ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : ท้าวพังพกาฬ มะม่วงขาว 2 เปิดจอง



(D)


ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมสมทบทุนบริจาคเพื่อจัดสร้างวัตถุมงคล จตุคาม รามเทพ
รุ่น พระโพธิสัตว์ พังพกาฬ 50 (มะม่วงขาว 2)
วัตถุประสงค์
เพื่อจัดสร้างมณฑปพระครูประพัฒน์ สุตคุณ (พ่อท่านเวช สัญสารา) วัดพัฒนาราม(บ้านสระพัง) ต.เสาธง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราชและสมทบทุน การศึกษาของโรงเรียนเสาธงวิทยา
ท่านอาจารย์ ประจวง คงเหลือ เป็นเจ้าพิธีเชิญองค์พ่อ

พร้อมสุดยอด เกจิอาจารย์ สายใต้ ร่วมพุทธาพิเษก

สุดยอดมวลสาร

ผงว่าน ร้อยแปดชนิด ผงปัทมัง ผงไม้เทพทาโร

มวลสารพระพระผงพระกรุเก่า จำนวนมาก และพระผงเนื้อเคลือบดินเผาเคลือบลายน้ำทองแท้ พระผงเนื้อว่านดำ ขาว แดง ของรุ่น ท้าวพังพกาฬ อนุสรณ์บ้านพังพกาฬ วัดมะม่วงขาว(ศรีธรรมาราม) ซึ่งมีมวลสารเดียวกันและพิธีเดียวกับ รุ่น บูรณะเจดีย์รายอันโด่งดัง
ชนวนมวลสารมงคลต่างๆ อีกจำนวนมาก
มหาพุทธา-เทวาพิเษก 4 วาระ
ครบสูตรพิธีกรรมโบราณสายเขาอ้อ
1 บวงสรวง ณ วัดพัฒนาราม
2 เทวาพิเษก ณ ศาลหลักเมือง
3 เทวาพิเษก ณ ถ้ำ ฉัตรฑันท์บรรพต วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง
4 เทวาพิเษก ณ วัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช

1.พระบูชา หน้าตัก 5 นิ้ว ราคาองค์ละ 3,999 บาท (ผู้จัดสร้างบอกว่าแบบเดียวกับมะม่วงขาว ปี46 )

2.ขนาด 5 ซม.เคลือบน้ำทองดำนพเก้า (กรรมการ) สร้าง 999 องค์ ราคาองค์ละ 999 บาท

3.ขนาด 5 ซม.เคลือบ น้ำเงินจักพรรดิ์ เคลือบเขียวมรกต เคลือบแดงสุริยันต์ (แถมเคลือบสัมฤทธิเดช 1 องค์) สร้าง 2500 ชุด ราคาชุดละ 999 บาท

4.ขนาด 5 ซม. ขาว ดำ แดง (แถมเนื้อไม้เทพธาโร 1 องค์) สร้าง 2,500 ชุด ราคาชุดละ 399 บาท

5.ขนาด 4 ซม.เคลือบ น้ำเงินจักพรรดิ์ เคลือบเขียวมรกต เคลือบแดงสุริยันต์ (แถม เคลือบสัมฤทธิเดช 1 องค์) สร้าง 2500 ชุด ราคา ราคาชุดละ 750 บาท

6.ขนาด 4 ซม. ขาว ดำ แดง (แถมเนื้อไม้เทพธาโร 1 องค์) สร้าง 2,500 ชุด ราคาชุดละ 299 บาท

7.เหรียญทองแดง 3.2 ซม.สร้าง 4999เหรียญ ราคาเหรียญละ 99 บาท

โดยติดต่อรับยอดใบจองวัตถุมงคลได้ที่
คุณ วรชาติ ok nakorn โทร 086 572 8697
หรือสั่งจองวัตถุมงคลได้ที่ศุนย์พระชั้นนำใกล้บ้านท่าน
หมายเหตุ: รับวัตถุมงคล ปลายเดือนตุลาคม 2550 ณ สถานที่ท่านสั่งจอง

โดยคุณ my_jatukarm (0)  [อ. 17 ก.ค. 2550 - 20:25 น.]



โดยคุณ my_jatukarm (0)  [อ. 17 ก.ค. 2550 - 20:36 น.] #122361 (1/30)


(D)


อาจารย์ ประจวบ คงเหลือ เป็นเจ้าพิธีเชิญองค์พ่อครับ

โดยคุณ nurseman (2.1K)  [อ. 17 ก.ค. 2550 - 21:29 น.] #122393 (2/30)
ด้านหน้าเต็มๆ พูดไม่ออกคับ เหนื่อยใจจัง

โดยคุณ Chiu2002 (5.4K)  [อ. 17 ก.ค. 2550 - 22:36 น.] #122432 (3/30)

โดยคุณ tsshop (2.5K)(3)   [พ. 18 ก.ค. 2550 - 07:10 น.] #122578 (4/30)
เอ้..!! วัดมะม่วงขาว ก็ต้องออกที่วัดมะม่วงขาวสิครับ อย่างนี้เขาต้องเรียก ปิดตาพังพระกาฬ วัดบ้านสระพัง ไม่ไช้หรือครับ..งง!!..

โดยคุณ my_jatukarm (0)  [พ. 18 ก.ค. 2550 - 19:53 น.] #122900 (5/30)
ขอขอบคุณสำหรับคำติชมครับ

และหากท่านใดสงสัยสามารถถามได้คับ ยินดีตอบให้ทุกคำถามที่พอจะทราบครับ

ในกระทู้ที่ว่า
เอ้..!! วัดมะม่วงขาว ก็ต้องออกที่วัดมะม่วงขาวสิครับ อย่างนี้เขาต้องเรียก ปิดตาพังพระกาฬ วัดบ้านสระพัง ไม่ไช้หรือครับ..งง!!..

