(D)
เนื้อเรื่องนี้ คิดว่าสมาชิกเก่าหลายคน คนเดยอ่านมาแล้วนะครับ ขออนุญาตลงซ้ำอีกครั้งครับ
ครอบครัวหนึ่งอยู่ในตลาดช่องแค ภรรยา ทำขนมเค้กขาย ลูกชายคนเล็กตอนอายุไม่ถึงขวบ ได้เป็นโรคไทฟอร์ย นอนรักษาตัวที่รพ. นาน เป็นอาทิตย์ ทำให้สองสามีภรรยากลัวเด็กคนนี้อายุไม่ยืน เมื่อออกจากโรงพยาบาล ได้ไปกราบหลวงพ่อให้ดูให้หน่อย หลวงพ่อให้เด็กน้อย คลานเข้าไปหา เด็กไม่ยอมคลาน ท่านจึงหยิบส้มเขียวหวานบางมด ขึ้นมาลูกหนึ่ง แล้วบอกว่า ไอ้หนู คลานมาหามะ เด็กเลยคลานเข้าไปหาหลวงพ่อ หลวงพ่อจึงหยิบเหรียญรุ่นแจกทานสังฆาฏิยาว พร้อมกลีบผลส้มที่ใส่มือเด็ก แล้วอุ้มเด็กขึ้นมาบอกกับสองสามีภรรยาว่า .มันคลานมาถึงนี้ได้ไม่เป็นอะไรแล้ว เอาเหรียญนี้ไปแขวนคอให้สะ ทั้งคู่จึงเอาไปเลี่ยมนาคให้
วันหนึ่ง พี่สาวคนโต ได้อุ้มไปเลี้ยงบนบ้าน แล้วเผลอหลับ เด็กจึงคลานออกมา เนื่องจากเป็นบ้านไม้ที่เคยเป็นสำนักงานโรงโม่หินเก่า พื้นชั้นบนซึ่งสูงมาก ประมาณ 4-5 เมตร เด็กคลานมาถึงบันได ตกลงมาจากชั้นบนร้องไห้ดังทั่วตลาด ทุกคนตกใจ วิ่งเข้าไปหาปรากฏว่าเด็กไม่เป็นอะไร นอกจากหัวโน
ต่อเมื่อประมาณปี 2521-2522 ช่วงที่ซุปเปอร์แมน ภาค 1 เข้ามาฉายในเมืองไทย ลูกชายจมซนเจ้านี้ ก็เล่นเป็นซูเปอร์แมน กระโดด จากนั่งร้าน แล้วขึ้นไปกระโดดใหม่อย่างนี้หลายรอบ แม่เด็กคนนี้บอกว่า ไอ้หนูระวังอย่าโดดใส่ตู้เค้กแม่นะ อย่างไรให้เหลือตู้ในบ้านสะใบ ที่ไม่แตกโดยฝีมือเราบ้าง ยังไม่ทันขาดคำ ลูกชายจอมซนก็กระโดดใส่ตู้เค้กใบนั้นอย่างจัง หัวมุดเข้าไปในตู้ แม่เด็กเป็นลม เพราะตกใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้น้าแอ๋วมาช่วยแม่เด็ก คนในตลาด ที่อยู่ใกล้ก็รีบ มาช่วยเอาเด็กคนนี้ออกมา เนื่องจากกระจกแตกเป็นปากฉลาม จ่อคอหอยลูกชายจอมซน จึงต้องช่วยอย่างระมัดระวัง คนมาช่วยบางคนโดนกระจกบาด แต่พอไปถึงร้านป้าช่วย (ซึ่งเป็นร้านหมอช่วยรักษาคนที่ช่องแคเล็กๆน้อยๆ) ปรากฏว่า เด็กคนนี้ไม่เป็นอะไรเลย หัวไม่มีรอยกระจกบาด ตามศีรษะ ไรผมมีแต่เศษกระจกไม่มี บาดแผลเลย ทุกคนแปลกใจมาก
พออีกสองปีต่อมา โรคพิษสุนัขบ้ากำลังระบาด ในจังหวัดนครสวรรค์ ลูกคนเล็กจอมซนก็ก่อเรื่องอีก คราวนี้ เดินไปใกล้ร้านขายข้าวเหนียว หมูย่าง และขนม ของน้าเสริม ซึ่งตอนนั้นร้านยังไม่เปิด เด็กหันไปเห็นสุนัขฉี่อยู่ จึง ทำท่าล้อเลียน ทำท่าฉี่ตามหมา หมามันคงนึกว่าจะแตะมันหรือเปล่า จึงกัดเข้าให้ เด็กวิ่งไปบอกพ่อ แล้วพาไปร้านป้าช่วย ปรากฏว่า หมากัดไม่เข้า เป็นแต่รอยจ้ำ
