(0)
""วัดใจ 100บาท""((ทีเดียว 2 ขวด))""รัก-ยม""น่าบูชามากๆครับ""








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่อง""วัดใจ 100บาท""((ทีเดียว 2 ขวด))""รัก-ยม""น่าบูชามากๆครับ""
รายละเอียดรัก-ยม"เป็นรูปเด็กแกะด้วยไม้คู่หนึ่ง มีลักษณะเป็นเด็กผมจุกยืนกำหมัดทั้งสองข้างคล้ายกำลังทำท่าชกมวย ตัวที่ชื่อรักนั้น โดยเจ้ารักนี้จะมีสีดำ สาวนตัวที่ชื่อยมนั้นก็จะแกะมาจากไม่มะยมใช้กิ่งหรือรากในลักษณะเดียวกันกับรักซ้อนแ ต่จะมีสีขาว ผู้ที่จะให้รัก-ยมช่วยในกิจการใด ก็ให้นำรัก-ยมพร้อมทั้งน้ำมันหอมนั้นประจุลงในขวดแก้วเล็กๆที่มีขนาดพอดีกับตัวเจ้าร ักเจ้ายม ที่จะลงอยู่ด้วยกันทั้งคู่ นำติดตัวออกจากบ้านไปทำภารกิจนั้นๆ เมื่อกลับเข้าสู่สถานบ้านเรือนตน ก็นำ รัก-ยม เข้าไว้ในที่อันควร จัดแจงข้าวปลาอาหาร ขนม ให้ รัก-ยมบริโภค ดังเราเลี้ยงเด็กไว้ในบ้าน โดยของที่จะถวายรัก-ยมนั้นจะต้องถวายเป็นคู่เนื่องจากรัก-ยมนั้นเป็นวิญญานเด็กคู่
การพูดจากับ รัก-ยม นั้นก๋ต้องพูดเองเออเอง แล้วแต่จะปราถนาสิ่งใดๆ ก็ให้บอก รัก-ยม ผู้เลี้ยงจะต้องคอยดูน้ำมันภายในขวดรัก-ยม ไว้อย่างให้ขาดให้พร่อง การเติมก็ไม่ควรเติมให้พ้นคอของรักยม เลี้ยงงาน ใช้ดี ช่วยด้านค้าขายดึงลูกค้าเข้าร้าน ดลจิตใจเจ้านายให้รักให้เมตตา ช่วยด้านความรัก มีประสบการณ์กันมาแล้วหลายคน อาจารย์เหน่งทำ ให้ลูกศิษย์



ประวัติการกำเนิดของรักยม

รักยมดีทางเมตตามหานิยมแคล้วคลาด

รักยมเป็นเครื่องรางของขลังอีกชนิดหนึ่งที่ประชาชนชาวไทยและ
ประเทศเพื่อนบ้านนิยมกันมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย โดยเฉพาะในหมู่
พ่อค้าแม่ค้า และคนที่ทำงานกลางคืน แม้กระทั่งนักนิยมพระก็ยังแสวงหากัน
เพราะเป็นเครื่องรางของขลังจากวิชาไสยศาสตร์อีกชนิดหนึ่งเล่นกันจนถึงทุกวันนี้

รักยมเกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยใดไม่ปรากฏในฐานะที่เราเป็นประชาชนชาวไทย
คนหนึ่งที่นิยมเครื่องรางของขลังเคยพบเคยเห็นกันเป็นประจำส่วนมากเท่าที่ผู้เขียน
เคยพบเห็นอยู่บ่อยรักยมจะเกิดแถวสนามพระทั่ว ๆ ไป แต่ที่แน่แถวท่าพระจันทร์
และวัดราชนัดดาเองนี่เอง ถ้าผู้อ่านลองแวะเข้าไปในสนามพระก็จะเห็นรักยมนอน
อยู่ในขวดเล็ก ๆ เรียงรายเป็นร้อย ๆ เป็นพันส่วนมากเจ้าของแผงจะนั่งหลาว
ตกแต่งเองขายเอง ทำความร่ำรวยอย่างมหาศาลมาแล้วหลายราย