ก็ถูกของท่านครับ ถ้าวัดมะม่วงขาว ก็ต้องออกที่วัดมะม่วงขาว

แต่อย่างไรก็ดี ขอเรียนท่านเจ้าของกระทู้ดังกล่าวว่า หากดูข้อความที่ลงในการตั้งกระทู้นั้น ทางผู้ตั้งกระทู้มิได้อ้างชื่อว่ารุ่นนี้ชื่อว่า "วัดมะม่วงขาว" แต่อย่างใดเลย
เพียงแต่รูปแบบเทียบเคียงได้กับ เหรียญปิดตา ท้าวพังพกาฬ มะม่วงขาว และ เพื่อให้ง่ายต่อการเรียกขานในด้านรูปแบบของรุ่นนี้เท่านั้นเอง จึงขอเรียกขานว่า "ท้าวพังพกาฬ มะม่วงขาว 2" ซึ่งรายละเอียดการสร้าง ท่านสามารถอ่านได้ในกระทู้ ว่าทำที่วัดใด หาได้มีเจตนาอื่นใดในการใช้ชื่อ "วัดมะม่วงขาว" แต่อย่างใดเลย ขอผู้อ่านโปรดพิจารณาอย่างเป็นธรรมด้วยครับ


ส่วนท่านเจ้าของกระทู้ที่ว่า "ด้านหน้าเต็มๆ พูดไม่ออกคับ เหนื่อยใจจัง " ไม่ขอตอบครับ ขอบพระคุณที่แสดงความเห็น

โดยคุณ noklekchit (1.2K)  [พ. 18 ก.ค. 2550 - 21:39 น.] #122982 (6/30)
หวัดดีคับพี่ มาติดตามกระทู้ซะหน่อย ไม่มีอะไร ตามสะบายคับ จะรอดูองค์จริงคับ

โดยคุณ Chaowang (116)  [พ. 18 ก.ค. 2550 - 23:20 น.] #123110 (7/30)
จริงๆยกมาทั้งด้านหน้าและด้านหลังเลยครับ ด้านหน้านี่เต็มๆ ด้านหลังนี่เหมือนกับมะม่วงขาวพิมหลังราหู แล้วเปลี่ยนดาบภาเขตรงกลางให้เป็นเจดีย์เท่านั้นเอง

ระวังโดนฟ้องนะคร้าบบบ....(ล้อเล่นครับ)

โดยคุณ A5aha (67)  [พฤ. 19 ก.ค. 2550 - 00:22 น.] #123156 (8/30)
ทำคล้ายรุ่นเดิม หวังว่าจะทำตลาดได้เหมือนปฐมอรหันต์50 มั๊ง
(ปฐมอรหันต์50 ยังไม่อยากจองเลย)
อิอิ....ม่ายมีเงินจองแล้วครับ

โดยคุณ my_jatukarm (0)  [พฤ. 19 ก.ค. 2550 - 00:37 น.] #123164 (9/30)
เรียนท่านผู้อ่าน รุ่นนี้ทางวัดสร้างน้อยครับ
มีรายการละไม่กี่องค์ครับ

อย่างองค์ เคลือบดำ เดินน้ำทอง ก็สร้าง 999 องค์ เป็นลูกกรรมการ

ส่วนพระผง ชุดลูกย่อยก็ มี 4 รายการ ๆ ละ 3 องค์ แถม 1องค์ สร้างอย่างละ 2,500 องค์ครับ
เหรียญก็มีแค่ เหรียญทองแดงอย่างเดียว สร้าง 4999

รวมทั้งหมดแล้ว รุ่นนี้จะมีพระออกมาประมาณ 4 หมื่นกว่าองค์ครับ

ขอบคุณครับ

โดยคุณ i-khon (101)  [ศ. 20 ก.ค. 2550 - 00:42 น.] #123722 (10/30)
อืมม์..ช่วงนี้มีหลายรุ่นที่นำรูปแบบของมะม่วงขาวมาทำ ถือเป็นอีกรุ่นที่เข้า hall of fame ไปเรียบร้อยแล้ว รูปที่โชว์เป็นกราฟฟิกอีกแล้วครับท่าน ขนาดเห็น ๆ ว่าเป็นองค์พระจริง อย่างเจดีย์ราย 50 กับโคตรฯ มีกำไร ยังโดนซะ..

โดยคุณ jokkaew (660)  [ศ. 20 ก.ค. 2550 - 02:52 น.] #123754 (11/30)
ลอกเลียนแบบกันเข้าไป ไม่มีความคิดสร้างสรรอะไรใหม่ๆบ้างเลยหรือครับ

โดยคุณ my_jatukarm (0)  [ส. 21 ก.ค. 2550 - 10:25 น.] #124262 (12/30)
สวัสดีครับ

ขอบพระคุณท่านที่ศรัทธาต้องการจะบูชาวัตถุมงคล

ขณะนี้มีผู้สนใจต้องการสังจองวัตถุมงคลเป็นจำนวนมาก ได้ติดต่อเข้ามาทางโทรศัพท์

ทางศูนย์ได้แนะนำให้สั่งจองได้ตามศูนย์พระใกล้บ้านท่าน เพราะว่า

ทางศูนย์ฯ ไม่ได้เปิดใบจองให้แก่ผู้มีจิตศรัทธาโดยตรงเองครับ

แต่ เป็นหน่วยงานกระจายเล่มใบจองพระเครื่อง วัตถุมงคลรุ่นต่างๆ คราวละจำนวนมากๆ เท่านั้น

ซึ่งขณะนี้มี รุ่น พระโพธิสัตว์ พังพกาฬ 50 (ที่เรียกในท้องตลาดว่า มะม่วงขาว 2) และกำลังเป็นที่ต้องการของนักสะสมพระเครื่องมากครับ


ทั้งนี้ ถ้าท่านประสงค์จะจอง โปรดติดต่อศูนย์พระใกล้บ่านท่านที่มีสมุดเล่มใบจองรุ่นนี้อยู่ ได้เลยครับ

เนื่องจากพระรุ่นนี้สร้างจำนวนน้อย และเล่มใบจองพิมพ์จำนวนไม่มาก

ใบจองวัตถุมงคลอาจกระจายไปไม่ทั่วถึง ทำให้ท่านผู้มีจิตศัรทธาไม่ได้รับความสะดวก ต้องกราบขออภัย มา ณ โอกาสนี้

และถ้าหากว่าท่านไม่ได้รับความสะดวกในการจอง ณ ศูนย์พระใด หรือไม่สามารถหาสถานที่สั่งจองได้แล้ว

ทางศูนย์ฯเองก็ยินดีเปิดให้บริการจองวัตถุมงคลแก่ท่านเป็นกรณีพิเศษ (มีจำนวนจำกัด)

