ชื่อพระเครื่อง | ธงมหาพิชัยสงคราม ผืนใหญ่ ( เก่าเก็บ) จำนวน 2 ผืน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง (..6..) |
รายละเอียด | ขอเล่าเรื่องอานุภาพของธงมหาพิชัยสงคราม ที่หาดใหญ่ สงขลา ให้ฟังเสียด้วยว่า คณะของหลวงพ่อได้แจกธงนี้ให้กับทหารทุกคนที่นั่นเรียงตัว โดยให้เข้าแถวรับ ผมเองก็เป็นผู้เดินแจกธงด้วย ปรากฏว่า ภาคใต้มีทหารที่นับถือศาสนาอิสลามอยู่ด้วย ดังนั้น ทหารพวกนี้เขาจะไม่รับโดยพูดว่า ผมอิสลามครับเราก็เว้นแล้วแจกรายต่อไป
หลังจากที่แจกให้ครบแล้ว อีกประมาณ ๗ วันต่อมา แม่ทัพภาค ๔ ออกตรวจเยี่ยมทหารด้วยขบวนรถ ๙ คัน ปรากฏว่ามีพวกคอม (ผกค) ซุ่มโจมตีอยู่ข้างทาง หลังจากปะทะกันสักครู่ เขาก็ถอยเข้าป่าไป ฝ่ายเราก็สำรวจความเสียหาย ปรากฏว่ามีทหารตาย ๙ คน ทุกคนเป็นอิสลามหมด เพราะไม่มีธงมหาพิชัยสงครามติดตัว แต่ความลับไม่มีในโลก ข่าวนี้ก็กระจายไปทั่วกองทหารทุกกองในภาคใต้ ครั้นคณะของหลวงพ่อและท่านหญิงไปเยี่ยมทหารอีก และแจกธงให้กับหน่วยที่ย้ายเข้ามาแทนหน่วยเก่า และแจกให้กับผู้ที่ยังไม่ได้รับ ผลมีดังนี้ครับ ทหารที่เป็นอิสลามไม่ใช่ไม่ยอมรับธงแต่แย่งจากมือผู้แจกเลย ได้ถามความรู้สึกกับพวกเขา เขายอมรับแต่โดยดีว่าผมกลัวธงหมดครับ ผมกลัวว่าจะไม่ได้ครับ
เรื่องของหลวงพ่อท่านมีมากมาย ถ้าจะเขียนกันจริง ๆ ก็ยากที่จะจบได้ และผมก็ไม่ใช่นักเขียน สำนวนเป็นแค่ลูกทุ่ง (ชั้นเลว) จึงขอรวบรัดเอาเฉพาะจุดที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ และเป็นที่สนใจแก่ผู้อ่านเท่านั้น ซึ่งผมอาจเดาผิด คิดผิดก็ได้ เพราะอ่านแล้วมันก็ยังไม่เอาไหนอยู่ดีแหละ จึงต้องขออภัยต่อท่านผู้อ่านไว้ก่อนอีกครั้ง
ใน ๘-๙ วัน ที่บินวนเวียนเยี่ยมตำรวจ ทหาร อยู่ในสองจังหวัดนี้ (นครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานี) ผมได้พบได้เห็นปาฏิหาริย์อะไรบ้างในแต่ละวัน ท่านได้แสดงปาฏิหาริย์ไม่ซ้ำกัน มีบางวันที่นั่งเต็มซึ่งผมไม่ได้ไป เพราะมีนายทหารระดับบิ๊กท่านมา แต่ท่านหญิงก็ทรงเมตตาเล่าให้ฟังอย่างละเอียด พอสรุปได้ดังนี้
