(0)
ด่วน++ประมูลการกุศลครับ เห็นหลวงพ่อช่วยเด็กแล้วผมสงสารหลวงพ่อ และสงสารเด็ก น้ำตาจะไหล หลวงตาม้า ทีเดียว2องค์ครับ 300พอครับ








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องด่วน++ประมูลการกุศลครับ เห็นหลวงพ่อช่วยเด็กแล้วผมสงสารหลวงพ่อ และสงสารเด็ก น้ำตาจะไหล หลวงตาม้า ทีเดียว2องค์ครับ 300พอครับ
รายละเอียดของบางอย่างไม่มีคุณค่าสำหรับคนเมือง แต่สำหรับพวกเขา...ของนั้นมีค่ายิ่ง

เป็นพระพิมพ์หลวงปู่ทวด และคำข้าวหลวงตาม้าสร้าง พี่ที่ประมูลได้โอนเงินเข้าบัญชีวัดเลยครับ โอนแล้วเมลแจ้งเลขโอนแค่นั้นพอ ค่าส่งผมจัดส่งให้ฟรีครับ ขอร่วมอนุโมทนาครับ


'ของเหลือจากคนเมืองอันมีจะกิน เป็นสิ่งมีค่าเหลือหลายสำหรับเด็กที่ไม่เคยได้ใช้ 'เงิน' แม้แต่บาทเดียว . . .' คำพูดนี้กลั่นออกมาจากปากของ
'พระครูวุฒิธรรมาทร' เจ้าอาวาสวัดโบสถ์วรดิตถ์ วัดแห่งหนึ่งใน อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง …

ในขณะที่ทุกคนเข้าวัดเพื่อทำบุญหรือหาที่พึ่งทางใจ แต่ ณ วัดป่าโมก วัดเล็กๆ ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก กลับเป็นสถานที่ชุบเลี้ยงเด็กอีกหลายร้อยชีวิต
พวกเขาคิดว่า 'วัด' คือบ้านที่ให้ชีวิตพวกเขา ให้แหล่งพักพิงอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่คนไร้ญาติ ขาดคนเหลียวแล และคนจนเช่นพวกเขาจะได้รับ



หลวงพ่อพระครูวุฒิธรรมาทร เจ้าอาวาสวัดโบสถ์วรดิตถ์ เล่าถึงความเป็นมาของวัดว่า เมื่อประมาณ 30 ปี ที่แล้ว พวกทหารพรานนำเด็กกว่า 30 คนมาฝากให้
ท่านเจ้าอาวาสรูปก่อนดูแล ส่งเงินให้เดือนละ 500 บาท เด็กๆ ที่นำมาฝากส่วนใหญ่เป็นเด็กกำพร้า เพราะพ่อแม่เป็นพวกคอมมิวนิวส์ หลังพ่อแม่ถูกฆ่า ถูกกวาดล้าง
ก็มาขอพึ่งพาอาศัยใบบุญวัดเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด



'ต่อมาชาวเขาทางภาคเหนือที่มีฐานะยากจนรู้เรื่องก็ส่งลูกๆ มาให้ทางวัดดูแลอีก เขาบอกว่าอย่างน้อยก็ยังดีกว่าอดตายอยู่บนเขา และก็มีมาอีกเรื่อยๆ เกือบ
ทุกจังหวัด จนถึงปัจจุบันก็กลาย เป็นกว่า 400 คนแล้ว ก็ต้องดูแลกันไป จำชื่อได้บ้างไม่ได้บ้าง ดื้อบ้างซนบ้าง แต่อาตมาก็ดูแล ไม่ให้ทะเลาะกัน ถ้าทะเลาะกัน
จะไม่ถามเลยว่าใครผิดใครถูก จะตีทั้งคู่ เด็กๆ เขาก็ซนตามประสาเด็กๆ' หลวงพ่อกล่าว พร้อมด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ที่แฝงไว้ซึ่งความเมตตาต่อเด็กๆ



พร้อมกันนี้ท่านยังบอกอีกว่า ทางวัดก็มีโรงเรียนให้เด็กๆ ได้เรียนหนังสือ เป็นโรงเรียนประจำแต่ก็เป็นไปตามอัตภาพที่จะทำได้ มีตั้งแต่ชั้นระดับอนุบาล
จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 แต่เด็กเป็นร้อยคนดูแลเด็กก็ต้องไปบิณฑบาตรข้าวของเครื่องเรียนต่างๆ เพื่อนำมาให้เด็กๆ เขาใช้ ส่วนครูที่สอนหนังสืออยู่ที่นี่
ก็เป็นระบบกึ่งข้าราชการ มีเงินเดือนมีสวัสดิการให้จากภาครัฐ แต่เงินเดือนจะไม่ขึ้น ที่เขาเสียสละมาอยู่กับเด็กๆ ก็เพราะรัก



'ทุกวันนี้หลวงพ่อไม่เคยมีปัญหาอะไร มีแต่ทุกข์ ขนาดเป็นพระก็ยังมีทุกข์ ทุกข์ที่ว่ากลัวจะมีไม่พอเลี้ยงเขา จะอยู่กันไปตลอดได้อย่างไร บางคนเรียนจบ
ก็กลับมาช่วย บางคนก็ไม่กล้ามา เขาคงละอายใจตัวเองที่ยังช่วยวัดไม่ได้ เพราะในแต่ละเดือนภาระค่าใช้จ่ายของทางวัด เฉพาะค่าไฟก็ไม่น้อย
ไปกว่า 3 หมื่นบาท รายได้ก็มาจากการบริจาค ส่วนใหญ่ก็ต้องไปขอบิณฑบาตรเอาปัจจัยบ้าง และของที่บริจาคจะเป็นจำพวกข้าวสารอาหารแห้ง
แต่บางทีข้าวสารไม่พอ วัดก็ไปขอหยิบยืมมาจากโรงสี พอมีผ้าป่ากฐินมาวัดก็เอาเงินไปใช้เขา ถ้าไม่มีหรือไม่พอเขาก็ไม่ทวงทางวัด ก็ถือว่าเป็นการทำบุญไป' หลวงพ่อ กล่าว



... ในขณะที่หลายคนเกิดมาบนกองเงินกองทอง เรียนบ้างเล่นบ้างตามประสา ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยตามสมัยนิยม แต่ในวัดเล็กๆ แห่งนี้ยังมีเด็กอีกหลายร้อยชีวิตที่
ไม่เคยได้สัมผัส 'เงิน' ที่กลายเป็นปัจจัยในการดำรงชีวิต หรือไม่มีเสื้อผ้าใหม่ๆ ดีๆ สวมใส่



'ของเก่ามันเก่าที่บ้าน แต่กับเด็กๆ ที่เขาไร้โอกาสมันก็เป็นของใหม่สำหรับเขา แต่ส่วนใหญ่เด็กๆ เค้าก็ดีใจ เราเคยบอกกับเด็กๆ ว่าถ้าไม่มีคนช่วย
ก็ต้องต่างคนต่างไป เพราะญาติโยมที่มาก็ไม่เยอะมาก แต่แค่เงินทำบุญหาได้เดือนชนเดือนก็พอใจแล้ว ไม่ได้หวังอะไรมาก ส่วนใหญ่คนที่มาบริจาคเค้า
มาเอง มาแบบปากต่อปาก วัดไม่เคยออกไปโฆษณาทางไหน ของบริจาคอยากจะบริจาคเสื้อผ้า ของเล่น อะไรก็เอามาบริจาคได้ อาหารแห้ง ถ้าเหลือใช้ไม่รู้จะทิ้งที่ไหน ก็เอามาได้'