โดยท่านสามารถติดต่อแจ้งความประสงค์มามาง e mail ได้ ทางศูนย์จะดำเนินการออกใบจองให้ท่านตามขั้นตอนครับ

ปล. ทางศูนย์ฯขอความกรุณาในเรื่องภาระค่าจัดส่งขอให้เป็นของท่านผู้จองนะครับ


ขอบคุณครับ
ศูนย์พระโพธิสัตว์ พังพกาฬ 50

โดยคุณ my_jatukarm (0)  [อา. 22 ก.ค. 2550 - 15:14 น.] #124684 (13/30)
แจ้งข่าว
เรื่อง องค์ที่กดในฤกษ์ นำฤกษ์เนื้อผงว่าน (สีออกชมพูๆ)

กดโดยฝ่ายฆาราวาสคือ อาจารย์ ประจวบ คงเหลือ
ฦายสงฆ์ คือ ท่าน พระอาจารย์ อุทัย วัดอาจสูง พัทลุง

ตอนนี้ศูนย์ฯ มียอดให้บูชา 15 องค์ ให้จองในราคา 399 บาท แบ่งๆกันไปครับ
ให้ทางศูนย์ฯที่รับเล่มไปแล้วเท่านั่นครับ ติดต่อมาก่อนได้ก่อนครับ
จำนวนจำกัดครับ

โดยคุณ my_jatukarm (0)  [อ. 24 ก.ค. 2550 - 19:00 น.] #125611 (14/30)
นำฤกษ์เนื้อผงว่าน 15 องค์ ตอนนี้มียอดจองเต็มแล้วนะครับ

และ รายการที่ 2.ขนาด 5 ซม.เคลือบน้ำทองดำนพเก้า (กรรมการ) สร้าง 999 องค์ ราคาองค์ละ 999 บาท ยอดโควต้าของทางศูนย์ฯเต็มหมดแล้วเช่นกันนะครับ

โดยคุณ my_jatukarm (0)  [อ. 24 ก.ค. 2550 - 21:55 น.] #125699 (15/30)
นำเสนอประวัติ เจ้าพิธีปลุกเสกวัตถุมงคล รุ่น พระโพธิสัตว์ พังพกาฬ 50


อาจารย์ประจวบ คงเหลือ



อาจารย์ประจวบ คงเหลือ เป็นชาวพัทลุงโดยกำเนิด ท่านเกิด และเติบโตที่บ้านโคกวัด หมู่ที่ ๓ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง บิดาของท่าน
เสียชีวิตตั้งแต่ท่านยังเล็ก ๆเมื่ออายุท่านได้ ๑๒ ปี มารดาแต่งงานและย้ายครอบครัวไปอยู่กับสามีใหม่ที่อำเภอทุ่งสง
จังหวัดนครศรีธรรมราช เด็กชายประจวบ ไม่สามารถอยู่กับพ่อเลี้ยงได้จึงต้องอาศัยอยู่กับญาติ ๆ ที่บ้านเดิม และกลับมาอยู่บ้านคนเดียวบ้าง ญาติๆ เล็งเห็นว่าเป็นการลำบากมาก จึงจัดการให้บวชเป็นสามเณรที่วัดกุฏิหรือวัดสุวรรณวิชัย ใกล้ตลาดควนขนุน อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง โดยมีพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระพุทธิธรรมธาดาอดีตรองเจ้าคณะจังหวัดพัทลุงและเจ้าอาวาสวัดสุวรรณวิชัยบรรพชาให้บวชเป็นสามเณรแล้วอยู่ศึกษาพระปริยัติธรรมในสำนักวัดสุวรรณวิชัย สอบได้นักธรรมชั้นเอก

สามเณรประจวบนั้นมีความสนใจในเรื่องไสยเวทตั้งแต่บวชเป็นสามเณรเนื่องจากว่าได้อาศัยอยู่กับพระหลวงตารูปหนึ่งซึ่งมีความสนใจในเรื่องไสยศาสตร์
และเป็นผู้ที่มีหน้าที่เก็บรักษาตำราไสยศาสตร์ของวัดกุฏิซึ่งเก็บรักษากันมานาน หลวงตารูปนั้นคือพระปลัดเล็ก รัตนโชโต เมื่อสามเณรประจวบอาศัยอยู่ด้วย พระปลัดเล็กก็มอบหน้าที่ให้ทำความสะอาดกุฎิที่เก็บตำราโบราณเหล่านั้นสามเณรประจวบเห็นเข้าก็อยาากรู้ว่าเป็นอะไร
เมื่อทราบว่าเป็นตำราศักดิ์สิทธิ์ที่บรรจุไสยเวทไว้ก็อยากเรียน แต่ก็เรียนไม่ได้เพราะตำราเหล่านั้นส่วนใหญ่จะถูกจารึกเป็นภาษาขอม
และตอนนั้นผู้ที่รู้ภาษาขอมก็มีน้อยเหลือเกินแล้วในวัดสุวรรณวิชัยเองก็มีเพียง พระปลัดเล็กเท่านั้นสามเณรประจวบจึงได้ขอให้พระปลัดเล็กสอนให้
ครั้งแรกพระปลัดเล็กไม่ค่อยเต็มใจจะสอนให้ ไม่ใช่เพราะหวงวิชา หากแต่ต้องการให้สามเณรประจวบมีอนาคตในทางการศึกษาตามแบบ
ปัจจุบันมากกว่า ท่านตระหนักว่าวิชาไสยเวทช่วยอะไรเขาไม่ได้มากนัก ในวัยเรียนเช่นนั้นน่าจะเอาเวลาไปศึกษาเล่าเรียนตามอย่างปัจจุบันให้มากๆ
ดีกว่า เพื่อจะได้มีวิชาความรู้กับตัว แต่สามเณรประจวบก็พิสูจน์ให้เห็นถึงความตั้งใจจริง

