|
|
|
รัฐพล อุทัยวัฒนะ
โทรศัพท์ : 086-6617797 อีเมล : rattapol.uth@hotmail.com
ยูสเซอร์เนมของเจ้าของชมรม : แฟรงค์ตาทิพย์
|
@@ พระยอดขุนพล เนื้อตะกั่วสนิมแดง กรุปราสาทตาพรหม |
(ดูรูปใหญ่คลิ๊กที่รูป) |
(ดูรูปใหญ่คลิ๊กที่รูป) |
|
|
ประเภท |
พระกรุเนื้อชิน |
ชื่อพระ |
@@ พระยอดขุนพล เนื้อตะกั่วสนิมแดง กรุปราสาทตาพรหม |
ราคา | 40,000 บาท. |
สถานะ |
|
ชมรม |
รัฐพล อุทัยวัฒนะ |
วันที่แก้ไข |
11 มิ.ย. 2564 00:15:17 |
|
รายละเอียด |
องค์นี้หายากมากสวยคลาสิก สุดๆพิมพ์ซอกแขนซ้าย และพระอุระ ไม่มีเนื้อเกิน พระพิมพ์นี้มีประมาณ 2-5 เปอร์เซ็นต์
พิมพ์มีอยู่ 2 พิมพ์
1. พิมพ์ซอกแขนซ้ายและพระอุระมีเนื้อเกิน พระพิมพ์นี้มีประมาณ 95-98 เปอร์เซ็นต์
2. พิมพ์ซอกแขนซ้าย และพระอุระ ไม่มีเนื้อเกิน พระพิมพ์นี้มีประมาณ 2-5 เปอร์เซ็นต์
@@ พระยอดขุนพล เนื้อตะกั่วสนิมแดง กรุปราสาทตาพรหม ประเทศกัมพูชา อายุ 830 ปี ก่อนสร้างอาณาจักรสุโขทัยครับ เก็บก่อนสายเกินไปนะครับพระระดับตำนาน@@@
ปราสาทตาพรหม จัดว่าเป็นวัดในพุทธศาสนา อยู่ในศาสนาพุทธนิกายมหายานตันตระโดยเชื่อว่า พระศรีศากยมุนี (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันในนิกายมหายาน) เป็นผู้ค้นพบและชี้ทางลัดสู่นิพพานเรียก มันตรายาน โดยนำเรื่องอภินิหาร คาถาอาคม เวทมนต์ ปลุกเสกของขลัง พิธกรรมทางศาสนาฮินดูมารวมไว้ด้วย และเป็นวิหารหลวงในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรขอมโบราณผู้ทรงอำนาจที่สุดแห่งยุค (นับถือศาสนาพุทธนิกายมหายานตันตระ) ทางเข้าประกอบด้วยโคปุระชั้นนอกและชั้นใน บริเวณผนังที่อยู่เชื่อมระหว่างโคปุระชั้น นอกและชั้นในมีการสลักภาพตามคติธรรมของพุทธศาสนานิกายมหายาน ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1729 เพื่ออุทิศให้แก่พระราชมารดาของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 คือพระนางชัยราชจุฑามณีผู้เปรียบประดุจกับพระนางปรัชญาปรมิตา ซึ่งหมายถึงผู้ที่ทีความเป็นเลิศ เป็นเทวีแห่งปัญญาหรือพระมารดาแห่งพระพุทธเจ้าทั้งปวง ซึ่งหมายถึงเมื่อพระองค์เป็นอวตารของพระโพธิสัตว์อวดลกิเตศวร พระราชมารดาของพระองค์จึงเปรียบดังพระนางปรัชญาปรมิตาเช่นกัน ปราสาทตาพรหม ถูกสร้างเคียงคู่กับปราสาทพระขรรค์ ซึ่งพระองค์ทรงถวายอุทิศให้กับพระราชบิดา ปราสาทตาพรหม นี้สร้างหลังปราสาทพระขรรค์เพียง 5 ปี ที่น่าประหลาดใจคือพิธีในปราสาทยุคนั้นซึ่ง
