(0)
(((วัดใจเริ่ม 1 บาท))) พระสมเด็จสายรุ้ง หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว สุพรรณบุรี บรรจุกรุ ปี 2500 หลังตัวหนังสือสองแถวตรง (แถมพระสมเด็จกรุวัดขุนอิน) 6






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่อง(((วัดใจเริ่ม 1 บาท))) พระสมเด็จสายรุ้ง หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว สุพรรณบุรี บรรจุกรุ ปี 2500 หลังตัวหนังสือสองแถวตรง (แถมพระสมเด็จกรุวัดขุนอิน) 6
รายละเอียด(((วัดใจเริ่ม 1 บาท))) พระสมเด็จสายรุ้ง หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว สุพรรณบุรี บรรจุกรุ ปี 2500 หลังตัวหนังสือสองแถวตรง (แถมพระสมเด็จกรุวัดขุนอิน)
พระสมเด็จสายรุ้ง หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว สุพรรณบุรี บรรจุกรุ ปี 2500 หลังตัวหนังสือสองแถวตรง (แถมพระสมเด็จกรุวัดขุนอิน)

พระสมเด็จสายรุ้ง หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว สุพรรณบุรี บรรจุกรุ ปี 2500 หลังตัวหนังสือสองแถวตรง (มีของแถม)
รุ่นนี้หลวงพ่อขอมสร้างปี 2500 บรรจุกรุเจดีย์ 84,000 องค์
และอีก 84,000 องค์ ให้ประชนเช่าบูชา ดังนั้นรุ่นนี้จึงมีทั้งแบบ
บรรจุกรุและไม่บรรจุกรุ สำหรับรุ่นบรรจุกรุนั้น ต้องบอกเลยว่า
พบเห็นได้น้อย เพราะส่วนใหญ่อยู่กับคนพื้นที่ และกรุก็ยังไม่ได้เปิด
อย่างเป็นทางการ แต่เหตุที่มีพระกรุเล็ดรอดออกมา เป็นเพราะ
เจดีย์ที่บรรจุเกิดชำรุด พระจึงออกมาช่วงนั้น ภายหลังได้ซ่อมแซม
เรียบร้อยแล้ว จึงไม่ทราบจำนวนที่หลุดออกมาชัดเจน แน่นอนว่าหายาก
คนในพื้นที่นิยมเล่นหากันมากว่าพระที่ไม่ได้บรรจุครับ


พระเครื่องของหลวงพ่อขอม เราจะพบเห็นตามสนามพระทั่วไปมานานนับ
สิบๆปีแล้ว และทั่วทุกภาคของประเทศไทย เนื่องจากท่านสร้างมากนับเป็น
ล้านๆองค์ สมัยก่อนใครไปที่วัดไผ่โรงวัว ก็จะเห็นพระเหล่านี้ ใส่ในโอ่งใบ
ใหญ่ๆ นับสิบใบ ใครจะทำบุญหรือไม่หลวงพ่อขอมท่านแจกหมด และแจก
ให้ทีละเป็นกำๆ มือ ใครไม่พอจะเอาเพิ่ม ท่านก็ไม่ว่า แม้ว่าพระหลวงพ่อ
ขอมจะมีมากจนแทบไม่มีราคา แต่พระของท่านมีอย่างหนึ่งที่หาได้ยากใน
พระใหม่ยุคหลังๆ คือมีเจตนาในการสร้างที่บริสุทธิ์ โดยมีความศรัทธาใน
พระพุทธศาสนาเป็นที่ตั้ง อย่างน้อยๆ ก็มีพลังพุทธคุณของความบริสุทธิ
คุณแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสถิตอยู่ด้วย ไม่ว่าจะผ่านไปกี่
ร้อยกี่พันปี พลังนี้ก็จะไม่มีวันเสื่อม

ผู้ชนะรายการนี้รับพระสมเด็จโต กรุวัดขุนอิน พิมพ์ประธาน (กรุเก่า) คราบกระเทาะ/สวยคัดเกรด ไปคล้องอีก 1 องค์
พระดีราคาถูกไม่มีหน้าม้าหน้าแมวทั้งนั้นครับ สบายใจได้ ได้เท่าไรก็ส่ง
รับประกันความพอใจ ยินดีคืนเงินโดยไม่มีเงื่อนไข
รับประกันแท้คตลอดชีพครับ
ราคาเปิดประมูล1 บาท
ราคาปัจจุบัน1,223 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ47 บาท
วันเปิดประมูล - 02 ม.ค. 2553 - 21:32:39 น.
วันปิดประมูล - 03 ม.ค. 2553 - 21:46:48 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลศิษย์หลวงพ่อจ้อย (32.7K)(6)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 02 ม.ค. 2553 - 21:33:15 น.
.


