได้ทำพิธีอัญเชิญพระพรหมเป็นภาษาปากฤตเป็นภาษาเก่าแก่ที่สุดของชมพูทวีป เก่ากว่าบาลี-สันสกฤต เมื่ออัญเชิญเสร็จแล้ว ปรากฏมีรัศมีสว่างรุ่งเรืองมาจากเบื้องบน แล้วลงมาปรากฏที่แท่นบูชาตามตำแหน่งที่เจ้าพิธีจัดไว้ สักครู่เจ้าพิธีอัญเชิญพระกาลซึ่งเป็นพรหมสูงสุดประทับทรงในร่างทรงที่เตรียมมา ต่อนั้นอัญเชิญพระพรหมอื่นๆลงมาประทับร่างทรงที่เตรียมไว้ภายใต้การบงการของพระพรหมสูงสุด(คือพระกาล)แล้วกระทำการปลุกเสกประมาณครึ่งชั่วโมง คำบริกรรมที่เหล่าพระพรหมใช้ในการบริกรรมปลุกเสกทราบจากเจ้าพิธีว่าเป็นภาษาคูโบ๊ส ซึ่งเป็นภาษาเก่าแก่ สำเนียงคล้ายภาษาแขก พระพรหมผู้ทำการปลุกเสกนั้นทราบว่าเป็นโสฬสมหาพรหมทั้งสิ้น มีพระกาลเป็นประธานในการปลุกเสก นอกจากนั้นเจ้าพิธีได้อัญเชิญพระพรหมนารอทมาประทับ ณ แท่นบูชามุมตะวันออกเฉียงเหนือของพระอุโบสถ ทำหน้าที่พิทักษืป้องกันภยันตรายจากมารที่จะมาทำลายพิธีการ พระพรหมองค์นี้เมื่อครั้งเป็นมนุษย์เป็นชางลพบุรีก่อนสมัยพุทธกาล วัยชราท่านได้ออกบวชเป็นฤาษีพร้อมพะสหายคือพญาตาไฟ บำเพ็ญพรตอยู่เขาวุ้ง(สมอคอน)ลพบุรี<O ></O >
นี่เป็นส่วนหนึ่งในบันทึกของพระอริยคุณาธารซึ่งก็มรณภาพไปแล้ว จริงเท็จเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ท่านผู้อ่านพิจารณากัน

ภาพด้านล่างเป็นภาพ พระอริยคุณาธาร <O </O
รูปขนาดเล็ก





ข้อมูลเพิ่มเติม 7 จ. - 16 พ.ย. 2552 - 20:16:47 น.


สุดยอดพระเครื่องแห่งยุค พิธีปลุกเสกยิ่งใหญ่ในรอบ 50 ปี ที่หลายท่านยังไม่รู้
________________________________________
นับตั้งแต่ได้เข้ามาสู่ในวงการพระเครื่องมานานกว่า 27 ปี(เริ่มตั้งแต่พ.ศ. 2525เป็นต้นมา) ที่สุดแห่งบรรดาพระเครื่องดีที่"ผู้รู้แจ้ง" ซึ่งเป็นถึงระดับพระอริยสงฆ์ผู้ทรงคุณธรรมและอภิญญาจิตชั้นสูงสุดให้การยอมรับและยกย่องอย่างกว้างขวางมากที่สุด ก็ไม่เห็นใดจะยิ่งไปกว่า"พระมงคลมหาลาภ" ของวัดสารนาถธรรมาราม อ.แกลง จ.ระยอง ที่พระมหารัชชมังคลาจารย์(เทศ นิเทสโก) อดีตเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์เป็นประธานจัดสร้างในงานฉลองพระพุทโธภาสชินราชจอมมุนี พระประธานประจำพระอุโบสถ วัดสารนาถธรรมารามที่คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติมจัดสร้าง,อธิษฐานธรรมถวาย ,หลวงพ่อลี วัดอโศการาม เป็นเจ้าพิธีฝ่ายบรรพชิต ,โยคีฮาเล็บ(อ.ชื่น จันทร์เพ็ชร์) เป็นเจ้าพิธีฝ่ายพรหมศาสตร์ไปได้....
"เฮ็ดหยังแรงจังซี่..???"
(ท่านพ่อลี วัดอโศการาม สมุทรปราการอุทานเมื่อครั้งยังเป็นเพียงผง และท่านได้ขอพระหักไปสร้างพระโพธิจักรฉลอง 25 ศตวรรษที่วัดอโศการาม 1 บาตร)
"สมัยแรกที่ได้เอาพระมงคลมหาลาภบรรจุไว้ใต้ฐานพระในกุฏิ เห็นมีรัศมีสีเขียวพุ่งออกมาเป็นวาเลย.!?!"
(พระมหารัชชมังคลาจารย์(เทศ นิเทสโก) วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร)
"เขียวมาเชียวน๊ะ..??!!"
(หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนทักหลานคุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำที่ห้อยพระมงคลมหาลาภไปทำบุญกับท่านครั้งหนึ่ง)
"พระองค์หนึ่ง เท่ากับพระธาตุองค์หนึ่ง เมื่อนำมาไหว้พระสวดมนต์ สามารถสื่อกับเทพพรหมได้ทุกสวรรค์ชั้นฟ้าจรดบาดาลเลยทีเดียว..!!!!"
(คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ แม่ชีอรหันต์แห่งคำชะอี ที่หลวงปู่ชอบรับรองว่า สามารถเหาะไปสวรรค์ได้ทั้งกายเนื้อ)
"พระนี้ แรงยิ่งกว่าพระกรุทุกกรุเท่าที่หลวงปู่เคยสัมผัสพลังมา แม้พระรอดมหาวันก็ไม่สู้..!!?!"
(หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ วัดธาตุมหาชัย นครพนม กล่าวยกย่องพระมงคลมหาลาภอย่างยิ่งภายหลังจากได้เรียกขันธ์ 5 มาบูชาพร้อมกับก้มลงกราบลง 3 ครั้งท่ามกลางความตื่นตะลึงของผู้คนจำนวนมากในงานพิธีพุทธาภิเษกครั้งหนึ่ง)
"พระมงคลมหาลาภนี้ มีรัศมีสีเขียว ดีทางแคล้วคลาดยอดเยี่ยมที่สุด ไม่ต้องไปหาพระรอดมหาวันให้เหนื่อยยากเลยทีเดียว..!!!!"
(อ.ประถม อาจสาคร ผู้นำผงพระมงคลมหาลาภนี้มาเป็นมวลสารหลักในการสร้างพระผงโสฬสมหาพรหมถวายหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่จนโด่งดังที่สุด)
ฯลฯ..ฯลฯ..ฯลฯ.....etc.

