ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : ประวัติหลวงพ่อสังข์ สํวโร วัดวังอ่าง จ.เพชรบูรณ์



(N)
อัตชีวประวัติ
พระครูพัชวิหารกิจ(หลวงพ่อสังข์ สํวโร)
วัดวังอ่าง ต.บัววัฒนา อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์
ชาติภูมิ :
พระครูพัชรวิหารกิจ (หลวงพ่อสังข์ สํวโร) เจ้าอาวาสวัดวังอ่าง นามเดิมชื่อ สังข์ (นามสกุล ภักดี)ในใบสุทธิเดิมนั้นท่านพระครูโอภาสฯ (พระครูเรียง)วัดศรีจันทร์ บ้านโต้น อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้ลงบันทึกในใบสุทธิมาแต่เดิมตั้งแต่เมื่อครั้งหลวงพ่อสังข์อุปสมบท)ฉายา สํวโร แปลว่า พระผู้มีความสำรวมหรือพระผู้มีความประเสริฐ”ท่านเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๔๗๑ ขึ้น ๖ค่ำเดือน ๑๑ ปีมะโรง(เทียบกับปฏิทิน ๑๐๐ ปีและจากคำยืนยันของหลวงพ่อ แต่สมัยก่อนนั้นโยมแม่ท่านบอกกับหลวงพ่อว่าท่านเกิดวันศุกร์ทั้งนี้อาจเป็นเพราะการคลาดเคลื่อนในยุคก่อนคงเป็นไปได้)ท่านเกิดที่บ้านโป่ง-หัวถนน ต.บ้านกลับ อ.หนองโดน จ.สระบุรี (ตามคำบอกเล่าของหลวงพ่อแต่ในบันทึกว่าเกิดที่บ้านหมอ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ทั้งนี้เนื่องด้วยสมัยนั้นมีการโยกย้าย อ.หนองโดน ขึ้นกับ อ.บ้านหมอ แล้วต่อมาจึงได้แยกเป็น อ.หนองโดนเช่นเดิม) จากคำบอกเล่าของหลวงพ่อ โยมบิดาชื่อ นายสาลี ภักดี เดิมเป็นชาวบ้านม่วงสิบ จ.อุบลราชธานี โยมมารดาชื่อนางแบน ภักดี เดิมเป็นชาวบ้านโป่ง จ.สระบุรี ท่านมีพี่น้องรวม ๕ คน โดยท่านเป็นคนที่ ๒และพี่ชายคนโตชื่อนายแสน พงษ์ภักดี (เปลี่ยนนามสกุลให้ภายหลัง) (คนโต) นายหมุด ภูมิภักดี (ปัจจุบันอยู่ จ.นครราชสีมา)(น้องชายหลวงพ่อ)
การศึกษา : วัยเยาว์ท่านจบชั้น ป.๔ จากโรงเรียนประชาบาลตำบลบ้านกลับ ๒ (วัดหัวถนน) ต.บ้านกลับ อ.หนองโดน จ.สระบุรีจบหลักสูตรเมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ.๒๔๘๕ตามประกาศนียบัตรของกระทรวงธรรมการ(กระทรวงศึกษาธิการ)ในสมัยนั้น ในเยาว์วัยท่านเป็นเด็กที่มีนิสัยโอบอ้อมอารีมีเมตตา มีความขยันและเอาใจใส่ต่อการเรียนหนังสือมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด
หลังจากเรียนจบโยมมารดาของท่านได้เสียชีวิตลง ท่านจึงได้บรรพชาเป็นสามเณรเพื่อทดแทนคุณโยมมารดา และหลังจากนั้นท่านได้ลาสิกขา เพื่อเดินทางย้ายไปอยู่ที่บ้านโต้น อ.เมือง จ.ขอนแก่น(ราวอายุ ๑๗-๑๘ปี) ขณะนั้นท่านได้เข้าเรียนธรรมศึกษากับท่านพระครูโอภาสฯ(พระครูเรียง)วัดศรีจันทร์ บ้านโต้นและระหว่างนั้นท่านก็ยังได้ทำงานที่โรงงานน้ำตาลใน อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานีอีกด้วย
บรรพชาอุปสมบท:ภายหลังท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร โดยมีท่านพระครูโอภาส(พระครูเรียง)วัดศรีจันทร์(วัดศรีพิมลในปัจจุบัน)เป็นอุปัชฌาย์ ระหว่างนั้นท่านได้เดินทางกลับบ้านเกิดที่ จ.สระบุรีและได้เดินทางไปเยี่ยมญาติที่บ้านหนองโพ นครสวรรค์ ท่านจึงได้มีโอกาสได้กราบหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ เทพเจ้าแห่งเมืองสี่แควในตอนนั้นท่านได้เรียนวิชาเกี่ยวกับวิชาแพทย์แผนโบราณ และยังได้มีโอกาสเดินทางไปกราบหลวงพ่อรุ่งวัดหนองสีนวลอีกด้วย จากนั้นท่านจึงเดินทางกลับไปที่บ้านโต้น อ.เมือง จ.ขอนแก่น เช่นเดิม
ในปี พ.ศ.๒๔๙๒ ท่านได้อุปสมบทเป็นภิกษุที่วัดศรีจันทร์ โดยมีพระครูโอภาสฯ(พระครูเรียง)เป็นพระอุปัชฌาย์และมีหลวงพ่อบุญมีวัดบ้านโต้นเป็นคู่สวด(ซึ่งหลวงพ่อบุญมีวัดบ้านโต้น ภายหลังได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี ซึ่งท่านเป็นศิษย์อีกรูปหนึ่งของหลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี)