พระสมเด็จโต กรุวัดขุนอิน พิมพ์ประธาน (กรุเก่า) คราบกระเทาะ/สวยคัดเกรด


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 02 ม.ค. 2553 - 21:33:27 น.
.


พระสมเด็จโต กรุวัดขุนอิน พิมพ์ประธาน (กรุเก่า) คราบกระเทาะ/สวยคัดเกรด


ข้อมูลเพิ่มเติม 3 - 02 ม.ค. 2553 - 21:33:53 น.
.


พระสมเด็จกรุขุนอินทประมูล
ประวัติศาสตร์ที่พร้อมรอการพิสูจน์
พระกรุขุนอินทประมูล ได้เริ่มแตกกรุออกมาในยุคแรกๆ นับเป็นเวลากว่า ๒๐ ปี มาแล้ว ระหว่างปี
ีพ.ศ.๒๕๓๐-๒๕๕๑ หลายๆท่าน อาจจะเกิดความงงและสงสัยว่าเอ๊ะ....ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย ซึ่งมันก็มิใช่เรื่อง
แปลกที่ท่านและคนอื่นๆอีกกว่า ๖๐ ล้านคนจะไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวใดๆเลย เพราะพระกรุขุนอินทประมูลที่ได้แตกกรุ
ออกมานั้นเกิดจากการแอบขุดของคนบางกลุ่ม โดยการขุดตรงบริเวณด้านหลังกึ่งกลางองค์หลวงพ่อพระใหญ่ ซึ่ง
เป็นพระนอนที่มีความยาว ๒๕ วา ของวัดขุนอินทประมูล โดยหัวหน้าขบวนการ เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในสถาน
บริเวณแห่งนั้นร่วมกับลูกน้องอีกจำนวนหนึ่งซึ่งมีทั้งหมดไม่เกิน ๑๐ คน อันเป็นกลุ่มปฏิบัติการที่รู้เรื่องราวมาโดย
ตลอด การกระทำโดยการแอบขุดของคนจำนวนไม่ถึง ๑๐ คนนั้น กระทำการโดยการปกปิดมาโดยตลอดกว่า ๒๐
ปีมานี้จะเป็นที่ทราบโดยทั่วถึงกันกับคนอีกกว่า ๖๐ ล้านคน มันคงเป็นไปได้ยากอย่างยิ่งที่จะเห็นและรู้ได้เพราะ
การแตกกรุของวัดขุนอินทประมูล ไม่เหมือนกับวัดอื่นๆ ทั่วไป ซึ่งประโคมเป็นข่าวใหญ่โตรู้กันไปทั่วบ้านทั่วเมือง
เหตุที่ข้าพเจ้านำข้อมูลมาเปิดเผย ก็เพื่อให้คนอีกกว่า ๖๐ ล้านคนได้ทราบ ได้พิจารณาตามเหตุและผลเพื่อให้
ประวัติศาสตร์ของชาติที่ถูกบันทึกไว้ก่อนแล้วนั้น จากส่วนที่เป็นนามธรรมให้สมบูรณ์เป็นรูปธรรมชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่ง
ก่อนหน้านั้น ข้าพเจ้าก็คืออีกคนหนึ่งที่ไม่เคยรู้เรื่องราวเช่นนี้มาก่อนเลยเช่นกัน
ปฐมเหตุได้เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๔ มีท่านอาจารย์ รูปหนึ่งที่ข้าพเจ้าเคารพนับถือ
เมตตากรุณาให้พระข้าพเจ้ามา ๒ องค์ เป็นพระพิมพ์สมเด็จ ท่านบอกข้าพเจ้าแต่เพียงสั้น ๆ ว่าเป็นพระกรุวัด
ขุนอินทประมูลความสงสัยใคร่ที่อยากจะรู้ความจริงก็เกิดจากเหตุที่ได้พระสมเด็จมา ๒ องค์นี้เอง ด้วยอยากรู้ว่า
เท็จจริงประการใด จึงได้เกิดการนำสืบ ค้นคว้า พิสูจน์ ทั้งด้านพยานบุคคล พยานวัตถุ หลักฐานเอกสารต่างๆ