"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)

ยังมีให้บูชาอยู่ที่วัดสัมพันธวงศ์ (วัดเกาะ)

ข้อมูลตามลิงค์นี้ครับ
?&#1153;&Iacute;&frac34;&ETH;&#2307;&#1512;&#871;?&#1376;: #Topic-090411103737523?&ETH;&#2307;&#1512;&#871;"?&#1382;quot; ? "?&#889;&#4052;&igrave;?quot; ???????????????? ????????

http://72.14.235.104/search?q=cache:...C&hl=th&ct=cln

พระมงคลมหาลาภเป็นพระนาคปรกสี่เหลี่ยมเนื้อผงขาว ด้านหลังเป็นยันต์เฑาะดอกบัว อะอุมะพิมพ์ใหญ่กลางเล็ก จำนวน 84,000 องค์ ซึ่ง “พระรัชชมงคลมุนี” (พระมหารัชชมังคลาจารย์) อดีตเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ได้มอบให้ “พระชอบ สัมมาจารี” วัดอาวุธวิกสิตาราม กรุงเทพฯ สร้าง เพื่อนำมาแจกในงานสมโภชพระประธาน โดยส่ง “ผงอิทธิเจ ผงพุทธคุณต่าง ๆ เป็นแท่ง ๆ ประทับตรา “วัดสัมพันธวงศ์” ให้นำมาผสมโดยเรียก “พระนาคปรก” นี้ว่า “พระมงคลมหาลาภ” ซึ่งมีชื่อของท่านคือ “พระรัชชมงคลมุนี” อยู่ในชื่อพระด้วยโดยในได้รับการประจุพุทธมนต์ ทิพยมนต์ พรหมมนต์ จากโยคีฮาเร็ม (อาจารย์ชื่น จันทรเพ็ชร) เมื่อวันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์2499 เวลา 18.00 น. ที่วัดสัมพันธวงศ์
เฉพาะพิธีพุทธาภิเษกที่วัดสัมพันธวงศ์ นั้นในวันที่ 3 มีนาคม 2499 มีพระอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมมานั่งปรกจำนวนมากเช่น หลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่อลีวัดอโศการามพระอาจารย์นอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา หลวงพ่อสด วัดโพธิ์แดงใต้ พระอาจารย์แฉ่ง วัดบางพัง นนทบุรี พระครูวินัยธร เฟื่อง พระอาจารย์สะอาด วัดสัมพันธวงศ์ หลวงพ่อเฮี้ยง วัดอรัญญิกาวาส ชลบุรี ฯลฯ <O
<O > </O >
ส่วนพิธีพุทธาภิเษกที่วัดสารนาถธรรมาราม นั้นพระราชรัชมงคลโกวิท เจ้าอาวาสวัดสารนาถธรรมารามจ.ระยอง เคยไว้เล่าว่า พิธีพุทธาภิเษกครั้งนี้ พระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่นภูริทตโต กว่าร้อยรูป มี พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระอาจารย์วัน อุตตโม พระอาจารย์ลีวัดอโศการาม เป็นต้น ทำพิธีนั่งปรกพุทธาภิเษกพระประธาน และพระเครื่องต่าง ๆมีพระมงคลมหาลาภ พระพุทโธน้อย เป็นต้น โดยทำพิธี 18 วัน 18 คืนท่านเล่าต่ออีกว่าในชีวิตที่ท่านเกิดมา ยังไม่เคยเห็นพิธีพุทธาภิเษกที่ไหนใหญ่โตเท่าครั้งนี้อีกเลย
<O ในพิธีนี้แม่ชีบุญเรืยนได้อธิษฐานจิตร่วมอยู่ในพิธีด ้วย หลวงพ่อลี วัดอโศกการามจ.สมุทรปราการ องค์ประสานงานพิธีพุทธาภิเษกครั้งนี้ ได้บอกศิษย์ว่า “พระผงนี้ดีมากมีรังสี สีขาว และเหลืองกระจายออกสว่างไสว” นอกนั้นท่านยังได้ขอพระผงมงคลมหาลาภที่ชำรุดประมาณ 1 บาตรพระ นำไปบดใส่ “พระใบโพธิ์เนื้อดิน พ.ศ. 2500”ของท่านด้วยขนาดขององค์พระ<O พระมงคลมหาลาภ นั้นพิมพ์ใหญ่ ฐานกว้างประมาณ 2.5-3.8 ซม. หนา 0.5 ซม. พิมพ์เล็ก ฐานกว้างประมาณ 2.2-2.5 ซม. หนา 0.5 ซม. ด้านหลัง มีตราวัดสัมพันธวงศ์ “เฑาะรัศมีดอกบัว อ.อุ.ม.ประทับลงในเนื้อเป็นตรารูปไข่ ขนาดของ ความหนาไม่แน่นอน หนาบ้าง บางเฉียบบ้างแล้วแต่ขนาดพระพิมพ์นี้ คนระยอง คนจันทบุรี คนตราดอีกทั้งชาวประมงแถบภาคตะวันออกห้อยองค์เดียวรู้ถึงพุทธคุณเป็นอย่างดีโดยเฉพาะช่วงที่มีใต้ฝุ่นเข้าแหลมตะลุมพุก ผู้ที่แขวนพระองค์นี้รอดอย่างปาฏิหาริย์