ลักษณะของรักยมคล้ายกุมารเล็ก ๆ ยืนพนมมือยกถึงคาง มีด้วยกัน 2 ร่าง
อยู่ในขวดแช่น้ำมันจันทร์ที่หอมกรุ่นอยู่ตลอดเวลาชอบทองหยิบ – ทองหยอดผลไม้
และของเล่นเด็กพร้อมด้วยน้ำหนึ่งแก้ว อานิสงฆ์ก่อนผู้ที่จะนำไปใช้จะนำไปให้กับ
คณาจารย์ที่มีชื่อเสียงหรือหมอที่เล่นเครื่องรางของขลังนำไปปลุกเสกเสียก่อนแล้วจึง
นำไปใช้การนำไปใช้นั้นก็ต้องใช้ในทางที่ถูกบางท่านได้นำไปบูชา แล้วร่ำรวย
มหาศาลมาแล้วก็มีในด้านอภินิหาร ประสบการณ์ก็เคยเกิดขึ้นกับผู้เลี้ยงมาแล้ว
มากมาย (ผู้เขียนขอบอกว่ายังไม่เคยเลี้ยงมากก่อนอาศัยถามคณาจารย์เก่า ๆ
ที่มีความเชื่อมั่นว่ารัก – ยมมีจริง ผมจึงได้นำมาเขียนถ้าผิดถลาดขอให้ผู้รู้
และผู้อ่านช่วยชี้แนะด้วย)

มีเรื่องเล่ากันว่าในสมัยหนึ่ง ในป่าหิมวันต์ เมืองเมืองหนึ่ง เมืองนี้เป็น
เมืองเงียบสงบ มองไปทางไหนก็มีแต่ป่าทั้งนั้น ในป่านั้นก็มีพระฤๅษีชีไพร
นั่งบำเพ็ญตะบะเต็มไปหมด ในขบวนเหล่าฤๅษีนั้นก็มีพระพหลฤๅษีอยู่องค์หนึ่ง
ทึ่เป็นใหญ่กว่าฤๅษีทั้งหลาย

อยู่มาวันหนึ่งฤๅษีพหลนั้นได้เดินออกจากสถานที่บำเพ็ญตะบะนั้นเพื่อออก
แสวงหาผลไม้ในป่ามาฉันท์ขณะที่เดินผ่านสระน้ำในป่านั้น ก็มีดอกบัวชูช่อยู่ดาษดื่น
ฤๅษีพหลก็ เหลือบไปเห็นกุมารน้อยคู่หนึ่งนอนในดอกบัวนั้นจึงได้เก็มาเลี้ยงไว้ที่
อาศรม ฤๅษรพหลจึงตั้งชื่อสองกุมารน้อยว่ารัตตะกุมาร กับ ยมกะกุมาร ต่อมา
กุมารน้อยทั้งสองก็ได้ร่ำเรียนวิชา กับพระอาจารย์ดาบสองค์นั้นจะมีความสามารถ
รอบรู้หมดทุกอย่าง ส่วนฤๅษีพหนลนั้นก็ได้ถ่ายทอดวิชาให้อย่างหมดสิ้นในที่สุด
รัตตะกุมารกับยมกะกุมารก็เจริญเติบโต จนเป็นหนุ่มใหญ่สมชายชาตรีทุกอย่าง
สรุปแล้ว รัตตะกุมารก็คือ เจ้ารัก ส่วนยมกะกุมาร ก็คือ เจ้ายม

สำหรับเจ้ารักนั้นเป็นผู้เลอโฉม รวมทั้งหน้าตาลักษณะท่าทางมองแล้วเหมือน
มานพน้อยมีรูปร่างมองแล้วไม่เบื่อตาเป็นที่ประทับใจแก่ผู้พบเห็นทั่วไป ส่วนยม
นั้นเล่าความหล่อเหลาด้อยกว่าเจ้ารักหน่อย เพราะคนเราเกิดมารูปธรรมนามธรรม
เหมือนอย่างกับเจ้ายมถึงแม้จะรูปชั่วตัวดำไปนิด ถึงกระนั้นฤๅษีพหลก็ยังมีความรัก
ความสงสารยิ่งขึ้น จึงมอบวิชาต่าง ๆ ให้กับเจ้ายมเป็นพิเศษ

เป็นอันว่า เรื่องเชี่ยวชาญในเชิงขบวนยุทธจักร และเวทย์มนต์คาถาต้อง
ยกให้เจ้ายมคนเดียวยุคนั้นวันหนึ่ง รัตตุมาร (เจ้ารัก) กับยมกะกุมาร (เจ้ายม)
สองพี่น้องก็คิดอยากจะไปเที่ยวหัวเมืองต่าง ๆ จึงได้กราบลาพระอาจารย์เพื่อออก
แสวหาประสบการณ์ต่าง ๆ จึงได้ออกเดินทางจนไปถึงเมืองใหญ่แห่งหนึ่งด้วยความ
ปรีชาสามารถต่าง ๆ ของกุมารน้อยทั้งสอง จึงได้เข้ารับราชการกับพระราชาเมืองนั้น