มาดูเรื่องจากหนังสือ หน้าที่ 26 เรื่องที่ สี่ (เล่มแดงของคุณสุนทร)
เรื่องที่สี่ เมื่อปี 2522 ประมาณเดือนกันยายน ถึง พฤศจิกายน เฮียฮุย (เพื่อนผู้เขียน) บ้านอยู่ตรอกพระยาสุนทร ใกล้ๆ สถานีรถไฟหัวลำโพง มีอาชีพขายเม็ดน้ำตาลลูกอม ขายส่งตามตรอกซอย และตามแผงทั่วไปทั่วกรุงเทพฯ คือก่อนเกิดเหตุ เฮียฮุยทำลูกอมน้ำตาลกับแม่บ้านดึกไปหน่อย จึงนอนตื่นสาย ลูกชายอายุ 4-5 ขวบก็ตื่นก่อน เดินลงบันไดเพื่อจะลงมาชั้นล่าง เกิดก้าวพลาด ตกไถลลงมาอย่างแรงจากชั้นบน ที่พื้นหน้าบันไดมีตู้กระจกใบใหญ่ ซึ่งจัดโชว์ลูกอมสีต่างๆ ไว้ขายเด็กๆ ร่างของลูกชายเฮียฮุยได้ปะทะกับตู้กระจกอย่างแรง เสียงดังสนั่น ร่างเจาะทะลุไปโผล่อีกด้านหนึ่งของตู้ จนทุกคนในบ้านตกใจตื้น ลุกขึ้นวิ่งมาตามเสียง เมื่อเห็นภาพ เฮียฮุยกับแม่ของเด็กก็ตกใจมาก ตามเนื้อตามตัวของเด็กเต็มไปด้วยเศษกระจก มองไปที่ตู้ลูกอมเห็นกระจกทะลุเป็นโพรงกระจกบางชิ้นแตกเป็นปากฉลาม ดูน่าหวาดเสียว แม่เด็กเมือเห็นก็แทบลมจับ รีบอุ้มลูกชายขึ้นมา ปัดเศษกระจกตามตัวและใบหน้าอก พร้อมกับสำรวจบาดแผลตามตัวลูก กลับพบว่ามีแต่รอยขีดข่วน สั้นบ้างยาวบ้าง ตามลำตัวและใบหน้า แต่ไม่มีบาดแผลใหญ่แต่อย่างใด ผู้เป็นแม่กอดลูกไว้แน่น ร้องไห้ตามลูกไปด้วย ก็ได้แต่พร่ำพูดว่าเพราะบารมีของหลวงพ่อพรหม ที่ช่วยลูกไว้ เพราะได้ให้ลูกชายห้อยเหรียญแจกทานของหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ไว้ติดตัว
มาดูเรื่องคล้ายกันนี้หนังสือ อาณาจักรพระเครื่อง เล่มที่ 67 ตีพิมพ์เมื่อปี 2521 หน้า 21-22
เหรียญใบสาเกเป็นเหรียญขนาดเล็กใกล้เคียงกันกับเหรียญแจกทาน ซึ่งส่วนใหญ่ เหรียญรุ่นนี้จะตกอยู่กับคนบ้านไกลเสียหมด ในท้องถิ่นจึงหายาก เฉพาะในบรรดาลูกศิษย์ลูกหาของหลวงปู่แล้วจะแหนหวงเหรียญใบสาเกมากที่สุด ซึ่งส่วนมากมักนิยมเลี่ยมแขวนคอเด็กเล็กๆ และสุภาพสตรีเพราะมีขนาดเล็กกะทัดรัดและเหมาะสมสวยงามดี ได้แอบกระซิบถามลูกศิษย์ของหลวงปู่ท่านหนึ่งว่า ที่หวงๆกันนักนะมีประสพการณ์อย่างไรบ้าง
ครับลองเขาหวงกันอย่างนี้เห็นจะมีดีแน่
