(D)
จากรูปน่าจะยังไม่ใช่ครับ (ถ่ายรูปใหญ่ๆ หรือ ได้ส่ององค์จริงจะชัวกว่า) เพราะสมเด็จปู่จันทร์นั้นแบ่งเนื้อได้3ยุค ส่วนผสมคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน 1)ยุคแรก 24กว่าถึงก่อนปี2500 เนื้อจะแห้ง หลวม มวลสารค่อนข้างเยอะ 2)ยุคกลาง ปี2500 มีส่วนผสมในยุคแรก ผสมกับสมเด็จบางขุนพรหม เนื้อออกขาวอมเหลือง ฟู ในส่วนที่ผิวสัมผัสหรือใช้มา จะดูหนึกนุ่ม 3)ยุคปลาย ประมาณหลังปี2500-2520 เนื้อจะแก่ปูนเปลือกหอย จะขอเล่าประวัติพอสังเขปดังนี้ครับ ตั้งแต่ปี2490กว่าๆ-2520 *วัสดุแม่พิมพ์(บล็อก)1)แม่พิมพ์ไม้ มีเพียงด้านหน้าด้านเดียว 2)แม่พิมพ์หินลับมีด มีเพียงด้านหน้าชิ้นเดียวเหมือนกัน ใช้ภายหลังจากแม่พิมพ์ไม้ *มวลสาร ประกอบด้วย กล้วยหอม เครื่องหอมจากไม้หอมต้นนูด ต้นแควด เกสรดอกบัวและเกสรดอกไม้ 108 น้ำผึ้ง ปูนเปลือกหอยเผา ผงวิเศษที่ท่านเขียนและลบ สาหร่ายและดอกไม้ทะเล ในพระยุคกลางปี2500 มีชิ้นส่วนและผงสมเด็จบางขุนพรหม เพิ่มเติมด้วยครับเนื่องด้วยตอนเปิดกรุสมเด็จบางขุนพรหมอย่างเป็นทางการปี2500ท่านได้เดินทางมากรุงเทพเพื่อนิมนต์ผงพระและชิ้นส่วนพระสมเด็จ(ได้มาประมาณห่อผ้าขาวครับ) หลังจากทำพระชุดนี้หมดก็เป็นพระยุคปลายแล้วครับ เนื่องจากท่านทำไปแจกไปโดยจะเลือกฤกษ์ยามตามตำรับพิธีเริ่มปลุกเสกตามลำพังต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆกระทั่งถูกต้องครบถ้วนตามกระบวนการตำรับพิธีเพียบพร้อมสรรพคุณแล้วก็จะเอาออกมาแจกจ่าย **จำนวนพิมพ์ไม่แน่ชัดครับเท่าที่พบเห็นมีประมาณ30กว่าพิมพ์ เนื่องด้วยแม่พิมพ์เป็นหินลับมีดซึ่งมีความเปราะแตกหักได้ง่ายใช้ได้ไม่นานก็ชำรุดเสียหาย ต้องเปลี่ยนแม่พิมพ์ใหม่อยู่บ่อยๆ **เหรียญรุ่นแรก ได้สร้างออกมาปี 2522 จำนวน 10000เหรียญ เพื่อแจกในงานผูกพัทธสีมาวัดโฉลกหลำ **คาถาบูชาพระของท่าน นะโม3จบตามด้วย มิสัง พุทธัง 3จบครับ |
|