เรียกได้ว่า ทุกคำพูด ทุกลมหายใจเข้าออกของหลวงพ่อพระครูวุฒิธรรมาทร จะคิดคำนึงถึงปากท้องของชีวิตน้อยๆ ที่ต้องเลี้ยงดูอยู่เสมอ



'การกินเป็นสิ่งสำคัญต้องมาก่อนอย่างอื่น เด็กๆ ต้องกินแล้วค่อยร่ำเรียน ยังไงก็ต้องให้เค้ามีกิน ถึงจะไม่ดีตาม แต่ก็ต้องได้กิน ทุกวันนี้กลัวอย่างเดียวคือวันข้างหน้า
จะมีไม่พอให้เค้ากินเค้าใช้' หลวงพ่อ กล่าว ความทุกข์ที่เป็นกังวลใจ พร้อมๆ กับฝากถึงคนที่มีโอกาสว่า 'กว่าพ่อแม่จะเลี้ยงมาได้ กว่าจะเติบโตมาเป็นคนได้ มันสุด
แสนจะยากลำบาก ยังมีชีวิตก็ยังมีโอกาส อย่าไปคิดสั้นชีวิตมันยังต้องต่อสู้กันต่อไป'



บางสิ่งบางอย่างคนที่มีเพียบพร้อมอาจจะมองเป็นเพียงแค่เศษขยะ เป็นของเหลือกินเหลือใช้ แต่ในทางตรงกันข้าม สิ่งของเหล่านั้นอาจจะช่วยประทังชีวิตเล็กๆ
ให้อยู่ต่อข้ามพ้นไปในอีกวัน ...



สำหรับท่านที่อยากบริจาคช่วยเหลือวัดโบสถ์วรดิตถ์ สามารถโอนเงินเข้าบัญชีชื่อวัดโบสถ์วรดิตถ์โดยพระครูวุฒิธรรมาทร
ธนาคารกสิกรไทย สาขาป่าโมก บัญชีออมทรัพย์ 182-2-11-364- 4 หรือต้องการบริจาคสิ่งของก็สามารถบริจาคได้ที่วัดโบสถ์วรดิตถ์ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบจากมหา'ลัยชีวิต
ราคาเปิดประมูล280 บาท
ราคาปัจจุบัน300 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ20 บาท
วันเปิดประมูล - 06 ก.พ. 2553 - 22:49:33 น.
วันปิดประมูล - 08 ก.พ. 2553 - 00:04:53 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลaood4321 (1.3K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 06 ก.พ. 2553 - 22:51:47 น.
.


พระครูวุฒิธรรมาทร พ่อของเด็กกว่า 400 ชีวิต

" ของเหลือจากคนเมืองอันมีจะกิน เป็นสิ่งมีค่าเหลือหลายสำหรับเด็กที่ไม่เคยได้ใช้ "เงิน" แม้แต่บาทเดียว . . ." คำพูดนี้กลั่นออกมาจากปากของ " พระครูวุฒิธรรมาทร" เจ้าอาวาสวัดโบสถ์วรดิตถ์ วัดแห่งหนึ่งใน อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง

ใน ขณะที่ทุกคนเข้าวัดเพื่อทำบุญหรือหาที่พึ่งทางใจ แต่ ณ วัดป่าโมก วัดเล็กๆ ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ! กลับเป็นสถานที่ชุบเลี้ยงเด็กอีกหลายร้อยชีวิต พวกเขาคิดว่า " วัด" คือบ้านที่ให้ชีวิตพวกเขา ให้แหล่งพักพิงอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่คนไร้ญาติ ขาดคนเหลียวแล และคนจนเช่นพวกเขาจะได้รับ



