ชื่อพระเครื่อง | ++++ เคาะเดียวเบาๆแค่ค่าส่งคับกับมหามงคลวัตถุแห่งศรัทธาบอกเล่าเรื่องราวของพุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิ*เหลืองอมน้ำมัน**อุดมโชคปฐมอรหันต์สุวรรณภูมิ **ขุนพันธ์ 108 ปีอีกสีสันแห่งความเป็นมงคลที่น่าเก็บคับ |
รายละเอียด | เคาะเดียวคับ...องค์นี้จัดอยู่ในโทนสีขาวคับ แต่เนื้อหาออกไปทางแก่น้ำมันอมเหลือง สภาพพอใช้คับ ไม่บิ่นไม่แตกหัก รานเพียงขอบด้านหน้าจุดเดียวที่ ทิศทาง 11.50 นาฬิกาคับ เลยต้องว่ากันตามสภาพคับพี่
อีกเนื้อหาที่น่าเก็บคับสมราคาไม่แพงคับ
**ตามหลักแห่งศาสตร์ฮวงจุ้ย**สีเหลืองคือ 1 ใน 5เบญธาตุ เป็นสีแห่งปฐพี..ธาตุแห่งดิน..หมายถึงความเป็นหลักฐาน มั่นคง สันติภาพ พลังแห่งสีเหลือง รับได้ทั้งพลังที่ร้ายและดี ในยุคโบราณฮ่องเต้แห่งราชวงศ์จีนจึงมักใช้สีเหลืองเป็นสัญลักษณ์ ในทางพุทธศาสนาเป็นสีแห่งสงฆ์ และในศาสตร์ลึกลับหลายสำนักมักนิยมใช้สีเหลืองมาเป็นจุดแก้ไขอาถรรพ์สิ่งร้ายให้กลายเป็นดีส่วนที่ดีอยู่แล้วก็เสริมชะตาบารมีโชคลาภให้ดียิ่งขึ้น..และในทางวิทยาศาสตร์มีการสรุปผลการวิจัยไว้ว่า พลังแห่งสีเหลือง จะกระตุ้นคลื่นสมอง ทำให้ตื่นตัวกระฉับกระเฉง มองโลกในแง่ดี ..((ใส่เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเป็นอาหารสมองนิดๆหน่อยๆคับพี่^^"))อีกสีสันอันเป็นมงคล สีแห่งพลัง ที่น่าเก็บเป็นที่ระลึกคับพี่
******ปฐมอรหันต์สุวรรณภูมิ ******
พล .ต.ท ณัฐพงษ์ วัฒนสุคนธ์ กรมวังผู้ใหญ่ในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นประธานฝ่ายจัดสร้าง สร้างเพื่อเป็นการทำบุญ เนื่องจาก ขุนพันธรักษ์ราชเดช มีอายุใกล้ครบ 108 ปี และเพื่อถวายเพื่อเป็นการกุศลแด่ เกจิย์อาจารย์ที่ร่วมพิธีเจดีย์รายและวัดที่ร่วมบริจาคมวลสารในสุวรรณภูมิ และเพื่อการจัดการศึกษาของโรงเรียนอนุบาล นครศรีธรรมราช ณ นครอุทิศ เดิมการจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นนี้ ได้ดำเนินการตามโบราณประเพณีอย่างพิถีพิถัน อย่างมีขั้นมีตอนของพิธีกรรม **ความเดิม** หลังจากท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช ร่วมกับวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารนครศรีธรรมราช จัดสร้างรุ่นบูรณะเจดีย์รายปี 45 เพื่อหาทุนสมทบกับกรมศิลปากร ในการบูรณเจดีย์ที่รายรอบองค์พระบรมธาตุ 163องค์ และพระรุ่นนี้กลับได้รับความนิยมจากมหาชนทั่วประเทศ ถนนทุกสายในวงการพระใหม่จึงหักเหมา ณ วัดพระมหาธาตุ จำนวนพระที่สร้างมาหมดไม่พอกับความต้องการของคลื่นศรัทธามหาชน เลยทำให้เกิดพระเลียนแบบนอกพิธีมากมาย ซึ่งต่อมาบรรดาเกจิย์อาจารย์ที่มาร่วมประกอบพิธี แต่ละท่านก็มีภาระในการบำรุงรักษาวัดวาอารามที่พำนักอยู่ ได้ขอให้ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้จัดสร้างพระลักษณะดังกล่าวให้บ้าง เพราะเพียงปัจจัยที่ทางเจ้าภาพถวายนั้น ไม่สามารถนำไปทำนุบำรุงวัดได้ตามวัตถุประสงค์ได้เพียงพอ เพราะรุ่นบูรณะปี45 นั้นไม่ได้สร้างเพื่อถวายบรรดาเกจิย์อาจารย์ สร้างเพื่อหาทุนสมทบกับกรมศิลปากรในการบูรณะเจดีย์เท่านั้น **ขุนพันธรักษ์ราชเดช ซึ่งได้รับปากเอาไว้ ได้ปรารภกับคณะกรรมการของรุ่นบูรณะเจดีย์รายให้ดำเนินการจัดสร้างพระขึ้นอีกหนึ่งชุดเพื่อถวายพระเกจิย์อาจารย์ที่มาช่วยปลุกเสกทั้ง4พิธี ** โดยใช้มวลสารหลักที่เหลือจากรุ่นบูรณะเจดีย์ราย 45 และท่านขุนพันธรักษ์ราชเดชตอนนั้นก็ชราภาพมากแล้วและไม่มีเงินทุนเพียงพอ เลยขอมาทางคณะกรรมการให้ออกแบบและจัดเตรียมมวลสารเพิ่มเติม ค้นคว้ารูปลักษณ์ของพระชุดใหม่โดยไม่ให้ซ้ำแบบเดิมของรุ่นบูรณะเจดียืราย เพื่อมิให้ผู้มีจิตศรัทธาหลงผิด จากรูปแบบเดิมที่ไม่สามารถบรรจุชื่อพระอรหันต์ ที่มีอยู่ในสมัยสุวรรณภูมิได้หมด เหตุเพราะขนาดขององค์พระจำกัด ในการสร้างพระชุดนี้ จึงได้อัญเชิญพระนามของพระอรหันต์ทั้งหมด รวมทั้งพระนามของพระมหากษัตริย์ ขุนเมือง ผู้บำรุงพระพุทธศาสนา ในแผ่นดินสุวรรณภูมิ และประวัติของพระอรหันต์ สมัยสุวรรณภูมิ เพื่ออนุชนรุ่นหลังจะได้รู้เรื่องราวของชาวไทยตามตำนานของชาวไทย อีกทั้งวัตถุมงคลชุดนี้ ได้ถูกจัดสร้างตามตำนานชาดกของไทย ที่ปรากฎฦในกระเบื้องจารที่ขุดได้ทั่วประเทศและเรื่องราวที่สืบทอดจากปู่ยาตายาย ครูบาอาจารย์ ที่เป็นตำนานของไทยสมัยสุวรรณภูมิ ******ดังนั้นคณะกรรมการจึงตระหนักดีว่า พระชุดนี้ ขุนพันธรักษ์ราชเดช ประสงค์สร้างขึ้นเพื่อเป็นการเผยแพร่พระพุทธศาสนา และเปิดเผยความลับของสุวรรณภูมิที่ได้สาปสูญไปกว่าพันปี ให้กลับมาเป็นที่รู้จักแก่ลูกหลานไทยอีกครั้งในช่วงบั้นปลายของท่าน จึงจัดสร้างและถวายไปตามวัดต่างๆทั่วประเทศ...**** พระชุดนี้ยอดเยี่ยมทั้งเจตนาและสุดยอดทางด้านพิธีกรรม ไร้ตำหนิ ไร้มลทิน อีกทั้งรูปแบบพิมพ์ทรงที่กลั่นกรองจากจินตนาการถ่ายทอดบอกเล่าเรื่องราวตำนานเรื่องเล่าของพระพุทธเจ้าผ่านยุคสมัยของสุวรรณภูมิโบรานที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร ลงในพระผงทรงกลม ขัดเกลาความเข้มขลังและเพิ่มความเป็นศิริมงคลด้วยการเสริมทางด้านพิธีกรรมที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าสายใดๆ อีกรุ่นอีกวัตถุมงคลที่ควรค่าแก่การหาเก็บ คุ้มค่าเงินครับ รายละเอียดพิธี มวลสาร