อยู่ต่อมาไม่นานพระราชาจึงแต่งตั้งให้รัตตะกุมาร (เจ้ารัก) เป็นทหารเอา
ไปครองแคว้นเมือง เมืองหนึ่ง ส่วนยมกะกุมาร (เจ้ายม) นั้น พระราชาแต่งตั้งให้
เป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับในด้านหัวเมืองต่าง ๆ ระหว่างที่รัตตะกุมาร (เจ้ารัก) รับราชการ
อยู่นั้นเพราะความหล่อเหลามานพน้อย จึงเป็นที่หมายตาต้องใจของพระธิดาลูกเจ้าเมือง
นั้นทั้งสองจึงเกิดความรักใคร่กัยิ่งนานวันความรักยิ่งประทับแนบแน่นยิ่งขึ้น

ต่อมาพระราชาได้ทราบข่าวของคนทั้งสองจึงไม่พอพระทัยทรงขัดขวางความรัก
ทั้งสองอยู่ตลอดเวลา พระราชา ทรงตรัสว่า “เจ้ารักกับราชนิกุลไม่ควรคู่กัน” พระราชา
ต้องการให้พระธิดาอภิเษกสมรสกับเจ้าชายอีกเมืองหนึ่ง ซึ่งเป็นราชตระกูลกษัตริย์
เท่าเทียมกัน เมื่อเป็นเช่นนั้นพระราชาจึงตัดสินใจส่งพระธิดาไปฝากไว้กับเจ้าเมือง ๆ หนึ่ง

รัตตะกุมาร (เจ้ารัก) ทราบข่าวว่าพระราชาได้แยกคนรักของตนไปอยู่เมืองอื่น
จึงเกิดความแค้นเคืองเป็นยิ่งนักเจ้ารักจึงวางแผนฆ่าพระราชาอยู่ตลอดเวลาส่วนเจ้ายม
คนน้องถึงแม้จะปมด้วยของชีวิตแต่ก็เป็นคนรอบคอบเป็นคนอารมณ์เย็นจึงได้มายับยั้ง
การวางแผนฆ่าพระราชาเพราะมันจะมีความผิดอย่างมหันต์

สามวันผ่านมาเจ้ารักก็กินไม่ได้นอนไม่หลับจะนั่งจะเดินก็กระสับกระส่ายอยู่ตลอด
เวลาเพราะด้วยพิษรักอันแสนเสน่หาของพระธิดาองค์นั้น จึงหน้ามืดตามัว คิดจะปลง
พระชนม์จึงได้ลอบเข้าไปในพระราชวัง จนถึงห้องบรรทมของพระราชาและได้ใช้อาวุธคู่มือ
สับพระราชาอย่างไม่มีชิ้นดี จนพระราชาสิ้นพระชนม์

เมื่อฤๅษีพหลผู้เป็นพระอาจารย์ทราบข่าวการกระทำของ รัตตะกุมาร (เจ้ารัก)
จึงเกิดความโกรธแค้นเคืองยิ่งนัก ที่ศิษย์ของตนละเมิดคำสั่งสอน จึงได้เรียกกุมาร
ทั้งสองกลับมาเมื่อกุมารทั้งสองเดินทางกลับมาถึงอารมของฤๅษีพหลผู้เป็นอาจารย์
เจ้ารักจึงได้สำนึกผิดและได้สารภาพต่อผู้เป็นพระอาจารย์และมีความเสียใจเป็นอย่างยิ่

ที่ละเมิดคำสั่งสอนของพระอาจารย์ฤๅษีพหลจึงได้ตัดสินใจให้รัตตะกุมาร (เจ้ารัก)
สละเพศฆราวาส ให้บวชประพฤติตนบำเพ็ญประโยชน์เพื่อลบรอยมลทินที่ได้สร้างมาจน
กว่าจะสิ้นชีวิตจากโลกไป