ในที่สุดพระปลัดเล็กก็ยอมสอนภาษาขอมให้เมื่อเรียนภาาาขอมจนอ่านออกเขียนได้แล้ว สามเณรประจวบก็เริ่มศึกษาไสยเวทจามตำราเหล่านั้น
เมื่อมีอะไรติดขัดก็ไปเรียนถามพระปลัดเล็กการศึกษาของท่านดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วเพราะในวัยเด็กความจำดีสามเณรประจวบได้รับการดูถูกดูแคลนจากเพื่อนวัยเดียวกัน ที่มุ่งเอาดีในทางการศึกษาภาคปัจจุบันแต่เพราะความตั้งใจจริงสามเณรประจวบไม่สนใจ ตั้งใจศึกษาสายนั้นต่อไปจนเชี่ยวชาญตำราที่สามเณรประจวบศึกษานั้นส่วนใหญ่
เป็นตำราโบราณของเมืองพัทลุง ซึ่งมีที่มาจากหลายแห่ง เรียกว่าเป็นที่รวมสุดยอดวิชา ปัจจุบันตำราเหล่านั้นสูญหายไปหมดแล้ว
เนื่องจากเมื่อปลัดเล็กมรณภาพก็ขาดผู้เอาใจใส่ดูแล จึงถูกปลวกถูกมอดแทะเสียหายไปหมดนับเป็นเรื่องที่น่าเสียดายไม่น้อยสามเณรประจวบอยู่ที่วัดสุวรรณวิชัยจนอายุครบ
อุปสมบทก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดสุวรรณวิชัยนั่นเอง โดยมีพระเดชพระคุณพระพุทธิธรรมธาดาเป็นพระอุปัชฌาย์ให้ มีพระครูกรุณานุรักษ์เป็นพระกรรมวาจาจารย์
และมีพระปลัดเล็ก รัตนโชโต เป็นพระอนุสาสนาจารย์อุปสมบทแล้ว พระภิกษุประจวบก็อยู่ในวัดนั้นต่อไป ศึกษาไสยเวทตามตำรานั้นต่อ
ต่อมาท่านได้รับการสนับสนุนจากท่านเจ้าคุณฯ พระพุทธิธรรมธาดา เจ้าอาวาส มอบตำราเก่า ๆ ที่ท่านเก็บรักษาไว้ให้ อาจารย์ประจวบไปศึกษาอยู่ต่อมาไม่นานก็ได้มีโอกาสใช้วิชานั้น พิสูจน์ความจริงคือขณะนั้นในวัดสุวรรณวิชัยมีโรงเรียนตั้งอยู่ใกล้ ๆ มีเด็กๆจากชนบทไปเรียนกันมากเด็กผู้ชายส่วนใหญ่ก็จะพักอยู่ในวัด ที่กุฏิพระอาจารย์ประจวบก็มีเด็กมาอาศัยอยู่ด้วยหลายคน พระอาจารย์ประจวบสอบถามจนได้ความว่าบิดาของเขาซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านชื่อแดงถูกยาพิษ กำลังจะเสียชีวิตทางบ้านได้ตระเตรียมการศพกันแล้ว เขาในฐานะลูกชายต้องกลับไปร่วมด้วย แต่ลาเรียนไม่ทันจึงฝากให้พระอาจารย์ประจวบลาครูให้แทน
ครั้นทราบอย่างนั้นพระอาจารย์บอกว่าท่านขอติดตามไปด้วยเพื่อจะไปดูอาการของบิดาเขา เด็กคนนั้นก็ยอมให้ตามไปไปถึงภายหลังได้ตรวจอาการคนป่วยแล้ว
พระอาจารย์ประจวบพบว่าผู้ใหญ่แดงถูกยาพิษจริง ท่านมีวิธีรักษา ซึ่งเป็นวิธีที่ได้เรียนมาจากตำราโบราณที่วัดสุวรรณวิชัย ท่านจึงให้ผู้คนไปหาตัวยามาแล้วก็ทำการรักษา
ปรากฎว่าเพียงไม่นานอาการของผู้ใหญ่แดงเริ่มดีขึ้นและค่อยๆทุเลาจนเป็นปกติเพียงไม่นานนักการศพที่เตรียมไว้ต้องยกเลิกไปนับว่าพระอาจารย์ประจวบเข้าไปช่วยชีวิตไว้ได้ทัน
และเนื่องแต่การณ์ในครั้งนั้นทำให้ผู้ใหญ่แดงมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับพระอาจารย์ประจวบเข้ามาในควนขนุนทีไรก็จะต้องแวะมาเยี่ยมที่กุฏิทุกทีพระอาจารย์ประจวบบวชอยู่ต่อได้ ๒พรรษาก็ตัดสินใจลาสิกขาผู้ใหญ่แดงทราบข่าวก็รีบมารับให้ไปอยู่ที่บ้านของท่านในฐานะบุตรบุญธรรมต่อมาก็ได้ จัดการสู่ขอหญิงสาวให้คนหนึ่ง ชื่อ “ ละมูล ” จัดการแต่งงานให้เสร็จสรรพ พระอาจารย์ประจวบจึงได้ย้ายมาสร้างครอบครัวใหม่กับภรรยาที่บ้านดอนนูดใกล้วัดดอนศาลา
เนื่องจากมีจิตใจที่ศรัทธาในไสยเวท แม้ลาสิกขาแล้วอาจารย์ประจวบก็ยังไม่เลิกสนใจ ไปมาหาสู่ผู้ที่สนใจในเรื่องนี้อยู่เนือง ๆ ยิ่งได้มาอยู่ใกล้วัดศาลาก็เหมือนใกล้สำนักใหญ่ท่านจึงได้ไปมาหาสู่พระอาจารย์ต่าง ๆ ภายในวัดดอนศาลา โดยเฉพาะพระอาจารย์ศรีเงิน
และเพราะท่านมีพื้นฐานในเรื่องไสยเวทอยู่มากแล้ว ต่อมาก็เกิดอยากจะเป็นศิษย์สายเขาอ้อ จึงขอศึกษาวิชาของสายเขาอ้อกับอาจารย์สายเขาอ้อที่ยังมีชีวิตอยู่หลายท่าน
ทางสายบรรพชิตก็ได้ศึกษากับพระอาจารย์ศรีเงิน และทางสายฆราวาสก็ได้ศึกษากับศิษย์สายฆราวาสของสำนักเขาอ้อหลายท่าน ซึ่งตอนนั้นศิษย์ปรมาจารย์ทองเฒ่าหลายท่านยังมีชีวิตอยู่ เป็นต้นว่า อาจารย์แจ้ง เพชรรัตน์ อาจารย์เปรม นาคสิทธิ์ อาจารย์ประจวบศึกษาวิชาเหล่านี้ด้วยความตั้งใจ เพียงไม่นานก็สามารถทำพิธีกรรมตามวิชาของสำนักเขาอ้อได้มาก