โปรดดูข้อความหนังสือด้านล่าง !!!!!!!
รูปขนาดเล็ก





ข้อมูลเพิ่มเติม 4 อา. - 29 พ.ย. 2552 - 21:25:53 น.


ข้อมูลจากเว็บวัดสัมพันธวงศ์ (วัดเกาะ) ก.ท.ม.
พระมหารัชชมังคลาจารย์สมเด็จ พระมงคลมหาลาภ สร้างเป็นที่ระลึกในงานสมโภชพระพุทโธภาสชินราชจอมมุนี ซึ่งสร้างที่วัดสัมพันธวงศ์ พระนครแล้วเชิญไปประดิษฐานเป็นพระธาน ณ วัดสารนาถธรรมราม อำเภอแกลง จังหวัดระยอง พร้อมด้วยพระอัครสาวกซ้ายขวา เมื่อวันที่ ๕-๓๑ มีนาคม พ.ศ.๒๔๙๙ นั้น บางท่านยังไปทราบประวัติที่ควรทราบ ซึ่งเป็นเหตุจะจงใให้เกิดความเลื่อมใสสัทธา เพื่อได้เคารพบูชาให้แน่บแน่นสมกับเป็นปูชนียวัตถุที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นมงคลเหตุเครื่องเจริญอายุ วรรณะ สุขะ พละ แลลาภยศ สรรเสริญ สมบัติเกียรติศักดิ์ แลคุณธรรม คือเป็นสือสำคัญที่จะให้ใจเข้าถึงอิฐผลนั้นๆ อันนับว่าเป็นกำลังอันยิ่งใหญ่สำหรับชีวิต สามารถให้ถึงภาวะอันเป็นอิสสระเต็มที่ มีความเกษมนิรันดร

เมื่อ สร้างแจ้งให้ทราบแต่การประกอบพิธีบันจุพุทธมนต์เป็นพิเศษที่ยิ่งใหญ่โดย สังเขป ซึ่งยังไม่เคยเห็นทำที่ไหน คือจัดที่บูชาพร้อมเครื่องสังเวยต่างๆ มีเทียนธูป ข้าวตอก ดอกไม้ ๗ สี แลอาหารผลไม้ถึงอย่างละ ๓๗๕ ที่มีเบญจา มีเสวตฉัตร ๙ ชั้น สูง ๖ ศอก ๘ ต้น บายศรีเงิน บายศรีทอง ๙ ชั้น สูง ๖ ศอก อย่างละ ๘ ต้น บันจุพระพุทธมนต์ลงไปในน้ำ และผงที่จะสร้างพระนั้น โดยนิมนต์อาจารย์ผู้มีชื่อเสียงหลายวัดทำพิธีประจุมนต์ เข้าพิธีปลุกเศกมี

พระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ) วัดบวรนิเวศวิหาร
พระวรเวทย์คุณาจารจย์ (เมี้ยน ปภสสโร) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
พระมหารัชชมังคลาจารย์
พระครูวินัยธรเฟื่อง (ญาณปปทีโป)
พระสอาด อภิวฒฒโน วัดสัมพันธวงศ์
พระครูนอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา
พระอาจารย์บุ่ง วัดใหม่ทองเสน
พระชอบ สัมมาจารี วัดอาวุธวิกสิตาราม ธนบุรี
เป็นต้น

