ทำบุญบูชาวัตถุมงคลรุ่นแรกหลวงปู่มหาเจิม
ทำบุญบูชาวัตถุมงคลรุ่นแรก ปี ๒๕๔๙ -๙๐ปี หลวงปู่มหาเจิม วัดสระมงคล
"ปล่อยว่าง วางเบา เอาหนัก" หลวงปู่มหาเจิม พระเถราจารย์ผู้สันโดษ แห่งวัดสระมงคล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม มักจะสอนธรรมะข้อนี้ให้ชาวบ้านที่ไปกราบไหว้ท่านเสมอๆ
หลวงปู่มหาเจิม ปญฺญาพโล เกิดที่บ้านหนองแหน ตเมืองใหม่ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๔๕๙ ชีวิตในวัยเด็กท่านอาศัยอยู่กับคุณย่าอิ่ม พออายุได้ ๘ ขวบ คุณย่าได้พาท่านไปฝากไว้กับหลวงพ่อทอง เจ้าอาวาสวัดแสนภุมมาวาส เพื่อเรียนหนังสือ กระทั่งอายุได้ ๑๑ ขวบ ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร โดยอยู่กับหลวงพ่อทองได้ ๑ พรรษา คุณย่าอิ่มอยากให้ท่านศึกษาต่อที่วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ เนื่องจากคุณย่าสนิทกับท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนโท) จึงได้นำสามเณรเจิมมาฝากไว้กับท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ และได้ญัตติเป็นสามเณรฝ่ายธรรมยุต โดยมีท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อได้มาอยู่ที่วัดบรมนิวาสแล้ว ท่านได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนนักธรรม ตรี โท เอก และได้เรียนบาลีควบคู่กันไป จนท่านสอบได้บาลีถึง ๕ ประโยค
ครั้งหนึ่ง ท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ ได้นิมนต์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต มาแสดงธรรมที่วัดบรมนิวาส สามเณรเจิมได้ฟังธรรมจากหลวงปู่มั่นแล้ว รู้สึกซาบซึ้งมาก จนทำให้คิดอยู่เสมอๆ ว่า "ถ้ามีโอกาส ท่านจะธุดงค์ปฏิบัติธรรมหาทางเพื่อพ้นทุกข์ให้ได้อย่างแน่นอน"
จนกระทั่งปี ๒๔๘๐ สามเณรเจิมได้อุปสมบท ณ วัดบรมนิวาส โดยมี พระพรหมมุนี (อ้วน ติสโส) เป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นท่านไม่ได้เรียนนักธรรมและบาลีเลย เพราะท่านได้มุ่งเน้นไปทางปฏิบัติธรรม โดยปลีกวิเวกทำความเพียรอยู่เงียบๆ ภายในวัดบรมนิวาส เป็นเวลาถึง ๕ พรรษา จึงขอลาพระอุปัชฌาย์เพื่อออกปฏิบัติธรรม
หลวงปู่จะเมตตาสอนลูกศิษย์ให้รู้ถึง "ขันติ" (ความอดทน) ในสมัยก่อนท่านเดินธุดงค์นั้นทุกข์ยากมาก อย่างพอถึงหน้าหนาวก็หนาวกันสุดๆ ต้องนั่งเจริญภาวนากันทั้งคืน บางครั้งเดินธุดงค์กันที ๔-๕ วัน ถึงจะเจอบ้านคน เรื่องกินดีอยู่ดีไม่มี เห็นแต่ทุกข์กันจริงๆ สติปัญญามันหมุนอยู่กับจะหาทางพ้นทุกข์ ภาวนากันเอาเป็นเอาตาย พอได้เวลาเข้าพรรษาก็มาจำพรรษาร่วมกัน พอออกพรรษาก็แยกย้ายกันไปปฏิบัติธรรม มีป่ามีถ้ำตรงไหน ที่เหมาะสมก็ไปกันตรงนั้น เรื่องอื่นไม่ได้สนใจ สนใจแต่ธรรมะของพระพุทธเจ้ามาใส่ในใจให้ได้ ปฏิบัติกันอย่างเอาจริงเอาจัง
พ.ศ.๒๔๘๔ พระเจิมได้ไปจำพรรษาตามวัดต่างๆ อาทิ วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่, วัดโรงธรรม, วัดทิพย์วนาราม จ.เชียงใหม่, วัดที่ จ.จันทบุรี,จ.ระยอง, จ.ภูเก็ต แล้วย้อนกลับไปทางอีกสาน จำพรรษากับพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ณ วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร, วัดเขาแก้ว จ.จันทบุรี, วัดป่าคลองกุ้ง จ.จันทบุรี, วัดคลองช่องลม จ.กระบี่ จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดคลองช่องลม ถึง พ.ศ.๒๕๓๑
ต่อมาท่านได้อาพาธ จึงได้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดคลองช่องลม แล้วมารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช พ.ศ.๒๕๓๕ วัดสระมงคล ต.สระสี่มุม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ได้นิมนต์ท่านเป็นประธานสงฆ์ ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นสำนักสงฆ์ ต่อมาได้พัฒนาจนเป็นวัด และสำนักปฏิบัติธรรม แต่ไม่มีเจ้าอาวาส ทางเจ้าคณะจังหวัดจึงแต่งตั้งท่านให้เป็นเจ้าอาวาสวัดสระมงคล ใน พ.ศ.๒๕๔๐ จนกระทั่งปัจจุบัน
เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๙ หลวงปู่มหาเจิม ได้เมตตาอนุญาตให้คณะศิษย์จัดสร้างวัตถุมงคลของท่านเป็นกรณีพิเศษ เป็นที่ระลึกทำบุญครบรอบ ๙๐ ปี โดยให้จัดสร้างเพียง "ครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย" เพื่อนำรายได้สมทบทุนสร้างพิพิธภัณฑ์บริขารของท่าน ขณะนี้วัตถุมงคลรุ่นแรกชุดนี้ยังพอมีเหลืออยู่ที่วัดสระมงคล จำนวนไม่มากนัก ได้แก่ เหรียญเสมา, เหรียญรูปไข่, รูปหล่อ และพระปิดตาจัมโบ้ ผู้สนใจติดต่อสอบถามได้ที่วัดสระมงคล |
|