(0)
ู^-^พระ นางพญาเสน่ห์จันทน์ ตาเถรขึงหนัง หรือ วัดศรีพิจิตรฯ จ.สุโขทัย +ใบประกาศ2ใบ!!!!








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องู^-^พระ นางพญาเสน่ห์จันทน์ ตาเถรขึงหนัง หรือ วัดศรีพิจิตรฯ จ.สุโขทัย +ใบประกาศ2ใบ!!!!
รายละเอียดไครอยากมี"เสน่ห์" บ้าง...... วันนี้ขอจัดสุดยอดพระกรุยอดนิยม จ.สุโขทัยสุดยอดหายากกับ พระนางพญาเสน่ห์จันทน์องค์นี้ฟอร์มดีปีกกว้าง ติดรางวัลที่ 4 มา2ใบเป็นเครื่องการันตรีความแท้และดูง่าย เสียดายที่มีหักบิ่นที่ปลายบนสุดนิดเดียวไม่โดนองค์พระ แต่ซ่อมไว้เรียบร้อย เนื้อเดิมๆอยู่ครบ
ถ้ามองในด้านความเหมาะสมแก่การขึ้นคอรวมทั้งพระพุทธคุณที่ดีเยี่ยมแล้ว ก็เห็นจะต้องยกให้กับ "พระนางพญาเสน่ห์จันทน์" ยอดพระเครื่องเนื้อดินเผา อีกพิมพ์หนึ่งที่เพิ่งถูกค้นพบเมื่อไม่นานนี้เป็นแน่ เรื่องราวพระเครื่องที่ว่านี้เป็นอย่างไรก็จะเห็นจะต้องนำท่านไปสู่เป้าหมาย ของเรื่องได้แล้วครับ "ชื่อวัด" ที่พัฒนามาแต่โบราณ ท่านนักเลงพระบางท่านคงจะจำกันได้ว่า เมื่อพ.ศ.2502 นั้น กรมศิลปากรได้ทำการบูรณะโบราณสถานที่จังหวัดสุโขทัยเป็นการใหญ่ โบราณสถานอันเก่าแก่หลายแห่งได้ถูกค้นพบพระพุทธรูปและพระเครื่องบรรจุกรุไว้ มากมาย โดยเฉพาะที่วัด "ตาเถรขึงหนัง" หรือ "วัดศรีพิจิตรฯ" นั้น เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรได้พบกรุพระเครื่องที่ยิ่งใหญ่อีดกรุหนึ่ง อันเป็นที่มาของพระพิมพ์นางพญาเสน่ห์จันทน์ ซึ่งผมจะได้กล่าวถึงต่อไป และก่อนที่ท่านจะได้รู้ว่าพระกรุนี้มีอะไรบ้างนั้น หลายท่านทีเดียวอาจจะสงสัยว่าทำไมชื่อวัดมีตั้งเยอะแยะ แต่ไหงจึงมาเรียกว่า "วัดตาเถรขึงหนัง" กันเช่นนี้ และที่เรียก "วัดศรีพิจิตรฯ" ก็มี ว่ากันให้ยุ่ง 2 ชื่ออย่างนี้ผมเองก็สงสัยอยู่ แต่ก็ขอเดาไว้ก่อนดังนี้ครับ คำว่า "วัดตาเถรขึงหนัง" ชาวบ้านเขาเรียกกันมาแต่โบราณกาลแล้ว ใครเป็นผู้ตั้งไว้ไม่ทราบ จะให้เดาก็ใช่ที่ แต่มีคนเล่ากันต่อๆ มาว่า วัดร้างเก่าแก่ที่กรมศิลปากรไปบูรณะขุดพบพระนางพญาเสน่ห์จันทน์เข้านี้ เมื่อสมัยโน้นเขาว่าประดาตาเถรทั้งหลายมักจะชอบมานั่งชุมนุมสัมมนากันอยู่ ที่วัดนี้เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตาเถรรกลุ่มนี้แกคงอยู่ไม่สุข คงชอบขึงหนังทำกลองตากแห้งอยู่เสมอชาวบ้านก็เลยเรียกกันว่า "วัดตาเถรขึงหนัง" ตั้งแต่นั้นมา เรื่องของการเรียกชื่อวัด มาตั้งแต่ครั้งโบราณนั้น ต่างเรียกกันแปลกๆ อยู่ และถ้าลงเรียกแล้วชื่อดังกล่าวก็มักจะเป็นเรื่องจริงที่ปรากฏขึ้นกับวัดมา ก่อนด้วย อย่างเช่น "วัดลิงขบ" ที่ธนบุรี วัดนี้เมื่อก่อนนั้นเขาเล่าว่า มีลิงมากอยู่ แถมยังดุเอาการด้วยชาวบ้านจึงพากันเรียกว่า "วัดลิงขบ" เช่นนี้ เหมือนกับจะเป็นการเตือนภัยให้รู้ไว้ก่อนกระนั้น เรื่องชื่อวัดฟังแปลกๆ นี้แม้แต่ที่จังหวัดกำแพงเพชรเขาก็มี "วัดตาเถรขี่เกวียน" เหมือนกัน เรื่องก็มาลงเอาว่า วัดนั้นกลุ่มตาเถรทั้งหลายคงจะชอบขี่เกวียนกันมากกว่านั่งหลังควายก็ว่าได้ ชาวบ้านจึงพากันเรียกไว้เช่นนั้น พูดถึงเรื่องตาเถรมากไปก็ดูจะไม่เหมาะเพราะเรื่องออกจะเริ่มยาวไป อีกหน่อยก็ต้องมาลงที่ยายชีอีกเป็นแน่ กลับมาเรื่องของเราต่อไปดีกว่า ความจริงแล้ว คำว่า "วัดศรีพิจิตรกิรติกัลยาราม" นั้นเขาเรียกกันเป็นทางการมาก่อนคำว่า "วัดตาเถรขึงหนัง" เสียอีก เมื่อเดิมทีผู้เขียนก็เข้าใจว่าวัด "ศรีพิจิตรฯ" นี้เขาคงมาเรียกชื่อกันใหม่ในสมัยนี้ เพราะอาจรำคาญชื่อ "วัดตาเถรขึงหนัง" มากกว่า แต่ก็หาใช่เช่นนั้นไม่ชื่อ "วัดศรีพิจิตรกิรติกัลยาราม" นี้กลับเรียกกันเป็นทางการมาตั้งแต่ครั้งสร้างวัดเสร็จใหม่ๆ ตั้งแต่เมื่อพ.ศ.1946 ของสมัยโน้นกันแล้วครับ! พระ "นางพญาเสน่ห์จันทน์" เผยโฉม! การบูรณะโบราณสถานเมื่อ พ.ศ.2502 ที่ "วัดตาเถรขึงหนัง" นั้น เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรได้ขุดพบกรุพระเข้าโดยบังเอิญ และได้สร้างความมหัศจรรย์แก่ผู้อยู่ ณ ที่นั้นยิ่งนัก เพราะเมื่อกรุนั้นถูกเปิดออก หลายคนทีเดียวก็ต้องถึงกับตะลึงงันอยู่กับที่ ด้วยปรากฏว่าภายในกรุ ได้มีกลิ่นหอมอย่างประหลาดโชยอบอวลหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณนั้น (เข้าใจว่าก่อนปิดกรุเมื่อสมัยนั้นคงประพรมน้ำอบแป้งหอมกระแจะจันทน์ไว้ อย่างมาก กลิ่นนั้นจึงได้อบอวลจนกระทั่งจนปัจจุบัน) จากกลิ่นจรุงใจนี้เอง ยังได้รวมทั้งพระเครื่องที่พบครั้งนั้นก็พลอยมีกลิ่นหอมไปทุกองค์ด้วย แหละก็ด้วยเหตุนี้กระมัง พระพิมพ์หนึ่ง ซึ่งงามประทับใจที่สุดของกรุนี้ จึงได้ถูกขนานนามต่อมาว่า "พระนางพญาเสน่ห์จันทน์" ซึ่งเป็นพระเครื่องศิลปะสุโขทัยที่งดงามมากอีกพิมพ์หนึ่ง โดยบัดนี้ได้เป็นของหายากและแพงไปแล้ว พระเครื่องซึ่งพบจากกรุวัดตาเถรขึงหนังครั้งนั้น นอกจากพระนางพญาเสน่ห์จันทน์ ซึ่งมีลักษณะสามเหลียมหน้าจั่ว สูงประมาณ 3.2 ซ.ม. พระกว้าง 2.5 ซ.