พร้อม ด้วยบันจุ เทพมนต์พรหมมนต์ โดยเชิญเทพแลพรหมผู้มีชื่อเสียงเก่าๆ มาเข้าทรงประกอบพิธีอธิษฐานบันจุมนต์ลงด้วย และบันจุมนต์โยคีโดยโยคีฮาเร็บ (อาจารย์ชื่น จันทรเพ็ชร) ผู้มีชื่อเสียงและ พ.ต.อ.ชะลอ อุทกภาชน์ ผู้เป็นศิษย์เป็นผู้ทำพิธีบรรจุ เสร็จพิธีแล้ว จึงได้ใช้ผงประสมทำเป็นองค์พระได้มงคลฤกษ์ จึงได้ทำพิธีปลุกเศกพระเครื่องนั้นอีกครั้งหนึ่ง

พระ เครื่องที่จะทำพิธีปลุกเศกนั้น ห่อด้วยผ้าขาว ๗ ชั้น ผ้าเขียว ๗ ชั้น พิธีนอกนั้นเหมือนเมื่อบันจุมนต์ลงในผงแลน้ำที่จะสร้างพระ ตั้งน้ำมนต์สำหรับแจกผู้ต้องการซึ่งมาร่วมพิธี ๔๐ ตุ่ม แต่ไม่ได้กล่าวถิ่นผงที่นำมาประสมสร้างพระนั้นว่ามีอะไรบ้าง มีผู้สนใจต้องการทราบอยู่เป็นจำนวนมา จึงสมควรเขียนประวัติ เนื่องด้วยผงที่นำมาประสมสร้างพระเครื่องนั้น ให้ท่านทราบไว้ด้วย ดังต่อไปนี้

๑. ผงขอจากพระอาจารย์ต่างๆ ที่ท่านทำและรวบรวมไว้หลายวัด เช่นวัดพระเชตุพน วัดตรีทศเทพ วัดสัมพันธวงศ์ ฯลฯ ผงแป้งที่ทำแลผงจากพระของเก่าบ้าง
๒.ผงพระที่ทำด้วยว่านต่างๆ ที่นิยมว่าเป็นมงคลศักดิ์สิทธิ์ ๑๐๘ อย่าง ทำจากดอกไม้บูชาพระต่างๆ ๑๐๘ อย่าง
๓. ผงที่ทำด้วยดินจากท่าน้ำ ๗ ท่า และจากสระน้ำ ๗ สระ
๔. ผงที่ทำด้วยเอาคัมภีร์เก่าๆ ทั้งใบลานแลสมุดข่อยมาเผาบด ตั้งแต่หมายเลข ๑ ถึง ๕ นี้ประสมสร้างพระผงรุ่นก่อน แล้วเอาบดผสมเข้ากัน กับผงใหม่ที่นำมาเข้าพิธีนี้ด้วย
๕. ผงที่ได้จากดินที่สังเวชนียสถาน แห่งในอินเดียคือ ๑ ดินที่ลุมพินีระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์และเทวทหะ ซึ่งเป็นที่ประสูดของพระพุทธเจ้า ๒ ดินที่มหาโพธิพุทธคยาที่ตรัสรู้ ๓ ดินทีสารนาถ มฤคทายวัน เมื่องพาราณสี ซึ่งเป็นที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมจักร ๔ ดินที่กุสินนาราซึ่งเป็นที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน
๖. ดินจากสถานที่สำคัญอีก ๙ แห่ง คือดินจากสถานที่พระพุทธเจ้าเสด็จเสวยวิมัติสุข ๗ แห่ง ปริเวณพุทธคยา มีที่รัตนะจงกลม แลที่สระมุจลินเป็นต้น แลดินที่พระคัณธกุฏีที่ประทับของพระพุทธเจ้าบนเขาคิชกูฏ (เมืองราชคฤห์) ๑ ดินที่พระคันธกุฏีที่ประทับในเมืองสาวัตถี ๓ ซึ่งพระครูสุภารพินิจ (โทน สุขพโล) วัดสัมพันธวงศ์ ได้ไปนมัสการปูชนียสถานนั้นๆ และได้นำมาเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๗ ผู้ที่มีพระเครื่องแบบพุทธมงคลมหาลาภ พระแบบสมเด็จพระพุฒาจารย์ เป็นต้นไว้บูชา เป็นอันได้ระฃึกถึงแลบูชา สังเวชนัยสถานด้วย
๗. ผงปูนขาวหินราชบุรี
๘. ผงปูนซิเมนต์ขาว และนอกจากนี้ ก็ยังมีดินเหนียวอย่างดี สีเหลือง แลน้ำอ้อยเป็นต้น

ผง เหล่านี้นั้น ประสมกันมากบ้างน้อยบ้าง แล้วบดให้ละเอียดแร่งกรองด้วยผ้าป่าน สำเร็จเป็นผงที่จะสร้างพระเครื่อง ใช้น้ำมนต์ที่ทำไว้นั้นประสมกับของที่จะทำพระให้พระมีคุณภาพดี สวยงามทนทาน ศักดิ์สิทธิ์ต่อไป ประสมผงพิมพ์เป็นรูป พระพุทธมงคลมหาลาภ บ้างสมเด็จบ้าง