หลวง พ่อพระครูวุฒิธรรมาทร เจ้าอาวาสวัดโบสถ์วรดิตถ์ เล่าถึงความเป็นมาของวัดว่า เมื่อประมาณ 30 ปี ที่แล้ว พวกทหารพรานนำเด็กกว่า 30 คนมาฝากให้ท่านเจ้าอาวาสรูปก่อนดูแล ส่งเงินให้เดือนละ 500 บาท เด็กๆ ที่นำมาฝากส่วนใหญ่เป็นเด็กกำพร้า เพราะพ่อแม่เป็นพวกคอมมิวนิวส์ หลังพ่อแม่ถูกฆ่า ถูกกวาดล้างก็มาขอพึ่งพาอาศัยใบบุญวัดเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด

" ต่อมาชาวเขาทางภาคเหนือที่มีฐานะยากจนรู้เรื่องก็ส่งลูกๆ มาให้ทางวัดดูแลอีก เขาบอกว่าอย่างน้อยก็ยังดีกว่าอดตายอยู่บนเขา และก็มีมาอีกเรื่อยๆ เกือบทุกจังหวัด จนถึงปัจจุบันก็กลายเป็นกว่า 400 คนแล้ว ก็ต้องดูแลกันไป จำชื่อได้บ้างไม่ได้บ้าง ดื้อบ้างซนบ้าง แต่อาตมาก็ดูแล ไม่ให้ทะเลาะกัน ถ้าทะเลาะกันจะไม่ถามเลยว่าใครผิดใครถูก จะตีทั้งคู่ เด็กๆ เขาก็ซนตามประสาเด็กๆ" หลวงพ่อกล่าว พร้อมด้วยรอยยิ้ม! เล็กๆ ที่แฝงไว้ซึ่งความเมตตาต่อเด็กๆ



พร้อม กันนี้ท่านยังบอกอีกว่า ทางวัดก็มีโรงเรียนให้เด็กๆ ได้เรียนหนังสือ เป็นโรงเรียนประจำแต่ก็เป็นไปตามอัตภาพที่จะทำได้ มีตั้งแต่ชั้นระดับอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 แต่เด็กเป็นร้อยคนดูแลเด็กก็ต้องไปบิณฑบาตข้าวของเครื่องเรียนต่างๆ เพื่อนำมาให้เด็กๆ เขาใช้ ส่วนครูที่สอนหนังสืออยู่ที่นี่ก็เป็นระบบกึ่งข้าราชการ มีเงินเดือนมีสวัสดิการให้จากภาครัฐ แต่เงินเดือนจะไม่ขึ้น ที่เขาเสียสละมาอยู่กับเด็กๆ ก็เพราะรัก



" ทุกวันนี้หลวงพ่อไม่เคยมีปัญหาอะไร มีแต่ทุกข์ ขนาดเป็นพระก็ยังมีทุกข์ ทุกข์ที่ว่ากลัวจะมีไม่พอเลี้ยงเขา จะอยู่กันไปตลอดได้อย่างไร บางคนเรียนจบก็กลับมาช่วย บางคนก็ไม่กล้ามา เขาคงละอายใจตัวเองที่ยังช่วยวัดไม่ได้ เพราะในแต่ละเดือนภาระค่าใช้จ่ายของทางวัด เฉพาะค่าไฟก็ไม่น้อยไปกว่า 3 หมื่นบาท รายได้ก็มาจากการบริจาค ส่วนใหญ่ก็ต้องไปขอบิณฑบาตเอาปัจจัยบ้าง และของที่บริจาคจะเป็นจำพวกข้าวสารอาหารแห้ง แต่บางทีข้าวสารไม่พอ วัดก็ไปขอหยิบยืมมาจากโรงสี พอมีผ้าป่ากฐินมา วัดก็เอาเงินไปใช้เขา ถ้าไม่มีหรือไม่พอเขาก็ไม่ทวงทางวัด ก็ถือว่าเป็นการทำบุญไป" หลวงพ่อ กล่าว