(อ้างอิงจาก www.siamsouth.com)

oknakorn

โดยคุณ my_jatukarm (0)  [อ. 24 ก.ค. 2550 - 22:05 น.] #125702 (16/30)


(D)


รูปอาจารย์ ประจวบ คงเหลือ

โดยคุณ my_jatukarm (0)  [อ. 24 ก.ค. 2550 - 22:34 น.] #125708 (17/30)


(D)
สมัยร่วมพิธีกับ ท่านขุนพันธ์ฯ

โดยคุณ my_jatukarm (0)  [อ. 24 ก.ค. 2550 - 22:36 น.] #125710 (18/30)


(D)


สมัยร่วมพิธีกับ ท่านขุนพันธ์ฯ

โดยคุณ my_jatukarm (0)  [พฤ. 26 ก.ค. 2550 - 19:19 น.] #126746 (19/30)


(D)


พระเกจิ อาจารย์ ผู้ปลุกเสก และกดพิมพ์พิธีนำฤกษ์


พระอาจารย์อุทัย อุทโย วัดวิหารสูง พัทลุง

ต้นตำรับตะกรุดดังเมืองพัทลุง

พระอาจารย์อุทัย อุทโย เป็นพระนักวิปัสสนากัมมัฏฐาน และพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดพัทลุง มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีวัตรปฏิบัติน่ายกย่องนับถือ และเป็นพระนักพัฒนา ที่ได้สร้างความเจริญให้กับวัดและชุมชนอย่างมากมาย

จนเป็นที่เลื่อมใสนับถือศรัทธาของชาวบ้านทั่วไปในจังหวัดพัทลุงและภาคใต้

ปัจจุบัน พระอาจารย์อุทัย สิริอายุ 41 พรรษา 16 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดวิหารสูง ต.ชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง

อัตโนประวัติ เกิดในสกุล บัวเพชร เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2509 ณ บ้านมะกอกใต้ หมู่ 3 ต.ชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายผ่องและนางน้อย บัวเพชร

ในชีวิตวัยเยาว์ ได้ศึกษาเล่าเรียนจบชั้นมัธยมปีที่ 3 โรงเรียนพรหมพินิตชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง

เมื่อเข้าวัยหนุ่ม ถึงวัยเกณฑ์ทหารได้เข้ารับการคัดเลือกทหาร ได้เป็นทหารรับใช้ชาติอยู่ 2 ปี หลังจากปลดประจำการ ได้สมัครเป็นทหารพรานต่ออีก 3 ปี

จากนั้น ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2535 ณ วัดวิหารสูง ต.ชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง โดยมีพระครูสิทธิโสภณ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูประจักษ์วิหารคุณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูคง เป็นพระอนุสาวนาจารย์


ภายหลังครองผ้ากาสาวพัสตร์ ท่านได้ตั้งใจศึกษาพระปริยัติธรรมด้วยความอุตสาหะ พ.ศ.2540 สามารถสอบได้นักธรรมตรี-โท-เอก ตามลำดับ

ต่อมา พ.ศ.2541 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดวิหารสูง

ผลงานด้านการพัฒนา พระอาจารย์อุทัย ได้มุ่งมั่นพัฒนาวัดและบูรณปฏิสังขรณ์ถาวรสถานต่างๆ จนมีความเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ

พระอาจารย์อุทัย มีความรู้ความสามารถในการอ่านเขียนภาษาขอม ไทยและบาลี สามารถเรียนรู้วิชาตำรับตำราและคัมภีร์ต่างๆ ทั้งวิชาไสยเวทและการฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐานได้อย่างเข้มขลัง คล่องแคล่ว

นอกจากนี้ ท่านยังได้ศึกษาวิชากับพระอาจารย์ปลอด วัดหัวป่า อ.ระโนด จ.สงขลา พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของภาคใต้ นานกว่า 10 ปี และยังได้ศึกษาวิชากับพระเกจิอาจารย์ดังอีกหลายท่าน เช่น พระอาจารย์เศียร อดีตเจ้าอาวาสวัดวิหารสูง, พระอาจารย์ผัน วัดทรายขาว, พระอาจารย์ปาน แห่งวัดแสงอรุณ และอาจารย์ผ่อง วัดแจ้ง เป็นต้น

พระเครื่องวัตถุมงคลของพระอาจารย์อุทัย ที่ได้รับความนิยมของบรรดานักสะสมพระเครื่องและผู้สนใจทั่วไปมีหลายรูปแบบหลายรุ่นด้วยกัน เช่น ผ้ายันต์ มหากาฬนาคราช ตะกรุด สร้างเมื่อปี 2541 ผ้ายันต์ พิชัยสงคราม ตะกรุด สายเอว สร้างปี 2542

พระหลวงพ่อทวดเนื้อว่าน รุ่นขุนพันธรักษ์เนื้อขาว เนื้อดำและเนื้อเทา ตะกรุด สายเอว สร้างเมื่อปี 2545 พระมหากลีบบัวประจุธาตุสำริด ผ้ายันต์พ่อแก่องค์ขาว และพระยอดขุนพล มี 2 เนื้อ คือ ขาวและดำ สร้างเมื่อปี 2547

ส่วนที่สร้างในปี 2548 เช่น พ่อแก่องค์ขาว องค์ทอง ผ้ายันต์สวลีมหาลาภ พระมหาลาภกลีบบัว เนื้อโลหะทองเหลือง เหรียญลงยาพระครูอุทัย อุทโย ด้านหน้าเป็นรูปพระครูอุทัยท่านั่ง ด้านหลังเป็นยันต์มหาลาภกลีบบัว มีทั้งหมด 7 สี 7 วัน

เหรียญใบโพธิ์หลวงพ่อทวด ด้านหน้าเป็นหลวงพ่อทวดท่านั่ง ด้านหลังเป็นเจดีย์ 5 ยอด ใต้ฐานเจดีย์ เขียน อุทโย มี 2 สี คือ สีเหลือง สีเขียว พระราหูกลมเล็กเนื้อว่านสีน้ำตาล ปู่องค์ขาวด้านหลังรูปพระอาจารย์อุทัย อุทโย เนื้อว่าน ปู่องค์ขาวด้านหลังยันต์มหาลาภกลีบบัว และที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในขณะนี้ก็คือ ตะกรุด ทำจากแผ่นทองแดงลงยันต์และปลุกเสกด้วยพิธีเข้มขลัง