โดยคุณ ธงตะกรุดโทน (400)(1)   [จ. 08 ต.ค. 2555 - 18:41 น.]



โดยคุณ ธงตะกรุดโทน (400)(1)   [จ. 08 ต.ค. 2555 - 18:44 น.] #2493177 (1/10)


(N)
หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้มีโอกาสอุปฐากรับใช้ท่านพระครูพิมลธรรม(อาจ อาสโภ) ที่วัดบ้านโต้นและท่านได้ศึกษาร่ำเรียนวิธีปฏิบัติกรรมฐานจากท่านพระครูพิมลธรรมอีกด้วย
ภายหลังท่านได้เดินทางกลับมายัง อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี เพื่อเรียนนักธรรมตรีจนสำเร็จและได้เดินทางมายังวัดพรหมมาสตร์ จ.ลพบุรี โดยได้เล่าเรียนอยู่กับท่านพระครูพรหมฯวัดพรหมมาสตร์ (เจ้าคณะ อ.เมืองลพบุรีในสมัยนั้น)ท่านได้เรียนนักธรรมโท-นักธรรมเอกจนสำเร็จจึงได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดจันเสนโดยมีพระครูนิสัยจริยคุณ(หลวงพ่อโอดวัดจันเสน)เป็นเจ้าอาวาส(ในราวปี พ.ศ.๒๕๐๕-๒๕๐๖)
ขณะที่ท่านจำพรรษาอยู่กับหลวงพ่อโอด วัดจันเสนนั้น ท่านได้เรียนกรรมฐานเพิ่มเติมพร้อมกับนักธรรมโท-นักธรรมเอกสำเร็จเป็นรอบที่๒ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าท่านเป็นผู้คงแก่เรียนยิ่งนักนอกจากนี้ท่านยังได้เรียนสรรพวิชาต่างๆมาจากหลวงพ่อโอดวัดจันเสนอีกด้วย
ต่อมาในราวปี พ.ศ. ๒๕๐๗-๒๕๐๘ ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค โดยพักอยู่ในถ้ำบนเขาวัดช่องแค ซึ่งสมัยนั้นท่านยังมีความสนิทสนมกับท่านพระอาจารย์แบ๊งค์อีกด้วย ในขณะที่ท่านอยู่กับหลวงพ่อพรหมวัดช่องแคนั้น ท่านได้ปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อพรหมผู้เป็นบูรพาจารย์เป็นอย่างดี และได้เล่าเรียนสรรพวิชาต่างๆมากมายจากหลวงพ่อพรหมเป็นยิ่งนักและในตอนนั้นท่านเองก็อยากทราบว่าคนที่ตายแล้วไปไหน โยมพ่อโยมแม่ที่ล่วงลับไปแล้วนั้นไปอยู่ที่ไหน จึงสอบถามวิธีหรือหนทางที่จะทราบถึงการรู้เห็นในเรื่องดังกล่าวจากหลวงพ่อพรหม
เมื่อท่านทดลองกรรมฐาน กรรมฐานและวิชาที่หลวงพ่อพรหมท่านเมตตาสอนให้ ท่านได้รู้จริงอย่างที่บูรพาจารย์ท่านกล่าวไว้มิหนำซ้ำท่านยังบอกหวยให้กับชาวบ้านในย่านนั้นถูกหวยกันอยู่ร่ำไปจนเป็นที่ทราบกันไปทั่วว่าท่านให้หวยแม่น
อีกประการขณะที่ท่านจำพรรษาอยู่กับหลวงพ่อพรหมนั้นท่านก็ยังคงไปมาระหว่างวัดจันเสนอยู่เสมอด้วยระยะทางที่ไม่ห่างไกลกันมากเพื่อทำพลุตะไลถวายหลวงพ่อพรหมและหลวงพ่อโอดได้จุดยามมีงานวัดซึ่งเป็นที่ชอบใจแด่หลวงพ่อพรหมและหลวงพ่อโอดยิ่งนัก
หลวงพ่อสังข์ยังเล่าต่อว่าขณะที่อยู่วัดช่องแค ท่านประทับใจและศรัทธาในปฏิปทาของหลวงพ่อพรหมยิ่งนักในตอนที่เรียน “กษิณ”ท่านกล่าวว่า กษิณนั้นมี ๑๐ กอง แต่สำหรับหลวงพ่อสังข์นั้นเรียนกษิณ ๔ (ดิน น้ำ ลม ไฟ) ก็เกินพอแล้ว และเอาหลักการพิจารณาเพื่อปลงอสุภกรรมฐานเข้าประกอบก็พอแล้ว
ขณะที่หลวงพ่อสังข์อยู่วัดช่องแค ท่านยังได้มีโอกาสได้เป็นพระผู้ดูแลวัตถุมงคล ถวายแด่หลวงพ่อพรหมอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเหรียญหลวงพ่อพรหมรุ่นแรก ท่านก็เล่าว่าผู้ใหญ่ลีและอาจารย์มุท(หมอทำขวัญสมัยนั้น)เป็นผู้ดูแลการจัดสร้างวัตถุมงคลอีกที ทั้งท่านยังเคยนอนเฝ้าผ้าขาวม้าให้กับหลวงพ่อพรหม ซี่งท่านเล่าว่าผ้าขาวม้าเยอะมากมีประมาณ
ท่านต้องคอยเฝ้าและทยอยยกไปถวายแด่หลวงพ่อพรหมแจก และคราใดที่ท่านพูดถึงหลวงพ่อพรหม ท่านจะแสดงความปิติออกมาอย่างเห็นได้ชัด กล่าวคือท่านเคารพนับถือหลวงพ่อพรหมจนหาที่สุดมิได้
ภายหลังหลวงพ่อสังข์ ท่านได้เดินทางมาจำพรรษาที่วัดคีรีวงษ์ในเขต อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ได้เรียนการแสดงธรรมเทศนาและย้ายมาในเขต อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี เพื่อนำวิชาที่ได้ร่ำเรียนมาช่วยสร้างศาลาการเปรียญที่วัดหนองตะแบกเป็นเวลาหลายปี