ม. นั้น เป็นพระเนื้อดินเผาได้ขึ้นจากกรุมาหลายร้อยองค์แล้ว นอกจากนั้นปรากฏว่ามีพิมพ์พระเชตุพน พระเปิดโลก และพระแผงอีกหลายแบบได้รวมอยู่ในกรุนี้ด้วย ส่วนคำว่า "นางพญาเสน่ห์จันทน์" เราก็พอจะเดาได้ว่า คงเอาประสบการณ์วันเปิดกรุมาเป็นชื่อของพระซึ่งมีกลิ่นหอมที่โชยมานั้นก็ว่า ได้ แต่ที่เรียกพระพิมพ์นี้เป็นพระ "นางพญา" นั้นก็เพราะเป็นพระนั่งที่มีลักษณะสามเหลี่ยมซึ่งจัดอยู่ในสกุลพระ "นางพญา" อีกองค์หนึ่งนั่นเอง ส่วนองค์ต้นสกุลก็คือ "พระนางพญา" กรุวัดนางพญาที่จังหวัดพิษณุโลก พุทธลักษณะ สี และการตัดปีกข้าง พระเครื่องพิมพ์ "นางพญาเสน่ห์จันทน์" พุทธลักษณะเป็นพระปางมารวิชัย นั่งขัดราบบนฐานเขียง อยู่ภายในกรอบสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ลักษณะองค์พระค่อนข้างอวบอัด พระพักตร์ป้อมด้วยศิลปะแบบสุโขทัย รายละเอียดต่างๆ จะปรากฏอยู่กับพิมพ์นี้ไว้อย่างอลังการเต็มอิ่มและเพียบพร้อมด้วยอารมณ์ที เดียว "พระนางพญาเสน่ห์จันทน์" พระเครื่องซึ่งมีชื่ออันไพเราะประทับใจดังกล่าวนี้ จะมีแต่ชนิดที่สร้างเป็นเนื้อดินผสมว่านกับผงเกสรหอมเท่านั้น เนื้อค่อนข้างร่วนแก่ดินซึ่งมีทั้งกรวดทรายผสมอยู่ก็มาก (พระพิมพ์นี้จึงหักง่าย) พระบางองค์ยังมีคราบรักน้ำเกลี้ยงกับชาดทาทับไม้ไว้ก็มี สำหรับคราบที่ติดผิว (หมายถึงพระเครื่องที่ยังไม่ได้ผ่านการใช้) จะปรากฏฝ้าขาวนวลจับอยู่ตามซอกทั่วไปเกือบทุกองค์ และที่ด้านหลังขององค์พระส่วนมากจะมีลายมือประทับติดอยู่ด้วย สำหรับสีของนางพญาเสน่ห์จันทน์ จะมีแต่เฉพาะสีเหลือง สีแดง สีเขียว และสีอมดำ เท่านั้น ส่วนขนาดกว้างยาวของพิมพ์นี้จะมีทั้งชนิดใหญ่และเล็ก ซึ่งความจริงแล้วองค์พระนางพญาเสน่ห์จันทน์จะมีขนาดเดียว การที่เป็นชนิดใหญ่และเล็กนั้นก็ขึ้นอยู่กับการตัดปลีกให้กว้างจนดูใหญ่ หรือตัดปีกชิดจนดูเล็กไปเท่านั้นเอง แต่ถ้าดูองค์พระแล้วจะเท่ากันหมดทุกองค์ ในปี พ.ศ.2502 กรมศิลปากรได้เปิดกรุวัดพิจิตรฯ สุโขทัย ให้ประชาชนเช่าบูชาด้วยราคาถึงองค์ละ 60 บาท (ระยะเวลานั้นนับว่าเป็นราคาที่แพงมาก) ปัจจุบันนี้พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ หาใช่พระราคาถูกอย่างแต่ก่อนนั้นแล้วก็หาไม่ และนี่ก็คือหนึ่งในพระยอดนิยมของเมืองสุโขทัยอีกพิมพ์หนึ่ง ที่งดงามบริสุทธิ์และอิ่มในศิลปแบบสุโขทัยอย่างประทับใจแก่ผู้พบเห็นอยู่มิ ลืมเลือน พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ เป็นพระที่กรมศิลปากรได้ทำการเปิดกรุพระได้จากวัดร้างนอกเมืองสุโขทัยเก่า 2 วัดด้วยกัน เมื่อคราวขุดแต่งบูรณะโบราณ สถานเมืองเก่าของจังหวัดสุโขทัย และได้ทำการเปิดกรุที่วัดต้นราวจันทน์เป็นวัดแรกเมื่อปี พ.