... ในขณะที่หลายคนเกิดมาบนกองเงินกองทอง เรียนบ้างเล่นบ้างตามประสา ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยตามสมัยนิยม แต่ในวัดเล็กๆ แห่งนี้ยังมีเด็กอีกหลายร้อยชีวิตที่ไม่เคยได้สัมผัส " เงิน" ที่กลายเป็นปัจจัยในการดำรงชีวิต หรือไม่มีเสื้อผ้าใหม่ๆ ดีๆ สวมใส่



" ของเก่ามันเก่าที่บ้าน แต่กับเด็กๆ ที่เขาไร้โอกาสมันก็เป็นของใหม่สำหรับเขา แต่ส่วนใหญ่เด็กๆ เค้าก็ดีใจ เราเคยบอกกับเด็กๆ ว่าถ้าไม่มีคนช่วยก็ต้องต่างคนต่างไป เพราะญาติโยมที่มาก็ไม่เยอะมาก แต่แค่เงินทำบุญหาได้เดือนชนเดือนก็พอใจแล้ว ไม่ได้หวังอะไรมาก ส่วนใหญ่คนที่มาบริจาคเค้ามาเอง มาแบบปากต่อปาก วัดไม่เคยออกไปโฆษณาทางไหน ของบริจาคอยากจะบริจาคเสื้อผ้า ของเล่น อะไรก็เอามาบริจาคได้ อาหารแห้ง ถ้าเหลือใช้ไม่รู้จะทิ้งที่ไหน ก็เอามาได้"
เรียกได้ว่า ทุกคำพูด ทุกลมหายใจเข้าออกของหลวงพ่อพระครูวุฒิธรรมาทร จะคิดคำนึงถึงปากท้องของชีวิตน้อยๆ ที่ต้องเลี้ยงดูอยู่เสมอ



" การกินเป็นสิ่งสำคัญต้องมาก่อนอย่างอื่น เด็กๆ ต้องกินแล้วค่อยร่ำเรียน ยังไงก็ต้องให้เค้ามีกิน ถึงจะไม่ดีตาม แต่ก็ต้องได้กิน ทุกวันนี้กลัวอย่างเดียวคือวันข้างหน้าจะมีไม่พอให้เค้ากินเค้าใช้" หลวงพ่อ กล่าวความทุกข์ที่เป็นกังวลใจ พร้อมๆ กับฝากถึงคนที่มีโอกาสว่า " กว่าพ่อแม่จะเลี้ยงมาได้ กว่าจะเติบโตมาเป็นคนได้ มันสุดแสนจะยากลำบาก ยังมีชีวิตก็ยังมีโอกาส อย่าไปคิดสั้นชีวิตมันยังต้องต่อสู้กันต่อไป"

บาง สิ่งบางอย่างคนที่มีเพียบพร้อมอาจจะมองเป็นเพียงแค่เศษขยะ เป็นของเหลือกินเหลือใช้ แต่ในทางตรงกันข้าม สิ่งของเหล่านั้นอาจจะช่วยประทังชีวิตเล็กๆ ให้อยู่ต่อ
ข้ามพ้นไปในอีกวัน...


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 06 ก.พ. 2553 - 22:53:10 น.
.


วันอาทิตย์ไปทำบุญที่วัดโบสถ์วรดิษฐ์ จ.อ่างทองมาค่ะ ที่วัดนั้นเลี้ยงเด็กกำพร้าไว้400กว่าคน มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง ก่อนหน้าโทรไปถามคนรับสายบอกว่าของที่ขาดแคลนคือข้าวสาร อาหารแห้ง รองมาอยากได้สมุดดินสอ และอื่นๆตามแต่จะศรัทธา ให้อะไรก็เอาหมดค่ะ