โดยคุณ ธงตะกรุดโทน (400)(1)   [จ. 08 ต.ค. 2555 - 18:45 น.] #2493180 (2/10)


(N)
ขณะนั้นท่านยังได้พบกับหลวงพ่อดำ วัดชอนสรเดชและยังได้ไปมาหาสู่กับหลวงพ่อเปลี้ย วัดชอนสรเดชอีกด้วย
ขณะนั้นท่านยังได้มีโอกาสเดินทางไปกราบหลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว อ.พยุหคีรี จ.นครสวรรค์ ซึ่งตอนนั้นหลวงพ่อกันท่านมีชื่อเสียงมาก
ในปี พ.ศ.๒๕๑๑-๒๕๑๒ ท่านได้ย้ายมาอยู่ที่ถ้ำหมี-ถ้ำผาสวรรค์(ถ้ำพรหมสวรรค์)ในเขตบ้าน ซับกองทอง-ดงเข็ม อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ขณะนั้นท่านได้พบกับหลวงพ่อผินะ โดยหลวงพ่อผินะได้เดินทางไปพบหลวงพ่อสังข์ที่ถ้ำพร้อมด้วยคุณหมึก(หลานของหลวงประดิษฐ์ มนูญธรรม)เพื่อนิมนต์หลวงพ่อสังข์ไปจำพรรษาที่วัดถ้ำลานสกา นครศรีธรรมราชแต่หลวงพ่อสังข์ท่านปฏิเสธด้วยไม่สะดวกในเรื่องการเดินทางในขณะนั้น
ในขณะนั้นท่านและหลวงพ่อผินะได้เดินทางไป อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ ในราวปี ๒๕๑๖ เพื่อทำพลุตะไลที่วัดหลวงพ่อนาค บ้านสาละจิต(วัดเวียงคุก) อ.แสนขัน จ.อุตรดิตถ์ ท่านเล่าว่า ท่านและหลวงพ่อผินะสนิทกันมาก แต่ภายหลังหลวงพ่อผินะท่านได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดสนมลาว จ.สระบุรี ท่านจึงไม่ได้ติดต่อกันจนกระทั่งหลวงพ่อผินะท่านได้มรณะภาพ
ท่านยังเล่าอีกว่าเคยเห็นหลวงพ่อผินะผ่าศพบ่อยครั้งมากและยังได้เห็นหลวงพ่อผินะ ทำพระพิมพ์บ่อยครั้งไป เพราะขณะนั้นหลวงพ่อผินะจำพรรษาอยู่ที่วัดถ้ำท่าเกย อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งห่างกับถ้ำผาสวรรค์ที่ท่านพักอยู่ไม่ไกลนัก
และในขณะนั้นหลวงพ่อสังข์ ยังได้มีโอกาสพบกับหลวงพ่อผองวัดพรหมยามเป็นประจำ ซึ่งขณะนั้นหลวงพ่อผองก็กำลังก่อสร้างวัดพรหมยามอยู่เรื่อยไป
ต่อมาในราวปี ๒๕๑๖ ช่วงนั้นท่านก็ได้เดินทางไปจำพรรษาที่วัดบังเบน เขตทุ่งโพธิ์ จ.พิจิตร เพื่อสอนนักธรรมแด่พระเณรในสมัยนั้น ขณะนั้นท่านยังได้รู้จักกับเจ้าคุณเมธี วัดมงคลทับคล้อ พระมหาสมชาย และพระมหาประเสริฐ วัดมงคลทับคล้อ
ในขณะนั้นท่านยังได้เดินทางไปกราบหลวงพ่อทบที่วัดชนแดนอีกด้วย โดยท่านได้ยินกิตติศัพท์ของหลวงพ่อทบที่ถูกปล้นแล้วไม่เป็นอะไร
ภายหลังท่านยังได้เดินทางไปพักอยู่กับหลวงปู่คำมีวัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรีอีกด้วย
ในปี พ.ศ.๒๕๒๒ ท่านได้จำพรรษาที่วัดหนองแจง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ และได้เป็นครูสอนนักธรรม ในสมัยนั้นท่านยังได้ไปมาหาสู่กับหลวงพ่อบุญวัดบ้านโภชน์ และหลวงปู่บุญมีวัดวิมุตตารามอีกด้วย
ในปี พ.ศ. ๒๕๒๘ ท่านได้เรียนแพทย์แผนโบราณ
ในปี พ.ศ.๒๕๒๙ ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดเนินมะค่า อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๔๖
ในปี พ.ศ.๒๕๓๐ ท่านได้เดินทางมาอยู่กับพระครูสถิตรัตนากร เพื่อช่วยท่านสอนนักธรรมแด่พระเณรในสมัยนั้น
ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดอัมรินทร์คูหา ต.บ้านมุง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก และได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสในขณะนั้นและได้ย้ายกลับมาจำพรรษาที่วัดเนินมะค่าเช่นเดิม