เขาว่า ตัวเขาเองแขวนเหรียญใบสาเกรุ่นนี้ให้กับลูกชายจอมซนของเขาทุกๆคน มีน้องคนสุดท้องขนาดอายุสักสองขวบเห็นจะได้เคยตกบันไดหลายหน ไม่ปรากฏหัวแตกเลยอย่างเก่งก็แค่บวมๆโนๆ มีอยู่ครั้งหนึ่งวิ่งถลาหัวกระแทกเข้าไปในตู้กระจกคอไปพาดอยู่กับรอยกระจกซึ่งแตกและคมกริบ พลางในใจคิดว่าแหวะหวะน่าดู แต่มันน่าหัศจรรย์ครับ รอยเลือดสักหยดก็ไม่มีนอกจากรอยขีดเป็นสีแดงๆ ซึ่งเกิดจากคมกระจกเท่านั้น อย่างนี้คุณจะไม่ให้ผมหวงได้อย่างไร ซึ่งแซ่ ตำบลที่อยู่ผมจดมาหมดแต่ทว่าท่านผู้เป็นเจ้าของเรื่องซึ่งเป็นเจ้าของเรื่องซึ่งเป็นศานุศิษย์ในหลวงปู่คนนี้ได้ขอร้องว่าอย่างเอาชื่อลงเลย เขาจะหาว่าผมเชียร์ท่านซึ่งเป็นอาจาย์ และกล่าวทิ้งทายไว้อย่างน่าฟังว่า คุณคอนฟังกิติศัพท์ของท่านก็แล้วกัน ยิ่งนานท่านยิ่งดัง
สำหรับหนังสือ เหรียญหลวงพ่อพรหม ของสำนักพิมพ์เจริญสาส์น ชุดที่ 30 ตีพิมพ์เมื่อ เมษายน 2518 ไม่ได้มีเรื่องนี้ ซึ่งไม่แปลก เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นหลัง ปี 2518
เรื่องข้างต้น ที่ไม่ใช่จากหนังสือดังกล่าว ผมกล้ายืนยันว่าเป็นเรื่องจริง เพราะลูกชายคนเล็กจอมซน ทุกวันนี้ผมรู้จักดี คือ ตัวผมเอง และเหรียญแจกทานรุ่นสังฆาฏิยาวที่พูดถึง ก็คือองค์นี้ ผมใส่มานานจนอยู่เข้าประถม 4 พ่อผมจึงเปลี่ยนเป็นรุ่นอื่น ไม่ว่าจะเป็น รุ่นโล่ใหญ่ รุ่น 1 หน้าหนุ่ม 08 รุ่นสรงน้ำ รุ่น90ปี เหรียญระฆัง เหรียญเสมาใหญ่เต็มองค์ ใส่จนสึกก็เปลี่ยนองค์ใหม่ไปใส่ จนช่วงอยู่ มอ 5 มอ. 6 ก็เลิกแขวน เนื่องจากคิดว่าเราเคารพอย่างเดี่ยวก็พอ อยู่ที่ใจ เหรียญองค์นี้ พี่สาวผมเคยเอาเขากว้างหลังเต็มเนื้อทองระฆังมาแลกผมก็ไม่ยอมแลกครับ (เพราะที่บ้านทุกคนรู้นะครับว่าเป็นองค์ที่หลวงพ่อพรหมใส่มือผมเอง) และมีประสบการณ์
ส่วนเรื่องที่ลงหนังสืออาณาจักรพระเครื่อง เมื่อปี 2521 เล่มที่ 67 นั้น พ่อผมสารภาพว่าเป็นคนให้ข่าวเอง แต่เขาลงผิดรุ่น เพราะรุ่นใบสาเกเป็นรุ่นพี่สาวผมใส่ รุ่นที่ผมใส่คือองค์ที่โชว์อยู่นี้ แล้วเมื่อหนังสือออกคนเขียนก็เอาหนังสือที่ลงมาให้ชุดหนึ่ง แล้วท่านก็ซื้อเก็บไว้อีกชุดหนึ่งไว้เป็นที่ระลึก ไว้ให้ลูกหลานดูศึกษา น่าสังเกตนะครับ หลวงพ่อพรหม ก็ดังจริงอย่างที่ท่านว่าไว้เมื่อปี 2521 เกือบ 30 ปีมาแล้ว
สำหรับเรื่องที่เคยลงไปแล้ว เรื่องในที่มีข้อมูลใหม่ จะขออนุญาตนำลงอีกครั้งนะครับ |