เท่าที่จะหาได้ เพื่อนำ มาประมวลหาเหตุและผลในการพิสูจน์หาความจริง ซึ่งได้กระทำการค้นคว้าพิสูจน์มาได้
๗-๘ ปี แล้ว จนมั่นใจได้แล้วว่าทุกอย่างที่ได้รับรู้มาเป็นเรื่องจริง และก็ต้องกราบขออภัย ซึ่งไม่สามารถเปิดเผย
ชื่อเสียงเรียงนามของเหล่าขบวนการแอบขุดเหล่านี้ได้ เพราะไม่เป็นผลดีต่อชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของคนเหล่านั้น
ย้อนหลังกลับไปเมื่อเกือบ ๒๐ ปีก่อนนั้น วัดขุนอินทประมูลยังไม่ค่อยมีคนนิยมมาท่องเที่ยว มากราบไหว้พระมาก
มายเหมือนเช่นปัจจุบันนี้สมัยก่อนพื้นที่รอบด้านจะถูกล้อมรอบไปด้วยท้องนา รกไปด้วยป่าด้วยหญ้าไม่ค่อยมีคน
พลุกพล่าน
ส่วนการขุดที่ข้าพเจ้าสืบทราบมานั้น จะทำการขุดในยามวิกาลหรือเวลากลางคืน พอกลางวันก็จะใช้ไม้อัด
และสังกะสี ปิดปากหลุมที่ขุดโดยโช้ดินกลบทับไว้อีกทีเพื่อป้องกันไม่ให้คนสังเกตเห็น ทำการขุดเช่นนี้ตลอด
เวลาที่ล่วงมากว่า ๒๐ ปี การขุดจะขุดในตำแหน่งบริเวณด้านหลังตรงกึ่งกลางองค์พระนอน ห่างจากองค์พระ
นอนออกมา ๑ เมตร หลุมกว้าง ๑ เมตรและขุดลึกลงไป ๑.๕๐ เมตร โดยขุดเจาะเป็นโพรงหรืออุโมงค์ตลอด
ตามแนวความยาวขององค์พระนอนทั้งด้านหน้าและด้านหลังตลอดรอบองค์พระจนเวลาล่วงมาถึง ตุลาคม ๒๕๔๑
ดินชั้นบนที่เป็นฐานรองรับน้ำหนักองค์หลวงพ่อเกิดทรุดตัวเหตุเพราะดินชั้นล่างถูกขุดทำลาย ทำให้ส่วนที่เป็นปูน
ที่ฉาบก่อด้านหลังองค์หลวงพ่อ พังครูดทลายลงมาตลอดทั้งแนวทำให้องค์หลวงพ่อใหญ่ อันเป็นพระนอนศิลป์
สุโขทัยยาว ๒๕ วาหรือ ๕๐ เมตร ที่สวยงาม สง่างามและยาวที่สุดของประเทศไทยต้องพังทลายลงคงเหลือ
เพียงในส่วนของด้านหน้า ส่วนของพระเศียรและพระบาทขององค์พระเท่านั้นที่ไม่พัง
เหตุการณ์ในครั้งนั้นได้เกิดขึ้นในเวลา ๑๐.๓๐ น.ก่อนเพลของวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๑ เกิดเสียงลั่น
ดังสนั่นปานฟ้าผ่า ตรงบริเวณ องค์หลวงพ่อใหญ่ เกิดเสียงลั่นดังสนั่นดังนี้ถึง ๒ คราครั้งแรกเกิดตอนกลางวัน
เวลา ๑๐.๓๐ น. ครั้งที่สอง เกิดตอนกลางคืนเวลาประมาณ ๓- ๔ ทุ่ม ซึ่งขณะนั้นวัดมีการจัดงานมีมหรสพ
พอสิ้นเสียงลั่นดัง ครั้งที่สอง องค์หลวงพ่อใหญ่ก็ทรุดลงเป็นกองอิฐกองปูน จุดประสงค์ของกลุ่มที่ขโมยขุด ไม่ได้
มุ่งหวังขุดหาพระสมเด็จแต่อย่างใดแต่ หวังของที่มี มูลค่าสูง เช่น พระพุทธรูปบูชาแก้วแหวนเงินทองอัญมณีม
ีค่าต่าง ๆ ได้พระพุทธรูปทองคำ ก็นำไปหลอมเป็นทองแท่งแล้วนำไปขายที่ร้านทอง เพื่อทำลายหลักฐานอันนำ
มาซึ่งความผิด อันอาจจะถึงตนเองได้