โดยคุณ ธงตะกรุดโทน (400)(1)   [จ. 08 ต.ค. 2555 - 18:46 น.] #2493182 (3/10)


(N)
ในปี พ.ศ. ๒๕๓๘ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์พระครูที่ “ พระพัชรวิหารกิจ”
ในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะตำบลบัววัฒนา อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์
ในปี พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบล บัววัฒนา อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์
ในปี พ.ศ. ๒๕๔๖-๒๕๔๘ ได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดน้ำวิ่ง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์
ในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดวังอ่าง ต. บัววัฒนา อ. หนองไผ่ จ. เพชรบูรณ์ จวบจนปัจจุบัน
ในปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลบัววัฒนา อ. หนองไผ่ จ. เพชรบูรณ์

โดยคุณ ธงตะกรุดโทน (400)(1)   [จ. 08 ต.ค. 2555 - 18:47 น.] #2493184 (4/10)
เชิญร่วมพิธีเททองหล่อพระหลวงพ่อสังข์ สํวโร วัดวังอ่าง จ.เพชรบูรณ์

https://www.g-pra.com/webboard/show.php?Category=general_talk&No=349200

โดยคุณ ธงตะกรุดโทน (400)(1)   [จ. 08 ต.ค. 2555 - 18:53 น.] #2493197 (5/10)
ขอเชิญสั่งจองบูชา วัตถุมงคล หลวงพ่อสังข์ สํวโร วัดวังอ่าง จ.เพชรบูรณ์

https://www.g-pra.com/webboard/show.php?Category=publicize&No=349549

โดยคุณ ธงตะกรุดโทน (400)(1)   [จ. 08 ต.ค. 2555 - 19:06 น.] #2493212 (6/10)


(N)
เวปเพื่อนบ้าน

http://sitluangporthob.com/webboard_check_detail.php?tc_id=33&ccw_id=6

โดยคุณ ธงตะกรุดโทน (400)(1)   [จ. 08 ต.ค. 2555 - 19:36 น.] #2493266 (7/10)
เวปเพื่อนบ้าน

http://forum.uamulet.com/view_topic.aspx?bid=3&qid=33848

โดยคุณ อ้อกะออย (45)  [จ. 08 ต.ค. 2555 - 21:48 น.] #2493617 (8/10)

โดยคุณ maspw (815)  [อ. 09 ต.ค. 2555 - 09:45 น.] #2494273 (9/10)
ขอบคุณครับ

โดยคุณ kor_kai (1.1K)(1)   [พ. 10 ต.ค. 2555 - 09:26 น.] #2495712 (10/10)

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www1