๑. เมื่อเครื่องฮ.บินไปพบก้อนเมฆขนาดใหญ่ และหนาทึบขวางทางอยู่ ซึ่งตามปกติฮ.จะต้องบินอ้อมก้อนเมฆนี้ไป นักบินเกิดลังเลใจ จึงถามหลวงพ่อว่าผ่านได้ไหมครับ หลวงพ่อก็ตอบว่าผ่านได้ นักบินก็บินผ่านเมฆก้อนนั้นเข้าไป เหตุอัศจรรย์ก็ปรากฏก้อนเมฆใหญ่นั้นแยกออกเปิดเป็นทางตรง เหมือนถนนไฮ-เวย์ ให้ ฮ.บินผ่านไปอย่างสะดวก เมื่อฮ.ผ่านพ้นก้อนเมฆไปแล้ว เราก็หันมาดูปรากฏว่า ก้อนเมฆนั้นกลับมาชิดกันเหมือนปกติ เป็นที่อัศจรรย์แก่นักบินที่ ๑-๒ และผู้โดยสารทุกคนอย่างยิ่ง
๒. เมื่อฮ.บินไป มีเมฆก้อนเล็กบ้างใหญ่บ้าง แต่ไม่หนาทึบ จึงมองเป็นเมฆสีขาว ๆ ขวางทางบินของฮ.อยู่จำนวนมาก แต่พอฮ.บินเข้าไปในกลุ่มเมฆเหล่านั้น ความอัศจรรย์ก็ปรากฏ คือ ก้อนเมฆเหล่านั้นถูกปัดออกไปให้พ้นทางบินของฮ.หมด เหมือนกับมีคนนั่งอยู่ส่วนหัวของฮ. เอาพัดวิเศษโบกปัดให้เมฆเหล่านั้นหลบออกไปอยู่สองข้างทางหมด หรือเหมือนใช้พัดขนาดใหญ่ ๆ โบกปัดปุยนุ่น ฉะนั้นเป็นภาพที่น่าดูมาก ในเที่ยวนี้มีหมอและพยาบาลของท่านหญิงไปด้วย หมอผู้ชายแกนั่งริมขวาสุด แกเห็นแล้วต้องอุทานออกมาด้วยความอัศจรรย์ว่า เอ๊ะ มันเป็นไปได้อย่างไร ๆ
๓. วันหนึ่งฮ. ต้องบินผ่านเขตอันตราย ซึ่งมีพวกคอม (ผกค) อยู่เบื้องล่างจำนวนมาก โดยนักบินมั่นใจแล้วว่าหลวงพ่อท่านนั่งมาด้วย จึงขออนุญาตบินผ่านไม่บินอ้อม เมื่อท่านอนุญาตก็บินตรง พอเข้าเขตสีแดง (เขตผกค) สิ่งอัศจรรย์ก็ปรากฏมีก้อนเมฆขนาดใหญ่มาก หนาทึบเกือบเป็นสีดำ ไม่ทราบว่าลอยมาจากไหน และลอยมาเร็วกว่าฮ. (ซึ่งปกติฮ.จะบินได้เร็วกว่าเมฆ) และเมฆก้อนนั้นมาหยุดอยู่ใต้เครื่องฮ. ฮ.จะบินไปทางไหน เมฆก็ลอยไปด้วย แม้ฮ.จะเปลี่ยนทิศทางบินไปซ้ายหรือขวา เมฆก็ลอยตามบังอยู่ข้างล่าง ฮ.ตลอดเวลา จนกระทั่งฮ.พ้นเขตอันตรายแล้ว เมฆก้อนนั้นจึงได้ลอยจากฮ.ไป คราวนี้ผู้ที่ตาเหลือกเพราะความอัศจรรย์ ไม่ใช่ใครอื่น คือตัวนักบินเอง