แต่กลุ่มคนเหล่านี้ก็หาได้หนีพ้นวิบากกรรมที่ตนได้ก่อขึ้นแล้วนั้นได้หัวหน้าขบวนการที่เคยรุ่งเรืองทั้งตำแหน่ง
และฐานะในขณะนั้น ต้องมีอันระเห็จระเหเร่ร่อนไปทั่ว หาที่พำนักเป็นหลักแหล่งอันแน่นอนไม่ได้ ทรัพย์สินที่เคยมี สถานะที่เคยดำรงอยู่ก็เสื่อมมลายสลายไปสิ้น ทุกข์กาย ทุกข์ใจหาทางออกไม่พบ หมดทางต้องหันไปพึ่งพายาบ้า
ยาเสพติด เพื่อหวังให้ช่วยคลายทุกข์ในยามมืดมนหมดหนทาง ส่วนคนที่ลงมือขุดบางคน ประสพอุบัติเหตุถึงขั้น
สาหัสเกือบแทบจะเอาชีวิตไม่รอด เหตุมอเตอร์ไซค์ที่ขี่ไปล้ม ถูกรถบรรทุกขนาดใหญ่เหยียบซ้ำ จนมอเตอร์ไซค์
และหมวกกันน็อคที่ใส่หลุดออกจากศีรษะบี้แบนพังยับเยินล้วนเป็นฝันร้ายของชีวิต ที่ชะตากรรมต้องประสพอันเกิด
จากกรรมได้ลิขิตไว้ทั้งสิ้น

การบูรณะปฏิสังขรณ์ แต่ถ้ามองหาส่วนที่ดีในสิ่งที่ไม่ดีนั้น ย่อมมีอยู่เสมอ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นแค่เพียงเศษขยะหรือแม้แต่จากมหา
โจรร้ายเพราะอย่างน้อยประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง กับพระสมเด็จชุดนี้ก็ได้ถูกเปิดเผยขึ้นโดยน้ำมือของคนกลุ่มนี้
นับว่าในมุมแห่งความมืดก็ยังมี ความสว่างที่ส่องให้เห็นความจริงอันเป็นประโยชน์ต่อประวัติศาสตร์ของชาติอย่าง
เอนกอนันต์

กาลเวลาล่วงเลยมากว่า ๑๐ ปี นับจากปี ๒๕๓๐-๒๕๔๑ ความก็มาแตกเมื่อความจริงเป็นที่ปรากฏว่า ใน
วันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๑ พระนอนที่ใหญ่และสวยงามที่สุดองค์หนึ่งของประเทศไทย ต้องพังทลายลงทั้งองค์
จากน้ำมือของมนุษย์บางกลุ่มที่ทำการแอบขโมยขุด

พระสมเด็จกรุขุนอินทประมูล

เป็นพระผงสีขาวที่มีมวลสารตามทฤษฎีของพระสมเด็จพุฒาจารย์(โต)พรหมรังสี วัดระฆังโฆษิตาราม เป็นพระรูปทรง
สี่เหลี่ยมและมีขนาดเท่าๆ กับ พระสมเด็จวัดระฆังโฆษิตาราม พุทธศิลป์ใกล้เคียงกับพระสมเด็จวัดระฆังโฆษิตารามมาก แต่ก็มีพุทธพิมพ์ในรายละเอียดที่แตกต่างกันบ้างอันเป็นเอกลักษณ์แม่พิมพ์ของ พระสมเด็จ กรุขุนอินทประมูลโดยเฉพาะ
พระสมเด็จกรุขุนอินทประมูลนั้น ท่านผู้รู้ในจังหวัดอ่างทอง ได้ขนานพระนาม เป็นพระพิมพ์ว่า

๑. พระพิมพ์พระประธาน ๒. พระพิมพ์ใหญ่
๓. พระพิมพ์ทรงเจดีย์ ๔. พระสมเด็จองค์เล็ก หรือ พิมพ์คะแนน

พระสมเด็จกรุขุนอินทประมูลพิมพ์ทรงเจดีย์

พุทธศิลป์ดูจะล่ำสันกว่าพระสมเด็จพิมพ์ใหญ่เสียอีก แต่ก็ไม่เท่ากับพระสมเด็จพิมพ์พระประธานเส้นแซมใต้ตักเป็น
เส้นเล็กและแหลมคม นอกนั้นพุทธศิลป์จะเหมือนและคล้ายกับพระสมเด็จทั้งของพิมพ์พระประธานและพิมพ์ใหญ่

(ข้อมูลจากhttp://www.khuninthapramul.com)