ศ.2506 กับวัดตาเถรขึงหนัง (วัดศรีพิจิตรกิรติกัลยาราม) เป็นกรุที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2508 สำหรับการเปิดกรุนั้น ปรากฏว่ามีกลิ่นหอมตลบอบอวลออกมาเป็นกลิ่นหอมที่รัญจวนใจยิ่งนักกลิ่นหอมประหลาดนี้ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเป็นกลิ่นหอมดอกว่านเสน่ห์จันทน์ พุทธคุณส่วนใหญ่ดีเยี่ยมในด้าน เมตตามหานิยม และก็มีบ้างในด้านของ ความแคล้วคลาด และ ปลอดภัย พระเครื่องที่พบภายในกรุนั้นก็อบอวลด้วยกลิ่นว่านเหมือนกัน จึงได้ขนานนามเป็นมงคลว่า พระนางพญาเสน่ห์ ด้วยมีพุทธลักษณะขององค์พระละม้ายกับพระนางพญาของ เมืองพิษณุโลก และกำแพงเพชร พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ที่ได้เปิดกรุทั้ง 2 ครั้งนี้ปรากฏว่ามีแต่เนื้อดินผสมว่านกับผงเกสรหอม เนื้อค่อนข้างร่วนแก่ดินมีทั้งกรวดและทรายผสมอยู่ ในบางองค์ที่พบยังมีคราบของรักน้ำเกลี้ยงกับชาดทาทับไว้ ส่วนด้านหลังขององค์พระจะมีลายนิ้วมือปรากฏอยู่เท่านั้นพระเนื้อชินไม่มีปรากฏเลย พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ของวัดตาเถรขึงหนังหรือวัดศรีพิจิตกิรติกัลยาราม โดยที่วัดนี้ทางกรมศิลปากรได้พบหลักศิลปากรได้พบหลักศิลาจารึกครึ่งท่อน หลักหนึ่งได้บอกไว้ว่าเป็นวัดที่พระมเหสีของพระเจ้าลิไทเป็นผู้ทรงสร้างไว้โดยที่วัดตาเถรขึงหนังนั้นปรากฏว่าเมื่อปี พ.ศ. 2499 นายมะลิ โคกสันเทียะ อดีตหัวหน้าหน่วยศิลปากรที่ 3 สุโขทัย ได้พบหลักศิลาจารึกจมดินอยู่ที่บริเวณวัดทางด้านทิศตะวันตกของพระเจดีย์ใหญ๋เข้าหลักหนึ่ง ศิลาจารึกหลักนี้เป็นหินชนวนเขียวชำรุด โดยศิลาจารึกท่อนบนที่พบสูง 72 ซม. กว้าง 68 ซม. จารึกเป็นอักษรภาษามคธ เขียนด้วยอักษรขอมมี 2 บรรทัด ส่วนภาษาไทยเขียนด้วยอักษรไทย สมัยสุโขทัยมี 15 บรรทัด จากข้อความในศิลาจารึกกล่าวได้ความว่า วัดนี้ในสมัยสุโขทัยมีนามว่า วัดศรีพิจิตรกิรติกัลยาราม สร้างเมื่อ พ.ศ. 1943 ตรงกับสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 2 (พระยาไสยลือไท) ซึ่งเป็นพระราชโอรสของพระมหาธรรมราชาที่1(พระยาลิไท) โดยโปรดให้ไปอาราธนา สมเด็จพระมหาศรีกิรติฯ ซึ่งเป็นพระสังฆราชมาจากเมืองกำแพงเพชรให้มาเป็นประธานในการจัดสร้าง ด้วยเหตุนี้ วัดจึงมีนามว่าวัดศรีพิจิตรกิรติกัลยารามตามนามพระสังฆราชพระองค์นั้น ทั้งนี้สมเด็จพระราชชนนีศรีธรรมราชมาดาผู้สร้างพระนางพญาเสน่ห์จันทน์ จากรพะนามแสดงว่าทรงสืบเชื้อสายมาจากเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช รวมทั้งพระนามของสมเด็จพระมหาศรีกิรติฯ พระสังฆราชศาสนาด้วยเช่นกัน ที่น่าจะสืบทอดมาจากเมืองนครศรีธรรมราชตามประวัติพระพุทธศาสนาลังกาวงศ์ในสมัยสุโขทัย ดังนั้นพระนางพญาเสน่ห์จันทน์ ที่กรมศิลปากรขุดได้จากในพระเจดีย์ใหญ่ที่วัดนี้ จึงเป็นพระสำคัญเพราะเป็นพระที่พระมเหสีพระเจ้าแผ่นดินสุโขทัยและพระสังฆราชสมัยสุโขทัยทรงสร้าง ด้วยเหตุดังกล่าวพระนางพญาเสน่ห์จันทน์นี้ จึงเป็นพระเครื่องที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง พุทธลักษณะ พระนางเสน่ห์จันทน์เป็นพระปางมารวิชัยประทับนั่งขัดสมาธิราบบนฐานชั้นเดียวอยู่ในทรงกรอบรูปสามเหลี่ยม พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ ได้รับการยอมรับว่าเป็นพระเครื่องสกุล พระนางพญาที่เก่าแก่ที่สุด มีอายุความเก่าถึงประมาณ 600 ปี สร้างขึ้นในยุคสมัยสุโขทัยก่อนพระนางพญาพิษณุโลก ซึ่งสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา พระนางพญาเสนห์จันทน์มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดด้วยพุทธศิลปะยุคสุโขทัยบริสุทธิ์มีความอ่อนช้อยหวานซึ้งเป็นเลิศ จัดเป็นพระที่มีตระกูลสูง
ลองจินตนาการดูนะครับกับพระกรุ อายุ 600 ปี สามารถรักษาสถาพได้ขนาดนี้ผมถือว่าสวยครับ ถ้าไม่ซอมปลายนี้เล่นหากันเฉียดแสนแน่ๆ ส่วนใหญ่พระกรุนี้มักชำรุดอันเนื่องมาจากเนื้อพระที่เป็นเอกลักษณะ เล่นหาพระกรุนี้ต้องระวังนิดเพราะของเก๊เกลื่อนจริงๆ สนใจเชิญร่วมประมูลกันดูครับ รับประกันตามกฏทุกประการ

*รบกวนพิจารณาให้ละเอียดก่อนประมูลนะครับ จะได้ไม่เสียเวลาทั้ง 2ฝ่าย
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน23,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 09 ธ.ค. 2554 - 01:24:43 น.
วันปิดประมูล - 10 ธ.ค. 2554 - 18:14:24 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลท่านเปา (1.7K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 09 ธ.ค. 2554 - 01:25:31 น.



ใบประกาศอีกใบ


ข้อมูลเพิ่มเติม 2 - 09 ธ.ค. 2554 - 01:27:36 น.



ชมกันชัด ทรดทรงองเอว นิ้วมือ กำไรคอ สวยๆ เนื้อจัดมากๆ


ข้อมูลเพิ่มเติม 3 - 09 ธ.ค. 2554 - 03:49:34 น.



ยังมีอีกหลายรายการ ลองพิจารณาดูนะครับ


 
ราคาปัจจุบัน :     23,000 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    rehistory (49)(2)

 

Copyright ©G-PRA.COM
www1