รัฐพล อุทัยวัฒนะ
ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน
โทรศัพท์ : 086-6617797 อีเมล : rattapol.uth@hotmail.com
ยูสเซอร์เนมของเจ้าของชมรม : แฟรงค์ตาทิพย์

  อายุประมาณ 1,112 ปี ***หายากมาก***เทวรูปพระศิวะสี่


(ดูรูปใหญ่คลิ๊กที่รูป)

(ดูรูปใหญ่คลิ๊กที่รูป)


(ดูรูปใหญ่คลิ๊กที่รูป)


(ดูรูปใหญ่คลิ๊กที่รูป)

 

ประเภท   พระบูชา
หนังสือพระ
ชื่อพระ   อายุประมาณ 1,112 ปี ***หายากมาก***เทวรูปพระศิวะสี่
ราคา120,000 บาท.
สถานะ  
ชมรม   รัฐพล อุทัยวัฒนะ
วันที่แก้ไข   15 พ.ค. 2564 01:45:00
รายละเอียด
***หายากมาก***เทวรูปพระศิวะ ศิลปะลพบุรี เนื้อสำริด จ.ลพบุรี สูง 5 นื้ว สวยแชมป์โลก ส่งประกวดมีติดที่1 พร้อมบัตรรับประกัน เทวรูปพระศิวะ เทพสูงสุดในศาสนาพราหมณ์ เนื้อสำริดสนิมหยก ศิลปะลพบุรี หน้าตาสวยมากครับ ส่วนใหญ่จะเจอแต่พระนารายณ์นาคปรก และพระแม่อุมา นานๆจะเจอตัวจริงสักองค์ครับ แถมยังเป็นพิมพ์สี่กรอีก จุดสังเกตุ พระศิวะจะมีตาที่สามที่หน้าผาก ส่วนพระนารายณ์จะไม่มีตาที่สาม เท่าที่ผมเคยเห็นบอกเลยถ้าพลาดองค์นี้ไม่รู้อีกกี่ปีจะได้เจออีก สวยงามมากๆ เข้มขลังสุดของจริง โดยส่วนตัวจากศิลปะ น่าจะอยู่ในยุคพนมบาแค็ง พุทธศตวรรษที่ 15 ปี พ.ศ. 1450 หรือ อายุประมาณ 1,112 ปีได้ครับ เพราะเป็นยุครุ่งเรืองที่สุดในประวัติศาสตร์เขมรและลพบุรีเพื่อนบ้านได้รับต่อมา ปราสาทพนมบาเค็ง ตั้งอยู่บนยอดภูเขา 75 เมตร จากระดับน้ำทะเล สร้างขึ้นกลางพุทธศตวรรษที่ 15 หรือประมาณปี พ.ศ. 1450 ในรัชสมัยของพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 เป็นศาสนสถานที่สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่องค์พระศิวะ ปราสาทพนมบาเค็งมีชื่อเรียกในสมัยโบราณว่าปราสาทพนมกันดาล (พนมแปลว่า ภูเขา, กันดาล แปลว่า กลาง) ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างปราสาทพนมกรอมกับปราสาทพนมบก ซึ่งอยู่บนภูเขาขนาดใกล้เคียงกัน ต่อมาเรียกปราสาทแห่งนี้ว่าปราสาทพนมบาเค็ง ตามลักษณะของต้นบาเค็งที่มีอยู่มากในบริเวณภูเขาแห่งนี้ ชื่อของปราสาทดั้งเดิมจริงๆ แล้วชื่อว่า ปราสาทยโศธระปุระ ซึ่งตั้งตามพระนามของพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 ปราสาทพนมบาเค็งเป็นศาสนสถานแห่งแรกของเมืองพระนคร ทางขึ้นอยู่ทางทิศตะวันออกบนเขาสูงชัน มีรูปทรงเป็นพีระมิดสี่เหลี่ยม มีองค์ปรางค์ประธานอยู่ตรงกลาง ภายในปรางค์ประธานมีศิวลึงค์ตั้งอยู่ ปรางค์ประธานมีอยู่ 5 ชั้นโดยชั้นล่างสุดมีขนาด 76 x 76 ตารางเมตร ลดหลั่นไปเรื่อยๆ จนถึงชั้นบนสุด มีบันไดขึ้นทั้งสี่ด้าน มีปรางค์ขนาดเล็กรายล้อมแต่ละชั้นรวม 108 แท่ง จากหลักฐานทางดาราสาสตร์พบว่าปราสาทพนมบาเค็ง สอดคล้องกับปฏิทินมหาศักราช ซึ่งใช้ข้อมูลปรากฏการณ์ดาราศาสตร์เป็นตัวกำหนดวัน ผู้สร้างปราสาทพนมบาเค็งมีเจตนาให้ตัวปราสาททำมุมกับพระอาทิตย์ในวันสำคัญ คือ วัน "วสันตวิษณุวัต" (Vernal equinox) ซึ่งหมายถึง วันแรกของเดือนไจตระ เพื่อให้พราหมณ์ได้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เช่น พิธีราชาภิเษก (วันแรกของเดือนไจตระดวงอาทิตย์จะขึ้นตรงหน้าประตูพอดี ศิวะลึงค์จะเรืองอร่ามด้วยแสงอาทิตย์ยามเช้าเหมาะแก่การทำพิธีสำคัญของศาสนาฮินดู) ปราสาทพนมบาเค็งเปรียบเสมือนการจำลองยอดเขาพระสุเมรุ ซึงเป็นที่สถิตของเทพเจ้า 3 พระองค์ คือ พระศิวะหรือพระอิศวร พระนารายณ์หรือพระวิษณุ และพระพรหม ใช้เวลาสร้างกว่า 21 ปี (พ.ศ.1450-1471) หลังจากนั้นอีก 40 ปี สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 มีการบูรณะครั้งแรก ให้เป็นศาสนสถานของศาสนาฮินดู ไวษณพนิกาย และพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่เห็นในปัจจุบัน ได้อันเชิญมาประดิษฐานบนแท่นหินทรายแทนสิวลึงค์ในปี พ.ศ. 2509 ในปัจจุบันตัวปราสาททรุดโทรมลงไปมาก แต่ก็ยังแสดงถึงความยิ่งใหญ่ ตัวปราสาทพนมบาเค็ง เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม โดยเฉพาะเห็นยอดปราสาทนครวัดผุดขึ้นกลางป่า ในยามบ่าย แสงสาดส่องเข้าปรางค์ปราสาทนครวัดทำให้เห็นเป็นสีทอง นอกจากนั้นยังเห็นวิวได้ 360 องศา นอกจากนี้ยังเห็นตัวเมืองเสียมเรียบ เห็นยอดเขาพนมบกที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 14 กิโลเมตรและเทือกเขาพนมกุเลนทอดยาว สุดยอดพลาดแล้วจะเสียใจมีกำลังสู้มาเลยครับ
  ยอดจอง 0  คน สมัครสมาชิก


 


Copyright ©G-PRA.COM
www1