เรา กับเพื่อนเลยคิดบริจาคข้าวสารแต่น้ำหนักมากเลยขับรถไปหาซื้อเอาแถวนั้น แล้วเจอร้านขายส่งไม่ไกลจากวัดก็แวะซื้อข้าวสาร1กระสอบ1400บาท(คนขายแนะนำ ให้ซื้อแบบนี้) ป้าเจ้าของร้านเขียนแผนที่ไปวัดให้ค่ะ แล้วก็สอบถามเด็กที่ขายของ ทราบว่าในวัดมีเด็กผู้หญิงด้วย เราเลยซื้อผ้าอนามัย2แพ็คใหญ่ แพ็คแบบเค้าขายส่งกันน่ะค่ะ

พอมาถึง วัดก็คุยกับท่านเจ้าอาวาสนิดหน่อย แล้วก็ให้คนพาไปดูเด็ก เราเดินไปดูตรงโรงนอนแออัดมากเลยเจ้า T-T เข้าไปในโรงนอนเด็กผู้หญิงแล้วไล่เพื่อน(ผู้ชาย)ออกไปก่อน ชิ้ว ๆ ๆ เราก็พยายามถามว่ามีเด็กกี่คน ต้องการอะไรเพิ่มเติมไหม น้องๆเค้าบอกว่ามีเด็กที่ถึงวัยประจำเดือน80กว่าคน ผ้าอนามัยไม่พอใช้เลยต้องซื้อกันเอง ฟังแล้วดูธรรมดานะคะซื้อผ้าอนามัยกันเองใครก็ซื้อกันเองเน้อ แต่ถ้าเห็นโรงนอนแล้วคำว่า "ซื้อกันเอง" เนี่ย คงเป็นอะไรที่ลำบากมากๆเลยค่ะ T-T เราอยากถ่ายรูปมาให้ดูมากแต่เกรงใจน้องเค้าเพราะแค่ไปถามก็ดูน้องๆอายกัน มากแล้ว ถามว่าชุดชั้นในมือสองต้องการไหม เด็กก็บอกเอาค่ะ พูดคุยเสร็จก็เดินออกมาเจอเพื่อน

เพื่อนบอกว่าเด็กน่ารักไม่ส่งเสียงหนวกหูหรือทะเลาะกันเลย

พอดีเพิ่งโทรไปเชคกับทางวัดมาอีกทีว่า ของที่ได้รับบริจาคมามีพอเพียงหรือยัง ขาดเหลืออะไรอีกไหม ทางวัดตอบมาว่าแล้วแต่ศรัทธา เพราะไม่กล้าบอกเจาะจง กลัวเจ้าภาพผู้บริจาคจะคิดว่า ทางวัดมุ่งรับแต่ของบริจาคอย่างเดียว

ฟัง แล้วซึ้งค่ะ พรุ่งนี้เลยจะไปซื้อของบริจาคเพิ่มเติมอีก แต่เห็นหลักๆว่าถ้าเป็นอาหารแห้งก้อดี โดยเฉพาะปลากระป๋อง เพราะเอามาทำแกงส้มหรืออาหารผัดก้อได้ แถมข้อมูลล่าสุดที่ทราบมาคือ ข้าวสาร 100 กิโลนี่ใช้ต่อ 1 วันนะคะ คนเยอะจริงๆ

เห็นด้วยกับคุณMorNing eYes คห.232เจ้าค่ะ ติดกับที่เราเอาของไปบริจาคมีที่ขายของพวกพระเครื่องวัตถุมงคลด้วยค่ะ แต่ท่านเจ้าอาวาสและคนอื่นไม่มีการเชิญชวนไปดูหรือซื้อหาเลยค่ะ ต่างจากที่อื่นมากซึ่งอย่างน้อยต้องมีการบอกละว่าให้ไปเดินดูวัตถุมงคล

เท่า ที่คุยกะเจ้าอาวาส ท่านไม่เอ่ยปากขอเงินเลยค่ะ พอถามถึงสิ่งที่ต้องการก็ขอแต่ของจำเป็นเท่านั้น ข้าวสาร อาหาร เครื่องครัว อะไรแบบนี้อะค่ะ เด็กในวัดก็เช่นกันเหมือนถูกสอนมาว่า "ห้ามขอ" ถ้าไปถามว่าอยากได้อะไรไหมเด็กจะเงียบค่ะ ต้องไล่ถามเอาเอง (คนถามเหนื่อยนะน้อง -_-') แล้วถามว่ามีพอไหม เด็กถึงบอกว่า "ไม่พอ" เหอ ๆ ๆ