ในแต่ละวันจะมีทั้งประชาชน ทหารและตำรวจ จาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ศรัทธามารับแจกตะกรุดวันละ 1,000 กว่าดอก

สำหรับคติธรรมคำสั่งสอน ท่านได้สั่งสอนลูกศิษย์ลูกหาและประชาชนทั่วไปว่า "ค้นตัวเองให้พบ คบตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น" และ "นำแสงทอง ส่องแสงธรรม"

ในทุกครั้งที่พระอาจารย์อุทัย ได้มอบวัตถุมงคลแก่ญาติโยมพุทธศาสนิกชน ท่านจะสั่งสอนเป็นคติเตือนใจไปพร้อมกันว่า

"ห้ามด่าพ่อ ด่าแม่ ไม่กลั่นแกล้งเพื่อนและผู้อื่น ให้ทุกคนอยู่ในศีลในธรรม ชีวิตจะพบกับความสุข ความเจริญ"


ที่มา อ้างอิงจากเวปลิงก์นี้ครับ
http://news.pornpra.com/topic_detail.php?id=582

โดยคุณ my_jatukarm (0)  [ศ. 27 ก.ค. 2550 - 15:32 น.] #127153 (20/30)
มีลุ้นองค์นำฤกษ์ ฟรี รุ่น พระโพธิสัตว์ พังพกาฬ 50
มีจับรางวัลตอบกะทู้ และมีสิทธิลุ้นองค์นำฤกษ์ 1 องค์ครับ


พระผงว่าน พิเศษนำฤกษ์

เป็นองค์ที่กดในวันพิธีนำฤกษ์ 15 สิงหาคม 50 นี้ครับ
เป็นผงว่านเนื้อ ขาวอมชมพู โดยท่าน พระอาจารย์ อุทัย วัดวิหารสูง พัทลุง
และท่าน อาจารย์ ประจวบ คงเหลือ ทำพิธีนำฤกษ์ครับ


ลองไปตอบกะทู้กันดูครับ โชคดีทุกคนครับ

http://www.jatukarmforum.com/webboard/viewtopic.php?t=10323&postdays=0&postorder=asc&start=30

โดยคุณ my_jatukarm (0)  [อา. 29 ก.ค. 2550 - 12:23 น.] #127829 (21/30)
ขอแจ้งให้ท่านที่รอชมพระตัวอย่างอยู่ได้ทราบว่า

ขณะนี้ พระตัวอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้ข่าวว่า สวยมากครับ

และอยู่ในระหว่างการ แจกจ่าย และจัดส่งมายังศูนย์ฯ

เมื่อได้แล้วจะทำการถ่ายรูปมาให้ได้ชมกันต่อไป อดใจรอกันอีกสักนิด

โดยคุณ my_jatukarm (0)  [จ. 30 ก.ค. 2550 - 02:13 น.] #128018 (22/30)


(D)


ต้องขอแก้ข่าวนะครับ!!! ว่า พระตัวอย่างเสร็จเรียบร้อย ใช่ครับ

กดมาดูเป็นตัวอย่างสำหรับทีมงานได้ตรวจสอบก่อนอีกครั้ง(หรือหลายครั้ง)

แต่ไม่ใช่เสร็จสมบูรณ์ ที่จะทำเป็นบล๊อคจริง ยังต้องประบแก้จุดเล็กจุดน้อยอยู่ครับ



และวานนี้ผมเพิ่งไปประชุมร่วมกรรมการผู้จัดสร้าง และรับแบบองค์พระตัวอย่าง มาตรวจสอบรายละเอียดเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมในรายละเอียด ก่อนที่จะทำการสร้างพิมพ์โลหะจริงๆ

ซึ่งพระตัวอย่างที่ผมได้มาวันนี้ นั้น
เป็นองค์ที่ใช้ดิน (ดินธรรมดานี่แหละครับ) กดจากต้นแบบพิมพ์ทำจาก "เรซิ่น" (ซึ่งจะให้ความคมชัดได้ไม่เท่าพิมพ์โลหะ) แต่ความคมชัดที่ได้ อยู่ในเกณฑ์ดี พอควร
ซึ่งทางผู้จัดสร้างหวงมากและไม่ต้องการเปิดเผยก่อนวันกดนำฤกษ์
แต่ผมเห็นว่าเป็นเพียวต้นแบบที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ก็ไม่น่าที่จะเสียหายหากนำรูปมาลงให้ท่านทั้งหลายได้ชมกันก่อน ทั้งนี้
แบบพิมพ์ปัจจุบัน ได้ คืบหน้าไปประมาณ 70% โดยมีจุดเล็กๆ น้อยที่ต้องแก้ไข เพิ่มเติมอยู่บ้าง เพื่อให้องค์ พระโพธิสัตว์ พังงพกาฬ 50 ออกมาได้สวยงาม สมบูรณ์ที่สุด
โดยยังคงรูปแบบย้อนยุค มะม่วงขาว แต่มีการปรับรูปแบบเล็กน้อยเพื่อให้เหมาะสมกับเจตนารมณ์ของทางวัด ที่ต้องการให้องค์ พังพกาฬ ดูมีสง่า ราศี มีรูปลักษณ์ที่สมบูรณ์ อิ่มเอิบ แต่ยังคงแฝงไว้ซึ่ง ปริศนาที่ซ่อนเร้น เกี่ยวกับพระปิดตา และพระราหู ตามตำนานโบราณ อยู่ในที

ลองพิจารณาดูกันนะครับ มีความเห็นอย่างไรยินดีรับคำติชมครับ

โดยคุณ my_jatukarm (0)  [พ. 01 ส.ค. 2550 - 10:30 น.] #129078 (23/30)


(D)
ลูกเคลือบน้ำเงินที่เห็นนี่ ยังไม่เสร็จ 100% นะครับ ต้องแก้ไขอีก
และที่เคลือบก็แค่รอบเดียวเพื่อเอามาดูก่อน ของจริงจะเรียบร้อยกว่านี้ครับ
โปรดติดตามตอนต่อไป