๔. วันหนึ่ง ฮ.บินไปถึงจุดหมายแต่ลงไม่ได้ เพราะหมอกหนามาก มองไม่เห็นพื้นดิน ฮ.ต้องบินวนอยู่สักครู่ สิ่งอัศจรรย์ก็ปรากฏ คือ หมอกเปิดออกเป็นช่องเหมือนปล่องขนาดใหญ่ให้เห็นพื้นดินได้ชัดเจน แล้วฮ.ก็ลงไปได้ตามปล่องนั้นอย่างปลอดภัย เรื่องแบบนี้เคยเกิดมาก่อนที่จ.ปัตตานี ตอนฮ.จะขึ้นแต่ก็ขึ้นไม่ได้ เพราะหมอกเมฆลงมาต่ำมาก ท้องฟ้าปิดสนิท นักบินก็ปรึกษาหลวงพ่อท่าน หลวงพ่อบอกว่าขึ้นได้ สิ่งอัศจรรย์ก็ปรากฏ คือ ท้องฟ้าที่ปิดก็เปิดออกเป็นช่องคล้ายปล่องขนาดใหญ่ และ ฮ.ก็บินขึ้นไปตามปล่องที่เปิดให้นั้น
๕. วันหนึ่ง ฮ.บินไปเจอฝน ภาคใต้มีหน้าฝน ๒ ครั้ง ไม่มีหน้าหนาว ดังนั้น เรื่องฝนตกจึงเป็นของธรรมดา โดยปกติ ฮ.จะบินหลบฝนได้ จะไม่ฝ่าเข้าไปโดยไม่จำเป็น แต่คราวนี้นักบินมากับหลวงพ่อ กำลังใจดีเป็นพิเศษ บินตรงฝ่าฝนเข้าไป เหตุอัศจรรย์ก็เกิดขึ้นทันที คือฝนหยุดตกทางด้านซ้ายของฮ. แต่ด้านขวาคงตกเป็นปกติ มองเห็นได้ชัดเจน เพราะเม็ดฝนตกมาชนประตูกระจกด้านขวาของฮ. ตลอดเวลา พอมองมาด้านซ้ายของฮ.ก็พบสิ่งอัศจรรย์อีก คือ นอกจากจะไม่มีเม็ดฝนเลยแล้ว ยังปรากฏมีรุ้งกินน้ำขึ้นสวยงามมาก เห็นยาวโค้งทั้งตัว ปรากฏจากเขาลูกหนึ่งไปจรดเขาอีกลูกหนึ่ง ได้เห็นแล้วติดตาติดใจมาก
๖. อีกวันหนึ่ง ฮ.บินไปเจอฝนอีก นักบินไม่ลังเลบินฝ่าเข้าไปเลย สิ่งอัศจรรย์ก็ปรากฏอีก แต่ไม่เหมือนครั้งก่อน เพราะฝนที่กำลังตกอยู่นั้นหยุดสนิท ทั้งสองข้างฮ. ไม่มีเม็ดฝนเลย ทัศนะวิสัยหรือการมองภาพทั้งสองข้างฮ.แจ่มใสมาก เหมือนตอนที่ฝนไม่ตก แต่ที่ด้านหน้าของฮ.ปรากฏว่ามีฝนตก เห็นชัดด้วยตาเนื้อ ว่ามีเม็ดฝนวิ่งมาชนกระจกหน้าฮ. มากมาย จนนักบินต้องใช้เครื่องปัดน้ำฝนตลอดเวลา
๗. วันหนึ่งขณะที่ฮ.กำลังบินอยู่ ผมนั่งอยู่แถวที่ ๓ ซึ่งนั่งได้ ๕ คน ตรงกับประตูที่ปิดเปิด ผมนั่งอยู่ซ้ายสุด ถัดมาก็เป็นท่านหญิง โดยปกติผมกับท่านหญิงจะนั่งอยู่ด้วยกัน และท่านจะรับสั่งกับผมเกือบตลอดทาง แต่วันนั้นท่านประทับอยู่เฉย ๆ ไม่ค่อยได้รับสั่งกับผม ผมจึงหันหน้าไปด้านซ้ายของฮ. ก็พบสิ่งอัศจรรย์ชนิดที่ไม่อาจจะลืมได้ในชีวิตของผม คือ ปรากฏมีรุ้งกินน้ำขนาดเล็กลอยอยู่ข้าง ๆ ฮ. สีสวยสดงดงามมากอย่างชนิดที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิต ขนาดกว้างโดยประมาณ ๒ วา เมื่อเห็นปีติก็เกิด แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าอะไรหนอจึงสวยงามขนาดนี้ ตอนนั้นคิดว่าตาคงจะฝาดไปกระมัง ได้หลับตาลงแล้วลืมขึ้นใหม่ภาพก็คงเหมือนเดิม ขยี้ตาแล้วก็เหมือนเดิม ทดลองหยิกขาตนเองแล้ว ภาพก็คงชัดเจนเหมือนเดิม ด้วยความดีใจและตื่นเต้นจึงได้บังอาจเอานิ้วไปสะกิดท่านหญิง แล้วชี้ให้ท่านดู (ทอดพระเนตร) พอท่านหันพระพักตร์มาเห็นภาพนั้น ทั้งท่านและผมต่างก็พนมมือขึ้นไหว้พร้อม ๆ กัน แล้วต่างก็อยู่ในความสงบสักครู่ใหญ่ ๆ ภาพนั้นจึงได้หายไป ท่านหญิงจึงได้รับสั่งถามผมว่า อะไรหมอ ผมตอบว่าให้ถามหลวงพ่อ เพราะไม่มั่นใจจึงไม่กล้าเดา เมื่อเครื่องลงจอดและเข้าที่พักแล้ว จึงได้ถามหลวงพ่อท่าน คำตอบก็คือ ฉัพพรรณรังสี รัศมี ๖ ประการของพระพุทธเจ้า ทุกคนที่ฟังอยู่ด้วยกันในที่นั้นต่างก็ยกมือขึ้นสาธุพร้อม ๆ กัน พี่อ๋อย หรือท่านอ๋อย (คุณ เฉิดศรี ศุขสวัสดิ์ ณ อยุธยา ภรรยาของท่านเจ้ากรม พล.อ.ท.ม.ร.ว.เสริม ศุขสวัสดิ์ ท่านอ๋อยเป็นแม่งานฝ่ายฆราวาสของหลวงพ่อตลอดมา) ท่านอ๋อยฟังแล้วก็อยากเห็นบ้าง จึงขออนุญาตหลวงพ่อก็อนุญาตให้ไปกับฮ.ได้ แทนที่ของผม โดยหลวงพ่อไม่รับรองว่าจะเห็นได้หรือไม่ สุดแต่พระเมตตาขององค์สมเด็จท่าน และพระองค์ก็ทรงเมตตาให้พี่อ๋อยและท่านหญิงได้เห็นอีก พี่อ๋อยดีใจมากอย่างบอกไม่ถูก ในปัจจุบันนี้ทั้งท่านหญิงและพี่อ๋อยท่านทั้งสองก็หนีไปไม่ยอมกลับมาเกิดอีก (นิพพาน) หากผู้ใดไม่เชื่อก็พิสูจน์ดูได้ด้วยตนเอง ด้วยมโนมยิทธินั่นแหละคือคำตอบ อีกประการหนึ่งก็คือ ผู้ที่นั่งอยู่บนฮ. มีนักบิน แพทย์ พยาบาลและช่างเครื่อง ไม่มีผู้ใดได้เห็น แสดงว่าพระองค์ต้องการให้ผู้ใดเห็นก็เห็นได้ หากไม่ต้องการให้ผู้ใดเห็น ผู้นั้นก็เห็นไม่ได้ พุทโธ อัปปมาโณ
๘. สิ่งอัศจรรย์ที่เกิดในวันนี้ทำเอานักบิน ๒ คนตาค้าง เรื่องมีอยู่ว่าขณะที่ฮ.บินไปเยี่ยมตามฐาน ตำรวจ ทหาร ตั้งแต่ประมาณ ๐๗.๐๐ น. ถึง ๑๘.๐๐ น.