ใครไปก็ช่วยๆกันถามหน่อยละกันนะคะ ว่าขาดอะไรบ้าง เพราะท่านเจ้าอาวาสกับเด็กๆเกรงใจคนมาบริจาคมากเลย ไม่กล้าขออะไรสักอย่าง ให้อะไรก็เอาหมดเจ้าค่ะ

ไปมาเมื่อ2เดือนที่แล้วค่ะ เด็กๆเยอะยังต้องการความช่วยเหลือจากเพื่อนๆอยู่นะคะ เราเอาขนมกับเสื้อผ้า ตุ๊กตาไปให้พวกเค้า ดูเค้าดีใจมากๆ

เด็กที่มาอยู่ บางคนมาตั้งแต่ 1 ขวบ พ่อแม่นำมาฝาก แล้วไม่มาเอาคืน ตอนแรกก้อมีไม่เยอะ พอเห็นว่าที่นี่พอเลี้ยงได้ก้อเอามาฝากกันใหญ่ แย่จังเลยนะคะ

ทางวัด บอกว่าเด็กได้เรียนทุกคน เพราะถ้าเค้ารู้ว่ามาจากวัดเค้าก้อให้เรียนฟรี เด็กบางคนโตแล้ว เรียนจบ ก้อกลับมาสอนน้องๆ ฟังแล้วค่อยยังชั่วหน่อยค่ะ

ถ้ามีโอกาสก้ออยากให้เพื่อนๆได้ไปร่วมบริจาคกันนะคะ เลยอยุธยาไปไม่ไกล ขากลับมากินกุ้ง+โรตีที่อยุธยาได้สบายๆเลยค่ะ

ปล. ถ้าใครสะดวกบริจาคเป็นเงินก้อดีนะคะ หลวงพ่อท่านนำไว้เป็นค่าใช้จ่าย น้ำ ไฟ ค่ะ เดือนนึงต้องใช้หลายหมื่นค่ะ

ไม่ทราบว่าคนตั้งทู้ ใช่คนเดียวกะที่เขียนเมลล์นี้รึเปล่า
- คนละคนเจ้าค่ะ เราตั้งแต่กระทู้อย่างเดียวเจ้า ไม่ทราบใครเป็นคนเขียนเมล์ แต่ยังไงก็ฝากขอบคุณคนเขียนเมล์ด้วยละกันค่ะ @^ . ^@

น้อง ๆ ที่นั่นเรียนอยู่ประมาณชั้นไหนคะ
- อนุบาล-ม.6ค่ะ แนะนำแบบนี้นะคะ เอาหนังสือไปขายได้เงินมากน้อยไม่เป็นไร แล้วเอาเงินมาให้วัดแทนจะได้ประโยชน์มากกว่าค่ะ
หนังสือติวก็อยู่กับคนที่ต้องการอ่านจริงๆ ใช้ประโยชน์ได้มากกว่าน้องๆ
น้องๆก็ได้เงินมาซื้ออาหารและของใช้จำเป็นสำหรับเด็กค่ะ

อีก เรื่องนะคะ เด็กบางคนเป็นเด็กชาวเขา สื่อสารภาษากลางไม่ค่อยได้ค่ะ -_-' อย่าไปโทษพ่อแม่ที่เอาลูกมาให้วัดเลยค่ะ เพราะพ่อแม่ทุกคนก็อยากให้ลูกตัวเองมีข้าวกิน3มื้อ ได้เรียนหนังสือ ถ้าอยู่กับพ่อแม่บนเขาที่ห่างไกลก็อาจไม่ได้เรียนก็ได้นะคะ ถือว่าช่วยเด็กชาวเขาบางคนให้มีโอกาสได้เรียนและสื่อสารได้พอไม่ให้ใครหลอก ตอนโตก็พอแล้วค่ะ