ส่วน พระเครื่องอื่นสร้างด้วยดินประสมผงเผาแล้วนำมา เข้าพิธีปลุกเศกในคราวเดียวกันกับพระพุทธมงคลมหาลาภเสร็จพิธีแล้วแจกจ่ายใน งานสมโภชพระพุทโธภาสชินราชจอมมุนี พร้อมด้วยพระอัครสาวก ในการต่อมา พระเครื่องเหล่านี้ เมื่อแจกจ่ายแก่ผู้จำนงในงานผูกพัทธสีมา อุโบสถวัดสารนาถธรรมารามแล้ว ก็จะได้จัดการทำพิธีบันจุในอุโบสถ หรือเจดีย์ตามควร เพื่อเป็นมิ่งขวัญแก่วัดสารนาถธรรมาราม อันเป็นมหาปูชนียสถานในกาลต่อไปฯ


จากบันทึกของพระมหารัชชมังคลาจารย์(เทศ นิเทสโก) ดังกล่าวข้างต้น อาจที่จะสรุป เพื่อความเข้าใจง่ายที่สุดก็คือ
1. พระผงมงคลมหาลาภนี้ สร้างในงานฉลอง"พระพุทโธภาสชินราชจอมมุนี" หรือ"พระพุทโธใหญ่"ที่คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติมสร้างถวายเป็นพระประธานประจำพระอุโบสถ วัดสารนาถธรรมาราม อ.แกลง จ.ระยอง ของท่านเจ้าคุณพระมหารัชชมังคลาจารย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ในสมัยนั้น ท่ามกลางเหตุปาฏิหาริย์มากมาย(จะได้กล่าวต่อไปในภายหลัง)
2.ผงโสฬสมหาพรหมที่นำมาสร้างพระผงมงคลมหาลาภนี้ เกิดจากการใช้วิชาพรหมศาสตร์อัญเชิญพรหมอริยะชั้นโสฬส(สุทธาวาส) และพระผู้เป็นเจ้าของทั้ง 3 ศาสนา(พราหมณ์,คริสต์,อิสลาม) ซึ่งพระอริยคุณาธาร(ปุสโส เส็ง) และท่านผู้รู้ต่างๆกล่าวตรงกันว่า แท้จริงแล้ว "พระเจ้า"หรือ"พระผู้เป็นเจ้า"เหล่านี้ ก็เป็น"พระเถระ"ของ"พุทธ" ที่เดินทางไปเผยแพร่ศาสนาตามสถานที่ต่างๆ แล้วคนรุ่นต่อมามาตีความดัดแปลงไปตามความเชื่อส่วนตัวของศาสดานั้นๆ จนเคลื่อนจากหลักเดิมไป
3. ผง"โสฬสมหาพรหม" (ความจริงน่าเรียกว่า ผง"มหาพรหมอริยะโพธิสัตว์ผู้เป็นเจ้า" จะตรงและครอบคลุมกว่า) ไม่ได้เป็นการลบผงทีละกระดาน (ไม่ทันกิน) เลยเล่นเอาผงปูนมาเสกทีละเป็นกระสอบๆ โดยเชิญ"พระเบื้องบน"ลงประทับทำ ซึ่งก็ได้ผลเป็นที่น่าอัศจรรย์ ที่แม้แต่ท่านพ่อลี วัดอโศการามเมื่อสัมผัสผงนี้แล้ว ก็ถึงกับสะดุ้งออกวาจาอุทานว่า "เฮ็ดหยังแรงจังซี่" ( อะไรจะพลังแรงได้ขนาดนี้??) ก่อนที่จะขอผงพระมงคลมหาลาภหักๆไปผสมทำพระใบโพธิ์ 25 ศตวรรษที่วัดอโศการามในเวลาต่อมา รวมถึงอาจารย์ปถม อาจสาครเอง ก็ได้เอาผงพระ"มงคลมหาลาภ"หักๆนี้ไปทำพระผงรุ่น"โสฬสมหาพรหม" 2505 ของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่จนดังระเบิดในเวลาต่อมาด้วย สมกับท่านอาจารย์ปถมบันทึกไว้เองว่า " รวมรวมผงหักป่นไว้ได้สักโหลใหญ่ พระที่ผมสร้างจึงขลัง"เพราะได้ผงหลักจาก"พระมงคลมหาลาภ"นี่เอง (ใครไม่มีพระผงโสฬสมหาพรหมของหลวงปู่ทิมที่หายากและแพงจัด หากมีพระผงมงคลมหาลาภนี้ไว้ ก็คง"นอนหลับฝันหวาน"ไป 3 วัน 7 วันได้แล้วนะครับ.....
4.และเมื่อเอาผง"โสฬสมหาพรหม"หรือผง"มหาพรหมอริยะโพธิสัตว์ผู้เป็นเจ้า"มากด พิมพ์สร้างพระ"มงคลมหาลาภ"แล้ว ก็ได้ประกอบพิธีทางพรหมศาสตร์อัญเชิญ"พรหมโสฬส"และ"พระผู้เป็นเจ้า" ลงเสกซ้ำอีกครั้ง พร้อมด้วยพระเกจิคณาจารย์ชื่อดังยุค 2500 อย่างมหาศาล (มีหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ,หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอมฯลฯ )ที่วัดสัมพันธวงศ์เป็นประเดิมก่อน แล้วจึงอัญเชิญไปประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกพร้อมกับ"พระพุทโธภาสชินราชจอมมุนี "(พระพุทโธใหญ่) ที่วัดสารนาถธรรมาราม ระยองอีก 18 วัน 18 คืน โดยพระคณาจารย์สายหลวงปู่มั่น 100 กว่าองค์ (มีพระอาจารย์สิงห์ ขันยาคโม,หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯเป็นอาทิ) พร้อมกันนี้ ก็ยังได้นิมนต์พระสายตะวันออก,ระยองมาร่วมนั่งปรกด้วย (มี หลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง, หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ เป็นต้น ฯลฯ) โดยมี"ท่านพ่อลี วัดอโศการาม" เป็น"เจ้าพิธี"ฝ่ายสงฆ์ และมี "คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม" วัดอาวุธฯ เป็นทั้ง"เจ้าพิธี"และ"ประธานดำเนินการสร้าง/เสก" ทุกขั้นตอนเอง