รุ่นนี้ผมตั้งใจช่วยเหลือทางวัดพัฒนารามเค้าจริงๆครับ
ทางวัดเองก็ขาดปัจจัยและมีความจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงพัฒนาหลายอย่าง
ซึ่งหากสามารถรวบรวมเงินบริจาค จากการเช่าบูชาวัตถุมงคลได้ตามที่สร้าง ก็จะสามารถนำปัจจัยไปสร้างเสริมและพัฒนาวัดและโรงเรียนได้อย่างเต็มที่

และที่สำคัญ ที่มีการนำเสนอข้อมูลอย่างต่อเนื่องก็เนื่องจาก ทางทีมงานกรรมการวัดและโรงเรียน ผู้จัดสร้างนั้น มีความตั้งใจ ใส่ใจในการสร้าง สัตถุมงคลอย่างจริงจัง ใช้ความรูแรงกายแรงใจเต็มที่ (ทั้งๆที่แรงเงินก็มีกันอยู่น้อยนิด) เพื่อให้ได้วัตถุมงคล ปิดตา พระโพธิสัตว์ พังพกาฬ 50 เป็นวัตถุมงคลที่อุดมไปด้วยคุณค่า ทั้งในพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ศิลปะ และไสยศาสตร์ตามตำนานโบราณของเมืองนครศรีธรรมราช
ดังนั้น ทั้งในรูปแบบรายละเอียดของวัตถุมงคลก็ดี กรรมพิธีการจัดสร้างองค์ประกอบ มวลสารต่างๆก็ดี การปลุกเสกพิธีกรรม ฤกษ์ผานาทีในการปลุกเสก วาระพิธีกรรมต่างๆก็ดี ล้วนแล้วแต่กำหนดขึ้นตามศาสตร์วิชาโบราณอย่างแท้จริง โดยผู้กำหนดคือเกจิอาจารย์ผู้มีอาคมแก่กล้าทั้งหลาย เช่น
อาจารย์ ประจวบ คงเหลือ , พระอาจารย์ อุทัย อุททโย เป็นต้น

ดังนั้นขอให้ท่านผู้มีจิตศรัทธา โปรดมั่นใจได้ว่า ท่านที่บูชาวัตถุมงคลไปแล้วจะได้วัตถุมงคลที่ดีเข้ามขลังอุดมไปด้วยธาตุกายสิทธิ์ต่างๆนับร้อยนับพันชนิด
ทั้งยังผ่านการปลุกเสกด้วยวิชาทั้งหลาย โดยผู้มีฌานอันสูง มีวิชาอาคม และที่สุดคือ
วัตถุมงคลทุกชิ้น พระสงค์ทั้งวัดจะทำการนั่งปรกปลุกเสก ยาวนาน ตลอดระยะเวลาเข้าพรรษานี้ ทุกวัน เพื่อให้เกิด ศิริมงคลแก่ผู้ครอบครองวัตถุมงคลอย่างที่สุด

ขอบคุณครับที่ติงตามมาโดยตลอด

โดยคุณ my_jatukarm (0)  [ส. 04 ส.ค. 2550 - 00:42 น.] #130437 (24/30)
กำหนดปิดจอง วันที่ 15 สิงหาคม 2550 นี้ครับ

โดยคุณ my_jatukarm (0)  [อ. 07 ส.ค. 2550 - 11:13 น.] #132137 (25/30)
ดูรูปพระตัวอย่าง และ

ข้อมูลเพิ่มเติมได้แล้วครับ

http://www.khuntalebuddha.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=548&postdays=0&postorder=asc&start=30

โดยคุณ ติณณ์ณชัย (2.6K)  [พ. 08 ส.ค. 2550 - 12:53 น.] #132782 (26/30)
สวยดีครับ ถ้าเป็นoriginal
ขอติผู้สร้างหน่อยครับ จะออกวัตถุมงคลมาทั้งทีน่าจะมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง
ไม่ใช่พอรุ่นไหนดังก็gopyต่อๆกันไปเป็นสิบๆรุ่น ยังงี้ไม่น่าจะเรียกทำบุญเเล้วหล่ะ
จตุคามจะเสื่อมศัทธาก็พวกท่านๆทั้งหลายนั้นเเหละ

โดยคุณ my_jatukarm (0)  [พ. 08 ส.ค. 2550 - 21:01 น.] #133046 (27/30)
ถึงผมจะไม่ใช่ผู้สร้างแต่ก็ต้องขอ ขอบคุณ แทนผู้สร้างด้วยครับเพราะอย่างน้อยก็เป็นกะทู้ที่ผมตั้งขึ้นประชาสัมพันธ์
แต่ งง จังอ่ะคับ ในเนื้อหาที่ท่าน ติณณ์ณชัย ขอติมา
ว่า งง กับความเห็นที่ว่า

"ไม่ใช่พอรุ่นไหนดังก็gopyต่อๆกันไปเป็นสิบๆรุ่น ยังงี้ไม่น่าจะเรียกทำบุญเเล้วหล่ะ
จตุคามจะเสื่อมศัทธาก็พวกท่านๆทั้งหลายนั้นเเหละ "

ผมก็มีความเห็นส่วนตัว ประเด็นที่ว่า การ copy รูปแบบจากมะม่วงขาว 46 มาสร้างวัตถุมงคลรุ่นนี้ก็ต้องยอมรับว่าจริงครับ แต่ก็เป็นการมองในแง่ของ ความไม่สร้างสรรค์ในแง่มุมของผู้ใคร่จะเสพศิลปะใหม่ๆอยู่เสมอต้องการสิ่งแปลกใหม่กว่า หลงในรูปมากว่าเนื้อหาสาระอันควรค่าแก่การพิจารณา ส่วนใหญ่คนเราก็เป็นเช่นนี้ ผมเองก็เคยเป็น เช่น ชอบเปลี่ยนมือถือรุ่นใหม่ที่สวยกว่า แปลกใหม่กว่า ทั้งที่จริงก็โทรศัพท์เหมือนกัน ใช้โทรได้เป็นพอ แต่เดี๋ยวนี้ก็เลยเลิกละ ใช่อันเดิมพอใช้ได้ก็ใช้ไปครับ