นี้ หากเป็นช่วงที่บินไกลอาจจะต้องกลับมาเติมน้ำมันก่อนแล้วจึงบินต่อ ในวันนี้เราเหลืออีกฐานเดียวก็จะหมดภารกิจแล้ว แต่เข็มน้ำมันบอกว่าอันตรายให้เติมน้ำมันได้ หมายความว่าเราจะต้องบินกลับมาเติมน้ำมันแล้วจึงจะไปต่อได้ แต่ฐานที่จะไปต่อนี้ก็อยู่ไม่ไกลนัก จึงเกิดความลังเล นักบินรายงานท่านหญิง ท่านหญิงก็ปรึกษาหลวงพ่อ หลวงพ่อตอบว่าไปได้ นักบินก็ออกบินทันที่ทั้งที่ใจไม่ปกติ คอยชำเลืองดูเข็มวัดน้ำมันบ่อย ๆ พอฮ.บินลงเยี่ยมฐานสุดท้ายจอดกับพื้น ก็ดูเข็มน้ำมันให้เต็มตา ก็พบว่าเข็มน้ำมันอยู่ที่เดิม มิได้ลดลงต่ำกว่าจุดเดิมเลย นักบินยิ่งสงสัยและคิดมากขึ้นไปอีก เกวัดน้ำมันนี้เป็นอันตรายมาก หากมันเกิดเสียขึ้นมา แต่ใจก็ยังชื้นอยู่ เพราะมีหลวงพ่อท่านอยู่ด้วย พอภารกิจเสร็จ ก็บินกลับฐานเพื่อเติมน้ำมัน พอจอดสนิทเข็มน้ำมันก็อยู่ที่เดิม มิได้ลดลงเลย นักบินทั้งสองตาค้าง เพราะความตื้นเต้นที่สามารถบินโดยไม่ได้ใช้น้ำมันเลยถึง ๒ จุด (ได้ตรวจเช็คเครื่องวัดน้ำมันแล้ว เป็นปกติ) หากจำไม่ผิดเลขที่ชี้อยู่ที่ ๒๐๐ ลิตรตลอด ตั้งแต่ออกบินไปจุดสุดท้าย แล้วบินกลับมาฐานเก็บ ก็คง ๒๐๐ ลิตรเท่าเดิม โดยปกติฮ.จะกินน้ำมันมากที่สุดตอนสตาร์ทเครื่อง แล้วเร่งเครื่องเต็มที่ก่อนจะขึ้น เรียกว่าดื่มน้ำมันกันทีเดียว
ในขณะนั้น ๒ จังหวัดนี้มีอันตรายมาก เพราะเต็มไปด้วยคอมมิวมูนิสต์ (ผกค) โดยเฉพาะบางอำเภอ คอมเข้ามามีอิทธิพลถึงในเมือง เช่น อำเภอพระแสง, อำเภอเวียงสระ, อำเภอบ้านนาสาร โดยเฉพาะเคียนซาและบ้านนาสาร เจ้าหน้าที่เขาไม่ให้เข้าก็เข้าไปไม่ได้ ส่วนตำรวจนั้นเขาห้ามเข้าเลยเด็ดขาด และบางอำเภอเขาบุกมายึดไว้เลยก็มี เช่น อำเภอฉวาง แล้วจึงถอนตัวออกไปภายหลังที่ฝ่ายทหารเข้ามา ท่านผู้อ่านลองนึกภาพเอาก็แล้วกันว่า มีความเสี่ยงขนาดไหนในการปฏิบัติงานอยู่ในเขตเหล่านี้
ส่วนหนึ่งเรื่องเล่า...ดูฉบับเต็มได้ที่นี่ครับ
http://www.tangnipparn.com/page1_b00k2.html |
ราคาเปิดประมูล | 450 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 900 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 50 บาท |
วันเปิดประมูล | - 09 มี.ค. 2556 - 00:11:50 น. |
วันปิดประมูล | - 10 มี.ค. 2556 - 04:30:06 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
ผู้ตั้งประมูล | ศุภกิจอธิคม (2K)
|