เกร็ดพิเศษ พระมงคลมหาลาภ(เพิ่มเติม)
1. สร้างจากผง"โสฬสมหาพรหม" ล้วนๆ (ผง"กูโบ๊ส" หรือที่บางคนเรียกว่า"ผงโสฬสมหาพรหม" ได้ทำขึ้นเพื่อพระชุดนี้เป็นการเฉพาะ ที่แม้แต่ท่านพ่อลี วัดอโศการามสัมผัสดูถึงกับสะดุ้ง ร้องว่า"เฮ็ดหยังแรงจั่งซี่" และขอผงพระหัก 1 บาตรไปผสมสร้างพระใบโพธิ์ วัดอโศการาม ,อาจารย์ปถม อาจสาคร เอาพระหักรุ่นนี้ไปสร้างชุด"บินเดี่ยว" หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่จนดังระเบิด)
2.ผงวิเศษ รวมจากสุดยอดพระคณาจารย์ในยุค 2500 มากมาย
3. พิธีพุทธาภิเษกครั้งแรก ที่วัดสัมพันธวงศ์ นอกจากจะทำพิธีเสกแบบ"พรหมศาสตร์" เหมือนตอนทำผง"โสฬสมหาพรหม" (เสกก็นิมนต์พรหมชั้นโสฬสลงมาเสกด้วย)แล้ว ก็ยังได้นิมนต์สุดยอดพระคณาจารย์ในยุคนั้นอย่างมหาศาล น้องๆพระ 25 ศตวรรษ มีหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี,หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม เป็นต้นฯลฯ
4. และยังเสกเบิ้ลที่วัดสารนาถธรรมาราม ระยอง อีกถึง 18 วัน 18 คืน ด้วยพระสายระยอง (มีหลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง, หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เป็นอาทิ) พร้อมสายกรรมฐาน ศิษย์พระอาจารย์มั่นอีก 100 กว่าองค์ นำทีมโดยพระอาจารย์สิงห์ ขันตยคโม,หลวงปู่ฝั้น อาจาโร, ท่านพ่อลี ธัมมธโร ฯลฯ ในพิธีสมโภช"พระพุทโธภาสชินราชจอมมุนี" หรือ"พระพุทโธใหญ่" ที่คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เป็นประธานจัดสร้างและคุมงานเอง
หมาย เหตุ ...พูดง่ายๆก็คือ พระพิธีนี้ เป็นการผนึกกำลังของพระสาย"เกจิ"และ"อริยะ" ระดับสุดยอดมากเป็นประวัติการณ์ ยิ่งกว่า"พระ 25 ศตวรรษ"เสียด้วยซ้ำ (พระ 25 ศตวรรษจะมีสายวิทยาคมเสียโดยมาก แต่สายกรรมฐานมีน้อยกว่า และเสกกันเพียง 3 วัน และครั้งเดียวที่วัดสุทัศน์เท่านั้น) อีกทั้งยังเป็นพิธีที่เหมือนจะเป็นการ"ประลองฤทธิ์"กันสุดๆระหว่าง "ท่านพ่อลี วัดอโศการาม" พระอริยเถระผู้ยิ่งด้วยบุญฤทธิ์ เป็น"เจ้าพิธีฝ่ายบรรพชิต" กับ"คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม" ยอดหญิงอริยะผู้ยิ่งด้วยอิทธิฤทธิ์เป็น"เจ้าพิธีฝ่ายฆราวาส" (โอย..แค่คิดก็"มันส์หยด"แล้ว....อยากมีตาทิพย์จัง จะได้ย้อนไปดูเหตุการณ์ในวันนั้น ว่างานนั้นท่านใช้ฌาณฤทธิ์ระดับสุดยอดสู้กันเปรี๊ยะๆเปรี้ยงๆปร้างๆฟ้าถล่ม แผ่นดินทลาย เพื่อสร้างความขลังกันสุดฤทธิ์สุดเดชถึงขนาดไหนนะเนี่ย???)
5. สร้างจำนวนเพียง 84,000 องค์
6. เรื่องของประสพการณ์ไม่ต้องพูด คนระยอง,จันทรบุรีรู้ซึ้งถึงเยื่อในกระดูกดี มีคนรอดตายจากพายุ เพราะมีพระนี้ห้อยคออยู่องค์เดียวโดดๆก็มีมาแล้ว
7.พระชุดนี้ ขลังขนาดเปล่งรัศมีสีเขียวยาวเป็นวาให้พระในสมัยนั้น เห็นด้วย"ตาเนื้อ"กันจะๆได้
8. บูชาแทน "พระผงโสฬส หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่" ที่"แพงจัด"และ"ปลอมระเบิด"ได้อย่างสบายๆ เพราะนี่คือ"ต้นธาตุ"แห่ง"พระผงโสฬส" แถมยังได้นิมนต์หลวงปู่ทิม ตอนอายุ 70 กว่าๆมานั่งปรกด้วย
9.อ.ปถม อาจสาคร หลังจากที่"ลุย"มาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ถึงกับต้องยกนิ้วการันตีแบบสุดตัวว่า พระมงคลมหาลาภนี้ "แคล้วคลาดสุดยอด" ชนิด "ไม่ต้องหาพระรอดมหาวัน"ให้เหนื่อยยากเลยทีเดียว.....!!!!!








เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์
(บันทึกตามฉบับเดิมไม่เปลี่ยนแปลง)

เป็นพระสมเด็จแบบสมเด็จพระพุฒาจารย์ พระแบบสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ พระพุทโธเล็ก พระวัดตะไกร และพระแบบวัดนางพระยา ฯลฯ

พระเครื่องเหล่านี้สร้างเป็น ที่ระลึกในงานสมโภชพระพุทโธภาสชินราชจอมมุนี ซึ่งสร้างที่วัดสัมพันธวงศ์ พระนครแล้วเชิญไปประดิษฐานเป็นพระธาน ณ วัดสารนาถธรรมราม อำเภอแกลง จังหวัดระยอง พร้อมด้วยพระอัครสาวกซ้ายขวา เมื่อวันที่ ๕-๓๑ มีนาคม พ.ศ.๒๔๙๙ นั้น บางท่านยังไปทราบประวัติที่ควรทราบ ซึ่งเป็นเหตุจะจงใให้เกิดความเลื่อมใสสัทธา เพื่อได้เคารพบูชาให้แน่บแน่นสมกับเป็นปูชนียวัตถุที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นมงคลเหตุเครื่องเจริญอายุ วรรณะ สุขะ พละ แลลาภยศ สรรเสริญ สมบัติเกียรติศักดิ์ แลคุณธรรม คือเป็นสือสำคัญที่จะให้ใจเข้าถึงอิฐผลนั้นๆ อันนับว่าเป็นกำลังอันยิ่งใหญ่สำหรับชีวิต สามารถให้ถึงภาวะอันเป็นอิสสระเต็มที่ มีความเกษมนิรันดร

เมื่อสร้างแจ้งให้ทราบแต่การประกอบพิธีบันจุพุทธมนต์เป็นพิเศษที่ยิ่งใหญ่โดยสังเขป ซึ่งยังไม่เคยเห็นทำที่ไหน คือจัดที่บูชาพร้อมเครื่องสังเวยต่างๆ มีเทียนธูป ข้าวตอก ดอกไม้ ๗ สี แลอาหารผลไม้ถึงอย่างละ ๓๗๕ ที่มีเบญจา มีเสวตฉัตร ๙ ชั้น สูง ๖ ศอก ๘ ต้น บายศรีเงิน บายศรีทอง ๙ ชั้น สูง ๖ ศอก อย่างละ ๘ ต้น บันจุพระพุทธมนต์ลงไปในน้ำ และผงที่จะสร้างพระนั้น โดยนิมนต์อาจารย์ผู้มีชื่อเสียงหลายวัดทำพิธีประจุมนต์ เข้าพิธีปลุกเศกมี

พระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ) วัดบวรนิเวศวิหาร
พระวรเวทย์คุณาจารจย์ (เมี้ยน ปภสสโร) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
พระมหารัชชมังคลาจารย์
พระครูวินัยธรเฟื่อง (ญาณปปทีโป)
พระสอาด อภิวฒฒโน วัดสัมพันธวงศ์
พระครูนอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา
พระอาจารย์บุ่ง วัดใหม่ทองเสน
พระชอบ สัมมาจารี วัดอาวุธวิกสิตาราม ธนบุรี
เป็นต้น

พร้อมด้วยบันจุ เทพมนต์พรหมมนต์ โดยเชิญเทพแลพรหมผู้มีชื่อเสียงเก่าๆ มาเข้าทรงประกอบพิธีอธิษฐานบันจุมนต์ลงด้วย และบันจุมนต์โยคีโดยโยคีฮาเร็บ (อาจารย์ชื่น จันทรเพ็ชร) ผู้มีชื่อเสียงและ พ.ต.อ.ชะลอ อุทกภาชน์ ผู้เป็นศิษย์เป็นผู้ทำพิธีบรรจุ เสร็จพิธีแล้ว จึงได้ใช้ผงประสมทำเป็นองค์พระได้มงคลฤกษ์ จึงได้ทำพิธีปลุกเศกพระเครื่องนั้นอีกครั้งหนึ่ง