และที่ว่า "ยังงี้ไม่น่าจะเรียกทำบุญเเล้วหล่ะ" ผมเห็นว่า การทำวัตถุมงคลเพื่อให้คนบริจาคเอาปัจจัยมาสร้างศาสนสถาน ทุนการศึกษา ก็เป็นการเปิดโอกาสให้คนได้ทำบุญ และทำทานกัน แม้ว่าจะมีผลตอบแทนเป็นวัตถุมงคลก็ตาม ความเห็นคือว่า ก็ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการที่ผู้สร้างเค้า ไม่ได้ออกแบบวัตถุมงคลรูปแบบใหม่ๆ แล้วจะไม่ควรจะเอามาให้ตอบแทนคนซึ่งบริจาคปัจจับทำบุญตามวัตถุประสงค์กันนี่ครับท่าน

เพราะว่า การสร้างบุญ สร้างกุศลของผู้ที่บริจาคเงินมาบูชาตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้นั้น
ก็อยู่ที่จิตบริสุทธิ์ในการบริจาคของผู้นั้นไม่ใช่หรอครับ
การทำบุญ ทำทาน สร้างบุญ สร้างบารมี เป็นเรื่องเฉพาะตัวของผู้ทำ ใครทำคนนั้นก็ได้บุญ

จึงไม่เห็นว่า การไม่ออกแบบวัตถุมงคลใหม่แล้วจะไม่ทำให้ผู้บริจาคไม่ได้ทำบุญเลยครับ

และที่ท่านว่า "จตุคามจะเสื่อมศัทธาก็พวกท่านๆทั้งหลายนั้นเเหละ "
ผมว่า องค์พ่อก็ยังอยู่ในใจพวกเราเสมอ ถึงแม้ว่าใครๆจะมองว่ากระแสความนิยมจะเสื่อม

ผมกลับมองว่า ไม่เลยครับ องค์พ่อไม่ได้เสื่อศรัทธาลงเลยแม้แต่น้อย
เพียงแต่ปัจจับทางเศรษฐกิจที่ซบเซา ประกอบกับ กระแสข่าวในแง่ลบของผู้สร้างวัตถุมงคล
ที่ไม่ทำตัวเป็นลูกที่ไม่ดีขององค์พ่อ ทำลายความเชื่อมันในตัวผู้สร้างวัตถุมงคลนั้นๆเอง
จึงต้องสรุปว่า ที่เสื่อมลงคือความเชื่อมั่นในตัวบุคคลกลุ่มบุคคลที่จัดสร้างวัตถุมงคลที่ใช้ไม่ได้เท่านั้นครับ
ไม่ใช่ความเสื่อมศรัทธาองค์พ่อครับท่าน

ผม ต้องกราบขออภัยที่ต้องเสนอความเห็น ตามหลักการทั่วๆไปเช่นนี้ครับ

อนุโมทนาบุญสำหรับผู้บริจาคด้วยครับ

โดยคุณ my_jatukarm (0)  [ศ. 10 ส.ค. 2550 - 22:00 น.] #134049 (28/30)


(D)
ประกาศ

มีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการวันนำฤกษ์แจ้งให้ทราบครับ

จากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 15 สิงหาคม 2550 เวลา บ่าย นั้น

มีเหตุต้องเปลี่ยนแปลงวัน เลื่อนอออกไป เป็นวันที่ 31 สิงหาคม 2550

เนื่องจาก วันที่ 15 ตามกำหนดเดิม ท่านอาจารย์ ประจวบ คงเหลือได้แจ้งว่า

ทางประธาน คมช.พลเอก สนธิ บุญรัตกลิน

ได้ร้องขอให้ท่าน เดินทางไปทำพิธี บวงสรวง ในวันที่ 15 สิงหาคม 2550 ช่วงเช้า เพื่อ

ทำการจัดสร้างวัตถุมงคล อันสำคัญเพื่อสร้างถวายในหลวง

และจะนำรายได้ทูลเกล้าถวาย อาจารย์ท่านจึงจำเป็นต้องรับดำเนินเป็นเจ้าพิธีให้

และอาจจะทำให้เดินทางมาทำพิธีนำฤกษ์ ของรุ่น พระโพธิสัตว์ พังพกาฬ 50

ไม่ทันตามฤกษ์ยาม ที่กำหนดไว้เดิม

และ อาจคลาดเคลื่อนไปจากฤกษ์ อันดีที่ได้กำหนดไว้ในช่วงบ่าย จะทำให้เสียฤกษ์ไป

จึงมีการกำหนดฤกษ์กันใหม่ ให้เป็นมงคลแก่การจัดสร้างวัตถุมงคล และท่านอาจารย์ได้คำนวน

ตามศาสตร์วิชาที่รำเรียนมาจากสำนักเขาอ้อ

แล้วแจ้งว่า ให้ทำพิธีบวงสรวง นำฤกษ์ได้ ในวันที่ 31 สิงหาคม 2550 เวลา 13.09 นาที

เป็นเวลาที่สมควรจะทำพิธียิ่งแล้ว

ด้วยเหตุดังกล่าว จึงขอประกาศ ชี้แจงมายังท่านผู้มีจิตศรัศธาทั้งหลาย

รายละเอียดนอกนั้น คงเดิมครับ

ปล. ท่านสมาชิกสามารถชมรูปภาพความคืบหน้าของวัตถุมงคล และผมไปเก็บข้อมูลจากทางวัดมาให้ชมกันครับ ที่นี่เลย

http://www.khuntalebuddha.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=548&postdays=0&postorder=asc&start=15
โอเคนคร

โดยคุณ my_jatukarm (0)  [อา. 12 ส.ค. 2550 - 07:22 น.] #134420 (29/30)


(D)


เนื่องในวันแม่ เป็นวันมหามงคลยิ่ง ผมจึงขออาศัยวาระนี้เปิดตัว

องค์เคลือบน้ำทองดำนพเก้า (กรรมการ)

และเคลือบเขียว 90%

ให้ท่านสมาชิกและผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลายได้ชมกันครับ

ดูที่เป็นองค์จริงๆ จะสวยกว่านี้เยอะครับ ต้องขออภัยจริงๆที่ รูปถ่ายไม่ชัดเท่าที่ควร

โดยคุณ my_jatukarm (0)  [พ. 15 ส.ค. 2550 - 20:19 น.] #136350 (30/30)


(D)
มีรูป "เคลือบเขียว มะม่วงขาว 46" สวยๆมาให้ชมครับ

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www1