เราเพิ่งไปมาเมื่อวันเสาร์ที่ 4 ตุลาที่ผ่านมา
เนื่องมาจากกระทู้นี้และประจวบเหมาะกับอยากไปทำบุญวันเกิดอยู่พอดี
เลยซื้อพวกเครื่องเขียน ผ้าอนามัย กางเกงในผู้หญิงอีก 75 ตัว บวกกับของผู้ชายอีกนิดหน่อยไปบริจาค

ส่วนเรื่องอาหารแห้ง แม่ได้ช่วยซื้อเพิ่มให้(เพราะงบเราไม่พอ - -')

จาก การสอบถามท่านเจ้าอาวาส ท่านบอกว่ามีเด็กผู้ชายประมาณ 200 กว่าคน และเด็กผู้หญิงอีกประมาณ 100 กว่าคน ท่านบอกว่า ท่านแปลกใจว่าทำไม เดือนสองเดือนที่ผ่านมา มีญาติโยมมาเยี่ยมกันเยอะกว่าแต่ก่อน(เดาว่าแต่ก่อนคงไม่ค่อยมีใครไปเลย)

เราก็เลยบอกว่าเป็นเพราะคนทราบมากขึ้นจากอินเตอร์เน็ต เราเองก้อทราบมาจากเว็บพันทิป
พระอีกรูปท่านเลยบอกว่า คราวก่อนห้องโต๊ะเครื่องแป้งก็มาทำบุญกัน ^^
ท่าน เจ้าอาวาสบอกว่าเห็นมีญาติโยมรู้จักกันมากขึ้น ท่านก็สบายใจ ท่านยังแอบมีมุขอีกว่า "สงเคราะห์พวกเค้าไป ให้พอเอาตัวรอดได้ ถึงแม้จะไปเป็นโจร ก็ยังเป็นหัวหน้าโจร" เรานั่งฟังท่านพูดหลายๆ เรื่อง น้ำตาคลอเลยอ่ะ

จากนั้นก่อนกลับได้คุยกับเด็กผู้หญิงที่เค้ามาต้อน รับเรา เค้าบอกว่า ท่านเจ้าอาวาสสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ต้องมีคนมาฉีดยาให้ทุกเช้า น้องบอกว่า ถึงหลวงพ่อไม่สบาย ท่านก็ยังเป็นห่วงพวกหนูตลอดเวลา ถามว่ามีอะไรที่ขาดเหลืออีกมั้ย น้องบอกว่า พวกผ้าเช็ดตัว กับ ยาสีฟัน
เราเลยบอกว่า ถ้ามาอีก จะเอามาให้

กลับมาบ้าน รู้สึกอยากไปอีก เดี๋ยวกะว่ารอบหน้าจะชวนเพื่อนๆ ไปอีก

ถ้าใครมีโอกาสก็ลองแวะไปนะค่ะ


ข้อมูลเพิ่มเติม 3 - 06 ก.พ. 2553 - 22:54:06 น.
.


คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะทำดีได้


ข้อมูลเพิ่มเติม 4 - 06 ก.พ. 2553 - 22:55:57 น.
.


เป็นพระพิมพ์หลวงปู่ทวด และคำข้าวหลวงตาม้าสร้าง พี่ที่ประมูลได้โอนเงินเข้าบัญชีวัดเลยครับ โอนแล้วเมลแจ้งเลขโอนแค่นั้นพอ ค่าส่งผมจัดส่งให้ฟรีครับ ขอร่วมอนุโมทนาครับ


 
ราคาปัจจุบัน :     300 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     20 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    chatkul (173)

 

Copyright ©G-PRA.COM
www1