พระเครื่องที่จะทำพิธีปลุกเศกนั้น ห่อด้วยผ้าขาว ๗ ชั้น ผ้าเขียว ๗ ชั้น พิธีนอกนั้นเหมือนเมื่อบันจุมนต์ลงในผงแลน้ำที่จะสร้างพระ ตั้งน้ำมนต์สำหรับแจกผู้ต้องการซึ่งมาร่วมพิธี ๔๐ ตุ่ม แต่ไม่ได้กล่าวถิ่นผงที่นำมาประสมสร้างพระนั้นว่ามีอะไรบ้าง มีผู้สนใจต้องการทราบอยู่เป็นจำนวนมา จึงสมควรเขียนประวัติ เนื่องด้วยผงที่นำมาประสมสร้างพระเครื่องนั้น ให้ท่านทราบไว้ด้วย ดังต่อไปนี้

๑. ผงขอจากพระอาจารย์ต่างๆ ที่ท่านทำและรวบรวมไว้หลายวัด เช่นวัดพระเชตุพน วัดตรีทศเทพ วัดสัมพันธวงศ์ ฯลฯ ผงแป้งที่ทำแลผงจากพระของเก่าบ้าง
๒.ผงพระที่ทำด้วยว่านต่างๆ ที่นิยมว่าเป็นมงคลศักดิ์สิทธิ์ ๑๐๘ อย่าง ทำจากดอกไม้บูชาพระต่างๆ ๑๐๘ อย่าง
๓. ผงที่ทำด้วยดินจากท่าน้ำ ๗ ท่า และจากสระน้ำ ๗ สระ
๔. ผงที่ทำด้วยเอาคัมภีร์เก่าๆ ทั้งใบลานแลสมุดข่อยมาเผาบด ตั้งแต่หมายเลข ๑ ถึง ๕ นี้ประสมสร้างพระผงรุ่นก่อน แล้วเอาบดผสมเข้ากัน กับผงใหม่ที่นำมาเข้าพิธีนี้ด้วย
๕. ผงที่ได้จากดินที่สังเวชนียสถาน แห่งในอินเดียคือ ๑ ดินที่ลุมพินีระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์และเทวทหะ ซึ่งเป็นที่ประสูดของพระพุทธเจ้า ๒ ดินที่มหาโพธิพุทธคยาที่ตรัสรู้ ๓ ดินทีสารนาถ มฤคทายวัน เมื่องพาราณสี ซึ่งเป็นที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมจักร ๔ ดินที่กุสินนาราซึ่งเป็นที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน
๖. ดินจากสถานที่สำคัญอีก ๙ แห่ง คือดินจากสถานที่พระพุทธเจ้าเสด็จเสวยวิมัติสุข ๗ แห่ง ปริเวณพุทธคยา มีที่รัตนะจงกลม แลที่สระมุจลินเป็นต้น แลดินที่พระคัณธกุฏีที่ประทับของพระพุทธเจ้าบนเขาคิชกูฏ (เมืองราชคฤห์) ๑ ดินที่พระคันธกุฏีที่ประทับในเมืองสาวัตถี ๓ ซึ่งพระครูสุภารพินิจ (โทน สุขพโล) วัดสัมพันธวงศ์ ได้ไปนมัสการปูชนียสถานนั้นๆ และได้นำมาเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๗ ผู้ที่มีพระเครื่องแบบพุทธมงคลมหาลาภ พระแบบสมเด็จพระพุฒาจารย์ เป็นต้นไว้บูชา เป็นอันได้ระฃึกถึงแลบูชา สังเวชนัยสถานด้วย
๗. ผงปูนขาวหินราชบุรี
๘. ผงปูนซิเมนต์ขาว และนอกจากนี้ ก็ยังมีดินเหนียวอย่างดี สีเหลือง แลน้ำอ้อยเป็นต้น

ผงเหล่านี้นั้น ประสมกันมากบ้างน้อยบ้าง แล้วบดให้ละเอียดแร่งกรองด้วยผ้าป่าน สำเร็จเป็นผงที่จะสร้างพระเครื่อง ใช้น้ำมนต์ที่ทำไว้นั้นประสมกับของที่จะทำพระให้พระมีคุณภาพดี สวยงามทนทาน ศักดิ์สิทธิ์ต่อไป ประสมผงพิมพ์เป็นรูป พระพุทธมงคลมหาลาภ บ้างสมเด็จบ้าง

ส่วนพระเครื่องอื่นสร้างด้วยดินประสมผงเผาแล้วนำมา เข้าพิธีปลุกเศกในคราวเดียวกันกับพระพุทธมงคลมหาลาภเสร็จพิธีแล้วแจกจ่ายในงานสมโภชพระพุทโธภาสชินราชจอมมุนี พร้อมด้วยพระอัครสาวก ในการต่อมา พระเครื่องเหล่านี้ เมื่อแจกจ่ายแก่ผู้จำนงในงานผูกพัทธสีมา อุโบสถวัดสารนาถธรรมารามแล้ว ก็จะได้จัดการทำพิธีบันจุในอุโบสถ หรือเจดีย์ตามควร เพื่อเป็นมิ่งขวัญแก่วัดสารนาถธรรมาราม อันเป็นมหาปูชนียสถานในกาลต่อไปฯ

บันทึกการเข้า



หน้า: [1]


 
ราคาปัจจุบัน :     339 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    sek_toto (1.4K)

 

Copyright ©G-PRA.COM
www1