*พิธีกรรมตามลัทธินิยมของเมืองศรีวิชัยสุวรรณภูมิ 12 นักษัตร เป็น 4 พิธี 4 วันดังนี้
1.วันที่ 10 พ. ย. 47 เวลา 06.16 น. ที่เขางูราชบุรี ( เทวาภิเษก ปลุกเสก)
2.วันที่ 12 พ. ย. 47 เวลา 18.30 น. วิหารสูงมหาอุด นครศรีธรรมราช ( บวงสรวง ปลุกเสก)
3.วันที่ 17 พ. ย. 47 เวลา 18.30 น. กลางทะเลปากอ่าว อ. ปากพนัง นครศรีธรรมราช ( บวงสรวง ปลุกเสก)
4.วันที่ 10 ธ. ค. 47 เวลา 15.31 น. จุดเทียนชัย วิหารหลวง วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช
มวลสารที่เป็นเนื้อผงว่าน มีมวลสารผสมต่างๆ คือ
ผงปูนจากองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช ได้เก็บรวบรวมไว้ตั้งแต่บูรณะ พ . ศ. 2538
ผงและคราบปูนจากองค์จริงของท้าวจัตตุคาม ท้าวรามเทพเมื่อบูรณะปิดทองใหม่ พ . ศ. 2544
ผงพระจาก กรุท่าเรือ สถานที่ซึ่งพระอรหันต์ พระโสณะเถร พระอุตระเถร พระฌาณียะเถร พระภูริยะเถร พระมูณียะเถร มาขึ้นเรือและเหยียบแผ่นดินสุวรรณภูมิเป็นครั้งแรก และพักแรมสร้างเป็นวัดโดยมีเจ้าเดือนเด่นฟ้า และดาวเด่นฟ้า มาต้อนรับด้วยพระองค์เอง
ผงพระจาก กรุนางตรา อ. ท่าศาลา นครศรีธรรมราช
ผงพระจาก กรุนาสน อ . เมือง นครศรีธรรมราช
ผงพระจาก ชุดยอดขุนพล พ . ศ. 2497
ผงพระจาก ชุดพระภูทราวดี พ . ศ. 2505
ผงพระจาก พระมหาว่าน เขาอ้อ พ . ศ. 2485 ( อินโดจีน)
ผงว่าน ซึ่งทำพิธีขุดและลงอักขระโดย พล . ต. ต. ขุนพันธรักษืราชเดชเก็บรักษาไว้
ผงสำเร็จที่ชักโดยพระเกจิอาจารย์เก่าที่ พล . ต. ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดช เก็บรักษาไว้
ผงพระดินเดิมจากถ้ำนาสาร จ . สุราษฏร์ธานี
ผงพระจากกรุกำแพงเพชร กรุ สุพรรณบุรี และกรุอื่นๆ ทางภาคกลาง ภาคเหนือ หลายจังหวัด ที่ พล . ต. ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดช ไปรับราชการ
ผงอิฐและดินจากเจดีย์วัดปุณณารามที่ตำบลคูบัวจังหวัดราชบุรี เป็นวัดแรกของสุวรรณภูมิที่ปุณณะเถรจำพรรษา และเจ้าทับไทยทองสร้างก่อนมีพุทธศักราช 21 ปี
ดินแดนที่เขาสัจจะพันธ์คีรี พระพุทธบาทจังหวัดสระบุรี ที่จำพรรษาของพระสัจจะพันธะเถร ผู้ขอให้พระพุทธเจ้าเหยียบรอบพระพุทธบาทไว้