รายละเอียด : ปราสาทตาพรหม จัดว่าเป็นวัดในพุทธศาสนา อยู่ในศาสนาพุทธนิกายมหายานตันตระโดยเชื่อว่า พระศรีศากยมุนี (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันในนิกายมหายาน) เป็นผู้ค้นพบและชี้ทางลัดสู่นิพพานเรียก มันตรายาน โดยนำเรื่องอภินิหาร คาถาอาคม เวทมนต์ ปลุกเสกของขลัง พิธกรรมทางศาสนาฮินดูมารวมไว้ด้วย และเป็นวิหารหลวงในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรขอมโบราณผู้ทรงอำนาจที่สุดแห่งยุค (นับถือศาสนาพุทธนิกายมหายานตันตระ) ทางเข้าประกอบด้วยโคปุระชั้นนอกและชั้นใน บริเวณผนังที่อยู่เชื่อมระหว่างโคปุระชั้น นอกและชั้นในมีการสลักภาพตามคติธรรมของพุทธศาสนานิกายมหายาน ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1729 เพื่ออุทิศให้แก่พระราชมารดาของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 คือพระนางชัยราชจุฑามณีผู้เปรียบประดุจกับพระนางปรัชญาปรมิตา ซึ่งหมายถึงผู้ที่ทีความเป็นเลิศ เป็นเทวีแห่งปัญญาหรือพระมารดาแห่งพระพุทธเจ้าทั้งปวง ซึ่งหมายถึงเมื่อพระองค์เป็นอวตารของพระโพธิสัตว์อวดลกิเตศวร พระราชมารดาของพระองค์จึงเปรียบดังพระนางปรัชญาปรมิตาเช่นกัน ปราสาทตาพรหม ถูกสร้างเคียงคู่กับปราสาทพระขรรค์ ซึ่งพระองค์ทรงถวายอุทิศให้กับพระราชบิดา ปราสาทตาพรหม นี้สร้างหลังปราสาทพระขรรค์เพียง 5 ปี ที่น่าประหลาดใจคือพิธีในปราสาทยุคนั้นซึ่ง
จากศิลาจารึกปราสาทพระขรรค์กล่าวไว้ว่า หลังจากพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ทรงทำสงครามชนะจามแล้ว ได้สร้างปราสาทหลังนี้เมื่อ พ.ศ.๑๗๒๙ อุทิศถวายพระมารดาคือพระนางชัยราชจุฑามณี แล้วสถาปนาพระมารดาเป็นนางปรัชญาปารมิตา
พระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ได้กัลปนา (เกณฑ์) หมู่บ้านจำนวนถึง ๓,๑๔0 หมู่บ้านคอยส่งข้างของเครื่องใช้มาที่ปราสาทแห่งนี้ มีคนคอยดูแล ๗๙,๓๖๕ คน มีหัวหน้าพระภิกษุสงฆ์ ๑๘ รูป พระสงฆ์ ๒,๗๔0 รูป ผู้ช่วย (สามเณร) ๒,๒0๒ รูป และนางฟ้อนรำอีก ๖๑๕ คน สำหรับทรัพย์สมบัติของวัดก็มีจานทองคำ ๑ ชุด หนักมากกว่า ๕00 กิโลกรัม และชุดเพชร ๓๕ เม็ด ไข่มุก ๔0,๖๒๗ เม็ด ปราสาทตาพรหมเปรียบเสมือนเป็นวัดหลวงของราชอาณาจักร แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรแห่งนี้
ศิลปะแบบบายน เป็นศิลปะสุดท้ายของอาณาจักรขอม ช่วงสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7
