หุ่นพยนต์ที่พระอาจารย์คล้อย อโนโม ได้สืบทอดตำราจากพระอาจารย์สายเขาอ้อ มาตั้งแต่พระอาจารย์ทองเฒ่า พระ อาจารย์เอียด พระอาจารย์ปาน จนมาถึงสมัยท่านอาจารย์คล้อย ครูอาจารย์ท่านได้แต่ใช้ในกรณีใดกรณีหนึ่งเท่านั้นยังมิได้เคย จัดสร้างเป็นลักษณะวัตถุอาถรรพ์ขึ้นเป็นรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง พระอาจารย์คล้อย อโนโม ได้เห็นควรที่จะนำวิชาที่ท่านเชี่ยว ชาญมาใช้ในเวลาอันสมควรนี้ เพื่อนำปัจจัยไปสร้างศาลาการเปรียญที่ยังจัดสร้างไม่เสร็จ ขณะที่พรรษาท่านได้แก่กล้าเชี่ยว ชาญกับวิชาที่ได้ศึกษาครูบาอาจารย์ จึงเห็นควรที่จะนำวิชาผูกหุ่นพยนต์มาจัดสร้างในรูปแบบ "ตาปะขาว" ในลักษณะนุ่งขาว และนุ่งแดง หุ่นพยนต์ตาปะขาวนุ่งแดง หมายถึง หุ่นพยนต์ที่พระอาจารย์คล้อย อโนโม ได้ปลุกเสกเดินกระแสจิต ไปในทาง ด้านอิทธิฤทธิ์ เกี่ยวกับปกป้องคุ้มครองภัยทำให้ผู้ที่ประสงค์คิดร้าย เห็นไปในรูปแบบลักษณะต่างๆ กัน เช่นเห็นว่มากันหลาย คนบ้าง ตามแต่กระแสจิตผู้คิดร้ายจะปรุงแต่งขึ้นมา
หุ่นพยนต์ตาปะขาวนุ่งขาว หมายถึง หุ่นพยนต์ที่พระอาจารย์คล้อย อโนโม ได้ปลุกเสกเดินกระแสจิตไปในทาง บุญฤทธิ์ เกี่ยวกับด้านเมตตา, ค้าขาย เฝ้าดูแลรักษาผลประโยชน์ของผู้ที่ครอบครอง ตามจิตเจตนาในทางกุศล เพราะฉะนั้น หุ่นพยนต์ตาปะขาวนุ่งขาว จะมีพุทธคุณในด้านบุญฤทธิ์
และหุ่นพยนต์ตาปะขาวนุ่งแดง จะมีพุทธ คุณในด้านอิทธิฤทธิ์ และฤทธิ์เดชต่างๆ กัน วัตถุที่นำมาจัดสร้างหุ่นพยนต์ตาปะขาว ประกอบด้วยชนวนหุ่นพยนต์โลหะอาถรรพ์หลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ จ.ราชบุรี แผ่นยันต์ 108 แผ่น ของพระอาจารย์คล้อย อโนโม, แผ่นยันต์จากพระคณาจารย์สายเขาอ้อ, โลหะอาถรรพ์อื่นๆ จาก หลายสถานที่ รูปแบบลักษณะยันต์ที่ลงไว้ที่ตัวหุ่นพยนต์ตาปะขาว คือ ที่โคนขาขวาและซ้าย ลงด้วยธาตุ 4 นะมะพะทะ ดินน้ำ ลมไฟ ลงหัวใจตาปะขาวไว้ที่ผ้าพาดบ่าถักด้วยด้ายมงคล ขาว-แดง เวียนทักษิณาวรรต ในลักษณะนุ่งโจนกะเบน มีชาย 7 เส้น หมายถึงตัวอภินิหารว่าด้วย
สัง วิ ชา ปุ กะ ยะ ปะ ปลุกเสกแช่ในน้ำว่าน มีใบไม้ไม่รู้นอน 7 อย่าง แช่ปนอยู่ในน้ำว่าน คือ ใบตาล, ใบลาน, ใบขนุน, ใบคูณ, ใบพยุง, ใบรัก, ใบจันทร์ ตอกโค๊ตตัวยันต์นาซีหรือตัวโอม เป็นตัวเกิดไว้ที่บ่าขวา หุ่นพยนต์ตาปะขาว ที่พระอาจารย์คล้อย อโนโม ผูกขึ้นมา นั้นอยู่ในลักษณะเป็นรูปมนุษย์สูงอายุ มีตะบะ เดชะ อำนาจ มีความเมตตา ดูแลเฝ้ารักษาสถานที่ ผู้ที่มีเจตนาไม่ดีเท่านั้นจึงจะได้ พบเห็นเป็นภูติผีปีศาจ จากภายนอกขับไล่ผู้ที่มีเจตตนาไม่ดีมิให้เข้าใกล้ตัวผู้ครอบครองหรือสถานที่ที่เฝ้ารักษาทำให้เห็นเป็น คนชรา, พระภิกษุ, เป็นผู้หญิง, เป็นชาย, เป็นเด็กหรือรูปร่างหน้าตาเหมือนตัวเราขณะที่เราไม่ได้อยู่ที่นั้นๆ |
|