ดิน น้ำ ผงระฆังหิน จากวัดพริบพลี จ . เพชรบุรี เดิมเป็นบ้านเกิดของพระปุณณะเถระ พระนางสิริงามตัวเทวี มเหสีของพระเจ้าตะวันอธิราช สร้างถวายเป็นที่ระลึกแก่พระปุณณะเถร ในฐาระที่ท่นเป็นลูกหลานเชื้อสายของพระปุณณะ และเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่พระปุณณะเถรผู้นำพระพุทธศาสนามาในสุวรรณภูมิเป็นครั้งแรก
คราบและผงทองจากองค์พระพุทธฉายที่เขางู จ . ราชบุรีพระที่พระปุณณะเถรแกะสลักเป็นพระพุทธเจ้าองค์แรกของไทย
คราบและผงพระนอนในถ้ำเขางู จ . ราชบุรี เป็นสถานที่ซึ่งพระเจ้าทับไทยทองบรรพชา และจำพรรษาจนอายุ 119 ปี
ผงและคราบตะไคร่เจดีย์พัทสีมา ระฆังหินและเจดีย์ที่สลักหินเป็นรูป ราหูอมจันทร์ สร้างโดยขุนหาญบุญไทย ผู้เป็นอาของท้าวจัตตุคาม ท้าวรามเทพ
ผงและคราบตะไคร่เจดีย์บรรจุอัฐิของพระญาระจรณะ และพระธัมมสุนันโธ จากวัดศรีพุทธษรามที่พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า เป็นผู้สร้างเมื่อประมาณ พ . ศ. 300
ตะไคร่เจดีย์และโบสถ์เมียหลวง เมียน้อยที่พระเจ้าเดือนเด่นฟ้าสร้างเมื่อครองสุวรรณภูมิ อยู่ที่เขาบันไดอิฐ จ . เพชรบุรี
ดิน อิฐ และตะไคร่ จากวัดศรีสุวรรณภูมิแดนไทย ( วัดโขง) สร้างโดยพระเจ้าตะวันอธิราช พระนางสิริงามตัวเทวี ร่วมกับคนไทย สร้างเมื่อประมาณ พ. ศ. 200 เศษ บรรจุอัฐิ พระโสณะเถร พระอุตระเถร พระฌาณียะเถร พระภูมิยะเถร พระมูณียะเถร
ผงจากไม้ตะเคียนต้นที่นำมาแกะสลักเสาเมืองนครศรีธรรมราช
ผงโลหะปล่องไฉนยอดพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช เป็นโลหะผสมซึ่งนำมาจากเมืองต่างๆ โดยพระมหากษัตริย์ ของแต่ละเมืองนำมาหลอมรวมกันเพื่อสร้างพระบรมธาตุ
ผงจากไม้ที่สบาย คือ ไม้กาฝากกว่าร้อยแปดชนิด โดยมีไม้ที่เป็นประเภทส้ม 2 ชนิด คือ กระท้อน และมะขาม
ผงไม้กระบก ที่คนสมัยโบราณนำยางมาผสมกับผงดินทำเป็นกระเบื้องจารเรื่องราวของสุวรรณภูมิ และศรีวิชัย
ผงไม้ที่เป็นยาสมุนไพรหลายชนิดที่เป็นยาแก้ ยากัน
ผงเม็ดบัวและลูกกระจับ ผลไม้ที่ขุนดินนำมาป้อนให้ขุนหญิงกวักทองมากิน และเกิดความรักกัน ได้ลูกแล้วตั้งชื่อเป็นนามปี และนามวัน ครบทั้ง 20 คน
ผงจากใบบัวหลวง 8 ใบ เพื่อระลึกถึงการปกป้องเมื่อครั้งขุนอิน นำใบบัวมาปิดของสงวนทั้งบน และล่างให้ขุนหญิงกวักทองมาขณะขึ้นจากน้ำ
ผงจากใบตอง เพื่อระลึกถึงเครื่องนุ่งห่มของขุนชวด และใช้เป็นภาชนะห่ออาหารทำบายศรีไหว้ครู
ผงดอกไม้ที่ใช้สมโภชพิธีพุทธาภิเษก และปลุกเสกหลายพิธี
ดอกไม้มงคลที่ใช้ใส่อ่างน้ำมนต์ในพิธีพุทธาภิเษก และปลุกเสกหลายสิบพิธี