ส่วนยมกะกุมารหรือเจ้ายมนั้น ครั้นเมื่อสู่วัยชราจึงได้สละเพศฆราวาสได้ออกบวช
ตามพี่ชาย (เจ้ารัก) เพื่อบำเพ็ญศีลภาวนา ตามอาศรมของพระฤๅษีในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วไป
ต่อมาฤๅษีพหลผู้เป็นพระอาจารย์ถึงวัยชราใกล้ถึงการอายุขัย ย่อมหนีกฏแห่งกรรมไม่พ้นคือ
มีเกิดก็ต้องมีดับเหมือนกันทุกชีวิต ฤๅษีพหลจึงเรียกสองนักบวชผู้เป็นศิษย์มาพบอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อสองพระกุมารมาพบพระอาจารย์ฤๅษีพหลจึงถามศิษย์ทั้งสองว่า “อยากได้อะไรที่เหนือ
กว่าโลกนี้” สองจะปฏิบัติตามคำอาจารย์หมดทุกอย่าง” ฤๅษีพหลจึงให้พรว่า “เจ้าทั้งสอง
แม้จะไปเกิดชาติปางใดก็ตามขอให้เสน่ห์เป็นที่รักของคนทั่ว ๆ ไป จะไม่มีศัตรูทั้งปวงจะ
ไปเกิดบนโลกมนุษย์ไม่ได้ ท่านทั้งสองจะต้องเป็นวัตถุ แต่ไม่มีชีวิตจิตใจวัตถุสิ่งนั้นจะ
ต้องดังมีชื่อเสียงก้องยืนนาน”

เมื่อฤๅษีพหลกล่าวพรจบทานก็ถึงกาลกิริยาวิญญาณ ก็ออกจากร่างไป ณ ที่นั้น
พระกุมารทั้งสองจึงได้ทำการขุดหลุมฝังศพของฤๅษีพหลผู้เป็นพระอาจารย์ในที่นั้น
ต่อมาไม่นานหลุมฝังศพของฤๅษีพหลก็เกิดมีไม้ชนิดหนึ่งขึ้นมา มีดอกซ้อนแพรวพราว
อันสวยงาม แถมยังเป็นไม้ที่ปวงชนรักใคร่กันทั่วไป ดังประชาชนที่เรียกกันทุกวันนี้ว่า
ต้นรักซ้อน

ต่อมาก็ได้มีพันธ์ไม้อีกชนิดหนึ่งได้ขึ้นคู่เคียงกับต้นรักซ้อนมีผลชูช่ออันตระกานตา

จนภายหลังมีชื่อขานนามว่ารักยม ต่อมาชาวบ้านจึงเรียกกันว่ามะยมด้วยข้อมูลที่ได้
กล่าวมาแล้วนั้นนักปราชญ์ คณาจารย์ต่างคิดค้นทำรักยกกันขึ้นมา นี่แหละครับความ
เป็นมาของรักยมรวมทั้งข้อมูลต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้ว

ผู้ที่จะใช้รัก – ยม จะต้องมีหิ้งขนาดปานกลาง หิ้งนั้นต้องติดไว้ที่หัวนอน ก่อนนอน
ต้องบูชาทุกคืนใช้คาถารักยมหรือจะให้คาถากุมาร 20 ก็ได้ ก็มีอยู่ว่า โอมมะอัดแอ
ลืมพ่อลืมแม่ ปู่เจ้าสมิงไพร ช้างกินก็ลืมโรง โขลงกินก็ลืมไพร จะอยู่มิได้ โม
ร้องไห้มาหากู มาจนถึงที่สำนักมาตามหลัก มาตามโขลง นางทองอย่าเสือก นางเผือก
อย่าทัดไพร อะ อยู่มิได้ โม ร้องไห้มาหากู โอมมะอะทิ เอหิมะมะ นะมะพะทะ อะระหัง

คาถาบทนี้บูชารัก – ยมทุกคืนก่อนนอน จะปลอดภัยจากเรื่องภัยศัตรู แม้แต่คน
ที่เคยคิดจะเป็นศัตรูกับเราก็จะมาคืนดีกับเราจะสมความปรารถนาหมดทุกอย่าง
(ส่วนในเรื่องอภินิหารของรัก – ยมนั้น ผู้เขียนขอสงวนไว้ก่อน
ครับ)

เป็นอันว่า ผู้จะคิดใช้รัก-ยมเป็นเครื่องรางของขลังอีกชนิดหนึ่ง
แม้แต่นายพลนายพันชั้นพิเศษบางท่าน ก็ยังนำไปใช้ติดตัวกันเป็นประจำ
แม้แต่คณาจารย์สมัยก่อนมีประชาชนไปขอเครื่องรางของขลังจากท่านเป็นต้นว่า
รัก-ยม กุมารทอง และนางกวักอีกมากมายหลายอย่าง
ราคาเปิดประมูล90 บาท
ราคาปัจจุบัน100 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูล - 16 มิ.ย. 2555 - 16:01:17 น.
วันปิดประมูล - 25 มิ.ย. 2555 - 20:09:05 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลgreenday (8.5K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     100 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    MongTG (77)(2)

 

Copyright ©G-PRA.COM