หลังจากสมัยบายนยังคงมีกษัตริย์ปกครองพระนครต่อมา โดยปรากฏพระนามพระจ้าอินทรวรมันที่ 2 และหลังจากที่พระองค์สิ้นพระชนม์ ในปีพ.ศ. 1768 พระเจ้าชัยวรมันที่ 8 ครองราชย์สมบัติต่อมา โดยมีหลักฐานว่าทรงเป็นผู้ทำสงครามกับไทยตรงกับสมัยพ่อขุนรามคำแหงในรัชกาลนี้เชื่อว่าศาสนาพราหมณ์กลับมามีบทบาทใหม่และมีการทำลายรูปเคารพทางพระพุทธศาสนาในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ดังปรากฎร่องรอยการทำลายทั่วไปในปราสาทศิลปะบายน นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าสมัยนี้เป็นสมัยสุดท้ายที่มีการสร้างปราสาทหิน โดยปราสาทหลังสุดท้าย คือปราสาทมังคลารถ และยังไม่พบหลักฐานว่ามีการสร้างปราสาทหินหลังจากนั้นอีกเลย
ปราสาทตาพรหม เป็นปราสาทที่มีความสำคัญ พระเครื่องที่บรรจุไว้จึงมีความเป็นไปได้ที่เป็นพระที่สร้างในพิธีหลวงครับ สำหรับพระยอดขุนพล ( พระร่วงนั่ง )กรุปราสาทตาพรหม นครวัด ประเทศกัมพูชา เป็นเนื้อตะกั่วสนิมแดง แตกกรุเมื่อประมาณเดือนตุลาคม ปี 2547 ที่ผ่านมาครับ ( และทะลักเข้ามาในฝั่งไทย ทางชายแดน อรัญประเทศ มีการกว้านเช่าซื้อโดยผู้นิยมพระเครื่องของเมืองไทย ) โดยพบที่บริเวณเนินดินใกล้บาราย(สระน้ำ) ปราสาทตาพรหม เมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา พบทั้งพิมพ์ ยอดขุนพล และพระนาคปรก คาดว่าพระจะสร้างในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มีอายุกว่า 830 ปี พุทธศิลป์ถึงยุคและสวยงาม ที่สำคัญเป็นพระเนื้อชินตะกั่วสนิมแดงเข้ม ที่เป็นยอดนิยมของนักสะสมพระเนื้อชินทั้งหลาย มีประวัติการสร้างที่ชัดเจนปรากฎอยู่ในศิลาจารึกที่ขุดพบพร้อมกับพระ จำนวนพระมีไม่มาก ส่วนใหญ่มีสภาพชำรุด ระเบิด แหว่ง เสียมาก ทำให้พระที่มีสภาพสมบูรณ์ สวย ๆ นั้น มีน้อยมากๆครับ พระ พิมพ์นี้ประวัติการสร้างยอดเยี่ยมมาก เป็นการสร้างตามหลักดาราศาสตร์และโหราศาสตร์ อยู่ในบ่อน้ำทั้ง7ตามจำนวนวันรายรอบปราสาทเพื่อรับพลังแสงจากดวงอาทิตย์บรรจุเข้า ไปในตัวปราสาท เป็นพระกรุที่สร้างจากยุคโบราณเข้มขลังน่าบูชาครับ พุทธคุณนั้นโดดเด่นทางด้านเป็นตบะบารมี มหาอำนาจ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุตม์เป็นเลิศ คงกระพันชาตรี พระยุคก่อนสร้างอาณาจักรสุโขทัย สภาพนี้พระสวยแบบนี้ห้ามพลาดครับเก็บเป็นสมับติให้ลูกหลานเป็นสิริมงคลเจริญรุ่งเรืองได้บูชาสืบต่อไปครับ สภาพสวยสมบรูณ์ของจริงสวยกว่าในรูปมากเข้มขลังมีพลังมากครับของจริง |
|
|
|
|
|
|
Copyright ©G-PRA.COM
www1
|
|
|
|
|