ดอกไม้ที่ใช้บูชาพระประธานจากหลายวัดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวในสุวรรณภูมิ และศรีวิชัย
ผงแผ่นทองคำปิดพระประธานจากวัดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวในสุวรรณภูมิ และศรีวิชัย
ผงทองคำปิดเสาหลักเมืองนครศรีธรรมราช
ผงจากไม้มงคลกว่า 150 ชนิด
ใบพลู ร่วมใจ
ดิน 7 ท่า
ดิน 7 โป่ง
ดิน 7 ปราบ
ยอดรัก
ยอดสวาส
น้ำมนต์จากพิธีต่างๆ ผสมกับน้ำฝนกลางแจ้งเพ็ญวันจันทร์ ( วันเพ็ญเดือน 12 ตรงกับวันจันทร์
ผงจากไม้ค้ำฟ้ากายสิทธ์
ผงจากพัทสีมาที่เจดีย์บรรจุกระดูกของพระปุณณะ เป็นพัทสีมาชุดแรกของประเทศไทย อายุกว่า 2000 ปี
มวลสารที่เป็นโลหะ
โลหะจากยอดพระบรมธาตุนครศรีธรรมราชได้มาเมื่อบูรณะปลียอดทองคำ พ . ศ. 2538 เป็นแร่ธาตุจากหลายเมือง กษัตริย์ของแต่ละเมืองนำมาผสมหลอมเป็นปล่องไฉนสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ร่วมกับพระเจ้าศรีธรรมโศกราชและมีการรื้อลงมาเนื่องจากเกิดรอยชำรุดด้วยความเก่าแก่ของโลหะ ตั้งแต่การสร้างเป็นทรงลังกาเมื่อราวปี พ. ศ. 1700 1800 จนปัจจุบันประมาณ 7000 ปี เศษ ในปี พ. ศ. 2538 กรมศิลปากรจึงคัดเลือกส่วนที่ชำรุดออก และซ่อมแซมปลียอดทองคำจนเสร็จสมบูรณ์ ส่วนโลหะที่ชำรุบางส่วนได้นำมาผสมกับโลหะจากพระเก่าๆ ที่ชำรุด และชนวนพระจากการหล่อพระอีกหลายๆ พิธี ที่ พล. ต. ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดช เก็บรักษาไว้มาผสมเพื่อจัดสร้างวัตถุมงคลในครั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ร่วมบริจาคในการจัดสร้างพระเพื่อถวายแด่วัดที่ทำคุณประโยชน์แก่วัดมหาวรมหาธาตุวรมหาวิหารนครศรีธรรมราช-----ไม่มีกล่องนะครับ------
การันตีแท้ตลอดกาลคับ //@^-^@ฟันธง ตรงเผง // ประกันตามกติกาเวปทุกประการคับ
ขอบคุณคับ
******************************************************************************************แต่.....เดี๋ยวก่อนคับ ใส่ราคาตอนนี้ ..ปิดรายการขออณุญาตสมนาคุณพี่ๆเพิ่มอีกองค์คับ จตุคามเดือน 10 วัดพระมหาธาตุนครศรีธรรมราชเนื้อแดงหลังเสาหลักเมืองสวยๆคับ
******************************************** |
ราคาเปิดประมูล | 2,550 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 3,000 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 50 บาท |
วันเปิดประมูล | - 15 ส.ค. 2550 - 19:58:08 น. |
วันปิดประมูล | - 17 ส.ค. 2550 - 01:23:45 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
ผู้ตั้งประมูล | jintawatr (323)(3)
|