ในความเป็นจริงนั้นพระพุทธปฏิมากรรมหรือพระเครื่องที่สร้างขึ้นโดยคณาจารย์ที่มีตำแหน่งระดับพระสมเด็จ เช่น
สมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี,หรือสมเด็จพระสังฆราชเจ้า (สุกไก่เถื่อน)ประชาชนชาวไทยจะขนานพระนามว่า
เป็น พระสมเด็จวัดระฆังโฆษิตาราม พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม พระสมเด็จอรหัง เป็นต้น แต่ถ้าเป็นพระเครื่องที่สร้าง
โดยคณาจารย์ที่ไม่มีตำแหน่งชั้นสมเด็จพระเครื่องเหล่านั้นจะไม่ขนานพระนามว่าเป็นพระสมเด็จ ดังตัวอย่าง เช่น พระ
วัดรังษี พระวัดพลับ พระหลวงปู่ภู เป็นต้น แต่ปัจจุบันแนวทางการขนานพระนามของพระเครื่องในรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่
ี่มีพุทธลักษณะคล้ายๆ พระสมเด็จวัดระฆังโฆษิตาราม ก็มีการขนานพระนามเป็นพระสมเด็จเช่นกัน เช่น พระสมเด็จวัด
เกศไชโย เป็นต้น สำหรับพระสมเด็จกรุขุนอินทประมูลนั้น เนื่องจากมีพุทธลักษณะคล้ายคลึงกับ พระสมเด็จวัดระฆัง
โฆษิตารามทั้งพุทธศิลป์และมวลสารทั้งหมด อีกทั้งตามพุทธประวัติ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต)พรหมรังสี ได้เคยเสด็จ มากราบนมัสการพระพุทธไสยาสน์ขุนอินทประมูลเหมือนเช่น วัดเกศไชโย พระสมเด็จกรุวัดขุนอินทประมูล
จึงอาจจะได้รับความเมตตาจากท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์(โต)พรหมรังสี เป็นผู้สร้างหรือร่วมสร้างและบรรจุในใต้
ฐานของพระพุทธไสยาสน์ขุนอินทประมูล หรืออย่างน้อยที่สุดก็อาจจะได้รับพระบารมีจากท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี คณะกรรมการจึงขนานพระนามเป็น “ พระสมเด็จกรุขุนอินทประมูล ”

พระสมเด็จกรุขุนอินทประมูล เป็นพระเนื้อผงที่บรรจุในใต้ฐานพระพุทธไสยาสน์ ขุนอินทประมูลและน่าจะบรรจุ
อยู่ในที่สูงปราศจากน้ำท่วมใดๆ ด้วยอายุขององค์พระที่บรรจุไว้นานเป็นร้อยปี กลางวันจะร้อนด้วยไอแดด และกลางคืน
จะเย็นด้วยอากาศในตอนกลางคืน จึงก่อเกิดคราบปูนในอากาศที่ตกตะกอนจับลงบน องค์พระเครื่องที่เป็นพระผง จน
กระทั่งมี คราบปูนสีขาวนวลและจับแน่นเหมือนหินปูนโดยทั่วทั้งองค์พระ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ ดังตัวอย่าง
เช่น พระหลวงปู่ภูพิมพ์ ๗ ชั้น ของวัดอินทร์ ฯ ที่ไปบรรจุไว้ในกรุ ที่จังหวัดพิษณุโลกนั้น จะมีผิวคราบปูนจับอยู่บาง ๆ
เป็นต้น แต่คราบปูนที่จับอยู่บน พระสมเด็จกรุขุนอินทประมูล มีความหนากว่ามาก แสดงว่าพระสมเด็จกรุขุนอินทประมูล
ได้บรรจุในกรุมีอายุนานกว่าพระหลวงปู่ภูพิมพ์ ๗ ชั้นที่เปิดกรุได้ที่จังหวัดพิษณุโลกและอาจจะนานกว่าสองเท่า คราบปูน
ที่จับอยู่บนผิวขององค์พระตามธรรมชาตินั้น นอกจากจะมี ผิวธรรมชาติที่คล้ายคลึงกันแล้วผิวปูนตามธรรมชาติจะจับแน่น
ไม่สามารถหลุดโดยง่ายต้องใช้ ของแข็งขุดจึงจะสามารถเข้าถึงเนื้อได้ นอกจากผิวจะแข็งแกร่งแล้วยังมีสีด้านเหมือน
หินปูนธรรมชาติ เหมือนหินปูนในถ้ำ ถ้าเป็นหินปูนที่สร้างเทียมขึ้นจะต้องเป็นลักษณะปูนขาวผสมกาวที่แข็งและจับแน่น
แต่ก็จะต้องปรากฏความมันของกาวที่สร้างจากเคมีสังเคราะห์ขึ้นครับ


 
ราคาปัจจุบัน :     1,223 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     47 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    sanmita (2K)

 

Copyright ©G-PRA.COM